BlogGang.com : : ผู้ชายในสายลมหนาว : การอนุรักษ์จิตรกรรมฝาผนัง : พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ (8)

การอนุรักษ์จิตรกรรมฝาผนัง : พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ (8)

8. พระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนา
ท้าวสหัมบดีสูตรทูลอาราธนาแสดงธรรม
เสด็จโปรดปัญจวัคคีย์ ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน กรุงพาราณสี

หลังจากที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้เแล้ว ก็ทรงดำริว่าพระธรรมที่ได้ตรัสรู้นั้น
ลึกซึ้งยากแก่การที่จะเข้าใจตามได้ จึงตั้งพระทัยว่าจะไม่เผยแผ่สิ่งที่ตรัสรู้
ท้าวสหัมบดีพรหม ผู้เป็นใหญ่ในมหาพรหม ก็ทราบพระปริวิตกในข้อนี้
จึงได้เสด็จลงมาเฝ้าเพื่อทูลอาราธนาให้เสด็จออกไปทรงแสดงธรรม

พระองค์ทรงพิจารณามนุษย์ทั้งหลายดุจดอกบัวว่ามีทั้งที่อยู่ใต้ตม ใต้น้ำ
แต่ก็อาจะมีบางพวกที่อยู่กลางน้ำ พร้อมที่จะรับการสั่งสอนให้พ้นน้ำได้
จึงตัดสินพระทัยที่จะแสดงธรรมโดยรำลึกถึงอาฬารดาบสผู้เป็นอาจารย์
เทวดาได้เข้ามาหาพระพุทธเจ้ากล่าวว่า อุทกดาบสสิ้นแล้วเมื่อ 7 วันก่อน

เมื่อทรงระลึกถึกถึงอุทกดาบส เทวดาทั้งหลายในที่นั่นก็กราบทูลว่า
ได้ละสังขารไปเสียแล้วเมื่อพลบค่ำนี้เอง จึงทรงพิจารณาถึงปัญจวัคคีย์
ผู้ที่เคยอุปการะพระองค์ หวังแสวงหาทางตรัสรู้ ทราบว่าตอนนี้พำนักอยู่ที่
ป่าอิสิปตนมฤค พระองค์จึงทรงเสด็จไป เพื่อแสดงธรรมเทศนา

ระหว่างทางได้พบกับอุปกาชีวก ซึ่งได้เห็นพระพักตร์อิ่มเอิบของพระพุทธเจ้า
ก็เกิดความเลื่อมใสจึงได้ถามว่า พระองค์เป็นลูกศิษย์ใคร ใครเป็นอาจารย์
พระพุทธเจ้าได้ตรัสว่า เราเป็นผู้ครอบงำธรรมทั้งปวง รู้ธรรมทั้งปวง
ตรัสรู้ยิ่งเองแล้วจะพึงอ้างใครเล่า อาจารย์ของเราย่อมไม่มี

อุปกาชีวกได้ฟังดังนั้นก็กล่าวว่า การที่พระองค์ได้ตรัสมานั้นหากเป็นจริงแล้ว
พระองค์ควรจะได้นามว่าผู้ชนะหาที่สุดมิได้ พลางแลบลิ้นสั่นศีรษะแล้วเดินหลีกไป

พระพุทธเจ้าได้เสด็จไปถึงป่าอิสิปตนมฤคทายวันพบกับปัญจวัคคีย์
พระองค์ได้แสดงพระธรรมเทศนากัณฑ์แรก คือ ธัมมจักกัปปวัตนสูตร
หรือพระสูตรว่าด้วยการหมุนกงล้อแห่งพระธรรม

ทรงแสดงถึงการประพฤติปฏิบัติที่สุดโต่งเกินไป 2 ประการ
คือ การหมกมุ่นในกามคุณ และการทรมานตนให้ลำบาก
ทรงแสดงทางสายกลาง คือ มัชฌิมาปฏิปทา และแสดงอริยสัจ 4

