ผ่านไป 13 ปีแล้ว
ปีนั้นเราจำได้ว่า...เราได้หยุดเรียนต่อ พ่อแม่ห้ามไม่ให้ออกจากบ้าน ได้แต่เชียร์ท่านมหาจำลองเป็นวรรคเป็นเวรอยู่ที่บ้าน ทั้งๆที่ยังไม่รู้เรื่องรู้ราวสักนิด ก็แค่ประถมเอง แต่ว่าก็ว่าเถอะ จนบัดนี้ก็ยังไม่รู้เรื่องอะไรเท่าไหร่ ตามเกมเค้าไม่ค่อยทัน
ผ่านมา 13 ปี คนไทยก็ยังฆ่ากันไม่เลิก ความสัมพันธ์ของระยะเวลากับความสามัคคี ควรจะเป็นสัดส่วนหรือเป็นส่วนกลับกัน ไทยฆ่าไทยแล้วจะเหลือเผ่าไทยหรือ ฆ่ากันเองแล้วจะเอาความรักความสุขมาจากไหน เศร้าใจจริงหนอ......
ยังมีผืนแผ่นดินไหน
เป็นเหมือนแคว้นไทยเรานี้
แดนดินถิ่นรักสามัคคี
ทั่วทั้งบุรีมีแต่ใจงาม
เกิดมาได้ชื่อว่าไทย
ภาคภูมิสุดใจหากใครมาถาม
น้ำใจไทยฉ่ำไร้จำกัดความ
จนได้นิยามสยามเมืองยิ้ม
ใต้ร่มไทยธงผืนใหญ่
หากโหยรักไซร้ไม่ช้าได้อิ่ม
งามหัวใจรักมิพักภาพพิมพ์
อันใครได้ลิ้มแล้วล้วนคืนแรง
ยามไทยรวมใจรวมตัว
ใครก็ขามกลัวถ้วนทั่วทุกแห่ง
สามัคคีดุจอาวุธร้ายแรง
ชาติไทยกล้าแกร่งด้วยแรงสิ่งนี้
ขอขวานทองรวมพ้องเป็นขวาน
ยามถูกระรานขวานฟันไม่หนี
ไทยจงมีรักเป็นยุทธวิธี
ไม้ตายเรานี้ไร้ที่เทียบทัน
รักกันไว้เถิดพี่น้อง
ด้วยเราต่างปองสมานฉันทน์
เชื้อชาติศาสน์ใดก็ไทยด้วยกัน
ธงไตรรงค์นั้นร่วมกันดูแล บทนี้แต่งไว้เมื่อตอนอยู่ที่ฮ่องกงแล้วดูข่าวสึนามิ ดูทุกวัน ร้องไห้อยู่ในใจลึกๆทุกวัน ว่าเรามาทำอะไรอยู่ที่บ้านนี้เมืองนี้นี่ ทำไมไม่กลับไปเป็นอาสาสมัครช่วยเหลือพี่น้องร่วมชาติ ตอนที่ได้เห็นคนไทยต่างศาสนามาร่วมประกอบพิธีทำบุญด้วยกัน ก็ดีใจมากๆว่าคนไทยเชื้อชาติไหน ศาสนาใด สุดท้ายก็เป็นขวานทองเหมือนๆกัน
แต่แล้วพอกลับมาถึงเมืองไทย ข่าวฆ่ารายวันทำเอาใจสะท้อน เมื่อไหร่หนอมันจะจบลง อยากให้คนไทยรักกัน อยากให้คนทั้งโลกรักกัน จะฆ่าฟันกันไปทำไม สุดท้ายแล้วได้อะไรอย่างนั้นเหรอ ไม่เข้าใจ
*************************** 