Apple has lost a visionary and creative genius, and the world has lost an amazing human being.

But his spirit will forever be the foundation of Apple. 6 October 2011

<<
มีนาคม 2555
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
30 มีนาคม 2555

เชียงใหม่ : วัดพระสิงห์วรวิหาร (5)


หญิงชาววังกำลังจัดพานพุ่ม พร้อมทั้งหยอกล้อกันไปด้วย
//www.sri.cmu.ac.th/~maeyinglanna/main4/main2.php


พี่เลี้ยงทั้งห้าของพระธิดาเกศสุริยง พบสายป่านว่าวและชายหนุ่มอยู่กับองค์หญิง
ก็เกรงกลัวความผิดที่ไม่ปกป้องเจ้านายของพวกตนตามที่พญายักษ์สั่งไว้
จึงคิดหาทางกำจัดผู้บุกรุกเพื่อไม่ให้นำความเดือดร้อนมาให้พวกตนได้อีกต่อไป
ในคืนนั้นพระสุวรรณหงส์ก็ทรงสุบินร้ายว่า มีหอกพุ่งเข้าแทงตรงหัวใจ

เมื่อตื่นจากบรรทม พระสุวรรณหงส์ก็เสด็จขึ้นเรือวิเศษบินไปยังเมืองมัตตัง
แล้วก็ไต่สายป่านว่าวขึ้นไปพบเจ้าหญิงเหมือนเช่นเคย แต่พี่เลี้ยงทั้งห้าได้ทำกับดัก
ไว้ที่หน้าต่าง หอกยนต์ก็ลั่นเสียบพระอุระทันที เจ้าชายได้รับบาดเจ็บ
แต่ก็สามารถหนีขึ้นเรือกลับมาสิ้นพระชนม์ที่พระนครของตนเอง
พระองค์ก็ทรงสาบานว่าจะขอล้างแค้นองค์หญิงทุกๆ ชาติไป

พระธิดาคอยพระสุวรรณหงส์อยู่เป็นเวลาหลายวัน แต่ก็ไม่พบว่าพระองค์จะเสด็จมา
นางจึงมองออกไปนอกหน้าต่าง และก็ต้องแปลกใจที่พบรอยเลือด นางเกิดความสงสัย
จึงตามรอยเลือดไปจนถึงป่า และมีความเศร้าโศกและเสียใจมากจนหมดสติอยู่ในป่านั้นเอง
พระอินทร์ทรงรู้สึกสงสารจึงช่วยให้ฟื้นคืนสติและทรงช่วยแปลงร่างให้เป็นชาย

องค์หญิงเกศสุริยงปลอมตัวเป็นพราหมณ์หนุ่มเพื่อจะได้เดินทางไปได้อย่างปลอดภัย
นอกจากนี้พระอินทร์ยังได้ประทานน้ำมันทิพย์บรรจุขวดเล็ก ๆ และศรวิเศษให้อีกด้วย
น้ำมันนี้สามารถใช้ชุบชีวิตคนตายให้ฟื้นขึ้นมาได้ พระอินทร์ยังได้ทรงแปลงร่างอีกส่วน
ของเจ้าหญิงเกศสุริยงให้เป็นร่างปลอมอยู่ในปราสาท เพื่อไม่ให้พญายักษ์สงสัย

พราหมณ์สุริยงในร่างแปลง ก็ออกเดินทางมาถึงศาลาของยักษ์นามว่า กุมภัณฑ์
เมื่อเห็นผู้บุกรุกก็เกิดความโกรธและต้องการจะกินนาง แต่นางก็ต่อสู้และฆ่ายักษ์ได้
ด้วยความสงสารนางจึงใช้น้ำมันทิพย์ชุบชีวิตยักษ์ หลังจากฟื้นแล้วยักษ์กุมภัณฑ์
ก็อ้อนวอนขออภัยและสาบานว่าจะเป็นทาสผู้ซื่อสัตย์ของนางตลอดไป

แล้วทั้งนายและบ่าวก็ออกเดินทางไปด้วยกัน เพื่อไปให้ถึงเมืองไอยรัตน์โดยเร็ว
ยักษ์กุมภัณฑ์จึงให้นายของตนนั่งบนบ่าแล้วก็เดินทางมาจนถึงพระนคร
เกศสุริยงในร่างพราหมณ์จึงบอกให้ยักษ์แปลงร่างเป็นพราหมณ์เพื่อไม่ให้ใครสงสัย
เมื่อมาถึงพระนคร ทั้งคู่ก็ทราบข่าวสิ้นพระชนม์ของพระสุวรรณหงส์

