Apple has lost a visionary and creative genius, and the world has lost an amazing human being.

But his spirit will forever be the foundation of Apple. 6 October 2011

<<
มกราคม 2564
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
14 มกราคม 2564

วัดเบญจมบพิตร : แรกมีพิพิธภัณฑ์



ถ้าจะเอาประวัติการสร้างพิพิธภัณฑ์ในประเทศไทย คงต้องย้อนไปในสมัยรัชกาลที่ 5
ที่พระองค์ได้เสด็จประพาสชวาเมื่อปี พ.ศ. 2413 เมื่อพระชนมายุได้ 17 พรรษา
ซึ่งเป็นครั้งแรกที่กษัตริย์ได้เสด็จออกไปต่างประเทศ ทำให้ได้เห็นความเจริญก้าวหน้า
ของชาติตะวันตก เมื่อนิวัติพระนครพระองค์ก็ได้จัดให้มีการดำเนินการหลายอย่าง   
 
หนึ่งในนั้นก็คือ การจัดตั้งพิพิธภัณฑ์ที่หอคองคอเดีย ในพระบรมมหาราชวัง
ซึ่งจะเปิดให้ประชาชนเข้าชมเฉพาะในวันสำคัญ
ต่อมา พ.ศ. 2430 เมื่อกรมพระราชวังบวรเสด็จสวรรคต
จึงโปรดให้ย้ายสิ่งจัดแสดงจากหอคองคอเดียมายังพระราชวังสถานมงคล
 
ในช่วงเวลานั้น คนไทยคงยังไม่รู้จักความสำคัญของโบราณวัตถุ
ยิ่งสิ่งที่เรียกว่า พิพิธภัณฑ์น่าจะเป็นเรื่องที่ไกลตัวมาก จนกระทั่งพระองค์ได้
สร้างวัดเบญจมบพิตรในปี พ.ศ. 2451 พระองค์ได้มีรับสั่งให้สมเด็จกรมพระยาดำรงฯ
หาพระพุทธรูปโบราณปางต่างๆ มาจัดแสดงเหมือนเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ระเบียงคตของวัด
 


โดยพระพุทธรูปที่จะประดิษฐานที่พระระเบียงต้องอยู่ในเกณฑ์ดังนี้
         1. จะต้องเป็นพระพุทธรูปที่แล้วด้วยฝีมือช่างเอกที่น่าชม
          2. ต้องต่างกัน
          3. ต้องมีขนาดไล่เลี่ยกัน
 
การรวบรวมพระพุทธรูปให้ได้ตามเกณฑ์นั้น สมเด็จกรมพระยาดำรงฯ ได้ทรงเสาะหา
พระพุทธรูปของโบราณที่มีอยู่แล้วทั้งในกรุงเทพฯ และหัวเมือง ตลอดจนถึงต่างประเทศ
แต่ก็เป็นการยากที่จะให้ได้พระโบราณทั้งหมดตามเกณฑ์ดังกล่าว บางองค์จึงเป็นพระพุทธรูป
ที่หล่อขยายขึ้นจากพระพุทธรุปองค์เล็ก หรือย่อส่วนลงจากพระพุทธรุปองค์ใหญ่
 
การแสวงหาพระพุทธรูปนั้น บางครั้งเต็มไปด้วยความยากลำบาก
เช่น การอัญเชิญพระพุทธรูปจากวิหารหลวงเมืองเชียงแสน ต้องอัญเชิญตามทางเรือ
ในลำน้ำโขงมาเข้าแม่น้ำกกแล้วขึ้นบกที่เชียงราย หามมาลงที่พะเยา
เมื่อรัชกาลที่ 5 เสด็จสวรรคต งานนี้จึงจบลงโดยรวบรวมพระพุทธรูปได้ 52 องค์
 
พระพุทธรูปที่จัดแสดงที่ระเบียงคตวัดเบญจมบพิตร จึงเป็นดั่ง masterpieces
ของพระพุทธรูปสมัยต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างพระพุทธรูปปางลีลา
ที่ต่อมาอาจารย์ศิลป์ พีระศรี ได้ใช้เป็นต้นแบบของพระพุทธรูปประธานที่ลานพุทธมณฑล
ในคราวที่มีการเฉลิมฉลองกึ่งพุทธศตวรรษ ในสมัยของจอมพล ป. พิบูลสงครามนั่นเอง
 

