BlogGang.com : : ผู้ชายในสายลมหนาว : กรุงเทพมหานคร : งานวัดภูเขาทอง

กรุงเทพมหานคร : งานวัดภูเขาทอง

ที่บ้านมีรูปถ่ายเก่าๆ สมัยยังเด็ก เข้าใจมาตลอดว่าถ่ายที่บันไดพระพุทธบาท
แต่แม่เพิ่งมาบอกว่าถ่ายที่เชิงบันไดทางขึ้นเจดีย์ภูเขาทองกรุงเทพนี่เอง

เมื่อบ้านเมืองผ่านยุคเข็ญแห่งสงครามมาได้หลายสิบปี
พม่าเริ่มติดศึกกับอังกฤษทำให้สยามมีเวลาที่จะฟื้นฟูตนเอง
พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีดำริให้จัดสร้างพระเจดีย์ภูเขาทอง
เพื่อเป็นปูชนียสถานในพระนครเหมือนที่กรุงเก่าเคยมีวัดภูเขาทองตั้งอยู่ชายทุ่ง

โดยมีองค์พระเจดีย์ใหญ่เป็นที่สำหรับชาวพระนครได้ไปประชุมเล่นเพลง
แลสักวาในเทศกาลประจำปี ได้ทรงเลือกเอาบริเวณวัดสระเกศเป็นที่ก่อสร้าง
แล้วทรงโปรดให้สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิชัยญาติ (ทัด บุนนาค)
ครั้งยังเป็นพระยาศรีพิพัฒน์รัตนโกษาเป็นแม่กองสร้าง

พระราชทานนามว่า พระเจดีย์ภูเขาทอง

การก่อสร้างเริ่มจากขุดฐานเอาไม้ซุงปูเป็นแพ มัดเสาไม้ด้วยโซ่เหล็กเป็นแกนกลาง
แล้วจึงก่อด้วยอิฐเพื่อเป็นเจดีย์ทรงปรางค์ขนาดใหญ่ แต่สร้างได้ไม่เท่าไรเจดีย์ก็ทรุดตัว
เนื่องจากพื้นดินไม่แข็งแรงพอ จึงปักเสารอบๆองค์พระปรางค์หลายๆชั้น
แล้วเริ่มก่อสร้างใหม่แต่ทรุดตัวก็ยังมีต่อไป จนสิ้นรัชกาลที่ 3 จึงยุติการก่อสร้าง

พ.ศ. 2406 ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
จึงโปรดเกล้าให้พระยาศรีพิพัฒน์ (แพ บุนนาค) เป็นแม่กองก่อสร้างต่อ
และโปรดให้พระยาราชสงครามเป็นนายช่างทำการซ่อมแปลงภูเขา
ก่อพระเจดีย์ขึ้นไว้บนยอดเปลี่ยนนามพระเจดีย์ภูเขาทองใหม่ว่า บรมบรรพต

การซ่อมพระเจดีย์ได้มาแล้วเสร็จบริบูรณ์ในสมัยรัชกาลที่ 5
พ.ศ. 2420 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จพระราชดำเนิน
ไป บรรจุพระบรมสารีริกธาตุในพระเจดีย์เป็นครั้งแรก และเมื่อได้พระบรม สารีริกธาตุ
จากประเทศอินเดียก็ได้โปรดให้บรรจุในพระเจดีย์อีกครั้งหนึ่ง ใน พ.ศ. 2442

ฐานโดยรอบวัดได้ 8 เส้น 5 วา สูง 1 เส้น 19 วา 2 ศอก มีบันไดเวียนขึ้นลง 2 สาย
เมื่อบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ระหว่าง พ.ศ. 2493 - 2497 ได้ทุบบันไดทางด้านทิศใต้
ที่มีขั้นบันไดประมาณ 70 ขั้นลง เพราะความสูงชันจนอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้

