Apple has lost a visionary and creative genius, and the world has lost an amazing human being.

But his spirit will forever be the foundation of Apple. 6 October 2011

<<
กรกฏาคม 2557
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
25 กรกฏาคม 2557

การอนุรักษ์จิตรกรรมฝาผนัง : พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ (13)




นิครนถ์เป็นนักบวชพวกหนึ่งในสมัยพุทธกาล
ในกรุงเวสาลีมีนิครนถ์ผู้หนึ่งนามว่า สัจจกนิครนถ์ อาศัยอยู่
ได้รับยกย่องจากมหาชนทั่วไปว่ามีความรู้มาก มีวาทะที่แหลมคม
เป็นผู้ชอบโต้เถียง ยกตนว่าฉลาด มีปฏิภาณไหวพริบเป็นเลิศ

เมื่อคนนับถือมาก จึงเกิดความหลงตัวเอง ถึงกับพูดว่า
เมื่อตนโต้ตอบกับใครแล้ว ไม่มีใครเลยจะไม่หวั่นไหวจนไม่มีเหงื่อไหล
ถ้าตนโต้ตอบกับต้นเสา ต้นเสาก็ยังหวั่นไหว และพวกเขาจะนำ เข็มขัดเหล็ก
มามัดไว้รอบท้อง เพื่อไม่ให้ความรู้ในท้องแตกสลายกระจายออกมา

วันหนึ่งสัจจกนิครนถ์ได้พบกับพระอัสสชิเถระและถามว่า
พระพุทธองค์ทรงแนะนำสาวกว่าอย่างไร พระอัสสชิตอบว่า
ขันธ์ 5 อันได้แก่รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ นั้นไม่เที่ยง
ทุกสิ่งนั้นไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา เป็นสิ่งที่ไม่ควรยึดมั่นถือมั่น

สัจจกนิครนถ์มีความเห็นตรงกันข้ามจึง
ไปยังป่ามหาวันพร้อมด้วยเจ้าลิจฉวีอีก 500
เพื่อขอโอกาสให้พระพุทธองค์ ตอบปัญหาเดียวกันนี้

เมื่อพระพุทธองค์ตรัสตอบอย่างที่พระอัสสชิตอบ
และตรัสถามว่า ถ้าขันธ์ 5 เป็นตัวตนของเราจริงแล้ว
ท่านสามารถจะสั่งร่างกายท่านเองได้หรือไม่ว่า
จงเป็นอย่างนี้เถิด จงอย่าเป็นอย่างนั้นเถิด

สัจจกนิครนถ์นิ่ง พระพุทธองค์ตรัสถามย้ำถึง 3 ครั้ง ในที่สุดก็ยอมจำนน
และเมื่อตรัสถามถึงความเที่ยง สัจจกนิครนถ์ก็สิ้นภูมิปัญญาเหงื่อไหล
จนต้องขอยอมรับว่าตนเองผิด และได้นิมนต์พระพุทธองค์และภิกษุสงฆ์ไปฉันภัตตาหาร
พระพุทธองค์ก็ทรงรับนิมนต์และเสด็จไปฉัน ณ อารามของนิครนถ์ในวันรุ่งขึ้น



พระปูติคัตตติสสเถระเป็นโรคฝีทั่วตัว จนกระทั่งร่างกายเน่า
และจีวรเปื้อนด้วยเลือดและน้ำหนอง จนภิกษุทั้งหลายทอดทิ้งท่าน
พระพุทธเจ้าทรงทราบก็เสด็จไปอนุเคราะห์

ภิกษุทั้งหลายเห็นพระผู้มีพระภาคเสด็จไปก็ได้ช่วยพยาบาล
โดยให้ท่านพระปูติคัตตติสสเถระ สรงน้ำร้อน และเปลี่ยนจีวร
ให้สะอาดกายสบายใจ เมื่อพระปูติคัตตติสสเถระพร้อม
พระผู้มีพระภาคก็ทรงแสดงธรรม

เมื่อจบพระธรรมเทศนาก็บรรลุเป็นพระอรหันต์และสิ้นชีวิตลง
พระพุทธเจ้าได้ทรงแสดงอดีตชาติของพระปูติคัตตติสสเถระว่า

ในอดีตครั้งพระกัสสปะเป็นพระพุทธเจ้านั้น
พระปูติคัตตติสสเถระเกิดเป็นพรานจับนก
โดยหักกระดูกขาและกระดูกปีกทิ้งไว้เป็นกองๆ ไม่ให้บินไปได้
ตอนเช้าก็เอานกที่หักปีกหักขาไปขาย เหลือจากนั้นก็ทำอาหารกิน

วันหนึ่งเมื่อทำอาหารเสร็จแล้ว พระอรหันต์องค์หนึ่งได้เที่ยวบิณฑบาต
ไปถึงบ้านของนายพราน นายพรานเกิดความเลื่อมใสจึงได้ถวายอาหาร
และตั้งความปรารถนาที่จะบรรลุธรรม ซึ่งในชาติสุดท้ายท่านก็บรรลุธรรม
แต่ว่าอดีตอกุศลกรรมที่ได้ทำไว้ ก็ทำให้ท่านเป็นโรคฝีทั่วตัวจนร่างกายเน่า





Create Date : 25 กรกฎาคม 2557
Last Update : 25 กรกฎาคม 2557 12:35:46 น. 2 comments
Counter : 1881 Pageviews.  

 
อ่านแล้วก็ปลงนะคะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 29 กรกฎาคม 2557 เวลา:16:35:08 น.  

 
เวรกรรม เป็นเรื่องจริงตั้งแต่สมัยพุทธกาลเลยนะคะ




โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 12 กันยายน 2557 เวลา:18:40:51 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ผู้ชายในสายลมหนาว
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 21 คน [?]




New Comments
[Add ผู้ชายในสายลมหนาว's blog to your web]