 
พระพุทธรูปที่ระเบียงคตจัดเป็นหนึ่งในส่วนประกอบของพิพิธภัณฑ์
ชื่อว่า พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ วัดเบญจมบพิตร โดยอีกสองส่วนนั้นก็คือ
อาคารวิหารสมเด็จ และศาลาบัณณรศภาค แต่โดยปรกติไม่ได้เปิดให้เข้าชม
 
พระวิหารสมเด็จสร้างขึ้นจากพระราชทรัพย์ของสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ
เมื่อ พ.ศ. 2445 ตามพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
เพื่อเป็นหอพระธรรมประจำวัด พระราชทานนามว่า หอพุทธสาสนสังคหะ
เป็นอาคารสองชั้นจัตุรมุข ที่หน้าบันซุ้มประตูและซุ้มหน้าต่างเป็นปูนปั้นลายก้านขด
ปิดทองประดับกระจกมีตราพระปรมาภิไธยสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชชินีนาถ
 
เมื่อมีการรวบรวมพระพุทธรูปมาจากหัวเมืองต่างๆ จำนวนมาก
มีพระพุทธรูปขนาดย่อมกว่าพระพุทธรูปที่คัดเลือกไปประดิษฐานในพระระเบียงคด
พระวิหารสมเด็จแห่งนี้จึงเป็นที่เก็บรวบรวมพระพุทธรูปที่เหลือเหล่านั้น
 

 
ต่อมาในปี พ.ศ.2448 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณา
โปรดให้ผนวกกิจกรรมของหอพุทธสาสนสังคหะเข้ากับหอพระสมุดดวชิรญาณ
จึงเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูป ตู้พระธรรม คัมภีร์ พระไตรปิฎก เครื่องลายคราม

ภายในวิหารสมเด็จจึงเต็มไปด้วยสิ่งจัดแสดงสำคัญ ได้แก่พระพุทธรูปในแต่ละยุคสมัย
ที่สำคัญคือพระพุทธรูปแบบศิลปะล้านนา สุโขทัย อยุธยา และรัตนโกสินทร์
นอกจากนั้นยังมีการรวบรวมตู้พระธรรมหรือตู้ลายรดน้ำจำนวน 28 ใบ
ทั้งแบบฐานสิงห์ ขาตู้แบบเท้าสิงห์เหยียบลูกแก้ว และตู้พระธรรมแบบขาหมู

ชั้นบนของพระวิหารสมเด็จ จัดแสดงโบราณวัตถุศิลปวัตถุ ประเภทเครื่องกระเบื้อง
โดยมีการจัดชุดเครื่องถ้วยเคลือบลายคราม และเครื่องถ้วยเคลือบสีแดง
เป็นชุดเครื่องบูชาอย่างโต๊ะจีน ตั้งแต่ครั้งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
พระราชทาน และพระบรมวงศานุวงศ์ประทานไว้ให้เป็นพุทธบุชา
และเป็นเครื่องใช้ของสงฆ์ในวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม
 

 
ศาลาบัณณรศภาค เป็นศาลาจัตุรมุขชั้นเดียว ผนังก่ออิฐถือปูนพื้นหินอ่อน
สร้างขึ้นด้วยทุนของพระโอรส พระธิดาเจ้าจอม และพระญาติ ในรัชกาลที่ 5 รวม 15 ราย
มีพระนางเจ้าพระราชเทวี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสุทธาทิพรัตน์
และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ากรมขุนนครสวรรค์วรพินิต เป็นต้น
 
เหตุที่สร้างด้วยทุนทรัพย์ 15 ส่วน จึงพระราชทานนามว่า ศาลาบัณณรศภาค
สร้างแล้วเสร็จและอุทิศถวายในวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ.2444 เพื่อใช้เป็นหอฉัน
ภายในมุขตะวันออกประดิษฐานพระพุทธรูปที่ไม่ได้ขนาดที่จะประดิษฐาน
ณ ระเบียงพระวิหารคด จำนวน 8 องค์ อยู่บนฐานชุกที่เดียวกัน
 
