BlogGang.com : : ผู้ชายในสายลมหนาว : ล่องเจ้าพระยาชมวิถีไทยมอญ : ป้อมวิไชยประสิทธิ์ (3)

ล่องเจ้าพระยาชมวิถีไทยมอญ : ป้อมวิไชยประสิทธิ์ (3)

มีนาคม 2230 คณะราชฑูตเดินทางกลับพร้อมด้วยคณะราชฑูตฝรั่งเศส
นแกจากนี้ยังมีกองทหารฝรั่งเศส จำนวน 1400 นายเดินทางกลับมาด้วย
ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อน เพราะในสมัยนั้นการส่งทหารไปยังตะวันออกนั้น
เป็นไปเพื่อรักษาเฉพาะเมืองท่าทางการค้าของตนเท่านั้น

แต่พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ก็มีพระราชสาร์นถึงสมเด็จพระนารายณ์มหาราชว่า
ทหารในบังคับบัญชาของนายพลเดร์ฟาจนั้นจะมาทำงานรับใช้ตามแต่พระประสงค์
แต่วัตถุประสงค์ที่แท้จริงนั้น คงยังไม่มีใครทราบได้ว่า ฝรั่งเศสนั้นต้องการสิ่งใด

สิงหาคม 2230 ไทยมีปัญหาจนต้องรบกับอังกฤษในการค้าขายในเมืองท่า
แถบทะเลอันดามัน ในการสู้รบนั้นไทยสามารถยึดเมืองมะริดจากอังกฤษได้
ตุลาคม 2230 สมเด็จพระนารายณ์จึงโปรดให้แบ่งทหารฝรั่งเศสที่เดินทางมาถึง
กองหนึ่งไปรักษาเมืองมะริด และอีกราว 400 คนรักษาป้อมที่เมืองธนบุรี

เมื่อกองทหารฝรั่งเศสเมื่อเดินทางมาถึงก็ได้สร้างป้อมบางกอกฝั่งตะวันออก
ให้มีรูปร่างเป็นดาว 5 แฉกขนาดใหญ่ แต่ก็พบปัญหาว่าพื้นดินฝั่งบางกอกนั้น
ดูเหมือนชั้นบนจะเป็นดินแข็งตากแห้ง แต่เมื่อขุดลึกลงไปเพื่อวางฐานราก
กลับพบว่าเป็นดินแหลวคล้ายโคลนตม นอกจากนี้แรงงานชาวไทยก็หลบหนีไป
ทั้งทหารฝรั่งเศสจำนวนมากก็ล้มป่วยด้วยอากาศที่ร้อนชื้น

พฤศจิกายน 2230 คณะราชฑูตนำโดย เดอ ลาลูแบร์ ได้เข้าเฝ้าถวายพระราชสาส์น
และได้โดยเสด็จไปเยี่ยมชมพระราชวังที่ลพบุรี หลังจากนั้นเพียง 3 เดือน
คณะฑูตก็ได้เดินทางออกจากอยุธยา ซึ่งต่อมาอีก 3 ปี เดอ ลาลูแบร์ได้แต่งหนังสือ
จำนวน 2 เล่มที่กล่าวถึงสิ่งที่พบเห็นในสยาม ซึ่งกลายเป็นหลักฐานสำคัญ
ที่ทำให้เราทราบว่าสังคมอยุธยาในสมัยนั้นมีสภาพความเป็นอยู่กันอย่างไร

มีนาคม 2231 สมเด็จพระนารายณ์มหาราชเริ่มมีพระอาการประชวร
เจ้าพระยาวิไชยเยนทร์เรียกนายพลเด ฟาร์จจากบางกอกไปปรึกษาราชการ
โดยสั่งให้นำทหารฝรั่งเศสไปรักษาวังที่ลพบุรี นายพลเดฟาร์จลงมาอยุธยา
เพื่อหารือเรื่องดังกล่าวกับบาทหลวงชาวฝรั่งเศส ซึ่งแนะนำให้วางเฉยเสีย

18 พฤษภาคม 2231 หลังจากพระเพทราชาเชื่อว่าขุนนางส่วนใหญ่อยู่ฝ่ายตน
ก็คุมทหารไปยังพระราชวังที่ลพบุรี อ้างพระบรมราชโองการเรียก
เจ้าพระยาวิไชยเยนทร์ให้มาเฝ้า แล้วจึงจับกุมตัวพร้อมทหารทหารฝรั่งเศส
ที่ส่งมาอารักขา 4 คนนำไปคุมขัง และทรมานจนสิ้นชีวิต

