Apple has lost a visionary and creative genius, and the world has lost an amazing human being.

But his spirit will forever be the foundation of Apple. 6 October 2011

<<
มกราคม 2554
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
28 มกราคม 2554

นนทบุรี : วัดกู้

_


พ.ศ. 2553 เป็นปีครบรอบ 100 ปี การเสด็จสวรรคตขององค์พระปิยะมหาราช
เราจึงได้ดูสารคดีเฉลิมพระเกียรติ ธิราชเจ้าจอมสยาม
ซึ่งจากบลอกที่แล้วที่กล่าวถึง วัดปรมัยยิการาม คงจะเข้าใจว่า
ความรักที่พระองค์มีต่อเสด็จยายมีมากเพียงใด จึงได้บูรณะวัดนี้ขึ้น

นอจากวันนี้แล้วผมยังได้ตามรอยของสารคดีชุดนี้ไปยังวัดอีกแห่งหนึ่ง

สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ทรงเป็นพระราชธิดาในรัชกาลที่ 4
เมื่อ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2403 เมื่อเจริญพระชนมายุได้ 17 พรรษา
เข้ารับราชการฝ่ายในในฐานะพระภรรยาเจ้า พร้อมด้วยพระขนิษฐาอีก 2 พระองค์
รัชกาลที่ 5 จึงโปรดเรียกว่า แม่ใหญ่ แม่กลาง และแม่เล็ก ตามลำดับ

เมื่อพระชนมายุได้ 19 พรรษา ทรงมีพระราชธิดาพระนามว่า
สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้ากรรณาภรณ์ เพชรรัตน์
วันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2423 ขณะนั้นทรงพระครรภ์ได้ 5 เดือน
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราชโองการ
ให้แต่งเรือพระที่นั่งเพื่อเสด็จประพาสพระราชวังบางปะอิน
พร้อมพระมเหสีทุกพระองค์ เจ้าจอมมารดา เจ้าจอม และข้าราชบริพาร

ในวันเสด็จฯ นั้นรัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้เคลื่อนขบวนเรือต่าง ๆ
ออกไปก่อนในเวลาประมาณ 8 โมงเช้า โดยพระองค์เจ้าสุนันทากุมารีรัตน์
และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าหญิงกรรณาภรณ์เพชรรัตน์ประทับบนเรือเก๋งกุดัน
โดยมีเรือปานมารุตซึ่งเป็นเรือกลไฟจูงเรือพระประเทียบ

เมื่อเรือล่องไปถึงจังหวัดนนทุรี บริเวณเกาะเกร็ด แม่น้ำเจ้าพระยาตอนนี้กว้างขวาง
เรือกลไฟลากจูงเรือพระที่นั่งของพระภรรยาเจ้าทั้ง 4 ลำจึงทั้งขับเป็นหน้ากระดาน
โดยฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเป็นเรือพระประเทียบของพระองค์เจ้าสุขุมาลมารศรี
คู่ไปกับเรือพระประเทียบของพระองค์เจ้าเสาวภาผ่องศรีซึ่งลากจูงโดยเรือโสรวาร
ซึ่งมีพระยามหามนตรีเป็นผู้ถวายการดูแลความปลอดภัยของขบวนเรือโดยสารอยู่

อีกด้านของแม่น้ำเป็นขบวนเรือพระประเทียบของกรมพระสุดารัตนราชประยูร
ต่อท้ายด้วยเรือพระประเทียบของของพระองค์เจ้าสุนันทากุมารีรัตน์
ที่ลากจูงโดยเรือปานมารุตซึ่งแล่นอยู่ใกล้กับฝั่งแม่น้ำด้านตะวันตก
โดยมีราชสีห์ที่ลากจูงเรือพระประเทียบพระนางเจ้าสว่างวัฒนาแล่นอยู่ด้านข้าง

ในตอนหนึ่งเรือปานมารุตได้เร่งความเร็วเพื่อจะแซงหน้าเรือราชสีห์ขึ้นไป
เป็นจังหวะเดียวกันกับเรือราชสีห์ก็หันเรือออกมาทางซ้าย ทำให้เกิดการชน
จนเรือพระที่นั่งของพระนางเจ้าสุนันทา โดนแรงคลื่นกดเรือให้จมลงไป

_

ตามกฏมณเฑียรบาล ห้ามมิให้ผู้ใดแตะต้องตัวของพระมเหสีเป็นเด็ดขาด
หากเกิดกรณีเรือล่ม ให้ชาวเรือทั้งหลายรีบว่ายน้ำออกจากเรือโดยเร็ว
ส่วนคนที่อยู่บนฝั่งนั้นหากพบเหตุให้โยนสิ่งของเพื่อให้เกาะได้เท่านั้น
ในขณะนั้นมีชาวบ้านเห็นเหตุการณ์ พระมหามนตรีก็ออกคำสั่งห้ามเด็ดขาด

