BlogGang.com : : ผู้ชายในสายลมหนาว : เชียงใหม่ : วัดพระสิงห์วรวิหาร (7)

เชียงใหม่ : วัดพระสิงห์วรวิหาร (7)

ออกจากวิหารคำงานก็ยังไม่เลิก ฉะนั้นเลยไม่ได้เข้าไปในวิหารหลวง
ก่อนจะออกนอกวัดเห็นหอไตร เป็นอาคารสองชั้น ชั้นล่างก่ออิฐฉาบปูน
ชั้นบนเป็นเครื่องไม้ ฐานรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าวางตัวอยู่ในแนวตามตะวัน

โดยรอบลานประทักษิณก่อเป็นกำแพงแก้วเตี้ยๆ มีบันไดทางขึ้นสองด้าน
ด้านหน้าเป็นรูปมกรคายนาค ด้านหลังเป็นลำตัวและหางม้วนรูปตัวเหงา
หอไตรชั้นล่างประกอบด้วยหน้ากระดานรับฐานปัทม ท้องไม้ของฐานปัทม์
ประดับด้วยลายปูนปั้นรูปสัตว์ในกรอบคดโค้ง ผนังด้านข้างเจาะช่องหน้าต่างด้านละ 4 บาน

ที่ว่างระหว่างหน้าต่างประดับประติมากรรมรูปเทวดาปูนปั้น 16 องค์
เหนือแถวเทวดามีชั้นบัวคว่ำบัวหงาย ระหว่างชั้นประดับด้วยแถวปูนปั้น
รูปสัตว์หิมพานต์ ในกรอบโค้ง

หอไตรชั้นบนสร้างด้วยไม้มีผังรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าเช่นเดียวกับผังชั้นล่าง
แต่มุขโถงด้านหน้าลดระดับลงเล็กน้อย ประดับลวดลายปูนปั้นลงรักปิดทองผนัง
เช่น สิงโตจีน มอม สิงห์ เงือก ช้าง กวาง กิเลน ปลา เหมราช คชสีห์ นกยูง เสือ และนรสิงห์
พ.ศ. 2469 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินเลียบมณฑลฝ่ายเหนือ
เห็นความทรุดโทรมจึงโปรดสละพระราชทรัพย์ให้มีการบูรณะครั้งใหญ่อีกคราวหนึ่ง

มีคนงงกับการก่อสร้างวัดพระสิงห์ ผมก็เลยโมเมเอาความคิดมาเรียงลำดับดังนี้
พ.ศ. 1888 พญาผายู สร้างเจดีย์บรรจุอัฐิพระบิดา พร้อมเจดีย์มุมสี่ทิศ
สองปีต่อมาสร้างวัดเสร็จ แต่สิ่งที่หลงเหลือมาน่าจะเป็นตำแหน่งของเจดีย์
เพราะขนาดความสูงและศิลปะของเจดีย์ที่เห็นไม่น่าจะใช่ของยุคล้านนาตอนต้น

พ.ศ. 1931- 1954 พญาแสนเมืองอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์มาจากเชียงราย
พ.ศ. 2038 - 2068 พระเมืองแก้วโปรดให้สร้างวิหารลายคำ วิหารพระนอน อุโบสถ และหอไตร
พ.ศ. 2354 พระเจ้ากาวิละทำการบูรณะหอไตรและบรรจุพระบรมสารีริกธาตุในเจดีย์
พ.ศ. 2358 - พ.ศ. 2364 พระเจ้าช้างเผือกธรรมลังกาบูรณะพระอุโบสถและเจดีย์

พ.ศ. 2399 - พ.ศ. 2413 พระเจ้ากาวิโรรสสร้างวิหารหลวง
พ.ศ. 2467 ครูบาศรีวิชัยบูรณะวิหารหลวงและพระบรมธาตุเจดีย์ มีการรื้อเจดีย์มุมออก
พ.ศ. 2469 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าให้บูรณะหอไตร

จนถึงปัจจุบันมีเพียงวิหารลายคำและวิหารพระนอนเท่านั้นที่ยังไม่ถูกบูรณะ