Apple has lost a visionary and creative genius, and the world has lost an amazing human being.

But his spirit will forever be the foundation of Apple. 6 October 2011

<<
มีนาคม 2558
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
31 มีนาคม 2558

สืบหาทวารวดี : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระปฐมเจดีย์ (2)

Untitled

จุลประโทนเจดีย์ตั้งอยู่ห่างจากวัดพระประโทนเจดีย์ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
ประมาณ 500 เมตร ทางด้านหลังวิทยาลัยเทคนิคนครปฐม
ในการบูรณะพบชิ้นส่วนปูนปั้นที่สมบูรณ์มาก
และมีค่าต่อการทำความเข้าใจถึงศิลปะและศาสนาในช่วงเวลานั้น

เนื่องจากเป็นเจดีย์ร้าง เมื่อขุดแต่งเสร็จกรมศิลปากรทำการถอดภาพมาเก็บรักษาไว้
ซึ่งเป็นเรื่องที่โชคดีมาก เพราะปัจจุบันตัวเจดีย์ถูกน้ำขังจนพังทลายไปเกือบหมด


Untitled

ท้าวกุเวร เทพแห่งความมั่งคั่ง ปูนปั้นประดับฐานประทักษิณด้านทิศใต้



Untitled

นรสิงห์แบก ปูนปั้นประดับฐานประทักษิณด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ



Untitled

ชิ้นส่วนปูนปั้นภาพราชสำนัก ไม่ทราบตำแหน่ง
นันทนา ชุติวงศ์ ให้ความเห็นว่าเป็นเรื่อง พระเจ้าสุรูปะ



มีพระราชาพระนามว่าสุรูปราชครองราชย์สมบัติอยู่ในนครอินทปัตถ์
มีพระมเหสีพระนามว่าสุนทรีราชเทวี พระราชบุตรพระนามว่าสุนทรราชกุมาร
วันหนึ่งพระองค์ทรงรำพึงว่า สรีระร่างกายนี้คล้ายคล้ายกันกับแสงสว่างแห่งพยับแดด
ไม่มีแก่นสารเปรียบเหมือนต้นกล้วย ทำไฉนจึงจะได้ฟังธรรม

พวกอำมาตย์กราบทูลว่า ตั้งแต่เกิดมาก็เคยได้ยินแต่คำว่า พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์
แต่ยังไม่เคยเห็นเลย แล้วพระองค์จะได้ฟังธรรมแต่ที่ไหน
พระเจ้าสุรูปราชจึงใช้ราชบุรุษไปป่าวประกาศว่า ผู้ใดสามารถจะกล่าวธรรมถวาย
เราจะให้ทองคำ 1000 ตำลึงและผอบแก้วกับช้าง

พวกราชบุรุษทั้งหลายป่าวร้องอยู่จนถึง 7 ปีก็หาคนแสดงธรรมไม่ได้
พระเจ้าสุรูปราชทรงสลดพระทัยเป็นอย่างยิ่ง ทรงหมดหวังที่จะได้ฟังธรรม
จึงประกาศว่า เราจักให้ทรัพย์ทุกสิ่งที่ผู้แสดงธรรมต้องการ เป็นต้นว่า
ภรรยา บุตร เงิน ทอง ทาสทาสี ช้าง ม้า โค กระบือ ขอแต่ได้ฟังธรรม

ด้วยแรงอธิษฐานของพระโพธิสัตว์ทำให้เกิดแผ่นดินไหว
ภูเขาโอนอ่อนลงมาประดุจหน่อหวายที่ถูกไฟลวก
ท้าวสักกะเทวราชทรงปรบพระหัตถ์กึกก้อง เสียงโกลาหลดังไปถึงพรหมโลก
ท้าวสักกะจึงแปลงเป็นยักษ์ลงมายืนอยู่ตรงหน้าพระโพธิสัตว์

---------------------------------------------------------------------

มหาชนเห็นยักษ์ก็วิ่งหนีเพราะกลัว แต่พระโพธิสัตว์เข้าไปหา
แล้วตรัสถามถึงสาเหตุที่ยักษ์มา ยักษ์ตอบว่า มาเพื่อจะแสดงธรรมให้ฟัง
พระเจ้าสุรูปราชทรงปีตีโสมนัสมากจึงได้ตรัสบอกให้ยักษ์แสดงธรรมให้ฟัง
ยักษ์บอกว่าเดินทางมาไกลและหิวมาก ขอให้ได้กินอาหารก่อนจึงจะแสดงธรรม