พระนางเจ้าสุนันทานั้นว่ายน้ำได้แข็ง แต่พี่เลี้ยงของพระราชธิดานั้นว่ายน้ำไม่เป็น
ซึ่งอาจทำให้พระองค์ทรงเป็นห่วง จึงไม่สามารถจะหนีออกมาจากเรือได้
ทำให้สิ้นพระชนม์ลงพร้อมพระราชธิดาและพระพี่เลี้ยง

พระบามสมเด็จพระจุลจอมเกล้า หลังจากเสร็จราชการในตอนเช้าแล้ว
จึงลงเรือพระที่นั่งเพื่อเสด็จตามขบวนเรือไป เมื่อเดินทางไปได้ซักระยะ
ก็มีเจ้าหน้าที่ล่องเรือลงมารายงานเหตุการณือันน่าสลดใจให้ทรงทราบ

พระศพของพระองค์เจ้าสุนันทาและเจ้าฟ้าหญิงกรรณาภรณ์เพชรรัตน์
ได้ถูกกู้ขึ้นมาจากเรือไปวัดยังวัดท่าสอน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า
จึงให้เชิญลงเรือพระที่นั่งเพื่อกลับไปยังพระบรมมหาราชวัง
แล้วพระราชทานพระโกศทองใหญ่ ตั้งบำเพ็ญกุศลที่หอธรรมสังเวช

หลังจากนั้น ได้มีการจัดการพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพทั้ง 2 พระองค์ขึ้น
ณ กลางทุ่งพระเมรุ เมื่อวันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2424 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า
เสด็จพระราชดำเนินขึ้นพระราชทานเพลิงพระศพ ในวันที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2424

ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพในครั้งนี้ พระองค์ทรงมีพระราชประสงค์
ให้จัดพิมพ์หนังสือสวดมนต์รวมพระสูตร และพระปริตต่าง ๆ สำหรับพระราชทาน
แด่อารามต่าง ๆ เพื่อเป็นพระราชกุศลในวันถวายพระเพลิงพระศพ
ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่มีการจัดพิมพ์หนังสือแจกในงานศพ
และยังคงเป็นธรรมเนียมที่ปฏิบัติสืบเนื่องกันมาจนถึงปัจจุบัน

ส่วนวัดท่าสอนได้เปลี่ยนชื่อเป็นวัดกู้ตามเหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้น
ผมเห็นได้ยินว่า มีการก่อสร้างเจดีย์เพื่อเป็นที่ระลึกถึงพระนางเจ้าสุนันทา
แต่เมื่อไปสอบถามก็ได้ทราบแต่เพียงว่าเคยมี แต่ปัจจุบันได้เลียหายไปหมดแล้ว

ทุกวันนี้จึงมีเพียงศาลพระนางเรือล่มที่ติดกับริมแม่น้ำ ให้เราได้ไปเยี่ยมชมเท่านั้นเอง
ในโบสถ์หลังเก่ามีภาพจิตรกรรมฝาผนังด้วย ซึ่งค่อนข้างเลอะเลือน ดูไม่ออก
แต่ผมจะขอลงไว้ให้ก็แล้วกัน เนื่องเพราะไม่นานมานี้ระหว่างที่น้ำท่วม
มีการยกโบสถ์หนีน้ำ แต่ปรากฏว่าเกิดผิดพลาด ส่วนหน้าโบสถ์ได้พังลงมา
ก็ไม่แน่ใจว่า หลังจากนี้จะเข้าไปดูกันได้อีกหรือไม่


_

_


Create Date : 28 มกราคม 2554
Last Update : 2 กุมภาพันธ์ 2554 9:55:51 น. 12 comments
Counter : 2553 Pageviews.  

 

มาเยี่ยมชม มาทักทายครับ

มาตามไหว้พระที่วัดกู้ด้วยคนครับ วัดนี้จำได้ว่าเคยได้ยินชื่อแต่ยังไม่เคยไปไหว้พระที่วัดนี้เลยครับ

อิอิ


โดย: อาคุงกล่อง วันที่: 28 มกราคม 2554 เวลา:14:08:04 น.  

 
มานมัสการ ขอพรด้วยคร้า


โดย: ASDK_MK วันที่: 28 มกราคม 2554 เวลา:14:31:17 น.  

 
โบสถ์สวยค่ะ

เห็นมีรูปเกี่ยวกับคนจีน ฝรั่ง


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 28 มกราคม 2554 เวลา:16:04:19 น.  

 

เคยไปนั่งชมภาพเขียนฝาผนัง
ชอบมากๆ ค่ะ
เห็นตั้งแต่ยังไม่เลือนลางขนาดนี้เลยล่ะคะ


โดย: อุ้มสี วันที่: 28 มกราคม 2554 เวลา:21:20:14 น.  