พราหมณ์เกศสุริยงจึงอาสาช่วยให้เจ้าชายฟื้นพระชนม์ชีพอีกครั้ง ทั้งพระราชา
และเหล่าพสกนิกรต่างก็ปลื้มปิติยินดีเป็นล้นพ้น เกศสุริยงในร่างพราหมณ์หนุ่ม
ใช้ชื่อว่าอัมพร ก็กลายเป็นที่โปรดปรานของพระราชาและพระราชินี
แต่พระสุวรรณหงส์ก็มีความสงสัยเพราะพราหมณ์อัมพรดูคล้ายเจ้าหญิงเกศสุริยงมาก

พระองค์จึงพยายามทุกวิถีทางเพื่อพิสูจน์แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ
ในที่สุดพระองค์เรียกหญิงงามที่สุดเข้ามายังพระนคร ทำทีว่าเป็นคนรักใหม่
ปรากฏว่าพราหมณ์อัมพรเกิดอาการโกรธด้วยความรู้สึกว่าตนเองถูกทรยศ
จึงหนีออกจากเมืองและทิ้งพวงมาลัยดอกไม้เพื่อเป็นสัญลักษณ์ไว้เบื้องหลัง

เมื่อทอดพระเนตรเห็นพวงมาลัยเจ้าชายก็ทรงทราบทันที ด้วยความรู้สึกทั้งดีใจ
และแค้นใจ พระสุวรรณหงส์เสด็จขึ้นเรือวิเศษแล้วบินไปยังเมืองมัตตัง
เผชิญหน้ากับพญายักษ์ ทั้งคู่เกิดต่อสู้กันอย่างดุเดือด ที่สุดพระสุวรรณหงส์ก็เป็นฝ่ายชนะ
พระองค์เสด็จเข้าไปในห้ององค์หญิงเกศสุริยงเพื่อล้างแค้น

พระองค์ได้อธิษฐานว่า ถ้าหากว่ารักพระองค์จริงและมีความซื่อสัตย์ต่อพระองค์
ขอให้โลหิตของนางมีรสหวานแต่ถ้าเป็นไปในทางกลับกันก็ขอให้โลหิตของนางมีรสขม
หลังจากจบคำอธิษฐาน พระองค์ก็ตัดคอนางด้วยดาบแล้วชิมโลหิตของนางดู
ปรากฏว่ามีรสหวาน เจ้าชายผู้เศร้าโศกก็ทรุดลงกับพื้นแล้วร่ำไห้คร่ำครวญ



การแต่งกายของนางยักษ์ 5 ตน พี่เลี้ยงของนางเกศสุริยง
จะเห็นทรงเครื่องประดับอาภรณ์ต่างๆ แบบหญิงชาววัง
//www.sri.cmu.ac.th/~maeyinglanna/main4/main2.php

พี่เลี้ยงสะดุ้งตื่นและก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าเจ้านายของตนเสียชีวิตไปแล้ว
ทั้งห้านางรู้สึกเสียใจแล้วก็สารภาพผิดต่อเจ้าชาย ข่าวการจากไปแพร่ไปถึง
ยักษ์กุมภัณฑ์ จึงรีบไปทูลให้เจ้าชายใช้น้ำมันทิพย์ซึ่งพระอินทร์ประทานให้
ทำให้นางฟื้นคืนชีพมาอีกครั้ง ทั้งคู่กลับมาใช้ชีวิตคู่กันอีก

เจ้าชายทรงนำพระชายาเดินทางด้วยม้ากลับสู่พระนครของพระองค์เอง
ในระหว่างทางทั้งคู่ก็ทรงหยุดพักและเผลอหลับไป มีนางยักษ์ตนหนึ่งผ่านมาพบ
นางยักษ์เกิดนึกรักพระสุวรรณหงส์ผู้มีรูปร่างงามขึ้นมาทันที และผลักองค์หญิงเกศสุริยง
ตกลงไปในแม่น้ำ แล้วก็แปลงร่างเป็นองค์หญิงแทนโดยบรรทมเคียงคู่กับพระสวามี

หลังจากตื่นบรรทม เจ้าชายก็ไม่ได้ทรงสงสัยอะไรนอกจากได้กลิ่นแปลกประหลาด
จากเรือนร่างของพระชายาตน พระองค์ก็ไม่ได้บ่นเกี่ยวกับเรื่องกลิ่นนี้
เมื่อเสด็จมาถึงพระนครโดยธรรมชาติของยักษ์ก็ย่อมจะชอบกินเนื้อดิบ
ดังนั้นกลางคืนจึงแอบออกมานอกพระนครเพื่อออกจับสัตว์ป่ากินเป็นอาหาร