พระเจ้าสุรูปราชจึงสั่งให้จัดอาหารให้ แต่ยักษ์ไม่กินบอกว่า
ธรรมดายักษ์ต้องได้กินเนื้อมนุษย์พร้อมทั้งเลือดถึงจะถูกใจ
ถ้าพระราชาให้มนุษย์ที่มีชีวิตได้ จึงจะแสดงธรรมให้ฟังได้
พระโพธิสัตวเจ้าจึงตรัสตอบว่าได้ จงแสดงธรรมก่อนเถิด

เมื่อแสดงจบแล้วพระองค์จะมอบพระองค์ให้ ฝ่ายพระราชเทวีได้สดับคำนั้นแล้ว
ทรงรำพึงว่า จะทำให้ความปรารถนาของสวามีให้สำเร็จ
แล้วเสด็จเข้าไปหาพระราชากราบทูลว่า พระนางจะสละชีวิตของตนแก่ยักษ์
พระราชาก็ทรงอนุญาต ยักษ์ทำทีเหมือนเคี้ยวกินพระเทวีแต่เอามาซ่อนไว้

เมื่อเห็นยักษ์ได้กินเนื้อมนุษย์สมใจแล้ว พระเจ้าสุรูปราชจึงบอกให้ยักษ์แสดงธรรม
ยักษ์บอกว่ายังไม่อิ่มแล้วขอกินพระราชกุมารอีกองค์หนึ่ง พระราชาก็ทรงให้
ยักษ์ทำทีกินพระกุมารแล้วก็ซ่อนไว้อีก พวกประชาชนพากันวิ่งหนีเพราะกลัว
ยกเว้นพระราชาองค์เดียว พระราชาสั่งให้ยักษ์แสดงธรรม แต่ยักษ์บอกว่ายังไม่อิ่ม

พระราชาจึงรักปากว่าจะมอบพระองค์เองให้ ยักษ์รับคำแล้วแสดงธรรมให้ฟังว่า

-----------------------------------------------------------------

ความเศร้าโศกและความกลัวย่อมบังเกิดเพราะความรัก
เมื่อบุคคลพ้นไปเสียจากความรักแล้ว ความเศร้าโสกและความกลัวแต่ที่ไหนๆ ก็ไม่มี
ความเศร้าโศกและความกลัวย่อมเกิดแต่ตัณหา
เมื่อบุคคลพ้นไปเสียจากตัณหาแล้ว ความเศร้าโศกและความกลัวแต่ที่ไหนๆ ก็ไม่มี

ความเศร้าโศกและความกลัวย่อมเกิดแต่ความยินดี
เมื่อบุคคลพ้นไปจากความยินดีแล้ว ความเศร้าโศกและความกลัวแต่ที่ไหนๆ ก็ไม่มี
ความเศร้าโศกและความกลัวย่อมบังเกิดเพราะความใคร่ปรารถนา
เมื่อบุคคลพ้นไปจากความใคร่ปรารถนาแล้ว ความเศร้าโศกและความกลัวแต่ที่ไหนๆ ก็ไม่มี


เมื่อได้ฟังธรรมจบพระราชาก็ได้มอบพระองค์เองแก่ยักษ์
ยักษ์แปลงกล่าวชมเชยพระราชาแล้วกล่าวว่า
พระองค์อยากได้พระราชเทวีและพระราชกุมารคืนหรือไม่
พระราชาตรัสตอบว่าอยากได้คืน

ยักษ์จึงนำเอาพระราชเวที และพระราชกุมารมาถวายให้แก่พระราชา
แล้วเหาะขึ้นไปบนอากาศประกาศตนเองว่าเป็นท้าวสักกะเทวราช



Untitled

ชิ้นส่วนปูนปั้นลานประทักษิณด้านตะวันออกเฉียงใต้
พิริยะ ไกรฤกษ์ให้ความเห็นว่า เป็นอวทานชาตกะ เรื่อง ศยามกะ


ศยามกะเป็นบุตรชายผู้ซื่อสัตย์ต่อบิดามารดาที่ตาบอด
และได้อาศัยอยู่ในป่า โดยใช้ชีวิตเป็นนักบวชทั้งหมด
วันหนึ่งขณะที่ไปตักน้ำให้บิดามารดา พระราชาได้เข้าป่าเพื่อล่าสัตว์
เห็นศยามกะนึกว่าเป็นกวางจึงยิงลูกดอกอาบยาพิษเข้าใส่

