BlogGang.com : : ผู้ชายในสายลมหนาว : การอนุรักษ์จิตรกรรมฝาผนัง : พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ (15)

การอนุรักษ์จิตรกรรมฝาผนัง : พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ (15)

เมื่อพระพุทธเจ้าดำเนินการเผยแผ่คำสอนออกไปทำให้มีผู้เลื่อมใสจำนานมาก
วันหนึ่งนางจิญจมาณวิกาผู้มีความงามเลื่องลือไปทั่วแคว้นไปทำพิธีที่อาราม
โดยปรกติเหล่าเดียรถีย์จะต้องมีความยินดีที่มีผู้มาสักการบูชา
แต่ว่าวันนั้นกลับเงียบเฉย จนนางต้องเอ่ยขึ้นว่าได้ไหว้”มาอย่างนี้ถึง 3 ครั้ง

เหตุใดท่านอาจารย์จึงนิ่งเฉย เกิดอะไรขึ้นหรือไมยามนี้
เหล่าเดียรถีย์จึงกล่าวตอบว่า เวลานี้ลาภสักการะของเราเสื่อมหมดแล้ว
เพราะคนหันไปนิยมพระพุทธเจ้า เจ้าไม่รู้สึกเจ็บร้อนแทนพวกเราบ้างเลยหรือ
นางจิญจมาณวิกาจึงอาสาไปทำลายชื่อเสียงขององค์พระศาสดาให้ย่อยยับลง

นางจึงวางแผนร้ายด้วยการแต่งกายอย่างดี ถือของหอมและดอกไม้
ไปยังวัดเชตวัน เมื่อชาวเมืองสาวัตถีฟังธรรมแล้วเดินกลับออกมา
นางก็จะเดินสวนเข้าไป เมื่อมีคนเอ่ยถามว่าจะไปไหนเวลาคำเช่นนี้
นางจิญจมาณวิกาตอบว่า ไม่ใช่ธุระอันใดของพวกท่าน

ในตอนเช้าเมื่อชาวนครสาวัตถีมุ่งหน้าไปฟังธรรมที่วัดเชตวัน
นางจิญจมาณวิกาก็จะเดินสวนออกมา ทำเหมือนพักอยู่ในวัดทั้งคืน
เมื่อคนทั้งหลายพยายามซักไซ้ถามอยู่หลายครั้ง นางจึงแสร้างทำเป็นเตอบ
อย่างเสียไม่ได้ว่า พักอยู่ในพระคันธกุฎีของพระสมณโคดมนั่นเอง

ชาวพุทธทั้งหลายจึงเกิดความสงสัยกันว่า คำกล่าวนั้นเป็นความจริงหรือไม่
เวลาผ่านไป 3-4 เดือน นางเอาผ้าพันท้องให้หนาขึ้นเพื่อแสดงว่ามีครรภ์
และให้คนทั้งหลายเข้าใจว่านางตั้งครรภ์กับองค์พนระสัมมาสัมพุทธเจ้า
พอเดือนที่ 9 ก็เอาไม้กลมมาผูกไว้ที่ท้อง ล่อลวงคนว่ามีครรภ์แก่จวนคลอด

เย็นวันหนึ่ง ขณะที่พระศาสดากำลังแสดงธรรมอยู่ ท่ามกลางพุทธบริษัท
ในธรรมสภานางได้เข้าไปยืนตรงพระพักตร์พระตถาคตเจ้า แล้วก็กล่าวว่า
พระองค์ดีแต่แสดงธรรมแก่มหาชนเท่านั้น แต่มิได้สนพระทัยในหม่อมฉันเลย
หม่อมฉันซึ่งตั้งครรภ์ครบกำหนดคลอดแล้ว ครรภ์นี้อาศัยพระองค์ตั้งขึ้น

