Apple has lost a visionary and creative genius, and the world has lost an amazing human being.

But his spirit will forever be the foundation of Apple. 6 October 2011

<<
เมษายน 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
5 เมษายน 2553

กรุงเทพมหานคร : พระราชวังพญาไท (2)



พระตำหนัก เมขลารูจี

พระที่นั่งส่วนมากมักจะพระที่นั่งทรงฝรั่งหลังใหญ่ แต่มีก็แต่พระตำหนักอยู่หลังหนึ่ง
ที่ปลูกสร้างขึ้นมาเป็นเรือนไม้ขนาดย่อมที่สร้างซุกไว้หลัง เป็นพระตำหนักหลังหนึ่ง
ที่รัชกาลที่ 6 ทรงโปรดปราน ชื่อว่า พระตำหนักอุดมวนาภรณ์

เป็นพระตำหนักเรือนไม้สักทาสีฟ้าสดใส 2 ชั้น ที่มุงหลังคาด้วยกระเบื้องดินเผา
ส่วนภายในพระตำหนักก็มีการตกแต่งด้วยภาพเขียนสี และสระสรงน้ำขนาดใหญ่
พระองค์ทรงเสด็จมาประทับสรงน้ำ และทรงพระเครื่องใหญ่ (ตัดผม) ที่ตำหนักนี้บ่อยครั้ง
และเหตุผลอีกประการ ก็คือพระตำหนักหลังอื่นๆ ยังสร้างไม่แล้วเสร็จนั่นเอง

ดังนั้นพระตำหนักเรือนไทยหลังนี้ จึงกลายเป็นที่ประทับทรงงานมาตลอด
จนกระทั่งพระที่นั่งอื่นๆ เสร็จ รวมทั้งพระที่นั่งหลังใหม่ที่รัชกาลที่ 6 ทรงโปรด
ให้สร้างเชื่อมต่อกับพระที่นั่งไวกูณฐเทพยสถานพระราชทานคือพระตำหนักอุดมวนาภรณ์
พระตำหนักเรือนไม้สักหลังเดิมจึงได้ชื่อใหม่ว่า พระตำหนักเมขลารูจี แทน

ซึ่งปัจจุบันเราไม่สามารถเดินเข้าไปได้เนื่องจากความเก่า
และยังไม่ถูกบูรณะ แต่ความสวยงามของอาคารนั้นมีมาก
จนได้รับการคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในอากคารที่อนุรักษ์ศิลปสถาปัตยกรรมดีเด่น
จากสมาคมสถาปนิกสยาม ในปี 2540 นอกเหนือไปจากตัวพระราชวังที่ได้รับไปในปี 2527 แล้ว



นอกจากการเด้านหลังมีสวนโรมัน ปลูกกุหลาบ ด้านข้างสวนมีสระน้ำที่มีรูปปั้นพระวรุณ
อันนี้จำได้แน่นอนว่าปั้นโดยคอร์ราโด เฟโรจี หรืออาจารย์สิลป์ พีระศรี
ด้านหลังเป็นที่ตั้งของศาล ท้าวหิรันยพนาสูร ซึ่งปัจจุบันก็มีคนมากราบไหว้อยู่

แต่ที่ไม่เหลืออยู่แล้วก็คือ ดุสิตธานี หรือเมืองประชาธิปไตยย่อส่วน ที่รัชกาลที่ 6
ได้โปรดเกล้าให้สร้างเป็นเมืองจำลอง เพื่อทดลองการปกครองระบอบประชาธิปไตย
ซึ่งเพิ่งมีกระทู้แนะนำว่าจริงๆ แล้วเป็นเพียงบ้านจำลองขนาดเล็ก ไม่สามารถอาศัยอยู่ได้จริงๆ
ซึ่งหลายคนรวมทั้งผม ก็คิดว่าเป็นเมืองจริงๆ มีชาวเมืองอยู่อาศัยมาตั้งนาน

