เรื่องของเมื่อวานนี้ ตอนเย็นๆ
เมื่อวานตอนเย็นๆวิ่งไปถ่ายรูปที่ silom galleria plaza
ในงานเปิดนิทรรศการของของคุณ วัชรินทร์ รอดนิตย์
ชื่องานว่า Brushstroke from Nature 2008
จริงๆก็ไม่ใช่หน้าที่เราหรอก แต่เราอาสาไปเอง
เพราะมีจุดประสงค์แอบแฝงอยู่แถวๆนั้น
แต่ถ้ารู้ว่าไปแล้วจะรู้สึกแย่ได้ขนาดนี้ก็คงจะไม่ไปแน่นอน
เมื่อเหตุเกิด และตอกย้ำความแน่ชัดบางประการ
น้ำตาก็พานจะไหลออกมาให้ได้
แต่ว่า...
คนไปทำงาน มีชีวิตจิตใจไม่ได้
ความรู้สึกของความเป็น "คน" ต้องเก็บไว้ข้างใน
เพราะว่านั่นคือเวลางาน
ทำได้ก็แค่ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
พยายามหามุมถ่ายรูปที่เหมาะๆ
อาศัยแฟลชจากกล้องของช่างภาพมืออาชีพ
ไม่อยากให้เสียชื่อเด็กฝึกงานจากนิตยสารชื่อดัง
ก็ดีไปอย่าง การทำงานอย่างตั้งใจนั้น
ระงับความฟุ้งซ่านได้ชะงัดนัก
พองานเสร็จ ก็เพิ่งเห็นว่ามี missed call จากรุ่นพี่คนหนึ่ง
ทั้งๆที่รู้ว่า เขาคงจะโทร.มาหาคนเม้าท์เล่นๆเท่านั้น
แต่เราก็โทร.กลับเขา เพราะอารมณ์นั้น อยากหาคนคุยด้วย
สอบถามดูปรากฎว่าเขาเพิ่งสอนเสร็จ ยังอยู่ที่ central world plaza
ก็เลยไปหาเสียหน่อย ยังไงๆก็อยู่ที่นั่นเหมือนเป็นบ้านไปแล้ว
ฟังเสียงพี่เขาเล่าเรื่องขำๆฮาๆให้ฟังหลายเรื่อง
โดยเฉพาะเรื่องเด็กนักเรียน เรื่องความบริสุทธิ์ของเด็ก 3 ขวบ
ฟังแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ เมื่อนึกภาพตามไปด้วย
เรื่องเม้าท์แตกมีได้เป็นร้อยเป็นพันเรื่อง
แต่เรื่องที่หนีไม่พ้นกลับกลายเป็นเรื่องที่เราไม่อยากฟังที่สุด
แต่ก็เป็นเรื่องที่พี่เขาไม่เล่าไม่ได้ ยังไงๆก็ต้องพูดถึง
เรื่องความรักของเขา ที่เขาคอย update ให้เราฟังตลอดเวลา
ถ้าเป็นเวลาปกติก็คงจะไม่มีอะไร
แต่เมื่อคืน ขอได้ไหม ไม่อยากฟัง
แต่ก็ไม่กล้าบอกเขา ได้แต่นั่งทนฟังไป
เอารอยยิ้มขึ้นมาปิดแววตาเสีย เดี๋ยวก็หาย
แล้วก็หายจริงๆด้วย
ออกจาก central world plaza กลับบ้าน
เรื่องแย่ๆเมื่อตอนเย็นหายไปเหมือนมันเป็นแค่ฝุ่น
ที่เวลาเดินผ่าน ก็ทำให้ไอค็อกแค็กพอประมาณ
สักพักก็จางไป เหมือนทุกที
แล้วก็สบายดีเหมือนเดิม