ในขณะเดียวกันยักษ์กุมภัณฑ์ก็นำม้าของพระสุวรรณหงส์มากินน้ำที่แม่น้ำ
ก็มาพบกับองค์หญิงเกศสุริยงเข้าโดยบังเอิญ จึงรีบนำนางตรงไปยังเมืองไอยรัตน์
ท่ามกลางความสับสนอลหม่านของผู้คน นางยักษ์ก็หนีออกจากพระนครไป
แต่ก็ถูกยักษ์กุมภัณฑ์สกัดจับไว้ได้แล้วก็ฆ่านางเสียในระหว่างการต่อสู้กัน
และแล้วทั้งสองพระองค์ก็ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขที่นครไอยรัตน์

ห้องภาพที่ 1 เริ่มตอนล่างของหน้าต่างครึ่งซ้าย เป็นฉากเมืองไอยรัตน์
พระสุวรรณหงส์ตาย นางเกศสุริยงสลบด้วยความเศร้าโศก
พระอินทร์ได้ช่วยให้นางฟื้นและแปลงร่างนางให้เป็นพราหมณ์หนุ่ม
พราหมณ์เกศสุริยงฆ่ายักษ์กุมภัณฑ์ตาย แล้วเดินทางไปเมืองไอยรัตน์

ห้องภาพที่ 2 พระสุวรรณหงส์พาพราหมณ์อัมพรเดินชมสวน พระสุวรณหงส์ออกอุบาย
ให้หญิงอื่นเข้ามาสนิทสนมต่อหน้าต่อตา นางเสียใจหนีกลับเมืองมัตตัง พระสุวรณหงส์ออกติดตาม

ห้องภาพที่ 3 เมื่อตามถึงเมืองพบตัวปลอมซึ่งไม่ทราบเรื่องจึงเสียใจคิดฆ่าตัวตาย
แต่นางเกศสุริยงตัวจริงห้ามไว้ทันทำให้ทั้ง สองคนเข้าใจกัน
เมื่อท้าวสามลทราบเรื่องและหวงลูกสาวจึงยกทัพไปล้อมปราสาท
และต่อสู้กับพระสุวรรณหงส์ แต่ก็แพ้พระสุวรรณหงส์

ห้องภาพที่ 4 พระสุวรรณหงส์กับนางเกศสุริยงเดินเท้ากลับเมืองไอยรัตน์
ระหว่างทางถูกนางยักษ์ทำอุบายแล้วแปลงกาย เป็นนางเกศสุริยงและกลับเข้าเมือง
ภายหลังนางยักษ์ถูกฆ่าตายโดยยักษ์กุมภัณฑ์ๆ ออกตามหานางเกศสุริยงจนพบ
จึงพานางไปอยู่กับนางเมขลา แล้วยักษ์กุมภัณฑ์เดินทางไปเมืองไอยรัตน์
บอกเล่าความจริงทุกอย่างให้พระสุวรรณหงส์ทราบ

บริเวณที่เป็นผนังย่อมุมรวมถึงผนังห้องภาพที่ 5 นั้น ภาพลบเลือนทั้งหมด



Create Date : 30 มีนาคม 2555
Last Update : 30 มีนาคม 2555 9:46:54 น. 3 comments
Counter : 2130 Pageviews.  

 
อ่านแล้วสนุกดีนะคะ
การที่จะดูภาพผนังให้เป็น จำเป็นที่จะต้องรู้ภูมิหลังของเรื่องราวของภาพจริงๆ
ไม่งั้นดูเท่าไหร่ก็ไม่รู้เรื่อง
ทำอย่างไรเราจึงจะให้คนดูภาพผนังได้เข้าใจเรื่องราวอย่างนี้ทุกๆ ครั้ง
และทุกๆ วัดได้นะ
ทำแผ่นพับแจก ..? อย่างนั้นหรือ
แค่ทศชาตินี่ก็จำเรื่องกันไม่หวาดไม่ไหวแล้ว



โดย: addsiripun วันที่: 30 มีนาคม 2555 เวลา:12:49:51 น.  

 
เล่าได้สนุกมากค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 30 มีนาคม 2555 เวลา:13:01:01 น.  

 


โดย: Kavanich96 วันที่: 31 มีนาคม 2555 เวลา:3:56:47 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ผู้ชายในสายลมหนาว
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 21 คน [?]




New Comments
[Add ผู้ชายในสายลมหนาว's blog to your web]