Apple has lost a visionary and creative genius, and the world has lost an amazing human being.

But his spirit will forever be the foundation of Apple. 6 October 2011

<<
กรกฏาคม 2557
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
17 กรกฏาคม 2557

การอนุรักษ์จิตรกรรมฝาผนัง : พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ (9)

10667188044_e764704e60_o

10. ท้าวสักกะถวายหินเพื่อให้พระพุทธองค์ทำความสะอาดจีวร
พระพุทธองค์ทรงโปรดชฎิลดาบส ณ ตำบลอุรุเวลา
โดยทรงแสดงปาฏิหาริย์ให้ประจักษ์และเทศนาโปรดให้เห็นว่ากิเลสเป็นไฟเผาผลาญใจ


พระพุทธเจ้าทรงเสด็จตรงไปยังตำบลอุรุเวลา เมืองราชคฤห์ แคว้นมคธ
เป็นเมืองที่คับคั่งด้วยผู้คน เจริญวิทยาความรู้ตลอดจนการค้าขาย
เป็นที่รวมอยู่แห่งคณาจารย์เจ้าลัทธิมากมาย

อุรุเวลกัสสปเป็นคณาจารย์ใหญ่ผู้หนึ่งซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของชาวเมือง
มีพี่น้องด้วยกัน 3 คน อุรุเวลเป็นพี่ชายใหญ่มีชฏิล500 เป็นบริวาร
ตั้งอาศรมสถานที่ต้นแม่น้ำเนรัญชราตำบลหนึ่ง จึงได้นามว่าอุรุเวลกัสสป

น้องคนกลางมีชฏิลบริวาร 300 ตั้งอาศรมสถานอยู่ที่ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา
ถัดเข้าไปอีกตำบลหนึ่ง จึงได้นามว่า นทีกัสสป
น้องคนเล็กมีชฏิลบริวาร 200 ตั้งอาศรมสถานอยู่ที่คุ้งใต้แห่งแม่น้ำเนรัญชรา
ได้นามว่า คยากัสสป ชฏิลคณะนี้ทั้งหมดมีลัทธิหลักในการบูชาเพลิง

พระพุทธเจ้าเสด็จไปถึงอาศรมของอุรุเวลกัสสป ทรงรับสั่งขอพักแรมด้วย
อุรุเวลกัสสปรังเกียจ เพราะเป็นนักบวชต่างลัทธิ พูดบ่ายเบี่ยงว่า ไม่มีที่ให้พัก
ครั้นพระบรมศาสดาตรัสขอพักที่โรงไฟที่ว่างไม่มีชฏิลผู้ใดกล้าอาศัยอยู่
ด้วยในนั้นมีนาคราชดุร้าย อุรุเวลกัสสปจึงห้ามไว้ แต่พระพุทธเจ้ารับสั่งยืนยัน


10667188044_e764704e60_o


พระพุทธเจ้าเสด็จเข้าไปในโรงไฟประทับนั่งภาวนาเจริญมาธิ
พญานาคเห็นคนเข้ามาจึงพ่นพิษใส่ พระพุทธเจ้าก็บัลดาลเปลวเพลิง
เกิดสีแดงสว่างราวกับโรงไฟนั้นจะมอดไหม้กลายเป็นจุล
ชฎิลทั้งหลายต่างเศร้าสลดที่เห็นพระสมณะรูปงามต้องมาตายเสียที่นี่

ครั้นรุ่งเช้ากลับเห็นพระพุทธเจ้าจับพระยานาคตนนั้นขดไว้ในบาตร
อุรุเวลกัสสปเห็นดังนั้นก็ดำริว่า พระสมณะนี้มีอานุภาพมาก
ระงับฤทธิ์พญานาคให้อันตรธานพ่ายแพ้ไปได้
แต่อย่างไรเสียก็ไม่เป็นพระอรหันต์เหมือนเช่นตนเอง

ครั้นค่ำลงท้าวจาตุมหาราชเสด็จมาถวายอภิวาท มีทิพยรังสีสว่างดุจกองเพลิง
ครั้นเวลาเช้าอุรุเวลกัสสปจึงเข้าไปสู่ที่ประทับพระพุทธเจ้าแล้วทูลว่า
นิมนต์พระสมณะไปฉันภัตตาหารเถิด แต่ว่าเมื่อคืนนั้นเห็นรัศมีสว่างไปทั่ว
บุคคลผู้ใดมาสู่สำนักพระองค์ พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า นั่นคือท้าวจาตุมหาราช

