เหนื่อยใจ....แต่จะไม่เหนื่อยนาน
วันนี้มีคนประมาณโหลนึงทักว่า
...เป็นอะไรรึเปล่า ทำไมหน้าเซียวๆ...
มันก็เป็นความเย็นฉ่ำท่ามกลางอากาศที่แสนร้อน
ดีใจที่มีคนเป็นห่วงเป็นใยเรา
คำตอบไม่มีอะไรมากไปกว่า
...เหนื่อยใจ...
โบ้ยความผิดไปให้ตรงที่มันเป็น ศุกร์ 13 ละกัน
(ไม่เกี่ยวเลย)
วันนี้ไปซ้อมเต้นตั้งแต่บ่ายโมงครึ่ง
ซ้อม Pas de Deux
อ่านว่าพา เดอ เดอ
แปลว่า การเต้นบัลเล่ย์ที่เต้นคู่กับผู้ชายน่ะ
อย่างเงี้ย
ก่อนที่จะเริ่มซ้อม มีพี่คนนึงเค้าพูดว่า
เราไปทำอะไรมา ทำไมอ้วนขึ้นขนาดนี้
มันเป็นจุดอ่อนของคนเต้นบัลเล่ย์เลยนะ
ยิ่งต้องเต้นกับผู้ชาย เค้าต้องมายกเราด้วย
ใจแฟบทันทีเลย ท้อใจและไม่มั่นใจอย่างแรง
นึกโกรธพี่ที่พูดคนนั้นด้วย ก็เรารู้ตัวอยู่หรอก
ยิ่งซ้อมก็ยิ่งเต้นไม่ได้
ยิ่งเต้นไม่ได้ก็ยิ่งท้อ
ยิ่งท้อก็ยิ่งไม่ยิ่งอยากซ้อม
ยิ่งไม่อยากซ้อมก็ยิ่งเต้นไม่ได้
รู้สึกตัวเองเป็นภาระให้กับคู่เต้น
เพราะเราเต้นไม่ได้ แล้วก็รู้สึกว่าตัวเองหนัก
มันก็เลยมาหนักที่ใจด้วย
ถึงขั้นน้ำตาไหลเลยทีเดียว
เปล่า...
ไม่ใช่เพราะเต้นไม่ได้แล้วร้องไห้
คิดถึงครูต่างหากล่ะ
ครูเคยมาสอนที่นี่จนถึงปีที่แล้ว แล้วครูก็ไม่มาสอนอีก
เพราะด้วยเหตุปลบางประการของผู้ใหญ่
แต่ครูสอนดีมาก ครูเข้าใจนักเรียนมากๆ
ครูเป็นเหมือนพี่ เป็นเหมือนเพื่อนมากกว่า
ปีที่แล้วได้เต้นคู่กับครู
ครูไม่เคยแสดงอาการเหนื่อยเลย
ซ้อมกับครูไม่เครียดเลย
ครูให้กำลังใจตลอดเวลา
ท้อใจมีบ้าง ร้องไห้ก็เคยอยู่
แต่ไม่เคยถึงขั้นไม่อยากเต้น
คิดถึงครูจัง...
น่าแปลกที่เพื่อนๆเราใน corp de ballet
อ่านว่า คอ เดอ บัลเล่ย์ แปลว่า ระบำหมู่

มันก็บอกว่าคิดถึงครูขึ้นมาพร้อมกัน
ใจตรงกันขึ้นมาโดยไม่ได้นัดหมาย
ตอนนี้ครูกลับไปสอนที่ม.มหาสารคามแล้ว
ใครได้เจออาจารย์ศิริมงคล นาฏยกุล
ช่วยบอกครูทีว่าลูกศิษย์ที่กรุงเทพฯคิดถึงมากๆ
อยากให้ครูกลับมาสอนเหลือเกิน
ซ้อมเสร็จด้วยหัวใจที่ห่อเหี่ยว
ก็เลยไปเปิดหนังสือดูรูปเล่นๆ
เป็นนิตยสาร Premiere ของ Central ฉบับภาษาไทย
ก็เจอหน้าที่เอาเรื่องรีสอร์ทที่เกาะสมุยมาลง
โอ้โห...มันสวยเหลือเกิน
เป็นการตกแต่งแบบไทยประยุกต์
โดยคงความเป็นธรรมชาติไว้
แบบที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างนั้นเลย
ดูแล้วเหมือนบ้านที่อบอุ่น เต็มไปด้วยความรัก
แค่ดูรูปก็รู้สึกดีแล้ว
วาดฝันเอาว่าอยากจะพาพ่อพาแม่ไปสักครั้ง
ทำใจไว้เลยว่าราคาต้องแพงมากๆแน่นอน
แต่ไม่เป็นไรเพราะวางแผนชีวิตไว้แล้วว่าจะรวย
อ่านไปจนถึงข้อความที่บอกสนนราคาเอาไว้
ใจที่เริ่มคลายความเหี่ยวลงไปบ้างแล้ว
อาการก็ทรุดลงไปอีก
ไม่ใช่ตกใจราคา แต่เศร้ากับความคิดของคนไทย
หนังสือไทย รีสอร์ทไทย ประเทศไทยแท้ๆ
ดันบอกราคาต่อห้องเป็นเงินสหรัฐอเมริกา
ถ้าเป็นหนังสือภาษาอังกฤษก็พอจะเข้าใจได้ว่า
อ๋อ...ก็ฝรั่งเค้าจะได้เข้าใจง่ายๆ
ทำไมหนอ คนไทยไม่รักของของไทยเลย
หนังสือไทย คนไทยอ่านแท้ๆ
กระแดะใช้เงินสหรัฐอเมริกา
คุณเศร้าใจไหมเนี่ย หรือเรามันบ้าคิดมากอยู่คนเดียว
ป.ล.ขอบคุณที่ฟังฉันพล่าม
