Apple has lost a visionary and creative genius, and the world has lost an amazing human being.

But his spirit will forever be the foundation of Apple. 6 October 2011

<<
พฤษภาคม 2558
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
22 พฤษภาคม 2558

แปร๋นท่องกรุง : ถอดรหัสความรู้เรื่องช้าง (1)

10626468_10154547630630215_7890331086041770415_n


สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ (NDMI) ชวนมาร่วมสนุก
แบบได้รับความรู้ไปกับกิจกรรม Museum Family ปี 2
ตอน Museum Family on Tour แปร๋นท่องกรุง

ร่วมทริปตามรอยช้างเรียนรู้เรื่องช้างผ่านจิตรกรรมและประติมากรรมที่วัดพระแก้ว
ศึกษาเรื่องช้างกับพระราชา ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
และปั่นจักรยานตะลุยเมืองโบราณถอดรหัสเรื่องช้าง จังหวัดสมุทรปราการ
ในวันที่ 30, 31 สิงหาคม 2557 และวันที่ 6, 7 กันยายน 2557

เพียงแค่ร่วมสนุกโดยการตอบคำถาม พร้อมบอกเหตุผลว่า
“คิดถึงช้าง คิดถึงอะไร” ส่งคำตอบมาทางอีเมล pairin@ndmi.or.th
และระบุวันที่จะไปร่วมทริป (เลือกได้ 1 วัน) พร้อมชื่อและเบอร์โทรติดต่อกลับ
คำตอบไหนโดนใจกรรมการ รับไปเลยรางวัลร่วมทริปรางวัลละ 2 ที่นั่ง

ปิดรับคำตอบ : วันที่ 26 สิงหาคม 2557 เวลา 24.00 น.
ประกาศผลผู้ที่ได้รางวัลร่วมทริป : วันที่ 27 สิงหาคม
กำหนดการ Museum Family On Tour “แปร๋นท่องกรุง”
วันที่ 30, 31 สิงหาคม 2557 และวันที่ 6, 7 กันยายน 2557


Untitled



ปรกติส่งฝาชาเขียวก็ไม่เคยได้รางวัล ซื้อสลากกินแบ่งก็ไม่เคยถูก
แต่ถ้าเป็นการร่วมสนุกแบบต้องใช้ความรู้บวกวาทศิลป์ก็พอได้
และนั่นจึงเป็นที่มาของการเดินทางออกตามหาเรื่องราวของช้าง
สัตว์ที่ขึ้นชื่อได้ว่า เป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองของไทย

8.00 น. คือกำหนดเวลาการลงทะเบียนที่มิวเซียมสยาม
จากนั้นก็นั่งรถตู้ไปสถานที่อันคุ้นเคย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร
เพื่อเรียนรู้ ช้างกับพระราชา เริ่มจากจิตรกรรมในพระที่นั่งพุทไธสวรรย์
ซึ่งแน่นอนว่าปรากฏช้างอยู่ในภาพพุทธประวัติหลายตอน ได้แก่

ภาพที่ 2 ตอนทูลเชิญพระโพธิสัตว์และสุบินนิมิต
ภาพที่10 ตอนมารผจญ ภาพที่ 13 ตอนทรมานพระยามหาชมพู
ซึ่งเป็นภาพที่โดดเด่นที่สุด โดยมีการแสดงถึงการยืนโรงช้างต้น
ในแบบอยุธยามาจนถึงรัตนโกสินทร์ตอนต้น

ภาพที่ 20 ตอนทรมานช้างนาฬาคีรี และภาพที่ 29 ตอนเสวยสุกรมัทวะ
อยู่บนมุมซ้ายเป็นภาพเทวดากับพระอินทร์ มีช้างอัญเชิญอะไรมาซักอย่าง
ซึ่งก็จะคุ้นกับภาพพุทธประวัติชุดนี้อยู่แล้ว เพียงแต่มาเจาะเฉพาะเรื่องช้าง
ทำให้มีเวลาเหลือไปเจาะภาพกาก ไม่น่าเชื่อว่าบนพระที่นั่งก็มีภาพอีโรติกด้วย

นอกจากภาพจิตกรรมฝาผนังยังปรากฏเรื่องราวคชสารอยู่บนตู้พระธรรม
มีภาพที่อาจจะเป็นหลักฐานเพียงหนึ่งเดียวก็คือการขี่ช้างล่อแพน
ซึ่งปรากฏอยู่ในเอกสารถึงประเพณีในราชสำนักในยามว่างจากศึกสงคราม
ก็จะมีการฝีกซ้อมความชำนาญด้วยการขี่ม้าล่อแพน


Untitled


เมื่อรัชกาลที่ 3 มีช้างงาของหลวงตัวหนึ่งขึ้นระวางชื่อว่า พลายไฟพัทธกัลป์
คนเรียกกันเป็นสามัญว่าพลายแก้ว เป็นช้างฉลาดแต่ดุร้ายตกน้ำมันทุกปี
แทงคนที่ไปล่อแพนตายหลายคนจนขึ้นชื่อลือเลื่องถึงมีรูปภาพเขียนไว้
(ปัจจุบันเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ หอศิลป)

ช้างนั้นอยู่มาจนถึงในรัชกาลที่ 4 พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเกล้าอยู่หัว
มีม้าพระที่นั่งฝีตีนดี ตัวหนึ่งขึ้นระวางเป็น เจ้าพระยาสายฟ้าฟาด
พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดถึงเกิดอยากทรงม้าสายฟ้าฟาด
ล่อแพนช้างพลายแก้วเวลาตกน้ำมัน ที่สนามในวังหน้า