ทุกปีเมื่อย่างเข้าสู่ฤดูหนาวก็จะเป็นที่รู้กันดีว่า จะมีงานนมัสการพระบรมสารีริกธาตุ
3 วันก่อนจะถึงวันงาน จะเห็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นเห็นได้ไกล คือพิธีห่มผ้าแดง
ตามความเชื่อที่สืบมาตั้งแต่ครั้งพุทธกาล ซึ่งคราวหนึ่งหลังจากที่พระพุทธเจ้า
ทรงตรัสรู้ได้ 3 พรรษา ได้เกิดเหตุความเดือดร้อนวุ่นวายแก่ชาวเมืองเวสาลี

โจรผู้ร้ายออกเข่นฆ่าชาวเมืองผู้บริสุทธิ์ ไม่เว้นแม้แต่สมณะพราหมณ์
เมื่อพระพุทธองค์เสด็จไป ความทุกข์ความวุ่นวายก็หายไปเป็นที่น่าอัศจรรย์
พระพุทธองค์ตรัสว่า ที่เป็นเช่นนี้มิใช่ความน่าอัศจรรย์ แต่เป็นเพราะอานุภาพ
แห่งผลบุญที่พระองค์เคยเอาผ้าประดับบูชาพระเจดีย์ในอดีตชาติ

หลังจากที่รัชกาลที่ ๕ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ
จากพระบรมมหาราชวัง มาประดิษฐานที่ยอดบรมบรรพตครั้งแรกในปี 2440 นั้น
ทรง กำหนดให้มีงาน นักขัตฤกษ์ฉลองพระเจดีย์ภูเขาทองและวัดสระเกศขึ้น
ระหว่างวันขึ้น 8 ค่ำ เดือน 12 เป็นประจำทุกปี นับตั้งแต่นั้นมาจนถึงในปัจจุบัน

งานวัดภูเขาทองนับเป็นงานวัดที่ยังคงสืบสานวิถีชีวิตของชาวกรุงเทพ
ที่เชื่อมโยงจากอดีตมายังโลกในยุคปัจจุบัน ซึ่งยังคงเอกลักษณ์สืบมา
แม้จะไม่มากและหลากหลาย ด้วยบางสิ่งได้สูญหายไปตามกาลเวลา
แต่ถ้าจะนึกถึงเมียงู หรือคนสองหัว เราก็ยังนึกถึงที่นี่ งานวัดภูเขาทอง

Create Date : 16 ธันวาคม 2554

Last Update : 16 ธันวาคม 2554 17:00:21 น.

4 comments

Counter : 2580 Pageviews.

ได้ยินชื่อว่างานวัดนี้ยิ่งใหญ่มาก

แต่ไม่เคยได้สัมผัสเลยค่ะ

โดย: tuk-tuk@korat

วันที่: 16 ธันวาคม 2554 เวลา:17:57:14 น.

จากบล็อก สะพานทาชมภูต้องไปทางไปขุนตานที่ขนานกับทางรถไฟไปอีกราว ซักสิบ กม.ค่ะ

โดย: tuk-tuk@korat

วันที่: 16 ธันวาคม 2554 เวลา:17:59:17 น.

งานวัดภูเขาทองอุ้มก็ไปค่ะ
อุ้มไปคืนสุดท้ายเลยค่ะ

โดย: อุ้มสี

วันที่: 16 ธันวาคม 2554 เวลา:22:38:52 น.

อยู่กรุงเทพฯ มา 43 ปี ไม่เคยขึ้นภูเขาทองเลยค่ะ
เพราะกลัวอันตรายจากสิ่งต่างๆ
กลัวโดนจี้ เพราะถ้าไปน้อยๆ คนนี่ไม่ไหวเหมือนกัน
แต่พอมีงานภูเขาทองจริงๆ ก็ไม่กล้าไปอีก คนเยอะเกิน กลัวโดนล้วงกระเป๋า
มิจฉาชีพในกรุงทำให้การท่องเที่ยวไม่ค่อยน่าสนุกค่ะ

โดย: addsiripun

วันที่: 18 ธันวาคม 2554 เวลา:12:05:30 น.