หลังจบพระธรรมเทศนา โกณทัญญะดาบสได้บรรลุโสดาบัน
และได้ทูลขอบวช พระองค์ทรงประทานเอหิภิกขุอุปสัมปทา
นับเป็นพระภิกษุรูปแรกในพระพุทธศาสนาที่ได้รับการอุปสมบท

หลังจากนั้นก็ได้ทรงแสดงปกิณกธรรมโปรดปัญจวัคคีย์ คนอื่นๆ อีก
คือวัปปะ ภัททิยะ มหานามะ อัสสชิ ในวันแรม 5 ค่ำ เดือน เดือน 8
ทั้งหมดได้เข้าใจถึงความเป็นอนัตตา ความไม่เที่ยงแท้ของขันธ์
ทำให้ปัญจวัคคีย์ทั้งหมดได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ในที่สุด

-----------------------------------------------------------------------------

9. พระพุทธเจ้าโปรดยสกุลบุตรและสหายเข้าบวช
เนื่องจากเบื่อหน่ายชีวิตที่ฟุ่มเฟือยหรูหราอันเป็นโลกียสุข
โปรดเจ้าชายโกศล 32 องค์ เข้าบวชเพื่อแสวงหาตนเอง

เรื่องราวของพระพุทธเจ้าโปรดยสกุลบุตรนั้นมีอยู่ว่า
หลังจากทรงประกาศพระธรรมจักรอันประเสริฐแก่ปัญจวัคคีย์แล้ว
ทรงเห็นอุปนิสัยของเด็กชื่อยสะ บุตรของนางสุชาดาผู้ถวายข้าวมธุปายาส
จึงเสด็จไปประทับนั่ง ณ โคนไม้ต้นหนึ่ง

ยสเป็นบุตรของเสนานิกุฏุมพีนายใหญ่แห่งบ้านเสนานิคมเป็นผู้มีทรัพย์มาก
เค้าจึงมอบสิ่วสิ่งสวยงามทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นที่พักหรือสาวงามให้ลูกชาย
วันหนึ่งยสกุลบุตรเห็นเหล่านางผู้เป็นบริวารนอนเกลื่อนกลาดอยู่บนเรือน
น่าเกลียดเหมือนซากศพในป่าช้า บังเกิดความเบื่อหน่ายจึงเปล่งอุทานว่า

ผู้เจริญทั้งหลาย ที่นี่วุ่นวายหนอ ผู้เจริญทั้งหลาย ที่นี่ขัดข้องหนอ
จากนั้นได้เดินเข้าไปยังป่าอิสิปตนมฤคทายวันได้พบกับพระพุทธเจ้า
พระพุทธเจ้าได้ตรัสกับยสกุลบุตรนั้นว่า ที่นี่แลไม่วุ่นวาย ที่นี่ไม่ขัดข้อง
เธอจงมานั่งเถิด เราจักแสดงธรรม ให้เธอฟัง

ครั้นจบพระธรรมเทศนาแล้ว ยสกุลบุตรก็บรรลุโสดาบัน

วันรุ่งขึ้นเศรษฐีบิดาออกมาตามบุตรที่หายไปจนมาถึงป่าอิสิปตนมฤคทายวัน
พระพุทธเจ้าทรงแสดงฤทธิ์มิให้เห็นเศรษฐีเห็นยสกุลบุตร
แล้วได้แสดงธรรมโปรดจนเศรษฐีเกิดดวงตาเห็นธรรมบรรลุโสดาบัน
ประกาศตนว่าเป็นอุบาสกผู้ถึงสรณะทั้งสามเป็นคนแรกในโลก

ส่วนยสกุลบุตรเมื่อพระธรรมเทศนาจบก็บรรลุพระอรหันต์
พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงทรงบันดาลให้ท่านเศรษฐีเห็นพระยสกุลบุตร
และชี้แจงจนท่านเศรษฐีเห็นชอบให้ยสกุลบุตรได้ออกบวช
และนิมนต์พระผู้มีพระภาคเจ้าเพื่อเสวยภัตตาหารในวันรุ่งขึ้น