ต่อมาจึงรู้ว่าเป็นนักบวช พระราชาก็ตกพระทัยและทรงวิงวอนขอโทษแก่ศยามกะ
ศยามกะได้บอกว่าตนเป็นบุตรเพียงคนเดียวและขอให้ดูแลบิดามารดาแทนตนด้วย
พระราชาก็ตรัสว่า จะยอมสละราชสมบัติเพื่อมาดูแลบิดามารดาให้แทน

พระราชาก็ได้ตรงไปยังอาศรมแล้วตรัสบอกบิดามารดาของศยามกะว่า
ตนได้สังหารบุตรชายเสียแล้ว และได้ขอปรนนิบัติทำหน้าที่แทนศยามกะ
บิดามารดาของศยามกะก็ขอร้องให้พระราชาพาไปยังที่ศยามกะนอนตายอยู่

บิดามารดาจึงอธิษฐานถ้าหากศยามกะได้มีเมตตากรุณาต่อสิ่งมีชีวิตทั้งปวง
และได้ปฏิบัติต่อบุพการีอย่างดีมาตลอด ให้พิษที่อยู่ในศยามกะได้สลายไป
ทันใดนั้นศยามกะจึงฟื้นจากความตายมาเหมือนกับว่าเพิ่งตื่นนอน

-------------------------------------------------

นันทนา ชุติวงศ์ ให้ความเห็นว่าเป็นเรื่องเวสสันดรชาดก
บุคคลทั้งหมดในภาพ ไม่สวมเครื่องประดับเพราะถือเพศเป็นนักบวช
บุคคลกลางคือพระเวสสันดรกำลังถือพระหัตถ์ชายาประทานให้กับท้าวสักกะเทวราช
ผู้จำแลงเป็นพราหมณ์มาขอ นอกจากนี้แผ่นภาพดังกล่าวมีความคล้ายคลึงกันกับ
ที่ซุ้มประตูพระสถูปที่สาญจี และบนหินจำหลักรูปบนใบเสมาในภาคอีสานของไทย

ภาพนี้ตัดสินยากนะ แต่ อ. พิริยะ มาทางอวทานชาตกะก็ต้องไปเรื่องนี้
แต่ตามเนื้อเรื่องซึ่งคล้ายสุวรรณสาม คนทางซ้ายควรจะนอนมากกว่านั่ง
เพราะมันจะให้อารมณ์เศร้าโศกสอดคล้องกับบุคคลทางขวา
ที่สำคัญควรมีพระราชาอีกอีกด้านด้วย

ถ้าเป็นเวสสันดราดกดูจะเข้ากับคำอธิบาย เพราะท่านั่งเหมือนชูชกมาก
แต่มันทำให้เราทราบว่า อวทานะซึ่งเป็นเรื่องพระโพธิสัตว์ของมหายาน
จะมีการซ้อนทับเรื่องราวกับชาดกของเถรวาทเช่นกัน


Untitled

ชิ้นส่วนปูนปั้นฐานประทักษิณด้านตะวันออกเฉียงเหนือ
พิริยะ ไกรฤกษ์ให้ความเห็นว่าเป็นอวทานศาตกะ เรื่องไมตระกันยกะ


ไมตระกันยกะเป็นพ่อค้าน้ำหอมที่เมืองพาราณสี
วันหนึ่งต้องออกเดินทางไปค้าขายที่เมืองสุวรรณภูมิ แต่มารดาได้ทำการห้ามปราม
เนื่องจากบิดาของไมตระกันยกะเองก็ได้เสียชีวิตกลางทะเลจากเรืออับปาง
จึงไม่อยากให้ไมตระกันยกะต้องเสียชีวิตเหมือนบิดา แต่ไมตระกันยกะไม่ฟัง

นางจึงต้องล้มตัวลงที่เท้าของเขา ไมตระกันยกะโกรธเคืองที่นางไม่ยอมให้ออกเดินทาง
จึงเตะนางเข้าที่ศีรษะแล้วเดินจากไป เรือที่ไมตระกันยกะออกเดินทางได้ 7 วัน ก็เกิดอัปปางลง