เมื่อรัชกาลที่ 6 เสด็จสวรรคตแล้ว ล่วงเข้าสู่รัชกาลที่ 7 พระองค์ทรงโปรดเกล้าให้
กรมรถไฟหลวงปรับปรุงวังพญาไท เป็นโรงแรมชั้นหนึ่งสำหรับให้ชาวต่างประเทศพัก
เมื่อ 18 กุมภาพันธ์ 2468 ตามพระราชประสงค์ในรัชกาลที่ 6 ที่ทรงมีพระราชวินิจฉัยไว้ว่า
ในอนาคตหากพระราชวังถูกทิ้งร้างไป ก็จะเปล่าประโยชน์เสีย

นอกจากนั้น พระราชวังพญาไทได้เป็นที่ตั้งของสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งแรกของไทย
ซึ่งออกอากาศครั้งแรกในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2473 อีกด้วย
หลังจากนั้นเพียงแต่เจ็ดปี กรมรถไฟก็ต้องยกเลิกกิจการโรงแรมไปในปี 2475
เนื่องจากคณะราษฎรต้องการนำวังพญาไทสร้างโรงพยาบาลทหาร
รัชกาลที่ 7 จึงทรงพระราชทานวังนี้ให้เป็นสถานพยาบาลของกองทัพบก
และเปลี่ยนชื่อเป็นโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า มาจนปัจจุบัน



ปัจจุบันพระราชวังพญาไทบางส่วนได้รับการบูรณะแล้ว บางส่วนก็อยู่ในสภาพทรุดโทรม
ซึ่งชมรมคนรักวัง และมูลนิธิอนุรักษ์พระราชวังพญาไทในพระอุปถัมภ์
สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี
ได้พยายามระดมทุนเพื่อทำการบูรณะพระราชวังพญาไท
ให้กลับมางามสง่าเหมือนดังเช่นในอดีตอีกครั้ง

แล้วเราจะมีส่วนช่วยให้พระราชวังแห่งนี้กลับมามีชีวิตอีกครั้งได้อย่างไร
ต้องขอบอกว่า อย่างน้อยการที่เราช่วยบอกต่อกันไปถึงความงาม
และช่วยกันไปเยี่ยมชมพระราชวังแห่งนี้ บางทีอาจจะทำให้หน่วยงานรัฐ
ได้เห็นความสำคัญของสถานที่แห่งประวัติศาสตร์

แต่สิ่งเดียวที่ผมไม่อยากเห็นมันเปลี่ยนไปก็คือ บรรยากาศของการเยี่ยมชม
ในขณะที่พระราชวังทุกแห่งที่เปิดให้เข้าเยี่ยมชม เราก็ต้องเสียเงินค่าเข้า
ฝากกระเป๋าและกล้องเมื่อเข้าไปในตัวอาคาร และถอดรองเท้าในบางแห่ง
มันเป็นรูปแบบมาตรฐานที่เราเคยชินไปแล้ว



แต่ที่นี่ไม่มีการเก็บเงินค่าเข้าชม ไม่มีการห้ามถ่ายรูป แต่จะมีไกด์อาสาสมัคร
ที่มีความรักและความเข้าใจในคุณค่าและความสำคัญของพระราชวังแห่งนี้
พาคุณเดินเข้าเยี่ยมชม ในรอบเช้า 9.30 น. และ 13.30 น. ในวันหยุดราชการ
พร้อมอธิบายถึงสิ่งต่างๆ ทีละจุด ตลอดเวลาคุณสามารถจะถามทุกเรื่องที่คุณสงสัย
ไม่ใช่เฉพาะเพียงสถาปัตยกรรมเท่านั้น

ยังมีพระราชกรณียกิจต่างๆของรัชกาลที่ 6 ที่เราส่วนใหญ่นึกไม่ออก
หากคุณได้คุยกับพี่ไกด์อาสาสมัครแล้วละก็ ผมเชื่อว่าคุณต้องเปลี่ยนความคิดเลยทีเดียว
ไม่มีการห้ามถ่ายรูป แต่ความเคารพในสถานที่จะทำให้คุณรู้ตัวคุณเอง

สำหรับผม แทบจะไม่ยกกล้องถ่ายเลยด้วยซ้ำ
เพราะอยากจะเก็บภาพและความรู้สึกในการเยี่ยมชมวังแห่งนี้
ที่เหมือนกับว่า เราเดินไปกับคนที่มีใจรักในสิ่งเดียวกัน
และเก็บสิ่งเหล่านั้นไว้ในใจตลอดไป



Create Date : 05 เมษายน 2553
Last Update : 5 เมษายน 2553 10:11:20 น. 7 comments
Counter : 3378 Pageviews.  