 
อยากไปเที่ยวด้วยจัง

อิ อิ



โดย: addsiripun วันที่: 29 มกราคม 2554 เวลา:15:54:25 น.  

 
^______________^


โดย: St@rGazer วันที่: 29 มกราคม 2554 เวลา:16:06:22 น.  

 
เราเห็นรูปโบสถ์เก่าวัดบึงแล้วคิดถึงที่วังที่ลพบุรีเลยค่ะ





โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 30 มกราคม 2554 เวลา:14:47:45 น.  

 
เคยได้ยินชื่อวัดกู้มานานค่ะ แต่ได้ยินทางด้านอื่น

ภาพจิตรกรรมเก่าแก่ดีจังนะคะ

ขอบคุณที่ไปโหวตให้ด้วยค่ะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 31 มกราคม 2554 เวลา:16:59:27 น.  

 
คุณ VET53 ครับ

เส้นทางสาย "ราชมรรคา" ในฝั่งไทย "มีปราสาทจากตาเมือนถึงพิมาย ๙ แห่ง" นั้น ต้องเข้าใจก่อนว่า "ปราสาท" ในประโยคนี้นั้นหมายถึง "ธรรมศาลา" หรือ "บ้านที่มีไฟ" ง่ายกว่านั้นต้องบอกว่าคือ "โรงแรมโบราณ" นั่นเองครับ
ซึ่งตามเส้นสายราชมรรคา จากเมืองพระนคร ถึง พิมาย มี ๑๗ แห่ง อยู่ในเขตไทย ๙ แห่ง ได้แก่
๑. ปราสาทตาเมือน หรือ "ปราสาทบายกรีม" อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์
๒. ปราสาททะมอ อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์
๓. ปราสาทบ้านบุ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ์ จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งอยู่ใกล้ ๆ กับปราสาทหินเขาพนมรุ้ง
๔. ปราสาทหนอตาเปล่ง ๕. ปราสาทหนองปล่อง ๖. ปราสาทหนองกง อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์
๗. ปราสาทบ้านสำโรง จังหวัดนครราชสีมา
๘. ปราสาทห้วยแคน อำเภอห้วยแถลง จังหวัดนครราชสีมา
๙. ปราสาทกู่ศิลา อำเภอชุมพวง จังหวัดนครราชสีมา

ผมเคยไปแค่แห่งเดียว คือ ปราสาทตาเมือน เป็นหนึ่งในกลุ่มปราสาทตาเมือนครับ (อ่านในภาค ๑๐ - ๑๑ ครับ)

และธรรมศาลาทั้งหมดมี ๑๒๑ แห่ง สร้างบนเส้นทางสายราชมรรคาทั้ง ๕ เส้นทาง
แต่อโรคยศาลา มี ๑๐๒ แห่ง สร้างกระจายอยู่ตามชุมชน (โบราณ) ทั่งพระราชอาณาจักรขอมโบราณครับผม

สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ //www.oknation.net/blog/print.php?id=127344

ขอบคุณที่แวะมาเที่ยวด้วยกันครับ


โดย: kruaun วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:13:58:57 น.  

 
อ่อ...เคยอ่านเรื่องวัดกู้ กับสมเด็จพระนางเรือล่มในศิลปวัฒนธรรมครับ ยังไม่มีโอกาสได้ไปสักทีครับ

ขอบคุณที่พาไปเที่ยวครับ


โดย: อั๋นครับผม (kruaun ) วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:14:01:36 น.  

 


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:17:13:05 น.  

 
ช่วงนี้ยังไม่มีโอกาสได้นำเรื่องท่องเที่ยวลงบล็อกเลยค่ะ
มีแต่เรื่องเย็บกระเป๋ามากันเป็นชุดทั้งเดือน

ปีนี้ ครั้งแรกมีแผนที่จะไปเที่ยวพม่า สอบถามการเดินทางกับบริษัทฯ ทัวร์แล้ว แต่สถาณะการณ์บ้านเมืองไม่อำนวยเลยต้องงดแผนนี้

ครั้นจะไปเที่ยวเขมร เพราะอยากไปชมนครวัดมากๆ ก็มีเรื่องอีก (จนได้) ผ่านไปอีก 1 ประเทศ

และล่าสุด อยากไปอียิปต์ ไปดูปิรามิด ก็มามีการจลาจลกลางมือง

เฮ้อ.... ไปเที่ยวญี่ปุ่นดีกว่าเนอะ แต่ต้องให้หายหนาวก่อน ไม่อยากเป็นบ้าหอบเสื้อกันหนาวน่ะ
(หวังว่าคงไม่มีเหตุการณ์ร้ายๆ เกิดขึ้นดักหน้าอีกนะคะ)





โดย: addsiripun วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:10:03:53 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ผู้ชายในสายลมหนาว
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 21 คน [?]




New Comments
[Add ผู้ชายในสายลมหนาว's blog to your web]