แปร๋นท่องกรุง : ถอดรหัสความรู้เรื่องช้าง (6)
หมายเลข 95 ศาลาโถงวัดเทพนิมิต
รูปช้างนั้นอยู่ที่หน้าบัน ช้างเอราวัณ อันเป็นพาหนะทรงของพระอินทร์นั่นเอง
ศาลาโถงวัดนิมิตร จ.ตราด เป็นศาลาที่ชำรุดทรุดโทรมมาก และทางวัดต้องการปัจจัย เพื่อใช้ในกิจการวัด ทางเมืองโบราณจึงขอผาติกรรม นำมาสร้างเป็นอนุสรณ์ไว้ ณ ที่นี้ ศาลาหลังนี้มีลักษณะแบบศาลาโถง หลังคามุงกระเบื้องดินเผา แบบอยุธยาตอนปลาย
ในศาสนาฮินดู พระอินทร์เป็นเทพระดับธรรมดา ไม่มีบทบาท ต่างจากพุทธศาสนาที่ให้ความสนใจมาก จะปรากฏในพุทธประวัติหลายตอน ที่สำคัญพระอินทร์ในศาสนาฮินดูก็เหมือนพระเจ้าอื่นที่มีองค์เดียว ต่างจากพุทธศาสนาที่พระอินทร์นั้นมีวาระ และคนธรรมดาก็สามารถเป็นได้
ที่อินเดียก็วาดพระอินทร์เหมือนเทพธรรมดาทั่วไป เราแยกจากพระพรหมในตอนเสด็จจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ได้ จากการที่พระพรหมเกล้าผมมวย เพราะเป็นโยคีที่บำเพ็ญพรต ศิลปะในอินเดียช่วงหลังพระพรหมก็เริ่มมี 4 หน้าในที่สุด
เมื่อเข้ามาเข้าสู่ประเทศไทย พระพรหมจึงมี 4 หน้ามาแต่แรกรู้จัก ช่างไทยยังกลัวจะแยกยากไปอีก พระอินทร์จึงมีกายสีเขียวเป็นตัวบ่งชี้
ตามตำนานนั้นพระอินทร์มีพาหนะเป็นช้าง 3 เชือก เชือกหนึ่งพระศิวะเป็นผู้ประทานให้ชื่อว่า เอราวัณ เชือกหนึ่งพระพรหมเป็นผู้ประทานให้ชื่อว่า คีรีเมขล์ไตรดายุค และอีกเชือกหนึ่งพระวิษณุเป็นผู้ประทานให้ชื่อว่า เอกทันต์
ช้างเอราวัณเป็นช้างที่มีพละกำลังมากที่สุดในหมู่ช้างทั้ง 3 เชือก และเป็นที่โปรดปรานมากที่สุด เชื่อกันว่าช้างเชือกนี้เป็นเทพบุตรองค์หนึ่ง เมื่อพระอินทร์ต้องการจะเสด็จไปไหนเอราวัณเทพบุตร ก็จะแปลงกาย เป็นช้างเผือกมี 33 เศียร แต่ว่ามันวาดยากเลยลดเหลือแค่ 3 เศียร
แต่ละเศียรมีงา 7 งา งาแต่ละงามีสระบัว 7 สระ แต่ละสระมีดอกบัว 7 ดอก แต่ละดอกมีกลีบ 7 กลีบ แต่ละกลีบมี 7 เกสร แต่ละเกสรมีปราสาทอยู่ 7 หลัง ปราสาทแต่ละหลังมี 7 ชั้น แต่ละชั้นมี 7 ห้อง แต่ละห้องมี 7 บัลลังก์ แต่ละบัลลังก์มีเทพธิดาสถิต 7 องค์ เทพธิดาแต่ละองค์มีบริวารองค์ละ 7 นาง เทพธิดาบริวารแต่ละนางมีนางทาสีนางละ 7 ทาสี