พระองค์ทรงม้าสายฟ้าฟาดสะบัดย่างเข้าไปถึงหน้าช้างแล้วชักตลบหลัง
ทรงยื่นแพนล่อช้างตามตำรา พอพลายแก้วขยับตัวจะไล่
พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าก็ทรงกระทบพระบาทขับม้าจะให้วิ่ง
แต่ม้าสายฟ้าฟาดเข้าใจว่าโปรดให้เต้นก็เต้นน้อยย่ำอยู่กับที่ไม่วิ่งหนีช้าง

หมอช้างที่ขี่พลายแก้ววันนั้น แก้ไขโดยก้มตัวลงเอามือปิดตาช้างทั้งสองข้าง
แล้วขับเบนให้วิ่งไปเสียทางอื่น พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าจึงพ้นอันตราย

(เดินไปด้านหลัง หันหน้าเข้าหาตู้พระธรรม ภาพจะอยู่มุมล่างทางซ้ายมือ)


Untitled


เราไปต่อกันที่ด้านหลังอันเป็นที่ตั้งของพระที่นั่งปฤษฎางคภิมุข
ซึ่งจัดแสดงในหมวด ช้างศึกและเครื่องอาวุธ ทำให้เราเห็นภาพว่า
ในสมัยก่อนพระมหากษัตริย์จะมีการจัดเครื่องประกอบช้างศึกอย่างไร

ที่น่าสนใจคือสัปคัปพระคชาธาร ที่เป็นต้นแบบของธรรมาสน์ จปร
เครื่องสังเค็ดในงานพิธีพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
จากนั้นก็มีการรวมตัวที่ศาลาสำราญมุขมาตย์เพื่อรับแจกอาหารกลางวัน
เตรียมพร้อมการเดินทางไปยังเมืองโบราณ ที่จังหวัดสมุทรปราการ

สิ่งที่ไม่ได้อยู่ในโปรแกรม คือผมมีความฝันที่อยากจะติดตามเรื่องนึง
มันคือศาลต้นจันทน์ ที่เป็นเหมือนอาคารสาธารณะประจำชุมชน
สมัยก่อนนั้นมีอยู่หลายที่ที่เราคุ้นเคยกันดี เช่นศาลาน้ำร้อน ศาลาน้ำเย็น
แต่ศาลาต้นจันทน์มีคนบอกไว้ว่า ถูกรื้อถอนไปไว้ที่เมืองโบราณ

มันจึงเป็นหนึ่งในจุดประสงค์แฝงของการเดินทางมาในครั้งนี้
ก็เพราะว่าเป็นที่รู้กันดี ว่าค่าเข้าเมืองโบราณนั้นแพงขนาดไหน

ประวัติของศาลาต้นจันทน์ กล่าวกันไว้ว่าเป็นอาคารไม้สักชั้นเดียว
ใต้ถุนสูงประมาณเมตรเศษ กว้างยาวประมาณ 8 x 12 เมตร
มีบันไดโบกปูนขึ้นลง 3 บันไดด้วยกัน ด้านหน้า 2 บันได ด้านทิศใต้ 1 บันได
หลังคามุงกระเบื้อง หน้าต่างมีลูกกรง หน้าศาลาทางทิศเหนือมีต้นจันทน์อยู่ 2 ต้น

ต่อมาทางการได้ทำการเวนคืนที่ดินเพื่อขยายถนนอรุณอมรินทร์จึงจำเป็นต้องรื้อออก
แต่เจ้าของเมืองโบราณได้ขอซื้อไปปลูกเก็บรักษาไว้ นั่นเป็นข้อมูลที่ผมมีอยู่

ครั้งหน้าเราจะไปปั่นตามหาช้าง และลุ้นว่าจะตามหาศาลาหลังนี้เจอหรือไม่



Create Date : 22 พฤษภาคม 2558
Last Update : 25 พฤษภาคม 2558 12:49:20 น. 3 comments
Counter : 1654 Pageviews.  

 
เมืองโบราณ...ไม้ได้ไปซักที เพราะเหตุผลนี้ล่ะค่ะ

บอกตำแหน่งของภาพมาด้วยแบบนี้ คราวหน้า จะลองหาดูแบบค่อยๆ ดูมากขึ้นค่ะ


บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ผู้ชายในสายลมหนาว Education Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


ลองกลับไปดูภาพใบเสมา แบบขยายจากไฟล์ต้นฉบับดู แทบมองไม่ออกเลยค่ะ ไม่มีลายเลยมัง ไว้คราวหน้าถ้าได้ไปอีก หรือไปที่ไหน จะถ่ายมาทั้งใบค่ะ (พลาด...มาก เสียดายค่ะ)


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 22 พฤษภาคม 2558 เวลา:18:14:53 น.  

 
กะจะร่วมสนุก อ้าว มันตั้งแต่ปีห้าเจ็ดแหนะ

ชอบความรู้ที่เอามาให้ค่ะ โหวตเหมือนพี่หนูนะคะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 25 พฤษภาคม 2558 เวลา:9:08:50 น.  

 
อ่านย้อนกลับมาค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 29 พฤษภาคม 2558 เวลา:15:06:24 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ผู้ชายในสายลมหนาว
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 21 คน [?]




New Comments
[Add ผู้ชายในสายลมหนาว's blog to your web]