BlogGang.com : : ผู้ชายในสายลมหนาว : เที่ยวยลศิลป์ ถิ่นพระพุทธบาท : ชาวไทยยวน

เที่ยวยลศิลป์ ถิ่นพระพุทธบาท : ชาวไทยยวน

การเรียนรู้อะไรบางอย่างนั้น ก็เริ่มด้วยการอ่านแล้วก็ไปฝึกด้วยตนเอง
แต่บางทีเมื่อถึงจุดหนึ่งแล้วมันก็ยังย่ำอยู่ที่เดิม หรือไม่ก็ช้าเกินไป
ฉะนั้นเราจึงไปเรียนรู้การดูจิตรกรรมฝาผนังของไทยไปกับทริปๆ หนึ่ง
ชื่อว่า เที่ยวยลศิลป์ ถิ่นพระพุทธบาท

แต่ก่อนที่จะออกเดินทางไปด้วยกัน เราพบว่าวัดทั้งหมด
ล้วนมีกลิ่นอายวัฒนธรรมของชาวไทยยวนอยู่เต็มเปี่ยม
ดังนั้นก่อนที่จะพาไปเที่ยววัด เราจะมาหาว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น

ก่อนที่พระเจ้ามังรายมหาราชจะก่อตั้งอาณาจักรล้านนาขึ้นมานั้น
ที่ราบลุ่มริมฝั่งน้ำล้วนมีกลุ่มชาวพื้นเมืองโบราณตั้งบ้านเมืองอยู่ก่อน
ต่อมาพงศาวดารโยนกได้กล่าวถึงการเข้ามาปกครอง ของคนไทย
ว่าได้เข้ามาก่อตั้งอาณาจักรโยนกนาคพันโดยพระเจ้าสิงหนวัติ

มีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองเชียงแสน มีกษัตริย์ปกครองสืบเนื่องต่อกันมา
ประมาณกว่า 40 พระองค์ จนกระทั่งถึงสมัยพระองค์มหาไชยชนะ
ตำนานสิงหนวัติที่กล่าวว่า ได้มีชาวเมืองไปได้ปลาไหลเผือก
พระองค์จึงให้ตัดเป็นท่อนแจกกันกินทั่วทั้งเวียง และในคืนนั้น

ก็ได้เกิดมีเหตุเสียงดังสนั่นเหมือนกับแผ่นดินไหว ถึงสามครั้ง
จนเป็นเหตุให้เมืองโยนกถล่มกลายเป็นหนองน้ำขนาดใหญ่
แต่ก็เป็นน่าอัศจรรย์ที่ยังคงเหลือบ้านของหญิงหม้ายคนหนึ่ง
ซึ่งไม่ได้รับส่วนแบ่งเนื้อปลานั้นจากชาวเมืองไปบริโภค

หลังจากที่อาณาจักรโยนกได้ล่มสลายพร้อมด้วยราชวงศ์ดังกล่าวแล้ว
ชาวเมือง จึงได้ปรึกษากันพร้อมใจกันยกให้ขุนลัง ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้าน
ขึ้นมาเป็นผู้ปกครองแทน และได้มีการสร้างเมืองใหม่ขึ้นที่ริมฝั่งแม่น้ำโขง
ชื่อ เวียงปรึกษา ได้มีผู้ปกครองสืบต่อกันมา 15 คน เป็นระยะเวลา 93 ปี

ต่อจากนั้นก็เป็นสมัยลวจังกราช ซึ่งในหลักฐานบางฉบับเรียกว่า ราชวงศ์ลาว
เนื่องจากพระนามของกษัตริย์ในราชวงศ์นี้ล้วนขึ้นต้นด้วยคำว่า ลาว
สันนิษฐานว่าอยู่ใกล้บริเวณดอยตุงและแม่น้ำสาย
ต่อมาได้ขยายจากเมืองเชียงลาวมาสู่เมืองเงินยางหรือเงินยัง ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง

สันนิษฐานว่าเมืองเงินยางนี้อยู่ใกล้กับเมืองเชียงแสน หรืออาจเป็นบริเวณเดียวกันก็เป็นได้
เมืองเงินยางมีชื่อเรียกเป็นภาษาบาลีว่า หิรัญนคร อันเป็นที่มาของชื่อหิรัญนครเงินยาง
จากนั้นก็เป็นยุคที่พระเจ้ามังรายมหาราชได้ก่อตั้งอาณาจักรล้านนา มีศูนย์กลางที่เชียงใหม่

แต่การที่จังหวัดในภาคกลางมีชาวไทยยวนอาศัยอยู่นั้น ก็เกิดจากการเทครัวจากสงคราม
เกิดขึ้นในช่วงหลายเวลา ตั้งแต่ยุคแรกที่เจ้าสามพระยายกไปตีเชียงใหม่ บ้างก็ว่า
ตีไม่ได้ บ้างก็ว่าเทครัวลงมาได้เรือนแสน แต่ที่แน่ๆ ก็คือช่วงสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
ต่อมาก็เป็นช่วงการสงครามสุดท้ายของอาณาจักรอยุธยา ในสมัยพระนารายณ์มหาราช

ซึ่งการกวาดต้อนผู้คนลงมานั้น่าจะมาอยู่ที่อยุธยาเป็นหลัก แต่สำหรับที่จังหวัดสระบุรีนั้น
เกิดขึ้นในปี 2347 เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกได้โปรดให้ยกทัพไปขับไล่
พม่าที่เชียงแสน หลังจากเข้าเมืองได้ ก็ทำการเทครัวชาวเชียงแสนลงมาถึง 23000 ครอบครัว
แบ่งออกเป็นห้าส่วน ส่วนหนึ่งนั้นท่านได้โปรดให้ไปตั้งบ้านเรือนอยู่ที่จังหวัดสระบุรี
ถิ่นแรกที่ชาวไทยยวนมาอยู่อาศัยก็คือท้องที่ของอำเภอเสาไห้ในปัจจุบันนี้เอง

Create Date : 22 พฤษภาคม 2555

Last Update : 29 พฤษภาคม 2555 16:48:28 น.

3 comments

Counter : 1818 Pageviews.

ที่เสาไห้เขาพูด กำเมือง ได้ค่ะ

ไปทานเกี๊ยวกรอบมาแล้ว

เราถ่ายรูปมาเบลอเสียหลายรูป น่าเสียดาย เลนไม่มีใครบรรยายภาพให้ฟ้งเลย

หน้าบันวัดโคราช เราชอบของวัดบึงค่ะ ตอนนี้ก็ใหม่ น่าจะลอกเลียนจาก ลายเก่านะคะ

โดย: tuk-tuk@korat

วันที่: 22 พฤษภาคม 2555 เวลา:17:49:53 น.

แ่ล้วแล้วทั้ง จุลปทุมชาดก และ จันทรกุมาร

เดี๋ยวจะลองพิจารณารูป ... เพื่อจะใส่เรื่องราว

ขอบคุณค่ะ

โดย: tuk-tuk@korat

วันที่: 22 พฤษภาคม 2555 เวลา:20:20:30 น.

ขอบคุณที่แวะเข้ามาทักทายกันค่ะ สอบถามเค้าแล้วเหมือนกัน ศาลาการเปรียญจะเปิดให้คนทั่วไปเข้าได้ต้องเป็นวาระพิเศษจริงๆ เสียดายมากเลยค่ะ

ข้อมูล...บ้านนี้ก็เยอะมากเหมือนกันนะคะ

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ

วันที่: 24 พฤษภาคม 2555 เวลา:9:14:59 น.