1.
ก่อนอื่น ขอชวนให้ฟังเพลงก่อน
เพราะเรื่องราวต่อจากนี้ เกิดจากเพลงนี้
คนเก่งหัวใจแกร่ง - ศักดิ์สิริ มีสมสืบใจอ่อนเยาว์เจ้าอ่อนไหว
ฝันแห่งวัยเหมือนไกลเกินจริง
เหนื่อยอ่อนล้าศรัทธาอย่าทิ้ง
รักให้จริงทุกสิ่งที่ฝัน
ลงมือทำในสิ่งหวัง
มีพลังกายใจทุ่มเท
ทางสับสนจนสุดคะเน
อย่าลังเลพ่ายใจตัวเอง
เหน็ดเหนื่อยเพียงไหน ขอดวงใจอย่ากลัว
ถ้ากลัวอย่าท้อ ถ้าท้ออย่าถอย
มีดวงตาเฝ้ามอง มีมือคอยประคอง
อยู่เคียงข้างเธอ
มืออ่อนเยาว์เจ้าถากถาง
เท้าบอบบางต้องเดินทางไกล
บ่าน้อยๆ แบกหนักเกินไป
น้ำใสๆ ไหลจากดวงตา
ในดวงใจอันปวดร้าว
มีดวงดาวทระนง
เหนื่อยอ่อนล้าศรัทธายังคง
ดำรงแสงแห่งความดีงาม
เจ็บปวดเพียงไหน ขอดวงใจอย่ากลัว
ถ้ากลัวอย่าท้อ ถ้าท้ออย่าถอย
มีดวงตาเฝ้ามอง มีมือคอยประคอง
อยู่เคียงข้างเธอ
ดวงใจวัยเยาว์เธอคือดวงดาวที่งามสดใส
อาจจะหวั่นไหว ขอดวงใจอย่ากลัว
ถ้ากลัวอย่าท้อ ถ้าท้ออย่าถอย
มีดวงตาเฝ้ามอง มีมือคอยประคอง
อยู่เคียงข้างเธอ
......................................
2.
ข้างหน้าคือตู้ขนาดย่อมๆ ที่อัดแน่นไปด้วยสารพัดสมบัติ
นิตยสารที่เคยสะสม 2-3 ตั้ง
รูปถ่ายหมู่สมัยเรียน ที่กว่าครึ่งของใบหน้าในนั้น นึกเท่าไหร่ก็นึกชื่อไม่ออก
สมุดที่ใช้ไม่หมดเล่ม และยังไม่ถูกนำมาใช้ต่อ
ชีทเก่าๆ กระดาษโน้ตที่จดอะไรมากมาย
เพลงที่แต่งไม่เสร็จ กลอนที่ยังไม่มีบทจบ
กล่องสะสมโปสการ์ด และที่คั่นหนังสือ
cd อะไรสักอย่างที่ไม่มีหน้าปก
และท่ามกลางสิ่งละอันพันละน้อยมากมาย
มันอยู่ตรงนั้นเอง ตรงมุมในสุดของตู้มหาสมบัติ
สมุดสีน้ำเงินเล่มเล็กๆ ที่มีรูปวาดของเจ้าชายน้อยประทับอยู่
และเมื่อเปิดออกดูก็พบตัวหนังสือเรียงรายอยู่ในนั้น
และมีที่ว่างอีกมากมายให้เติมข้อความลงไปได้อีก
บรรทัดบนสุดของหน้าแรกมีข้อความว่า
16/07/05 อยาก.........(ข้อความที่บันทีกไว้)....... ภายในระยะเวลา 3 ปีครึ่ง หน้ากระดาษถูกใช้ไปเพียง 3 หน้า
หากใช้ระยะเวลาเกือบ 3 ชั่วโมงในการไล่อ่านความ อยาก เก่าๆ
บ่อยครั้งที่รู้สึกว่า ความอยากความฝันมันมีมากมายจนจำไม่หวาดไม่ไหว
ผ่านเข้ามาแล้วผ่านออกไป เหมือนหาดทรายที่ไม่เคยร้างคลื่น
หากไม่เคยมีคลื่นไหนจับต้องได้จริง
จริงๆ แล้วก็ออกจะเป็นเรื่องเศร้าที่มีความฝันมากมาย
แต่ไม่เคยทำให้ความฝันเป็นจริงได้ เพราะว่ามันจำไม่เคยได้นั่นเอง
สมุดเล่มนี้เลยต้องมีขึ้นมา เพื่อให้ได้จด ได้จำ
ความหวังความฝันที่ผ่านเข้ามา
และเพื่อที่จะทำให้มันเป็นความจริงให้ได้
หรือเพื่อทบทวนว่า มีความฝันไหนที่เรายังไมได้ทำให้มันเป็นจริง
พูดอีกอย่างหนึ่งคือ...
