Apple has lost a visionary and creative genius, and the world has lost an amazing human being.

But his spirit will forever be the foundation of Apple. 6 October 2011

<<
สิงหาคม 2556
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
19 สิงหาคม 2556

อัฏฐปาฏิหาริย์ : วัดเกาะแก้วสุทธาราม (6)

IMG_2473

รูปที่ 6 ยมกปาฏิหาริย์ น่าจะเป็นเหตุการณ์ที่รู้จักกันดีที่สุด
พบในจิตรกรรมได้บ่อยมาก ย้อนกลับไปได้ถึงในรูปสลักทวารวดี
ยมก แปลว่า สองหรือคู่ ยมกปาฏิหาริย์ จึงหมายถึง ปาฏิหาริย์แบบคู่

ในช่วงปลายพรรษาที่ 6 พระพุทธเจ้าได้เสด็จมาประทับที่พระเวฬุวันวิหาร
กรุงราชคฤห์ เศรษฐีผู้หนึ่งต้องการรู้ว่า ใครเป็นพระอรหันต์ที่สมควรเคารพ
จึงนำบาตรไปแขวนที่ปลายไม้ไผ่สูง 15 วา พร้อมประกาศว่า

ผู้ใดเป็นพระอรหันต์ ขอเชิญเหาะมาในอากาศและถือบาตรไม้จันทร์แดงไป
ข้าพเจ้าพร้อมครอบครัวจะนับถือบูชาตลอดชีวิต แต่หากภายใน 7 วัน
ไม่มีผู้ใดทำได้ จะถือว่าในโลกนี้ไม่มีพระอรหันต์ดังที่มหาชนกล่าวถึงเลย

เข้าสู่วันที่ 7 ยังไม่มีใครเหาะมาถือบาตรตามประกาศของเศรษฐี
พระปีณโฑลภาระทวาชะ เกรงว่าผู้คนจะดูหมิ่นพุทธศาสนาเป็นการเสื่อมเสีย
จึงทำอิทธิปาฏิหาริย์เหาะขึ้นไปในอากาศแล้วนำบาตรมาถือไว้
สร้างความปีติเลื่อมใสให้แก่ท่านเศรษฐี

IMG_2474

ต่อมาพระพุทธเจ้าทรงทราบความ จึงทรงตำหนิว่า เป็นการไม่สมควร
และทรงบัญญัติห้ามสาวกทำปาฏิหาริย์สืบไป
ซึ่งเมื่อฝ่ายเดียรถีย์ได้ทราบเรื่องพากันดีใจ คิดเห็นช่องที่ได้โอกาสยกตน
จึงเที่ยวประกาศว่า จะทำปาฏิหาริย์แข่งฤทธิ์กับพระพุทธเจ้า

พระเจ้าอชาตศัตรูทรงสดับข่าว จึงกราบทูลถามว่า พระองค์จะทำประการใด
พระพุทธเจ้าทรงตรัสตอบว่า ถ้าเดียรถีย์ทำปาฏิหาริย์ พระองค์ก็จะทำ
ส่วนข้อบัญญัติที่ทรงประกาศนั้น พระองค์ห้ามเฉพาะพระสาวกเท่านั้น
ไม่ได้ห้ามตัวพระพุทธเจ้าเอง ฉนั้นพระองค์จะทรงทำยมกปาฏิหาริย์
นับแต่นี้ไปอีก 4 เดือน ในวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำเดือน 8

สถานที่ที่จะกระทำปาฏิหาริย์คือกรุงสาวัตถี
แต่จะให้ปรากฏเห็นได้ที่กรุงราชคฤห์ที่พระองค์อยู่ตอนนี้
เดียรถีย์พอทราบข่าวก็เดินทางไปที่กรุงสาวัตถี
เพื่อทำปาฏิหาริย์แข่งกับพระพุทเจ้า เมื่อมาถึงก็สร้างมณฑป
พร้อมประกาศให้ชาวเมืองทราบว่าจะทำปาฏิหาริย์ ณ ที่นี้

เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จมาถึงกรุงสาวัตถี พระเจ้าปัสเสนทิโกศลทูลถามว่า
พระองค์จะทรงทำปาฏิหาริย์ ณ สถานที่ใด พระพุทธเจ้าตรัสว่า
พระองค์จะทำปาฏิหาริย์ที่ใกล้ร่มไม้คัณฑามพฤกษ์หรือต้นมะม่วง
เดียรถีย์ล่วงรู้ข่าวก็ทำลายต้นมะม่วงบริเวณนั้น เพื่อไม่ให้พระองค์ทำตามที่รับสั่งได้

IMG_2477

เช้าวันเพ็ญเดือน 8 ผู้ดูแลต้นไม้ในอุทยานเห็นมะม่วงสุกอยู่ผลหนึ่ง
ซึ่งเดียรถีย์ไม่ได้รุกล้ำเข้ามา จึงตั้งใจจะนำไปถวายพระเจ้าปัสเสนทิโกศล
ระหว่างทางพบพระพุทธเจ้า นายคัณฑะมีจิตศรัทธาเลื่อมใสจึงน้อมถวาย
พระอานนท์จึงเอาผลมะม่วงมาคั่น ทำเป็นน้ำปานะถวายให้ทรงเสวย

จากนั้นพระพุทธเจ้ารับสั่งให้นายคัณฑะเอาเมล็ดมะม่วงไปปลูกบนพื้นดิน
ก่อนทรงใช้น้ำล้างพระหัตถ์รดลง เมล็ดมะม่วงก็เริ่มงอกในทันทีเกิดเป็นต้นสูงใหญ่
ช่วงบ่ายประชาชนทั้งหลายมาชุมนุมกัน ณ บริเวณรอบต้นมะม่วงต้นนั้น
พระพุทธเจ้าทรงทำปาฏิหาริย์เหาะขึ้นไปในอากาศ ทรงเนรมิตพระองค์ขึ้นอีกพระองค์หนึ่ง

แสดงอิริยาบถประทับยืน ประทับนั่ง สลับกันกับอีกพระองค์
เมื่อพระองค์ตรัสถาม พระพุทธนิรมิตรตรัสตอบสลับกันไปมา
แล้วทรงทำปาฏิหาริย์ให้เกิดท่อน้ำท่อไฟ พวยพุ่งออกจากพระกายเป็นคู่ๆ
สว่างงดงามจับท้องฟ้าแลเป็นเรื่องมหาอัศจรรย์ยิ่ง

ตอนนี้เป็นตอนสำคัญ เรื่องเดียวกันช่างได้วาดภาพออกมาถึง 2 ช่อง
เท่ากับ 7 ช่องที่เตรียมไว้จึงได้มาสุดผนังที่ยมกปาฏิหาริย์นี่เอง

แล้วอีกสองตอนที่เหลือ ช่างจะแก้ปัญหาอย่างไร ?



Create Date : 19 สิงหาคม 2556
Last Update : 20 สิงหาคม 2556 14:53:04 น. 4 comments
Counter : 2533 Pageviews.  

 

มาเยี่ยมชม มาทักทายครับ

มาตามชมภาพจิตรกรรมฝาผนังด้วยคนครับ ผมเพิ่งทราบนะครับวง่ามีคำบรรยายเรื่องราวในภาพด้วย ดีจังเลยครับ ถ้ามีแบบนี้ทุกวัดที่มีภาพจิตรกรรมฝาผนังก็คงจะดีนะครับ

อิอิ


โดย: อาคุงกล่อง วันที่: 19 สิงหาคม 2556 เวลา:18:07:38 น.  

 
นั่นสินะคะ แก้ปัญหาอย่างไรน้อ

ขอบคุณที่เอามาแบ่งปันกันค่ะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 20 สิงหาคม 2556 เวลา:10:51:28 น.  

 
พระองค์ห้ามแต่พระสาวกเท่านั้น ไ่ม่ได้ห้ามตัวพระองค์เอง

มหาอัศจรรย์ยิ่ง ใช้คำนี้ มองเห็นภาพเลยค่ะ


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 21 สิงหาคม 2556 เวลา:22:10:07 น.  

 


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 22 สิงหาคม 2556 เวลา:11:20:34 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ผู้ชายในสายลมหนาว
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 21 คน [?]




New Comments
[Add ผู้ชายในสายลมหนาว's blog to your web]