อุรุเวลกัสสปได้ฟังดังนั้นก็ดำริว่า พระมหาสมณะองค์นี้มีอานุภาพมาก
ท้าวจาตุมหาราชยังลงมาสู่สำนัก แต่ก็ยังไม่ได้เป็นพระอรหันต์เหมือนตน
คืนต่อมาก็เกิดแสงสว่างเช่นกัน คราวนี้เป็นเป็นพระอินทร์เสด็จมาอภิวาท
และคืนต่อมาก็เกิดเช่นเดียวกัน เมื่อท้าวสหัมบดีพรหมเสด็จมาอภิวาท


IMG_0987


ในคราวนั้นเองที่เกิดผ้าบังสุกุลขึ้น เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จไปซักผ้าห่อศพ
นางปุณณาทาสีที่ถูกทิ้งอยู่ในป่าช้า พระองค์นั้นสืบสายมาจากวรรณะกษัตริย์
แต่กลับมาใช้ผ้าที่น่ารังเกียจ ถือเป็นเรื่องเกินกว่าที่มนุษย์หรือเทวดาจะกระทำเช่นนี้ได้
พื้นพสุธาจึงส่งเสียงกัมปนาทถึง 3 ครั้ง ตลอดเวลาที่พระองค์ถือผ้านี้ไว้เพื่อนำไปซัก

เมื่อพระอินทร์ทรงทราบจึงขุดสระโบกขรณีด้วยพระหัตถ์แล้วเนรมิตให้มีน้ำเต็มสระ
แล้วกราบทูลให้ซักผ้าบังสุกุลในที่นั้น เมื่อทรงพระดำริว่า จะทรงขยำในที่ใดดี
พระอินทร์ก็นำเอาแผ่นศิลาใหญ่เข้าไปถวาย ทรงขยำด้วยพระหัสถ์จนหายกลิ่นอสุภ
เมื่อทรงพระดำริว่าจะตากผ้าที่ใดดี รุกขเทพยดาก็น้อมกิ่งไม้ลงมาถวาย

ครั้นเสร็จสิ้นแล้วก็ทรงพระจินตนาว่า จะแผ่พับผ้าในที่ใด
พระอินทร์ก็ยกแผ่นศิลาอันใหญ่มาทูลถวายให้แผ่ผ้ามหาบังสกุลนั้น

รุ่งเช้าอุรุเวลกัสสปไปเผ้าพระพุทธเจ้าเห็นสระและแผ่นศิลาทั้งสอง
แลกิ่งไม้ที่น้อมลงมาเช่นนั้น ซึ่งมิได้ปรากกฎว่ามีในนั้นมาก่อนจึงทูลถาม
พระพุทธเจ้าตรัสบอกความทั้งปวงให้ทราบ เมื่อกัสสปได้ฟังก็ตกใจดำริว่า
พระสมณะองค์นี้มีเดชานุภาพมากยิ่งนัก แต่ก็ไม่เป็นพระอรหันต์เหมือนตน

ครั้นวันรุ่งขึ้นในวันถัดมา กัสสปชฏิลไปทูลนิมต์ฉันภัตตาหาร จึงตรัสว่า
ท่านจงไปก่อนเถิด อาตมาจะตามไปภายหลัง เมื่อส่งชฏิลไปแล้ว
จึงเสด็จเหาะไปนำเอาผลหว้าใหญ่ประจำทวีปในป่าหิมพานต์มา
แล้วก็เสด็จมาถึงโรงไฟก่อนหน้าชฎิลจะมาถึง

ครั้นชฏิลทูลถามว่า พระองค์มาทางใดจึงถึงก่อน พระศาสดาจึงว่า
ผลหว้าประจำทวีปนี้มีวรรณสัณฐานสุคันธรเอมโอช ถ้าท่านปรารถนาจะบริโภค
ก็เชิญตามปรารถนา วันต่อมาได้ทรงทำปาฏิหาริย์เช่นนั้นอีก 4 ครั้ง คือ

เสด็จเหาะไปเก็บผลมะม่วงครั้งหนึ่ง เก็บผลขามป้อมครั้งหนึ่ง
เก็บผลส้มในป่าหิมพานต์ครั้งหนึ่ง เสด็จไปดาวดึงส์นำเอาผลปาริฉัตครั้งหนึ่ง
แล้วมาคอยท่าอุรุเวลกัสสปอยู่ที่โรงไฟ ให้ชฏิลเห็นเป็นอัศจรรย์ใจทุกครั้ง



