เชียงใหม่ : วัดพระสิงห์วรวิหาร (6)
ส่วนเรื่องสังข์ทองนั้นมีอยู่ว่า ท้าวยศวิมลมีมเหสีชื่อนางจันท์เทวี มีสนมเอก ชื่อนางจันทาเทวี ไม่มีโอรสธิดา จึงบวงสรวงและรักษาศีลห้าเพื่อขอบุตร และประกาศแก่พระมเหสีและนางสนมว่าถ้าใครมีโอรสก็จะมอบเมืองให้ครอง
อยู่มานางจันท์เทวีทรงครรภ์ เทวบุตรจุติมา เป็นพระโอรสของนาง แต่ประสูติ มาเป็นหอยสังข์ นางจันทาเทวีเกิดความริษยาจึงติดสินบนโหรหลวงให้ทำนายว่า หอยสังข์จะทำให้บ้านเมืองเกิดความหายนะ ท้าวยศวิมลหลงเชื่อนางจันทาเทวี จึงเนรเทศนางจันท์เทวีและหอยสังข์ไปจากเมือง
นางจันท์เทวีพาหอยสังข์ไปอาศัยตายายชาวไร่ พระโอรสในหอยสังข์แอบออกมาช่วยทำงาน เช่น หุงหาอาหาร ไล่ไก่ไม่ให้จิกข้าวเมื่อนางจันท์เทวีทราบก็ทุบหอยสังข์เสีย ในเวลาต่อมาพระนางจันทาเทวีได้ไปว่าจ้างแม่เฒ่าสุเมธาให้ช่วยทำเสน่ห์ และได้ยุยงให้ท้าวยศวิมลไปจับตัวพระสังข์มาประหาร
ท้าวยศวิมลจึงมีบัญชาให้จับตัวพระสังข์มาถ่วงน้ำ แต่ท้าวภุชงค์ ราชาพญานาคแห่งเมืองบาดาลก็มาช่วยไว้ และนำไปเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม ก่อนจะส่งให้นางพันธุรัตเลี้ยงดูต่อไปจนพระสังข์มีอายุได้ 15 ปีบริบูรณ์
วันหนึ่งนางพันธุรัตได้ไปหาอาหาร พระสังข์ได้แอบไปเที่ยวเล่นที่หลังวัง และได้พบกับบ่อเงิน บ่อทอง รูปเงาะ เกือกทองไม้พลอง เมื่อพบโครงกระดูก พระสังข์ก็รู้ความจริงว่านางพันธุรัตเป็นยักษ์ จึงได้หนีด้วยการกระโดดลงไป ชุบตัวในบ่อทอง สวมรูปเงาะ กับเกือกทอง และขโมยไม้พลองเหาะหนีไป
เมื่อนางพันธุรัตทราบว่าพระสังข์หนีไป ก็ออกตามหาจนพบพระสังข์ อยู่บนเขาลูกหนึ่ง จึงขอร้องให้พระสังข์ลงมา แต่พระสังข์ก็ไม่ยอม นางพันธุรัตจึงเขียนมหาจินดามนตร์ที่ใช้เรียกเนื้อเรียกปลาได้ไว้ที่ก้อนหิน ก่อนที่นางจะอกแตกตาย พระสังข์ได้ท่องมหาจินดามนตร์จนจำได้ และออกเดินทางต่อไป
พระสังข์สวมรูปเงาะเดินทางมาถึงเมืองสามล ซึ่งมีท้าวสามลและพระนางมณฑา ปกครอง ท้าวสามลมีธิดา 7 พระองค์ โดยเฉพาะ พระธิดาองค์สุดท้องที่ชื่อ รจนา มีสิริโฉมเลิศล้ำกว่าธิดาทุกองค์ จนวันหนึ่ง ท้าวสามลได้จัดให้มีพิธีเสี่ยงมาลัยเลือกคู่ ให้ธิดาทั้งเจ็ด ซึ่งธิดาทั้ง 6 ต่างเสี่ยงมาลัยได้คู่ครองทั้งสิ้น เว้นแต่นางรจนาที่มิได้เลือกเจ้าชายองค์ใดเป็นคู่ครอง
ท้าวสามลจึงได้ให้ทหารไปนำเจ้าเงาะซึ่งเป็นชายเพียงคนเดียวที่เหลือในเมืองมา นางรจนาเห็นรูปทองภายในของเจ้าเงาะ จึงได้เสี่ยงพวงมาลัยให้เจ้าเงาะ ทำให้ท้าวสามลโกรธมาก เนรเทศนางรจนาไปอยู่ที่กระท่อมปลายนากับเจ้าเงาะ
ท้าวสามลคิดจะกำจัดเจ้าเงาะ จึงได้ให้เขยทั้งหมดไปจับปลามาให้ได้คนละร้อยตัว พระสังข์จึงได้ถอดรูปเงาะออก และท่องมหาจินดามนตร์จนได้ปลามานับร้อย ส่วนหกเขยจับปลาไม่ได้เลย จึงเข้ามาขอพระสังข์เพราะคิดว่าเป็นเทวดา พระสังข์ก็ยินดีให้ แต่ต้องแลกกับปลายจมูกของหกเขย
ต่อมาท้าวสามลได้ให้เขยทั้งหมดไปหาเนื้อมาให้ได้คนละร้อยตัว พระสังข์ก็ใช้มหาจินดามนตร์จนได้เนื้อมานับร้อย ส่วนหกเขยก็หาไม่ได้อีก และได้เข้ามาขอพระสังข์ พระสังข์ก็ยินดีให้ แต่ต้องแลกกับปลายหูของหกเขยด้วย
สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ อาสน์ที่ประทับของพระอินทร์เกิดแข็งกระด้าง เป็นสัญญาณว่า มีผู้มีบุญกำลังเดือดร้อน จึงส่องทิพยเนตรลงไปพบเหตุการณ์ในเมืองสามล จึงได้แปลงกายเป็นกษัตริย์ยกทัพไปล้อมเมืองสามล ท้าให้ท้าวสามลออกมาแข่งตีคลีกับพระองค์ หากแพ้จะยึดเมืองเสีย
ท้าวสามลส่งหกเขยไปแข่งตีคลีกับพระอินทร์ แต่ก็แพ้ จึงจำต้องเรียกเจ้าเงาะให้มาช่วยตีคลี นางรจนาได้ขอร้องให้สามีช่วยถอดรูปเงาะมาช่วยตีคลี เจ้าเงาะถูกขอร้องจนใจอ่อน และยอมถอดรูปเงาะมาช่วยเมืองสามลตีคลีจนชนะในที่สุด
หลังจากเสร็จภารกิจที่เมืองสามลแล้ว พระอินทร์ได้ไปเข้าฝันท้าวยศวิมล เปิดโปงความชั่วของพระนางจันทาเทวี พร้อมกับสั่งให้ท้าวยศวิมลไปรับ พระนางจันท์เทวีกับพระสังข์มาอยู่ด้วยกันดังเดิม
ท้าวยศวิมลจึงยกขบวนเสด็จไปรับพระนางจันท์เทวีกลับมา และพากันเดินทางไปยังเมืองสามลเมื่อตามหาพระสังข์ ท้าวยศวิมลและพระนางจันท์เทวีปลอมตัวเป็นสามัญชนเข้าไปอยู่ในวัง โดยท้าวยศวิมลเข้าไปสมัครเป็นช่างสานกระบุง ตะกร้า ส่วนพระนางจันท์เทวีเข้าไปสมัครเป็นแม่ครัว
วันหนึ่ง พระนางจันท์เทวีก็ปรุงแกงฟักถวายพระสังข์ โดยพระนางจันท์เทวี ได้แกะสลักชิ้นฟักเจ็ดชิ้นเป็นเรื่องราวของพระสังข์ตั้งแต่เยาว์วัย ทำให้พระสังข์รู้ว่าพระมารดาตามมาแล้ว จึงมาที่ห้องครัว และได้พบกับพระมารดาที่พลัดพรากจากกันไปนานอีกครั้ง
หลังจากนั้นท้าวยศวิมล พระนางจันท์เทวี พระสังข์กับนางรจนา ได้เดินทางกลับเมืองยศวิมล ท้าวยศวิมลได้สั่งประหารพระนางจันทาเทวี และสละราชสมบัติให้พระสังข์ได้ครองราชย์สืบต่อมา
การวางตำแหน่งของภาพเรื่องสังข์ทอง ดำเนินเรื่องจากฝาผนังประตูหน้าวิหารไปทางด้านใน ห้องภาพที่ 1 เป็นตอนที่นางยักษ์พันธุรัตเข้าป่าหาอาหาร ภาพสัตว์ป่าวิ่งหนีนางยักษ์ กันโกลาหล ภาพนางยักษ์นอนหลับอยู่ในพลับพลาโถงขนาดกลาง ห้องภาพที่ 2 เป็นภาพนางพันธุรัตที่แปลงกายเป็นมนุษย์อยู่ในเมือง พระสังข์ลอบชุบตัว ในบ่อทอง บ่อเงิน แล้วเหาะหนีขึ้นไป บนภูเขาจนนางพันธุรัตตรอมใจ ด้านซ้ายมือของผนังเป็นขบวนของกษัตริย์ 101 เมืองกำลังเดินทางเพื่อไปเลือกคู่
ห้องภาพที่ 3 เป็นภาพเจ้าเงาะเหาะลงมายังพื้นราบ กษัตริย์ 101 เมืองเดินทางมา เข้าพิธีเสี่ยงพวงมาลัยเลือกคู่ เสนาเข้าเฝ้าท้าวสามลเพื่อกราบทูลให้ทรงทราบ ห้องภาพที่ 4 เป็นตอนที่ธิดาทั้ง 6 คัดเลือกกษัตริย์ได้แล้ว ยังแต่นางรจนา ท้าวสามลจึงประกาศให้มาชุมนุมใหม่ เพื่อให้นางรจนาเลือกในวันรุ่งขึ้น
ห้องภาพที่ 5 เป็นตอนเสนาล่อเจ้าเงาะลงมาจนถึงตอนที่ท้าวสามลขับไล่นางรจนาออกจากวัง ห้องภาพที่ 6 เป็นภาพธิดาทั้ง 6 รุมด่าว่านางรจนา ใกล้ๆ กันด้านบนเป็นรูปเหล่ากษัตริย์ ที่บรรดาธิดา 6 พระองค์ได้เลือกไว้ ส่วนด้านนอกกำแพงเมืองเป็นรูปเจ้าเงาะเดินออกจากเมืองไปกับรจนา ห้องภาพที่ 7 ถัดเข้ามาเป็นผนังด้านในสุดอยู่บริเวณด้านข้างของฐานชุกชี เป็นภาพอดีตพุทธ
Create Date : 03 เมษายน 2555 |
|
6 comments |
Last Update : 3 เมษายน 2555 9:34:37 น. |
Counter : 3801 Pageviews. |
|
|
มาเยี่ยมชม มาทักทายครับ
ผมเพิ่งจะทราบนะครับว่าวัดสิงห์ที่เชียงใหม่ก็มีภาพประวัติและเรื่องราวเกี่ยวกับพระนางพันธุรัตด้วย
อิอิ