รวมทั้งนางเทพอัปสรทั้งหมดประมาณ 190,248,433 นาง เทพธิดา บริวารรวมกันทั้งหมดประมาณ 13,331,669,031 นาง เศียรทั้ง 33 ของช้างเอราวัณมีอุเปนทเทพยดา สถิตเศียรละ 1 องค์ อาจจะมองว่าเยอะเกินจริง แต่นั่นก็เพื่อจะแสดงถึงความใหญ่โตของช้างเอรวัณ
หมายเลข 28 สวนรามเกียรติ์
รามเกียรติ์เป็นนิยายโบราณของอินเดีย ที่เล่าสืบต่อกันมาจนถึงราวต้นพุทธกาล พระฤาษีวาลมิกิจึงรจนาเป็นบทโศลกภาษาสันสกฤตเรียกว่ารามายณะ เป็นเรื่องราวอวตารของพระนารายณ์ แพร่หลายเข้ามาในไทยเป็นเวลานาน ดังมีหลักฐานตามประติมากรรม และภาพจำหลักประดับตกแต่งโบราณสถานหลายแห่ง
สวนรามเกียรติ์ในเมืองโบราณประดับด้วยประติมากรรมจากเรื่องราวในหลายตอน ตั้งอยู่ใกล้พระที่นั่งสรรเพชญปราสาท ที่ทางเมืองโบราณกำหนดให้เป็นเขตอยุธยา เพื่อช่วยสร้างบรรยากาศที่สอดคล้องกับชื่อเมืองสำคัญในเรื่องรามเกียรติ์นั่นเอง คำถามอะไรก็จำไม่ได้ แต่ภาพถ่ายที่มีน่าจะเป็นตอน หนุมานหักคอช้างเอราวัณ
เป็นเหตุการณ์ในชุดศึกอินทรชิต หลังจากครุฑบินมาคลายศรนาคบาศ เมื่อเหล่ายักษ์เห็นพระลักษมณ์และไพร่พลลิงฟื้นขึ้น จึงกลับมาทูลทศกัณฐ์ อินทรชิตจึงบอกว่า ที่ศรนาคบาศใช้ไม่ได้ผล ก็เพราะถูกพิเภกบอกแก้กล คราวนี้จะไปชุบศรพรหมมาสตร์ที่ริมหาดมณีมรกต แล้วลาทศกัณฐ์ไปทำพิธีชุบศร
โดยให้กำปั่นไปขัดตาทัพ แต่ถูกหนุมานใช้ตรีเพชรฟันสิ้นใจตาย ทศกัณฐ์รู้ข่าวจึงให้ไวยกาสูรไปแจ้งอินทรชิต อินทรชิตลืมตาจากการทำสมาธิ ร้องด่าไวยกาสูรที่มาขัดขวางพิธี แล้วรีบกลับมาทำศึกโดยแปลงกายเป็นพระอินทร์ มีช้างเอราวัณเป็นพาหนะ และเหล่ายักษ์แปลงเป็นหมู่เทวดาร่ายรำมาเป็นขบวน
ฝ่ายพระลักษมณ์และเหล่าไพร่พลลิงก็พากันดูอย่างสงสัย อินทรชิตเห็นพระลักษมณ์และไพร่พลเผลอแผลงศรพรหมมาสตร์ลงมา ถูกพระลักษมณ์ องคต สุครีพ สิบแปดมงกุฎล้มลง เหลือเพียงหนุมาน หนุมานโกรธเหาะขึ้นไปหักคอช้างเอราวัณ แต่ถูกตีด้วยศรตกลงมาสลบ
ช้างที่เราตามหาคือ ช้างเอราวัณที่การุณราชแปลงกายมานั่นเอง
Create Date : 04 มิถุนายน 2558 |
Last Update : 4 มิถุนายน 2558 9:23:11 น. |
|
3 comments
|
Counter : 1895 Pageviews. |
|
|
|
|