-----------------------------------------------------------------------

15291484968_e37a62ddef_b

11. พระพุทธองค์โปรดกัสสปะผู้น้องและบริวารเป็นภิกษุ
เสด็จกรุง .. ทรงแสดงปาฏิหาริย์โปรดยักษ์
ทรงแสดงธรรมเทศนาโปรดเทพยดา
ทรงประทานพระธาตุเมาลีแก่สุมนะหัวหน้าเทวดา


วันหนึ่งเมฆตั้งเค้าทั้งที่มิใช่ฤดูกาล บันดาลให้ฝนตกลงมาเป็นอันมาก
กระแสน้ำเป็นห้วงใหญ่ท่วมไปในที่ทั้งปวงโดยรอบบริเวณนั้น
อุรุเวลกัสสปคิดว่า พระมหาสมณะน่าจะจมน้ำตายไปเสียแล้วกระมัง
จึงลงเรือพร้อมกับชฏิลทั้งหลายรีบพายไปดูกัน เมื่อไปถึงกลับเห็นว่า

พระพุทธเจ้าทรงอยู่เดินจงกรมอยู่บนพื้นแห้งภายในกำแพงน้ำสูง
จึงส่งเสียงร้องเรียก พระพุทธเข้าขานรับแล้วก็เสด็จเหาะขึ้นไปบนอากาศ
ลอยลงสู่เรือของอุรุเวลกัสสป ก็ดำริว่า พระมหาสมณะนี้มีฤทธิ์เป็นอันมาก
แต่ถึงมีอานุภาพมากอย่างนั้นก็ยังไม่เป็นพระอรหันต์เหมือนเช่นตนเอง

พระพุทธเจ้าเสด็จจากป่าอิสิปตนมฤคทายวันมาประทับอยู่ที่ตำบลอุรุเวลา
เป็นเวลาสองเดือน ทรงแสดงอิทธิปาฏิหาริย์ทรมานอุรุเวลกัสสปหลายประการ
แต่อุรุเวลกัสสปก็ยังมีสันดานกระด้าง ถือตนว่าเป็นพระอรหันต์อยู่อย่างนั้น
ด้วยทิฐิอันกล้ายิ่งนักจึงทรงพระดำริว่า จะให้ชฎิลสลดจิตคิดสังเวชตนเอง

พระบรมศาสดาจึงตรัสแก่อุรุเวลกัสสปว่า ตัวท่านมิได้เป็นพระอรหันต์
ทั้งทางปฏิบัติของท่านก็ยังห่างไกล มิใช่ทางมรรคผลอันใด
ไฉนท่านจึงถือตนว่าเป็นพระอรหันต์ เท็จต่อตนเองและผู้อื่น
ถึงเวลาอันควรแล้วที่ท่านจะสารภาพความจริงแก่ตัวของท่านเอง

เมื่ออุรุเวลกัสสปได้สดับพระโอวาทก็รู้สึกตัวละอายแก่ใจ
ซบศีรษะลงแทบพระบาทแล้วกราบทูล ขอออกบวชในพุทธศาสนา
พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า ตัวท่านเป็นอาจารย์ยิ่งใหญ่แก่หมู่ชฏิลทั้ง 500
จงชี้แจงให้บริวารยินยอมพร้อมกันก่อน แล้วจึงจะยอมบรรพชาให้



อุรุเวลกัสสปก็กราบถวายบังคมลามายังอาศรมและบอกกับชฏิลผู้เป็นศิษย์
ทั้งหมดก็ยินยอมพร้อมกันจะบรรพชาในสำนักพระพุทธเจ้าทั้งสิ้น
แล้วก็พร้อมใจกันลอยเครื่องบริขารและเครื่องตกแต่งผม ชฎา สาแหรก คาน
เครื่องบูชาเพลิง ทั้งน้ำเต้า หนังเสือ ไม้สามง่ามลงในแม่น้ำทั้งสิ้น

แล้วก็พากันมาเฝ้าพระพุทธเจ้า ถวายอภิวาทแทบพระยุคลบาท
พระพุทธเจ้าก็ทรงประทานอุปสมบทด้วยเอหิภิกขุอุปสัมปทาเสมอกัน

นทุกัสสปผู้เป็นน้องคนกลาง เห็นเครื่องบริขารทั้งปวงลอยน้ำมา
ก็ดำริว่า ชะรอยจะมีอันตรายจะมีแก่อุรุเวลกัสสปะดาบสและบริวาร
จึงส่งคนพายเรือทวนน้ำขึ้นไปสืบข่าว ครั้นทราบเรื่องทั้งหมดก็เลื่อมใส
ชวนกันลอยเครื่องบริขารลงในแม่น้ำ แล้วพากันเข้าไปทูลขอบรรพชา