เมื่อเศรษฐีกลับไป ยสกุลบุตรก็ทูลขอบรรพชาด้วยวิธีเอหิภิกขุอุปสัมปทา

เวลาเช้าพระพุทธเจ้าทรงเสด็จพร้อมด้วยพระยสไปยังเรือนของท่านเศรษฐี
แล้วจึงทรงเทศนาโปรดนางสุชาดา และภรรยาเก่าของพระยส
เมื่อจบพระธรรมเทศนาท่านทั้งสองก็บรรลุโสดาบัน
ประกาศตนเป็นผู้ถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะเป็นอุบาสิกาคู่แรกของโลก

ตามป้ายที่ติดไว้ตอนโปรดยสกุลบุตรน่าจะอยู่ช่วงบนของภาพนี้
แต่ไม่แน่ใจว่าอาจจะอยู่ตอนล่างของภาพก่อนหน้านี้ด้วยก็ได้
เพราะเนื้อเรื่องนั้นเกิดขึ้นในป่าอิสิปตนมฤคทายวัน
ช่างอาจจะใช้ประโยชน์จากฉากโปรดปัญจวัคคีย์ที่ว่างอยู่

อาจประมาณว่าเป็นฉากที่ต่อกัน (หรือเปล่า??)

นอกจากนี้ยังมีสหายของพระยสได้ตามมาขออุปสมบทด้วยอีก 54 รูป
พระพุทธเจ้าทรงเห็นว่า บัดนี้ควรแก่การประกาศเผยแผ่พระศาสนา
จึงให้พุทธสาวกทั้ง 60 องค์เที่ยวจาริกเผยแผ่พระธรรมอนุเคราะห์
แต่มิให้ไปทางเดียวกัน 2 องค์ เพื่อจะได้เผยแผ่ได้กว้างขวางยิ่งขึ้น

ส่วนตัวพระพุทธเจ้าได้เสด็จไปยังตำบลอุรุเวลาเสนานิคม
ระหว่างทางเมื่อเสด็จพุทธดำเนินมาถึงไร่ฝ้ายได้พบกับพระราชกุมาร
จำนวน 30 องค์ ผู้เป็นพระราชโอรสของพระเจ้ามหาโกศล
และพระราชโอรสพระเจ้าปเสนทิโกศล พระราชโอรสของพระเจ้ามหาโกศล

พระราชกุมาร 30 องค์นี้เป็นผู้มีรูปงามจึงมีนามบัญญัติว่า ภัททวัคคีย์
ในเวลานั้นพระราชกุมารทั้ง ๓๐ องค์กำลังช่วยกันติดตามหานางคณิกาผู้หนึ่ง
ซึ่งลักเอาอาภรณ์ของพระกุมารองค์หนึ่งไป

ครั้นเมื่อตามมาถึงไร่ฝ้ายเห็นพระบรมศาสดาประทับอยู่ ณ ร่มไม้ใหญ่
จึงเข้ามาทูลถามว่าเห็นหญิงคนหนึ่งผ่านมาทางนี้หรือไม่
พระพุทธองค์ตรัสว่า จะแสวงหาสตรีไปทำไม แสวงหาตนถึงประเสริฐกว่า
แล้วทรงแสดงพระธรรมเทศนาโปรด พระกุมารผู้อายุน้อยได้บรรลุพระโสดาบัน

นอกนั้นบรรลุพระสกิทาคามีทั้งสิ้น เมื่อประทานเอหิภิกขุอุปสัมปทาแล้ว
พระบรมศาสดาจึงส่งภิกษุภัททวัคคีย์ทั้ง 30 รูปไปประกาศพระศาสนาในทิศทั้งปวง
พระองค์เองก็เสด็จต่อไปจนถึงตำบลอุรุเวลาที่ชฎิลทั้ง 1000 คนนั้นอาศัยอยู่

Create Date : 16 กรกฎาคม 2557

Last Update : 21 กรกฎาคม 2557 16:24:04 น.

1 comments

Counter : 2111 Pageviews.

พิจารณาภาพ ละเอียดจังค่ะ สุดยอด

โดย: tuk-tuk@korat

วันที่: 16 กรกฎาคม 2557 เวลา:16:11:47 น.