นนทบุรี : วัดเขมาภิรตารามราชวรวิหาร (2)
พ.ศ. 2495 หลังจากการทิ้งระเบิดในสงครามโลกครั้งที่ 2 ยอดพระมหาเจดีย์ได้หักลงมาถึงส่วนปล่องไฉน กรมศิลปากรเข้ามาซ่อมแซม และได้ถูกรื้อเจดีย์ทั้งสี่มุมของพระอุโบสถออกหมด
การซ่อมแล้วเสร็จเมื่อ 11 มกราคม พ.ศ. 2496 และจัดการสมโภชขึ้น หลังจากนี้ได้จัดเป็นงานนมัสการพระบรมสารีริกธาตุต่อมาเป็นประจำทุกปี โดยจัดงานก่อนวันมาฆะบูชากี่วันก็ได้ แต่จะสิ้นสุดในวันมาฆะบูชา
ตำหนักแดง
มีสองหลัง หลังแรกนั้นเป็นตำนักที่สร้างขึ้นด้วยเครื่องไม้เพื่อเป็นที่ประทับของ สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระศรีสุดารักษ์ พระพี่นางในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ตั้งอยู่บริเวณหลังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทภายในพระบรมมหาราชวัง โดยพระองค์ทรงมีหน้าที่กำกับเครื่องใหญ่ในโรงวิเสศต้นและการสดึง
เมื่อสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระศรีสุดารักษ์สิ้นพระชนม์ พระบาทสมเด็จพระเลิศหล้านภาลัย ทรงเชิญสมเด็จพระอมรินทราบรมราชินี สมเด็จพระบรมราชนนีมาประทับ ณ ตำหนักแดงหลังนี้ ชาววังจึงเรียกตำหนักแห่งนี้ว่า พระตำหนักตึก
ส่วนตำหนักแดงหลังที่ 2 นั้น สร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย บริเวณหลังพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน เพื่อใช้เป็นที่ประทับของสมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี พระอัครมเหสีในพระองค์ เนื่องจากตำหนักแห่งนี้ทาสีแดง จึงเรียกว่า ตำหนักแดง
ปี 2167 เมื่อพระสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยเสด็จสวรรคต สมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินีจึงทรงเสด็จออกจากพระบรมมหาราชวัง พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงโปรดให้รื้อตำหนักแดงหลังที่สอง ที่เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินีไปไว้ที่พระราชวังเดิม
พร้อมพระราชทานตึกแดงหลังที่หนึ่ง ที่ให้เป็นที่ประทับของพระราชโอรส คือสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ากรมขุนอิศเรศรังสรรค์ พ.ศ. 2379 สมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินีได้เสด็จสวรรคต ตำหนักแดงถูกรื้อไปถวายเป็นกุฏิเจ้าอาวาสวัดโมลีโลกยาราม พ.ศ. 2394 สมเด็จเจ้าฟ้ากรมขุนอิศเรศรังสรรค์ได้รับสถาปนาขึ้นเป็น พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว กรมพระราชวังบวรสถานมงคล พระองค์ได้เสด็จไปประทับ ณ วังหน้า พร้อมทั้งทรงรื้อตำหนักแดง ในส่วนที่ประทับเดิมของพระองค์นั้นมาปลูก ณ พระบวรราชวัง
เมื่อรัชกาลที่ 4 ทรงมีพระราชดำริที่จะบูรณะวัดเขมาถวายเป็นพระราชกุศล พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว กรมพระราชวังบวรสถานมงคล ให้รื้อตำหนักแดงที่ถวายเป็นกุฏิเจ้าอาวาสวัดโมลีโลกยาราม ไปปลูกถวายเป็นกุฏิเจ้าอาวาสวัดเขมาภิรตารามแทน
พระที่นั่งมูลมณเฑียร
เดิมเป็นพระตำหนักไม้ชั้นเดียว หลังคา 2 ตอน แบบเรือนแฝด ประดับเครื่องลำยอง ช่อฟ้า ใบระกา หน้าบันเป็นไม้จำหลักปิดทองประดับกระจก สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอม เกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้า ให้รื้อแก้เป็น ตึกสร้างขึ้นใหม่ในระหว่างพระที่นั่งภานุ มาศจำรูญกับบริเวณพระพุทธนิเวศน์ ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยุ่หัวโปรดให้ย้ายไปปลูกที่วัดเขมาภิรตาราม โดยให้ใช้เป็นสถานที่เรียนของ โรงเรียน
พ .ศ. 2498 เมื่อโรงเรียนแยกออกเป็นโรง เรียนกลาโหมอุทิศและโรงเรียนวัดเขมาภิรตาราม โรงเรียนกลาโหมอุทิศได้ใช้พระที่นั่งมูล มณเฑียรเป็นห้องสมุดของโรงเรียนมาจนถึงปัจจุบัน
การบูรณปฏิสังขรณ์วัดเขมาภิรตารามครั้งใหญ่และครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5
Create Date : 29 พฤศจิกายน 2554 |
|
3 comments |
Last Update : 1 ธันวาคม 2554 9:41:05 น. |
Counter : 6072 Pageviews. |
|
|
ดีนะคะ ถอดประกอบใหม่ได้