พระองค์ไม่เอาพระทัยใส่ต่อเครื่องบริหารครรภ์เลย
แม้ไม่ทำเองก็ควรตรัสบอกสานุศิษย์คนใดคนหนึ่งให้ช่วยเหลือในการนี้
พระองค์ทรงรู้แต่การอภิรมย์ แต่ไม่ทรงสนพระทัยในการคลอดของหม่อมฉันเลย
พระองค์ก็ตรัสด้วยพระกระแสเสียงอันเรียบว่า

เรื่องนี้เราทั้งสองคนเท่านั้นที่รู้ว่าจริงหรือไม่จริง

นางจิญจมาณวิกาโกรธมาก ออกแรงด่าพระตถาคตจนเชือกขาด
แต่ถ้าตามอรรถกถากล่าวว่า ร้อนถึงท้าวสักกะเทวราชจนเทวดา 4 องค์
ได้ลงมาบนโลกแล้วแปลงกลายเป็นลูกหนูเข้าไปกัดเชือกจนขาด
ผ้าและท่อนไม้กลมเกลี้ยงจึงหล่นลงมาจากท้องของนาง

ด้วยผลกรรมที่ใส่ร้ายพระพุทธเจ้า เมื่อออกจากพระเชตวันถึงสระโบกขรณี
นางก็ถูกธรณีในบริเวณเดียวกันกับที่พระเทวทัตถูกธรณีสูบนั่นเอง
จากนั้นพระพุทธเจ้าได้ตรัสเรื่องมหาปทุมชาดกให้เหล่าภิกษุทั้งหลายได้ฟัง

นางจิญจมาณวิกาเป็นมเหสีองค์หนึ่งของพระราชาชบิดาของพระมหาปทุมกุมาร
แต่นางกลับมีจิตประดิพัทธ์ในมหาปทุม จึงเย้ายวนให้ประกอบกามกิจกับนาง
แต่พระโพธิสัตว์ไม่ทรงยินยอมตาม ด้วยเห็นว่าเป็นเรื่องไม่สมควร
นางจึงแกล้งทำอาการว่าตั้งครรภ์ เมื่อพระราชาตรัสถามก็ใส่ความว่า

ชายผู้นั้นคือมหาปทุมกุมาร พระราชโอรสของพระองค์
พระราชาทรงกริ้ว จึงให้ทิ้งพระโพธิสัตว์ลงในเหวที่ทิ้งโจร
เทวดาที่สิงสถิตอยู่อุ้มพระโพธิสัตว์ไว้ ให้ประดิษฐานอยู่ที่พังพานนาคราช
พระยานาคราชนำท่านไปสู่นาคพิภพ แบ่งราชสมบัติให้ครองครึ่งหนึ่ง

อยู่ในนาคพิภพปีหนึ่งเกิดความเบื่อหน่าย จึงเดินทางเพื่อออก บวช
พรานผู้หนึ่งผ่านมาพบเข้าก็จำได้ จึงกลับไปกราบทูลพระราชา
พระราชาเสด็จมาเฝ้า และทรงทราบเรื่องความเป็นมาทั้งหมดแล้ว
ทรงเชิญเสด็จกลับให้ไปครองราชสมบัติ แต่พระโพธิสัตว์ทรงปฏิเสธ

พระราชาเสด็จกลับพระนครแล้วให้จับพระมเหสีผู้กลั่นแกล้งใส่ร้าย
พระโพธิสัตว์นั้นไปทิ้งที่เหวทิ้งโจร แล้วครองแผ่นดินโดยธรรม
อันนี้เรียกว่ากรรมสนอง ถึงเวลาที่กรรมที่ได้กระทำไว้มาสนอง
แต่ว่าคนที่ไม่ดีก็ไม่มีใครช่วย ก็ต้องได้รับผลแห่งกรรมของตนไป

หญิงผู้นั้นเกิดมาเป็นนางจิญจมาณวิกา ส่วนพระมหาปทุมคือพระองค์เอง

Create Date : 31 กรกฎาคม 2557

Last Update : 31 กรกฎาคม 2557 13:53:15 น.

5 comments

Counter : 3311 Pageviews.