 
เคยอ่านเจอเหมือนกันค่ะ
ว่าสถานที่ที่มีคุณค่าในอดีตหลายแห่งได้ถูกทำลายไป
บอกตามตรงว่ารู้สึกเสียดายมาก


โดย: Yolanrita วันที่: 5 เมษายน 2553 เวลา:10:44:53 น.  

 
สวย มีคุณค่า น่าไป


โดย: Ezy-SeaHill วันที่: 5 เมษายน 2553 เวลา:11:50:37 น.  

 
พระตำหนัก เมขลารูจี สวยมาก ๆ ค่ะ นั่งดูอยู่ตั้งนาน

ขอบคุณที่คิดชื่อบล็อกให้ค่ะ ... เปลี่ยนเลยทันที


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 5 เมษายน 2553 เวลา:13:24:44 น.  

 
อ่านเอง งงเอง สรุปว่าพระที่นั่งเมขลารุจี สร้างก่อน
เพราะการสร้างเรือนไทย ง่ายกว่าปลูกตึกฝรั่ง
พอพระที่นั่งอื่นเสร็จ พระองค์ก็ย้ายไป แต่มิได้ทรงโปรด
ให้รื้อทิ้ง เพียงแต่นำชื่อพระที่นั่งอุดมวนาภรณ์ ไปใช้กับตึก
ที่อยู่ด้านข้าง แล้วตั้งชื่อพระที่นั่งไม้องค์นี้ใหม่กว่า รุจีเมขลา

ใช้สำหรับจัดเตรียมพระกระยาหารเพื่อไปเสวยที่ตึกใหญ่
นอกจากนี้ ยังทรงชอบมาสรงน้ำที่ตึกนี้ และก็ตัดผมด้วย
เพราะพระที่นั่งองค์นี้เป็นเรือนไทยติดกับคลองขุดในวัง
พระองค์เลยอาจจะทรงโปรดมากกว่าสรงน้ำที่มหาดเล็กตักไปใส่ตึกใหญ่ก็ได้

สังเกตไหมว่าพระที่นั่งในรัชกาลที่ 6 จะมีชื่อที่คล้องจองกัน สละสลวยและงดงาม


โดย: VET53 วันที่: 5 เมษายน 2553 เวลา:14:08:37 น.  

 
สวยนะคะ.....อยากไปมั่งจัง


โดย: auau_py วันที่: 5 เมษายน 2553 เวลา:15:00:41 น.  

 
สวัสดีค่ะ ขอบคุณนะคะ


โดย: nattziila วันที่: 18 เมษายน 2553 เวลา:21:30:53 น.  

 
ขอบคุณสำหรับภาพและสารคดีที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ค่ะ
ด้วยความที่ชอบทางด้านประวัติศาสตร์เหมือนกัน ขอเป็นเพื่อนบล็อกด้วยคนนะคะ
เมื่องานหนังสือ ที่ศูนย์สิริกิตติ์ได้หนังสือเรื่อง วังพญาไท จากมติชน มา 1 เล่ม
อ่านแล้วอยากมาชมสถานที่จริงๆ มาก แต่ยังไม่มีโอกาสเลยสักครั้ง
อ่านบล็อกนี้แล้ว คงจะไปชมได้แล้วละค่ะ

ขอบคุณมากนะคะ



โดย: addsiripun วันที่: 11 พฤษภาคม 2553 เวลา:15:48:53 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ผู้ชายในสายลมหนาว
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 21 คน [?]




New Comments
[Add ผู้ชายในสายลมหนาว's blog to your web]