ปัจจุบันใช้เป็นที่ตั้งพิธีบำเพ็ญกุศลในงานศพของบุคคลสำคัญ
ดังนั้นจึงอาจหาชมภาพพระพุทธรูปชุดดังกล่าวจากคนที่ไปงานได้
แต่ในวิหารสมเด็จนั้นห้ามถ่ายภาพ ทางเดียวสำหรับคนที่ยังไม่มีโอกาสเข้าไป
คือการซื้อหนังสือเท่านั้น ผมเห็นมีอยู่ 2-3 เล่ม ไม่รู้เหมือนกันว่าเล่มไหนน่าซื้อ
 
แต่ผมมีเล่มที่เป็นหน้าปกสีชมพูน่ะ

 



Create Date : 14 มกราคม 2564
Last Update : 14 มกราคม 2564 23:31:35 น. 10 comments
Counter : 1366 Pageviews.  

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณmariabamboo, คุณทนายอ้วน, คุณtuk-tuk@korat, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณหอมกร, คุณSai Eeuu, คุณเริงฤดีนะ, คุณKavanich96


 
เมี่ยววัดด้วยคนค่ะ


โดย: mariabamboo วันที่: 14 มกราคม 2564 เวลา:15:22:26 น.  

 
เคยไปเดินดูตอนเด็กๆ ยังจำได้ว่าพระปางลีลาสุโขทัยสวยที่สุดเลยครับ


โดย: ทนายอ้วน วันที่: 14 มกราคม 2564 เวลา:16:05:34 น.  

 
ขอบคุณสำหรับกำลังใจในบล็อก " The wanderere เชียงราย" ครับ


โดย: ทนายอ้วน วันที่: 14 มกราคม 2564 เวลา:19:55:07 น.  

 
บางทีการรวบรวมสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาจากหัวเมืองก็เป็นสิ่งเจ็บปวดของท้องถิ่นเหมือนกันนะคะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 14 มกราคม 2564 เวลา:21:24:33 น.  

 
ผู้ชายในสายลมหนาว Travel Blog ดู Blog
ตามหมวดบล็อกจ้า



โดย: หอมกร วันที่: 15 มกราคม 2564 เวลา:7:19:29 น.  

 
เดี๋ยวนี้เวลาดูพระพุทธรูป จะดูลักษณะไปด้วบเลยค่ะ คิดนิสัยจากไปฟังคลิปเรียนประวัติศาสตร์ศิลป์
พระพุทธรูปยืนองค์แรก น่าจะยุดยา
องค์ล่างโขทัย

ที่ว่ารู้สึกเจ็บปวด อาจจะเป็นเราคิดมากไปหรือเปล่าก็ไม่รู้นะคะ เพราะเวลาไปแล้วองค์จริงอยู่กรุงเทพ ในสถานที่จริงมีแต่องค์ใหม่ มันรู้สึกผิดหวังด้วยน่ะค่ะ
อุตส่าห์ดั้นด้นไป

เวลาไปดูในพิพิธภัณฑ์ ก็มีเยอะจนไม่ค่อยเห็นความสำคัญของแต่ละชิ้น เพราะทุกชิ้นต่างสำคัญ



โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 15 มกราคม 2564 เวลา:10:51:28 น.  

 
จากบล็อก


ในกระบวนร้านคาเฟ่ที่เชียงราย ชอบบรรยากาศร้านนี้มากที่สุดครับ


วันนี้ชวนไปทำอาหารกันครับ "ปลาทอดเจี๋ยนขิง"


โดย: ทนายอ้วน วันที่: 15 มกราคม 2564 เวลา:13:32:52 น.  

 
เป็นคนมีความรู้เรื่องการดูวัด วัง น้อยมากจริงๆ เรา

ได้ความรู้จากเพื่อนบล็อกต่างๆ นี่แหละค่ะ


โดย: Sai Eeuu วันที่: 15 มกราคม 2564 เวลา:21:38:44 น.  

 

วัดเบญจมบพิตรไปบ่อย
เคยเดินไปถึงบริเวณวิหารสมเด็จถ่ายภาพด้านนอก
ดีเชียวค่ะ..หากจะได้เห็นภายใน



โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 16 มกราคม 2564 เวลา:5:31:27 น.  

 
วันนี้พาไปเที่ยวพะเยาค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 19 มกราคม 2564 เวลา:10:05:22 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ผู้ชายในสายลมหนาว
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 21 คน [?]




New Comments
[Add ผู้ชายในสายลมหนาว's blog to your web]