Polity not Democracy
ป่วยการพูดไปว่าใครผิดหรือใครถูก
จากมุมแต่ละมุม เงาของความถูกต้องมันทอดไปในทิศที่ต่างกัน
เถียงกันไปก็เท่านั้น ว่าความถูกต้องคืออะไร
ยิ่งในเรื่องการเมือง คนรู้จักคุ้นเคยก็แตกคอกันได้ง่ายๆ
แต่เวลาที่ฉันเห็นคนที่ยืนหยัดต่อสู้เพื่ออะไรสักอย่าง
ก็ทั้งสองฝั่งนั่นแหละ
อย่างคุณรสนา อย่างพ่อของเพื่อน อย่างชาวบ้านทั่วๆไป
ฉันเห็นใครต่อใครหลายคน
แล้วฉันรู้สึกอึ้งกับความเข้มแข็งของเขา
อะไรที่ทำให้เขามีเลือดอย่างนั้นอยู่ในตัว
ฉันรู้สึกอึ้งกับความกล้าของผู้ที่ร่วมชุมนุม
อะไรที่ทำให้เขายอมเสี่ยงเพื่ออะไรบางอย่าง
ฉันสงสัยว่าเป็นเพราะฉันขี้ขลาด หรือเพราะไม่ศรัทธา ฉันจึงอยู่เฉยๆ
ความศรัทธาอย่างแรงกล้าจะนำมาซึ่งความกล้าหาญรึเปล่า
ฉันไม่แน่ใจ เพราะฉันไม่เคยมีประสบการณ์อย่างนั้น
บางครั้งฉันก็รู้สึกเหมือนคนเห็นแก่ตัว
อาจจะเพราะฉันไม่เข้าใจอะไรสักเท่าไหร่
เลยไม่สามารถจะมีความคิดเห็นอะไรได้มากนัก
ฉันรู้แค่ว่า ไม่ว่าใครก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นคนดีแค่ไหนก็ตาม
การเมืองสามารถทำให้เขาคนนั้นดูเลวได้เสมอ
และคนดีๆ ไม่ว่าดีขนาดไหนก็ตาม เมื่อเข้ามาสู่การเมืองแล้ว
เขาก็ก้าวไปสู่หุบเหวแห่งความเลวแล้วครึ่งก้าว
เผลอเมื่อไหร่ ก็หล่นลงไปทันที แล้วก็กลายเป็นคนเลวได้อย่างง่ายดาย
...โดยไม่รู้ตัว
ฉันเคยบอกรึเปล่าว่าฉันไม่ศรัทธาประชาธิปไตย
อีกทั้งยังเกลียดระบบทุนนิยม ไอ้ระบบที่กลืนกินมนุษย์นี้อย่างเข้าไส้
มันก็คงดูงี่เง่าที่ฉันเอาแต่วิพากษ์ โดยไม่อาจเสนออะไรที่ดีกว่าได้
นี่แหละที่ทำให้ฉันมานั่งคิดว่า ฉันควรเรียนต่อมั้ย เผื่อจะหาคำตอบได้
แต่ก็อย่างว่าแหละ ถึงโชคดีหาคำตอบได้ ก็ใช่ว่าจะแก้ปัญหาได้
อึดอัดใจเปล่าๆ
และท้ายที่สุด ฉันไม่อยากเดินเข้าไปในบริเวณที่ทำให้ใครๆ มองว่าฉันเลว
แล้วฉันก็ไม่อยากจะก้าวสู่หุบเหวแห่งความเลวด้วยตัวของฉันเองด้วย
ฉันคงเป็นทั้งคนขี้ขลาด แล้วยังขาดความศรัทธาอีกด้วย
แน่ๆ เลย
เราเห็นต่างได้
แต่ไม่จำเป็นต้องทำร้ายกัน
เพราะคนที่ตาย
ไม่ใช่คนที่เป็นผู้นำที่อยู่้ด้านหลัง
แต่คือผู้ตามที่อยู่แถวหน้า
คนที่ออกรับแทน ตายแทน
เพื่อแลกกับคำว่าวีรชน วีรบุรุษ
แล้วไม่นานก็จะถูกลืมเลือนไปจากทั้งสองกลุ่มความขัดแ้ย้ง
ผมไม่มีฮีโร่ในใจเลยครูเสี้ยว
ไม่เลือกฝั่งไหนเลย
ไม่เลือกความถูกต้องด้วย
เพราะถ้าเลือก --- อีกฝ่ายหนึ่งก็จะไม่มีวันถูก
ผมเคยเชื่อในนักการเมืองบางคน
แต่พอเข้าไปใกล้
เข้าไปได้เห็นการทำงานของเขาและพวกพ้อง
...ผมคิดว่าธรรมชาตินักการเมืองไม่ต่างกัน
เขาเป็นคนธรรมดาเหมือนเรา เพียงแต่เข้าใจฉกฉวยความได้เปรียบทางการเมืองเท่านั้น
เราสู้รบกันไปเพื่ออะไร
ถ้าชนะแล้วได้อะไร
ถ้าแพ้แล้วเป็นอย่างไร
ผมไม่อยากใช้ชีวิตที่เหลืออยู่
เพื่อนั่งเจ็บปวดกับความสูญเสียทางการเมืองครับ
ผมคิดว่าผมอาจเลือก ทรราชย์ที่มีคุณธรรม
มากกว่าประชาธิไตยที่ไม่ฟังเสียงใครเลย
นอกจากเสียงของความถูกต้องที่กึกก้องอยู่ในหัวของตัวเอง
จนไม่เคยคิดและฟังเสียงของความถูกต้องของใครเลย