BlogGang.com : : ผู้ชายในสายลมหนาว : การอนุรักษ์จิตรกรรมฝาผนัง : พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ (11)

การอนุรักษ์จิตรกรรมฝาผนัง : พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ (11)

14. พระพุทธเจ้าเสด็จระงับกรณีพิพาทระหว่างพระญาติศากยะฝ่ายพุทธบิดา
และพระญาติโกลิยะฝ่ายพุทธมารดา เรื่องแย่งน้ำทำกสิกรรม
โดยทรงชี้ให้เห็นเหตุผลอันไม่สมควร ในการทะเลาะวิวาทว่า
มนุษย์มีค่ามากกว่าน้ำ ต่างฝ่ายก็ยุติวิวาทไป

กรุงกบิลพัสดุ์นั้นเป็นเมืองพระญาติฝ่ายพุทธบิดา
ส่วนเมืองโกลิยนคร หรือเทวทหนครเป็นเมืองพระญาติฝ่ายพุทธมารดา
เมืองทั้งสองตั้งอยู่คนละริมฝั่งแม่น้ำโรหิณี เกิดพิพาทกันในปัญหาเรื่องน้ำ
เมื่อฝ่ายอยู่ทางเหนือน้ำทดน้ำจากแม่น้ำเข้านา ฝ่ายทางใต้ก็ขาดน้ำ

ทั้งสองฝ่ายเปิดประชุมเพื่อตกลงกันก่อน แต่ก็ตกลงกันไม่ได้
จึงเกิดปะทะคารมกันอย่างรุนแรง ทั้งสองฝ่ายเตรียมกำลังคนคือทหาร
และอาวุธจะเข้าห้ำหั่นกัน พระพุทธเจ้าทรงทราบเข้าจึงเสด็จมา
ทรงประชุมพระญาติทั้งสองฝ่าย แล้วทรงซักถามถึงต้นตอของตัวปัญหา

แล้วตั้งคำถามว่าระหว่างน้ำกับชีวิตคนอย่างไหนจะมีค่ามากกว่ากัน
พระญาติตอบว่าชีวิตคนมากกว่า พระพุทธเจ้าตรัสว่าควรแล้วหรือที่ทำอย่างนี้
พระญาติไม่มีใครกราบทูลตอบ พระพุทธเจ้าตรัสว่าหากไม่เสด็จมามาในวันนี้
เลือดจะไหลนองท่วมแผ่นดิน พระญาติทั้งสองฝ่ายเลยเลิกเตรียมทำสงครามกัน

-----------------------------------------------------------------------------

15. พระเจ้าสุทโธทนะส่งกาฬุทายีอมาตย์ไปทูลเชิญพระพุทธเจ้า
กาฬุทายีอมาตย์ได้เข้าอุปสมบทและทูลเชิญพระพุทธเจ้า
พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมโปรดพุทธบิดา
และได้อุปสมบทพระญาติพระองค์เป็นจำนวนมาก

พระเจ้าสุทโธทนะทราบข่าวการตรัสรู้จึงส่งมหาอำมาตย์ไปทูลเชิญ
พระพุทธเจ้าเสด็จกลับมาโปรดที่เมืองกบิลพัสดุหลายครั้ง
แต่ทุกครั้งที่ส่งอำมาตย์ไปก็ออกบวชและลืมรับสั่งหมด
จนพระองค์ส่งกาฬุทายีอำมาตย์และบริวารไป

เมื่อฟังพระธรรมเทศนาแล้ว ท่านกาฬุทายีอำมาตย์ก็ได้บรรลุอรหันต์
จึงขออกบวชตาม แต่ท่านยังรำลึกอยู่เสมอว่าต้องทูลเชิญพระพุทธเจ้า
กลับไปโปรดชาวเมืองกบิลพัสดุ์ ท่านจึงนิพนธ์คาถามากมายกว่า 60 คาถา
พรรณนาถึงคุณแห่งทางเสด็จในการเสด็จไปโปรดพระประยูรญาติ

เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จไปโปรดชาวเมืองกบิลพัสดุ์พร้อมกับภิกษุสาวก
อีก 20,000 องค์ กาฬุทายีอำมาตย์ได้ส่งข่าวกลับไปเมืองกบิลพัสดุ์
ทำให้ชาวเมืองเฝ้ารอการมาของพระพุทธเจ้าด้วยความเลื่อมใสเป็นอันมาก

พระกาฬุทายีเถระจึงได้รับการยกย่องว่าเป็นพระสงฆ์ผู้เลิศกว่าภิกษุอื่น
ในด้าน ผู้ยังสกุลที่ยังไม่เลื่อมใสให้เลื่อมใส

พระพุทธเจ้าพร้อมด้วยพระสงฆ์สาวกเสด็จถึงกบิลพัสดุ์นคร
พระเจ้าสุทโธทนะพระพุทธบิดาและบรรดาพระประยูรญาติมาต้อนรับ
แต่พระประยูรญาติทั้งหลายมีมานะทิฏฐิอันกล้าใม่อาจน้อมประนมหัตถ์
ถวายนมัสการได้ด้วยดำริว่า พระพุทธเจ้ามีพระชนมายุน้อยกว่าพวกตน

จึงให้พระประยูรญาติคราวน้องคราวบุตรหลานออกไปนั่งอยู่ข้างหน้า
เพื่อจะได้ถวายบังคมพระบรมศาสดา ซึ่งเห็นว่าควรแก่วิสัย
ส่วนพระประยูรญาติผู้ใหญ่พากันประทับนั่งอยู่เบื้องหลังเหล่า
ไม่ประนมหัตถ์ไม่นมัสการหรือคารวะแต่ประการใด

พระพุทธเจ้าเห็นดังนั้นก็ทรงเกิดสลดจิตคิดสังเวชแก่พระประยูรญาติ
จึงทรงสำแดงปาฏิหารย์เหาะขึ้นลอยอยู่ในอากาศให้ละอองธุลีพระบาท
หล่นลงตรงเศียรเกล้าแห่งพระประยูรญาติทั้งหลายเป็นอัศจรรย์
พระเจ้าสุทโธทนะจึงต้องทรงอภิวาทพระราชโอรสเป็นครั้งที่สามในชีวิต

หลังฟังพระธรรมเทศนาก็บรรลุพระโสดาบัน ทรงเกิดความเลื่อมใสศรัทธา
ประกาศตนเป็นอุบาสก ในพรรษาที่ 5 ของพระพุทธเจ้าก็บรรลุพระอรหันต์
หลังจากนั้นอีก 7 วันก็เสด็จสวรรคต

Create Date : 22 กรกฎาคม 2557

Last Update : 23 กรกฎาคม 2557 9:44:51 น.

2 comments

Counter : 2518 Pageviews.

มาอ่านต่อค่ะ

ขอบคุณที่เอามาแบ่งปันกันนะคะ

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ

วันที่: 23 กรกฎาคม 2557 เวลา:9:17:33 น.

พระกาฬุทายีเถระ... ไม่คุ้นเลยค่ะ

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ

วันที่: 23 กรกฎาคม 2557 เวลา:18:06:33 น.