Apple has lost a visionary and creative genius, and the world has lost an amazing human being.

But his spirit will forever be the foundation of Apple. 6 October 2011

<<
มิถุนายน 2557
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
18 มิถุนายน 2557

การอนุรักษ์จิตรกรรมฝาผนัง : พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ (5)

IMG_0934

3. เจ้าชายสิทธัตถะประสูติ อสิตดาบสเข้าเฝ้าเยี่ยม
พระเจ้าสุทโธทนะเสด็จจรดพระนางคัลแรกนาขวัญ
เจ้าชายสิทธัตถะบรรลุปฐมฌาน
เจ้าชายสิทธัตถะอภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงยโสธรา แห่งราชวงศ์โกลิยะ


อสิตดาบส ผู้ได้สมาบัติ 8 ซึ่งทรงเป็นราชครูของพระเจ้าสุทโธทนะทราบข่าว
จึงเหาะมายังกรุงกบิลพัสดุ์เพื่อถวายพระพร เมื่ออัญเชิญพระกุมารออกมา
ก็ได้เกิดสิ่งอัศจรรย์ กล่าวคือ พระราชกุมารเสด็จขึ้นยืนบนชฎาของพระดาบส
พระดาบสเห็นพระลักษณะของพระโพธิสัตว์ ก็ทราบด้วยอนาคตังสญาณว่า

พระโอรสจักเป็นพระพุทธเจ้าอย่างไม่ต้องสงสัย พระโอรสนี้เป็นอัจฉริยบุคคล
จึงได้ทำการอัญชลีและสรรเสริญ พระเจ้าสุทโธทนะทอดพระเนตรเห็น
สิ่งอัศจรรย์และสดับคำนั้นก็ทรงเลื่อมใสและอภิวาทพระโอรสตามอย่าง

เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะมีพระชนมายุ 7 ปี พระราชบิดาทรงจัดให้มีพระราชพิธี
จรดพระนังคัลแรกนาขวัญ เจ้าชายทรงประทับนั่งสมาธิอยู่ใต้ต้นหว้า
ได้รับความวิเวกก็เกิดสมาธิขั้นแรกที่เรียกว่า ปฐมฌาน

เกิดสิ่งอัศจรรย์คือเงาของต้นไม้นั้นไม่เคลื่อนตามดวงอาทิตย์
ราวกับเป็นร่มเพื่อบังแสงให้เจ้าชายสิทธัตถะ
พระเจ้าสุทโธทนะเสด็จมาทอดพระเนตรก็เกิดอัศจรรย์ในพระทัย
และได้ถวายอัญชลีเป็นครั้งที่สอง

เจ้าชายสิทธัตถะทรงใช้ชีวิตท่ามกลางรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส
ตามที่พระบิดาทรงปรนเปรอให้ เนื่องจากไม่ต้องการให้พระองค์
เลือกทางเดินที่จะบรรลุถึงซึ่งการเป็นมหาธรรมราชาตามคำนาย
พระองค์ใช้ชีวิตเยี่ยงปรกติ และทรงได้อภิเษกสมรสกับพระนางยโสธรา

จะเห็นได้ว่าเนื้อหาในปฐมสมโพธิ์ซึ่งแต่งขึ้นภายหลังต่างไปจากจิตรกรรม
จากรูปจะเห็นเพียงพระกุมารประทับอยู่ภายใต้ร่มต้นหว้าที่เป็นปาฏิหารย์
แต่ไม่ใช่พระราชกุมารอายุ 7 ชันษาที่ประทับนั่งสมาธิจนบรรลุปฐมฌาณ
ซึ่งเป็นเรื่องราวที่แตกต่างเนื่องจากปฐมสมโพธิ์หยิบยกมาจากหลายคัมภีร์


------------------------------------------------------------------------------

IMG_0942

4. เทพยดาทั้ง 4 เนรมิตร่างเป็นคนแก่ คนเจ็บ คนตาย และนักบวช
ปรากฏแก่เจ้าชายสิทธัตถะ พระราหุลประสูติ
เจ้าชายสิทธัตถะเสด็จออกมหาภิเนษกรมณ์


จนวันหนึ่งเจ้าชายสิทธัตถะได้เสด็จออกจากพระราชวังอันสะดวกสบาย
เพื่อประพาสพระนคร ในครั้งเองที่เทวดาได้แปลงกายลงมาเป็นคนแก่ คนเจ็บ
และคนตาย ทำให้เจ้าชายได้พบเห็นชีวิตที่แตกต่างไปจากในพระราชวัง

จนพระองค์ต้องตั้งคำถามต่อนายฉันนะว่า เหตุใดมนุษย์จึงมีทุกข์เช่นนี้
มหาดเล็กจึงตอบไปว่า ทุกชีวิตในโลกนี้ย่อมไม่มีใครหนีไม่พ้นซึ่งสามสิ่งนี้
ก่อนที่จะเสด็จกลับเข้าพระราชวัง พระองค์ได้พบเทวทูตที่สี่ในร่างสมณะ
ทำให้พระองค์ตัดสินใจที่จะละทิ้งความสุขทั้งมวลเพื่อตามหาทางพ้นทุกข์

คืนวันที่เจ็ดหลังจากวันที่มีประสูติกาลของเจ้าชายราหุล
พระองค์ได้ตัดสินใจเด็ดขาดที่จะออกบวช เทวดาได้สะกดให้ทั้งเมืองหลับใหล
และเนรมิตให้สาวงามที่ทำงานรับใช้ต่างนอนผ้าผ่อนหลุดลุ่ยไม่น่ามอง
เจ้าชายสิทธัตถะปลุกนายฉันนะขึ้นมาให้เตรียมม้าเพื่อเสด็จออกไปนอกเมือง