คยากัสสปผู้เป็นน้องคนสุดท้อง เห็นเครื่องบริขารของพี่ชายลอยน้ำลงมา
ก็ส่งศิษย์ไปสืบความ เมื่อรู้เหตุแล้วก็พาดาบสทั้งหลายอันเป็นศิษย์
ไปสู่สำนักของอุรุเวลกัสสป ไปถามความทราบกระจ่างแล้วเลื่อมใส
ชวนกันลอยเครื่องบริขารลงในกระแสชลแล้วเข้าทูลขอบรรพชาต่อพระพุทธเจ้า
พระบรมศาสดาก็โปรดประทานอุปสมบทด้วยเอหิภิกขุอุปสัมปทา

พระพุทธเจ้าทรงเสด็จดำเนินพาภิกษุสงฆ์นั้นไปสู่ตำบลคยาสีสะ
ตรัสพระธรรมเทศนาอาทิตตปริยายสูตร อันเป็นพระสูตรแสดง อายตนะภายใน
อายตนะภายนอกวิญญาณ สัมผัส เวทนาเป็นของร้อน ร้อนเพราะไฟ
คือ ราคะ โทสะ โมหะ เพื่ออนุโลมตามอัธยาศัยของชฏิลที่นิยมบูชาไฟ

ภิกษุทั้งหมด1000 รูปนั้นก็บรรลุพระอรหันต์ด้วยกันทั้งสิ้น


IMG_0991


พ.ศ. 236 พระเจ้าอโศกมหาราชได้ส่งพระมหินทเถระ
ผู้รอบรู้แตกฉานในพระธรรมวินัยไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาที่ศรีลังกา
เป็นหนึ่งใน 9 เส้นทางที่พระเจ้าอโศกมหาราชส่งพระธรรมฑูตออกไป
ตรงกับรัชสมัยของพระเจ้าเทวานัมปิยติสสะ กษัตริย์ชาวสิงหล

กล่าวกันว่ามีบุรุษและสตรีที่เลื่อมใสบวชเป็นภิกษุและภิกษุณีจำนวนมาก
พระองค์จึงได้อุทิศมหาเมฆวันอุทยานเป็นวัด เรียกว่า วัดมหาวิหาร
หลังจากนั้นยังได้ส่งคณะทูตไปสู่ราชสำนักของพระเจ้าอโศกมหาราช
เพื่อทูลของกิ่งของพระศรีมหาโพธิ์มาปลูกไว้ที่ลังกาทวีปอีกด้วย

พระมหินทเถระยังได้นำเอาพระไตรปิฎกและอรรถกถาไปสู่เผยแพร่ที่ลังกา
ซึ่งได้มีการคัดลอกสืบต่อกันมา จนกระทั่งพุทธศาสนาสูญหายไปจากอินเดีย
คัมภีร์ลังกาวงศ์เป็นต้นเค้าสำคัญของพระพุทธศาสนาที่เผยแพร่มาสุโขทัย
จนเป็นคตินิยมต่อมาอีกหลายทศวรรษว่า ของดีต้องมีที่มาจากลังกา

ไม่ว่าเป็นต้นศรีมหาโพธิ์ พระพุทธรูปสิหิงค์ หรือการส่งภิกษุไปบวชที่ลังกา
ปัจจุบันเรารู้ว่าหลายสิ่งนั้นไม่ได้มีที่มาจากลังกา แต่ว่านั่นก็เป็นความเชื่อ

คัมภีร์กล่าวว่ามีการเสด็จมา 3 ครั้ง ครั้งแรกนั้นเป็นการมาโปรดยักษ์
เรื่องนั้นก็ประมาณว่า ในสมัยพุทกาลเกาะลังกายังคงไร้ซึ่งศาสนา
แต่ทรงรู้ด้วยทิพยญาณว่า ในอนาคตที่นี่จะกลายเป็นที่สืบต่อพุทธรรม
จึงเสด็จมาโปรดยักษ์ ซึ่งเปรียบได้กับชาวพื้นเมืองที่ด้วยอารยธรรม


IMG_0992


ในเดือนที่ 9 หลังการตรัสรู้ได้เสด็จเหาะมาเพื่อทรมานยักษ์
โดยทรงประทับยืนบนอากาศตรงจุดที่สร้างมหิยังคณเจดีย์
ครั้นทรมานยักษ์ให้เลื่อมใสแล้ว ทรงตั้งให้เป็นผู้อารักขาเกาะนี้

