BlogGang.com : : ผู้ชายในสายลมหนาว : สิงห์บุรี : วัดพระนอนจักรสีห์

สิงห์บุรี : วัดพระนอนจักรสีห์

จากลพบุรี เราวิ่งข้ามตัดถนนสายเอเชียเพื่อมุ่งสู่จังหวัดสิงห์บุรีไปยัง
วัดพระนอนจักรสีห์วรวิหาร ซึ่งเป็นพระอารามหลวงชั้นตรีชนิดวรวิหาร
อยู่ที่ตำบลจักรสีห์ อำเภอเมือง จังหวัดสิงหบุรี เป็นที่ประดิษฐานพระนอน
หนึ่งในสามองค์ที่สำคัญของท้องถิ่นดินแดนนี้ก็คือ พระนอนจักรสีห์

พระนอนจักรสีห์สร้างมานานเก่าแก่จนไม่ทราบแน่ชัดว่ามีประวัติความเป็นมาอย่างไร
แต่มีเรื่องเล่าสืบกันมาว่า สิงหพาหุมีพ่อเป็นสิงห์ พอรู้ความจริงคิดละอายเพื่อน
ว่ามีพ่อเป็นสัตว์เดรัฐฉาน จึงฆ่าสิงห์ตาย ภายหลังรู้สึกตัวกลัวบาปและเสียใจเป็นอย่างมาก
จึงสร้างพระพุทธรูปโดยเอาทองคำแท่งโต 3 กำมือ ยาว 1 เส้น เป็นแกนขององค์พระ
เป็นการไถ่บาปและให้พุทธศาสนิกชนได้กราบไหว้บูชามาหลายชั่วอายุคน

จนองค์หลวงพ่อพระนอนได้พังทลายลงเป็นเนินดิน ต่อมาท้าวอู่ทอง
ได้นำพ่อค้าเกวียนผ่านมาทางนี้ แล้วพบแกนทองคำฝังอยู่ในเนินดิน
และทราบเรื่องสิงหพาหุ เกิดความเลื่อมใสและเห็นประโยชน์แก่พระพุทธศาสนา
จึงชักชวนพ่อค้าเกวียนก่อสร้างพระพุทธรูปนี้ขึ้น โดยใช้แท่งทองคำที่พบนั้นเป็นแกน

วัดพระนอนจักรสีห์ปรากฏในพงศาวดารครั้งแรกในสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ
พระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงนมัสการ เมื่อปี พ.ศ. 2297
และได้เสด็จไปอีกครั้งเมื่อปี พ.ศ. 2299 เพื่อสมโภชฉลอง

ต่อมาสมัย กรุงรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าได้เสด็จไปทรงนมัสการ
เมื่อปี พ.ศ. 2421 ในครั้งนั้น พระวิหารและพระนอนชำรุดทรุดโทรมมาก
เนื่องจากขาดการบูรณะปฏิสังขรณ์มานาน พระองค์ก็ได้โปรดเกล้าให้
สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระบำราศปรปักษ์เป็นที่ปรึกษาการปฏิสังขรณ์ทำเสร็จ
ในปี พ.ศ. 2428 การปฏิสังขรณ์ครั้งล่าสุดทำเมื่อปี พ.ศ. 2510

องค์พระนอนหันพระเศียรไปทางทิศตะวันออก ความยาว 3 เส้น 3 วา 2 ศอก 1 คืบ 7 นิ้ว
ปางโปรดอสุรินทราหู หรือปางไสยาสน์ตามตำนานเล่าว่าในสมัยที่พระพุทธองค์ประทับอยู่
ในนครสาวัตถี อสุรินทราหูซึ่งเป็นอสูรอุปราชของท้าวเวปจิตติอสุรบดินทร์ผู้ครองอสูรพิภพ
ได้สดับพระเกียรติคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจากเหล่าเทวดาทั้งหลาย

จึงมีความประสงค์จะฟังธรรม แต่คิดว่าพระพุทธองค์เป็นมนุษย์มีพระวรกายเล็ก
ตนเองมีร่างกายใหญ่หากไปเฝ้าก็จะต้องก้มลงมองด้วยความลำบาก เมื่ออสุรินทราหู
ไปเข้าเฝ้าสำคัญตัวว่ามีร่างกายใหญ่โตใหญ่กว่าพระพุทธเจ้า จึงไม่ยอมแสดงความอ่อนน้อม
พระองค์ทรงประสงค์จะลดทิฐิของอสูร จึงทรงเนรมิตกายให้ใหญ่โตกว่าอสุรินทราหูอสูร

ทรงนอนในลักษณะเสด็จสีหไสยาสน์ พระเศียรหนุนภูเขาต่างพระเขนย
พระบาททั้งสองข้างที่วางซ้อนกันอยู่ สูงใหญ่กว่าอสุรินทราหู
อสุรินทราหูต้องแหงนคอเพื่อชมพุทธลักษณะ
พระพุทธองค์ได้ทรงแสดงปาฏิหาริย์พาอสุรินทราหูขึ้นไปยังพรหมโลก

บรรดาพรหมทั้งหลายมีร่างกายเล็กกว่าพระพุทธองค์และต่างมองอสุรินทราหู
เหมือนประหนึ่งมนุษย์ดูมดปลวกตัวเล็กๆ อสุรินทราหูเกิดความกลัวต้องหลบ
อยู่ข้างหลังพระพุทธองค์ นับแต่นั้นมาก็ลดทิฐิมานะ อ่อนน้อมต่อพระพุทธองค์
และเมื่อได้สดับฟังพระธรรมเทศนาจึงเกิดความเลื่อมใส ขอถึงพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง

วัดได้จัดให้มีงานนมัสการพระพุทธไสยาสน์ขึ้นปีละ 3 ครั้ง คือ
วันขึ้น 14 ถึงขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6, วันแรม 7 ถึงแรม 8 ค่ำ เดือน 10
และวันขึ้น 14 ถึงขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 ซึ่งตรงกับวันที่ผมไปพอดี

Create Date : 07 เมษายน 2554

Last Update : 7 เมษายน 2554 10:07:58 น.

3 comments

Counter : 2584 Pageviews.

ตอนที่เราไปกำลังบูณะ ยังมีสีดำทั้งองค์ค่ะ

โดย: tuk-tuk@korat

วันที่: 7 เมษายน 2554 เวลา:15:38:01 น.

โดย: kwan_3023

วันที่: 7 เมษายน 2554 เวลา:17:44:14 น.

นึกว่าไปเที่ยวต่างจังหวัดแล้วค่ะ

รืวิวแบบมืออาชีพนี่ชมหรือแซวหนอ

โดย: tuk-tuk@korat

วันที่: 11 เมษายน 2554 เวลา:12:56:10 น.