มีความฝันไหนบ้าง ที่เราทำมันให้เป็นจริงแล้ว
ซึ่งอาจไม่มีแม้สักหนึ่ง
3.
ฟังเพลงนี้แล้วอดจะรู้สึกดีไม่ได้ กับเสียงอุ่นๆ ของอาไวท์ ศักดิ์สิริ มีสมสืบ
เนื้อเพลงจากปลายปากกาของนักเขียนรางวัลซีไรท์ผู้นี้
พาเอาความเต็มตื้นมันไล่สะท้านจะปลายนิ้วเท้าแล่นตรงเข้าสู่หัวใจ
หาก...
ค้างเติ่งอยู่ตรงแถวๆ บั้นเอว กับอาการที่รู้สึกเหมือนจะขาดอากาศหายใจ
รอยยิ้มแย้มแปรเปลี่ยนเป็นรอยหยันเยาะ
ด้วยรู้สึกว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเพลงเพลงนี้เอาเสียเลย
รักให้จริงทุกสิ่งที่ฝัน...ฝันถึงสิ่งใดเล่า
ลงมือทำในสิ่งหวัง...หวังสิ่งใดหนอเรา
กลับไปเปิดสมุด สำรวจความฝันเดิมๆ ที่ไม่แน่ใจว่าหมดอายุไปหรือยัง
เพราะอยากจะรู้ว่าเราเคยฝัน เคยหวังอะไรมาแล้วบ้าง
...มันหลงลืม...
ถึงได้เห็นว่าชีวิตเหวี่ยงกลับไปกลับมาอยู่ระหว่างทางสองสาย
ไม่รู้ว่า เลือกไม่ได้ หรือไม่กล้าเลือก เพราะไม่อยากสูญเสียบางสิ่งบางอย่าง
เวทีแสดง แสงสปอร์ตไลท์ ผู้คนมากมาย สายตาจับจ้อง และเสียงปรบมือ
การเดินทาง การแสวงหา ความสงบนิ่งธรรมดา ของขุนเขา ลำน้ำ และสายลมแล้วสุดท้าย ก็ไม่รู้ว่าเราฝันอะไร
มันอยากจะทุ่มเท แต่ไม่รู้จะทุ่มเทสิ่งใด เพื่ออะไร
เห็นทางข้างหน้าเพียงแค่สั้นๆ
แค่รู้ว่าวันที่ 10 พฤษภาคมมีงานแสดงที่ต้องทำให้สำเร็จ
แค่รู้ว่าเทอมหน้าต้องกลับไปสอน และพร่ำบอกตัวเองว่านี่คือชีวิตที่เป็นจริง
แต่ไม่รู้ว่าทำไมถึงไม่อยากทุ่มเทเพื่อมันก็ไม่รู้
หรือเรายังไม่พร้อมที่จะเลือก
4.
...ใจอ่อนเยาว์เจ้าอ่อนไหว...
...ฝันแห่งวัยเหมือนไกลเกินจริง... บรรทัดบนสุดของหน้าที่ 4 เขียนข้อความลงไปว่า
16/04/09 อยาก.... หาความฝันให้พบ....
ไม่ได้อยู่ที่ไหนเลย
ไม่ต้องออกตามหาเลย
แต่อยู่ในตัวเราตลอดเวลา
แค่เราจะหาความฝันนี้ให้เจอ
.
.
.