เหล่าเทวดาได้มาฟังเทศนาและกล่าวสรรเสริญพระพุทธเจ้า
จากนั้นเสด็จวนรอบเกาะ 3 รอบ กล่าวพุทธทำนายว่า
เมื่อพระองค์ปรินิพานแล้ว พุทธศาสนาจักประดิษฐานอยู่บนเกาะนี้

ครั้งที่สองหลังจากตรัสรู้ได้ 5 พรรษา เสด็จมาเพื่อต้องการทรมาน
พญานาคผู้เป็นลุงและหลานที่ทะเลาะกันกัน เมื่อเสร็จพุทธกิจแล้ว
หมู่นาคราชเลื่อมใสจึงถวายบัลลังก์แก้วมณีของตน แต่พระองค์ทรงรับแล้ว
ประทับนั่งหน่อยหนึ่ง แล้วจึงประทานคืนให้หมู่นาคเอาไว้บูชาแทนพระองค์

เหล่าพญานาคจึงเอาบัลลังก์แก้วมณีนั้นบรรจุไว้ภายในเจดีย์ที่นาคทวีป
ซึ่งอยู่เหนือสุดลังกา ครั้นทรมานเหล่านั้นแล้ว ได้เสด็จกลับไป

ครั้งที่สามเกิดขึ้นในปีที่ 8 แห่งการตรัสรู้ พระพุทธเจ้าได้เสด็จมาพร้อม
พระภิกษุ 500 รูปเป็นบริวาร ตามคำอาราธนาของ พญามณีอักขิกะนาคราช
มายังบริเวณกัลยาณีเจดีย์ ทรงประทับนั่งบนบัลลังก์ทองและแสดงธรรม
เมื่อเสด็จกลับไปแล้ว เหล่านาคจึงสร้างกัลยาณีเจดีย์ครอบบัลลังก์นั้นไว้

จะเห็นได้ว่าเป็นการผูกเอาสถานที่สำคัญทางศาสนาเข้ากับพุทธประวัติ
คัมภีร์นี้ยังได้กล่าวอีกว่าในอีก 2500 ปีข้างหน้า พระบรมสารีริกธาตุทั้งหมด
จะเสด็จกลับมาที่ต้นศรีมหาโพธิ์แห่งลังกา และกลายเป็นรูปพระพุทธเจ้า
ก่อนที่จะอันตรธานหายไปเมื่อศาสนาขององค์โคตมพุทธเจ้าได้สิ้นสุดลง



Create Date : 17 กรกฎาคม 2557
Last Update : 13 ตุลาคม 2557 13:57:40 น. 6 comments
Counter : 2171 Pageviews.  

 
โหย ยากสุด ๆ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 17 กรกฎาคม 2557 เวลา:22:06:46 น.  

 
โอ้ ละเอียดดีจังค่ะ

วันนี้เราโหวตเต็มไปแล้ว วันอื่นมาโหวตให้นะคะ



จริงค่ะ อุตส่าห์ลวกได้ขนาดนั้นแล้ว แต่ปรุงรสไม่ดีซะงั้น เสียดายอะค่ะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 18 กรกฎาคม 2557 เวลา:14:42:26 น.  

 
พระศรีอริยเมตไตรยปางนั่งพับเพียบองค์แรกที่พบในภาคเหนือ...หนูเพิ่งรู้ ตอนมาหาข้อมูลค่ะ เสียดาย ไม่งั้นจะเดินเข้าไปดูใกล้ๆ ค่ะ


เดี๋ยวมาอีกรอบค่ะ


บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
tuk-tuk@korat Travel Blog ดู Blog
wicsir Photo Blog ดู Blog
หอมกร Movie Blog ดู Blog
เนินน้ำ Food Blog ดู Blog
ปลาทอง สมองน้อย Education Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น







โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 19 กรกฎาคม 2557 เวลา:20:38:51 น.  

 
โหวตจ้า


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 21 กรกฎาคม 2557 เวลา:8:26:33 น.  

 
อนุรักษ์ไว้ให้ลูกหลานได้ดูเยี่ยมครับ บางที่ไปทำรูปแปลกๆ เอารูปปืนรูปไอแพดไปใส่ ผมว่ามันไม่เข้าท่านะ..


โดย: ShiroOgon วันที่: 21 กรกฎาคม 2557 เวลา:12:54:30 น.  

 
เรื่องย่อหน้าล่างสุด เพิ่งเคยฟังค่ะ



โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 23 กรกฎาคม 2557 เวลา:17:43:01 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ผู้ชายในสายลมหนาว
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 21 คน [?]




New Comments
[Add ผู้ชายในสายลมหนาว's blog to your web]