เทวดายังช่วยให้เกิดความเงียบของการเสด็จหนีด้วยการรองรับเท้าม้าทั้งสี้ไว้
เทวดายังได้ช่วยเปิดประตูเมืองที่ปรกติต้องใช้คนถึง 500 คนเพื่อเปิดมันออก
เพราะพระเจ้าสุทโธทนะได้รับทราบจากโหราจารย์ว่า ในวันหนึ่งข้างหน้า
เจ้าชายสิทธัตถะอาจจะเสด็จออกจากเมืองไปเพื่อออกบวชในเส้นทางสายนี้


IMG_0944


ด้วยฤทธิ์ของเทวดาทำให้การเดินทางหนึ่งสัปดาห์เหลือเพียงหนึ่งคืน
รุ่งสางเจ้าชายสิทธัตถัตได้เสด็จมาถึงยังริมแม่น้ำอโนมาและตัดพระเกศา
เนื่องจากวรรณะกษัตริย์นั้นไว้ผมยาว การตัดพระเกศานี้จึงหมายถึง
การสละแล้วซึ่งพระชาติกำเนิดในวรรณะที่สูงส่งที่ได้ทรงถือกำเนิดมา

ทรงโยนพระเกศาขึ้นไปในอากาศ พระอินทร์เสด็จลงมานำพานมารองรับไว้
แล้วนำขึ้นไปประดิษฐานในจุฬามณีเจดีย์บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
นับเป็นพระธาตุองค์แรกตั้งแต่พระองค์ยังมิได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า

ต่อมาพระพรหมได้เสด็จลงมาแปลงร่างเป็นพรานเพื่อทูลขอแลกเครื่องแต่งกาย
เจ้าชายสิทธัตถะทรงยินดีในการแลกเปลี่ยนชุดกษัตริย์ที่มีค่ากับชุดชาวบ้าน
พระพรหมได้นำพระภูษานี้ขึ้นไปประดิษฐานในทุศเจดีย์บนสวรรค์ชั้นอกนิษฐพรหม
อันเป็นสวรรค์ที่อยู่สูงกว่าดาวดึงส์และดุสิต พรหมชั้นนี้เมื่อสิ้นอายุขัยก็จะถึงนิพพาน

นายฉันนะและม้ากัณฐกะได้อยู่รอเจ้าชายสิทธัตถะตรงริมฝั่งน้ำ
เมื่อแน่ใจว่าพระองค์จะไม่เสด็จกลับคืนมาพระนครอีกแล้วก็เศร้าโศก
จากนั้นก็เดินทางกลับเพื่อแจ้งข่าวแก่พระเจ้าสุทโธทนะ แต่บางคัมภร์กล่าวว่า
ม้ากัณฑกะได้หัวใจสลายและสิ้นใจตายอยู่ตรงนั้นแล้วกลับขึ้นไปเกิดเป็นเทวดา



Create Date : 18 มิถุนายน 2557
Last Update : 18 กรกฎาคม 2557 13:24:52 น. 7 comments
Counter : 2439 Pageviews.  

 
เรื่องนี้เพิ่งเคยอ่าน ขอบคุณค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 18 มิถุนายน 2557 เวลา:15:51:15 น.  

 
....ขอบคุณค่ะ

หนูมีขาตั้งกล้องค่ะ แต่ไม่เคยหอบหิ้วไปด้วยเลย แค่แบกเป้ตัวเองปานขนบ้านพร้อมที่ดินใส่ลงไปด้วยค่ะ หนักมาก


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 18 มิถุนายน 2557 เวลา:21:19:35 น.  

 
แวะมาอ่านเรื่องราวดีดีเกี่ยวกับศาสนาและชมภาพในโบสถ์ค่ะ


โดย: เวียงแว่นฟ้า วันที่: 19 มิถุนายน 2557 เวลา:23:07:55 น.  

 
หนูลืมได้ทุกครั้ง

วันนี้ตั้งใจจริงๆ ค่ะ


บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
NET-MANIA Photo Blog ดู Blog
newyorknurse Klaibann Blog ดู Blog
หอมกร Movie Blog ดู Blog
ปลาทอง สมองน้อย Education Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น




โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 22 มิถุนายน 2557 เวลา:13:33:01 น.  

 
ไปเที่ยวชมพระศิลาทรายปรางค์นาคปรก ทวาราวดี ที่วัดอุทัยมัคคารามกันค่ะ

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tuk-tukatkorat&group=40&month=20-06-2014&gblog=108


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 23 มิถุนายน 2557 เวลา:9:57:51 น.  

 
เพิ่งไปเที่ยววัดหนองโว้ง สวรรคโลกมา
โบสถ์เก่ามีจิตรกรรมฝาผนังสวยมาก
กำลังรองบบูรณะอยู่
แต่ครูเอาอุปรณ์เช่น คันธง รูป ฯลฯ ไปวางพิง ๆๆ
กลัวรูปเสียจังเลย



โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 8 กรกฎาคม 2557 เวลา:15:43:59 น.  

 
ลงรูปเพิ่มเติมแล้วค่ะ สมัยใหม่ ๆ ไม่ค่อยถ่ายมานะคะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 14 กรกฎาคม 2557 เวลา:8:28:07 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ผู้ชายในสายลมหนาว
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 21 คน [?]




New Comments
[Add ผู้ชายในสายลมหนาว's blog to your web]