จากนั้นก็จับพระปีย์บุตรบุญธรรมไปประหารเสีย เหลืออยู่ก็เพียงวังหลัง
จึงอ้างหมายรับสั่งเรียกให้เจ้าฟ้าอภัยทศจากอยุธยาให้มาที่ลพบุรี
เมื่อพระองค์เสด็จมาถึงฉนวนท่าน้ำ ก็ถูกจับกุมตัวไปประหารด้วยท่อนจันทร์
พระเพทราชาและขุนหลวงสรศักดิ์ก็กุมอำนาจในอยุธยาได้หมดสิ้น

พระเพทราชาสั่งให้นายพลเดร์ฟาจเข้าพบ และสั่งให้นำกำลังทหารฝรั่งเศส
มารวมกันที่อยุธยาพร้อมทั้งให้เขียนจดหมายไปหาทหารฝรั่งเศสที่เมืองมะริด
ให้เดินทางกลับอยุธยาด้วยเช่นกัน โดยให้มอบบุตรชายทั้งสองคนไว้เป็นตัวจำนำ

เมือเดินทางลงมาจากอยุธยาก็สั่งให้มีการรื้อปืนใหญ่ที่ป้อมฝั่งตะวันออก
แล้วรวมกำลังที่เหลือไปรักษาป้อมเดิมฝั่งตะวันตกไว้อย่างมั่นคง
มิถุนายน 2231 สมเด็จพระนารายณ์มหาราชเสด็จสวรรคต

เมื่อพระเพทราชาทราบข่าวว่าทหารฝรั่งเศสไม่ทำตามที่ตกลง
จึงสั่งทหารไทยเข้าล้อมป้อมบางกอกไว้เสียทุกด้าน และพยายามที่เข้าไป
ในป้อมฝั่งตรงข้ามเพื่อกู้ปืนใหญ่ที่ฝรั่งเศสพยายามทำลาย เพื่อใช้ยิงโต้ตอบ

สิงหาคม 2231 พระเพทราชาปราบดาภิเษกขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์
พระองค์ที่ 28ของอยุธยา และก่อตั้งราชวงศ์บ้านพลูหลวง

ตุลาคม 2231 มาดามฟอลคอน ที่เรารู้จักกันดีในนามท้าวทองกีบม้า
ผู้นำมาสูตรอาหารคาวหวานโปรตุเกสมายังเมืองไทย
ได้เดินทางออกมาจากอยุธยาเพื่อมาพบนายพลเดร์ฟาจ
โดยร้องขอที่จะโดยสารเรือเพื่อเดินทางกลับประเทศ แต่ถูกปฏิเสธ

พฤศจิกายน 2231 หลังจากทั้งสองฝ่ายคุมเชิงกันมาหลายเดือน
ฝ่ายไทยจึงส่งคนเข้าไปเจรจา ฝรั่งเศสนั้นไม่มีเสบียงหลงเหลืออีกต่อไป
จึงยินยอมที่จะถอนตัวออกไปโดยขอให้ไทยส่งเรือโดยสารพร้อมเสบียงมาให้
ก็จะเดินทางในทันที แล้วทหารฝรั่งเศสที่เข้ามาอย่างองอาจ ก็ต้องลาจากสยามไป

Create Date : 16 พฤศจิกายน 2553

Last Update : 16 พฤศจิกายน 2553 15:50:58 น.

3 comments

Counter : 2955 Pageviews.

อ่านแล้วนึกถึงตอนอ่าน รุกสยาม ในพระนามของพระเจ้าเลยค่ะ

อ่านหนังสือเล่มนี้แล้วเปลี่ยนความคิดความรู้อะไรหลายๆ อย่างของเราไปเยอะเลย

มาขอบคุณที่ไปโหวตให้ด้วยนะคะ

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ

วันที่: 16 พฤศจิกายน 2553 เวลา:16:14:02 น.

เป้นนวนิยายที่อ้างว่า 80% ของคำพูดนั้นมาจากเหตุการณ์จริง สำหรับผมเชื่อว่าเป็นไปได้เพราะหากสืบลึกลงไปแล้ว มีบันทึกจำนวนมากของชาวฝรั่งเศสแต่ละคนที่เข้ามาได้เขียนถึงไว้ กระจัดกระจายอยู่ทั่วไปในห้องสมุดหลายประเทศ ภาพวาดจำนวนมาก แม้กระทั่งต้นฉบับนิราศของโกษาปาน ปัจจุบันก้ยังคงถูกเก็บรักษาไว้ที่ฝรั่งเศส ยังไม่รวมถึงหนังสือไทยสมัยอยุธยาจำนวนมาก ที่แม้กระทั่งนักวิชาการไทยก็ไม่เคยเห็นมัน

โดย: VET53

วันที่: 16 พฤศจิกายน 2553 เวลา:16:35:43 น.

ผู้ที่มีอำนาจปกครองก็จะแสวงหาเพื่อให้ได้ มาตลอดไม่เปลี่ยนแปลงเลยนะคะ

โดย: tuk-tuk@korat

วันที่: 16 พฤศจิกายน 2553 เวลา:16:59:54 น.