เขาได้ลงแพไปยังเกาะแห่งหนึ่ง ซึ่งได้พบกับนางอัปสร 4 นาง ซึ่งได้เอาใจใส่เป็นอย่างดี
แต่ถึงกระนั้นไมตระกันยกะก็ได้ออกเดินทางต่อ จนไปพบอีกเกาะที่ได้พบกับนางอัปสรอีก 8 นาง
ไมตระกันยกะก็ยังไม่พอใจ ออกเดินทางต่อไปเจออีกเกาะ ซึ่งมีนางอัปสรอยู่ 16 นาง
ไมตระกันยกะก็ยังไม่พอใจ ออกเดินทางต่อไปเจออีกเกาะ ซึ่งมีนางอัปสรอยู่ 32 นาง


ไมตระกันยกะก็ยังไม่พอใจ จึงเดินทางไปต่อ แต่ครานี้ได้พบกับเกาะแห่งหนึ่ง
ซึ่งมีเปรตโดนจักรหมุนเจาะกะโหลก ร้องด้วยความทุกข์ทรมาน
ไมตระกันยกะจึงถามไปว่า เหตุใดจึงต้องเจอกับความทุกข์ทรมานเช่นนี้
เปรตตนนั้นได้ตอบว่า เขาได้ทำร้ายมารดาของตน

ทันใดนั้น จักรที่หมุนอยู่ก็ได้มาหมุนบนเหนือศีรษะของไมตระกันยกะ
ไมตระกันยกะได้ถามว่าเขาต้องทนทุกข์ทรมานไปอีกนานเท่าใด
เปรตตนนั้นได้ตอบว่า จนกว่าจะมีคนทำบาปเยี่ยงตนอีก จึงจะมีคนมารับช่วงต่อแทน

ไมตระกันยกะได้ยินดังนั้นจึงให้คำปฏิญาณว่า จะขอทูนกงจักรนี้ไปตลอดกาล
เพื่อมิให้มีผู้ใดต้องทำบาปต่อมารดาและต้องรับกรรมเช่นตนอีกต่อไป
ทันใดนั้น กงจักรก็ได้หยุดหมุนและลอยขึ้นไปในอากาศ
หลังจากไมตระกันยกะสิ้นชีพแล้ว ก็ได้ไปอุบัติบนสวรรค์ชั้นดุสิต



Create Date : 31 มีนาคม 2558
Last Update : 3 เมษายน 2558 16:58:33 น. 7 comments
Counter : 4458 Pageviews.  

 
น่าสนใจมากค่ะ


โดย: sawkitty วันที่: 31 มีนาคม 2558 เวลา:16:38:49 น.  

 
สนุกจังค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 1 เมษายน 2558 เวลา:16:53:52 น.  

 



บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
tuk-tuk@korat Travel Blog ดู Blog
ผู้ชายในสายลมหนาว Education Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น




โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 1 เมษายน 2558 เวลา:21:44:54 น.  

 
เคยได้ยินชื่อทีน่ี่ตอนอบรมบัตรไกด์ค่ะ

แต่ไม่เคยมีโอกาสได้ไปเล้ย


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 2 เมษายน 2558 เวลา:14:50:12 น.  

 

มาเยี่ยมชม มาทักทายครับ

มา่ตามชมด้วยคนครับ ที่พิพิธภัณฑ์นครปฐมผมยังไม่เคยไปเลยครับ ผมเคยเห็นแต่โปสการ์ดภาพวัตถุโบราณจากที่นี่เท่านั้นเองครับ

บล็อกนี้ให้ข้อมูลเยอะดีจังเลยครับ แสดงว่าหาข้อมูลมาเยอะแน่ ๆ ผมชอบครับ

ว่าแล้วก็โหวตให้ครับ

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ




บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ผู้ชายในสายลมหนาว Art Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


อิอิ



โดย: อาคุงกล่อง วันที่: 2 เมษายน 2558 เวลา:20:58:41 น.  

 
คิดถึงเรื่องสุวรรณสามเหมือนกันค่ะ แต่อ่านข้อความวิเคราะห์ต่อ...ก็ไม่น่าใช่

เรื่องไมตระกันยกะ เพิ่งเคยได้ยิน...สนุกค่ะ





โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 3 เมษายน 2558 เวลา:16:00:01 น.  

 
กำลังจะไปนครปฐมค่ะ มาหาสถานที่เที่ยวค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 10 พฤศจิกายน 2561 เวลา:21:15:19 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ผู้ชายในสายลมหนาว
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 21 คน [?]




New Comments
[Add ผู้ชายในสายลมหนาว's blog to your web]