BlogGang.com : : ผู้ชายในสายลมหนาว : กรุงเทพมหานคร : พระราชวังพญาไท (1)

กรุงเทพมหานคร : พระราชวังพญาไท (1)

ปี 2452 รัชกาลที่ 5 โปรดเกล้าฯให้สร้างวังพญาไทขึ้นเป็นที่ประทับ
ส่วนพื้นที่ด้านตรงข้ามกับพระตำหนัก โปรดเกล้าฯ ให้เป็นที่ทำนา
รวมทั้งมีโรงนาเพื่อใช้ประกอบพระราชพิธีแรกนาขวัญหลายครั้ง

วังพญาไทใช้เป็นที่ประทับของพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ในระยะเวลาอันสั้น
เพราะเมื่อหลังจากมีการขึ้นเรือนใหม่ได้เพียงไม่กี่เดือนพระองค์ก็เสด็จสวรรคต
ในรัชสมัยต่อมา พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
ได้ทูลเชิญสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี พระพันปีหลวง
พระราชมารดา มาประทับที่พระราชวังแห่งนี้ด้วย จนกระทั่งสวรรคตเมื่อปี 2463

ต่อมารัชกาลที่ 6 ได้ทรงรื้อพระตำหนักพญาไท เหลือไว้เพียง พระที่นั่งเทวราชสภารมย์
ซึ่งเป็นท้องพระโรง และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระที่นั่งใหม่หลายพระองค์
และสถาปนาวังเป็น พระราชวังพญาไท พระองค์เสด็จมาประทับที่พระราชวังนี้เป็นประจำ
จนเริ่มมีพระอาการประชวรในปี 2468 จึงเสด็จจากพระราชวังพญาไท
ไปประทับในพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน ในพระบรมมหาราชวัง จนกระทั่งสวรรคต

พระราชวังพญาไท ยังเคยเป็นที่ประทับของ สมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจี พระวรราชชายา
พระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี และเป็นที่พำนักของ พระสุจริตสุดา พระสนมเอก อีกด้วย
สิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งของพระราชวังพญาไทในสมัยรัชกาลที่ 6 คือดุสิตธานี
หรือเมืองประชาธิปไตยย่อส่วน ที่รัชกาลที่ 6 ได้โปรดเกล้าให้สร้างเป็นเมืองจำลอง
เพื่อทดลองการปกครองระบอบประชาธิปไตย ซึ่งปัจจุบันไม่มีเหลือให้เห็นแล้ว

พระที่นั่งไวกูณฐเทพยสถาน

พระที่นั่งไวกูณฐเทพยสถาน ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันออกของพระที่นั่งพิมานจักรี
เป็นพระที่นั่งก่ออิฐฉาบปูน เดิมเป็นพระที่นั่ง 2 ชั้น และได้ต่อเติมเป็นพระที่นั่ง 3 ชั้น
พระที่นั่งองค์นี้มีทางเชื่อมต่อกับพระที่นั่งอุดมวนาภรณ์ในชั้นที่ 2
โดยชั้นที่ต่อเติมขึ้นมาในภายหลังจัดเป็นห้องบรรมทมและห้องสรงส่วนพระองค์

พระที่นั่งพิมานจักรี

พระที่นั่งพิมานจักรี เป็นพระที่นั่งองค์ประธานของหมู่พระที่นั่งภายในพระราชวังพญาไท
เป็นพระที่นั่งก่ออิฐฉาบปูน 2 ชั้น โดยมีสถาปัตยกรรมทรงโรมันเนสก์ผสมกับทรงกอธิค
จุดเด่นของพระที่นั่งองค์นี้อยู่ที่ยอดโดมสีแดง ซึ่งในอดีตใช้สำหรับชักธงมหาราช
ขึ้นเหนือพระที่นั่งเมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จมาประทับ

บริเวณฝาผนังใกล้กับเพดานและเพดานมีภาพเขียนลายดอกไม้แบบปูนเปียกซึ่งงดงามมาก
ภาพแบบนี้ผู้เขียนจะต้องมีฝีมือมากทีเดียว เพราะเขียนในขณะที่ปูนยังคงมีความชื้น
การทำงานจึงมีเวลาจำกัด แต่ข้อดีคือสีจะติดทนและสดใส แม้จะผ่านไปนานมากก็ตาม
อีกที่หนึ่งที่เคยเห็นก็คือ พระที่นั่งอนันตสมาคม เขียนโดยลีโอนาโด กินี
แต่ที่นี่จำไม่ได้ว่าใคร เพราะมันจีๆ นี่ละ อาจจะเป็น Feroci หรือเปล่า ?

บานประตูเป็นไม้จำหลักปิดทอง มีจารึกพระปรมาภิไธยย่อเหนือบานประตูว่า ร.ร.๖
หมายถึง สมเด็จพระรามราชาธิบดี รัชกาลที่ ๖ พระที่นั่งนี้ใช้เป็นที่ประทับ
ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวและพระมเหสี
จะเห็นได้ว่าพระที่นั่งองค์ใดเป็นที่ประทับ มักจะมีคำว่าพิมานประกอบอยู่เสมอ

พระที่นั่งศรีสุทธนิวาส

ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกของพระที่นั่งพิมานจักรี เป็นพระที่นั่งก่ออิฐฉาบปูน 2 ชั้น
มียอดโดมเช่นเดียวกับพระที่นั่งพิมานจักรีแต่ขนาดเล็กกว่า ตัวอาคารมีสถาปัตยกรรม
แบบ English Gothic บริเวณเพดานประดับลวดลายจิตรกรรมแบบอาร์ต นูโว
และผนังเป็นภาพเขียนสีน้ำมันในแบบตะวันตกโดยมีทางเชื่อมกับพระที่นั่งพิมานจักรี

เดิมพระที่นั่งองค์นี้ชื่อว่า พระที่นั่งลักษมีพิลาศ ตามพระนามของพระนางเธอลักษมีลาวัณ
อดีตพระคู่หมั้น ต่อมา จึงเปลี่ยนนามพระที่นั่งองค์นี้เป็น พระที่นั่งศรีสุทธนิวาส ดังเช่นปัจจุบัน
ในอดีตใช้เป็นที่รับรองสำหรับเจ้านายฝ่ายใน

พระที่นั่งเทวราชสภารมย์

เป็นอาคารที่ก่ออิฐถือปูนที่อยู่ด้านหน้าของพระราชวังพญาไทในปัจจุบัน
ต้องเข้าใจก่อนว่า เมื่อรัชกาลที่ 5 มรงมาปลูกสร้างพระตำหนักนั้นส่วนใหญ่มีเพียง
เรือนไม้เท่านั้น ยกเว้นแต่อาคารก่ออิฐถือปูนหลังหนึ่ง เมื่อสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ
พระบรมราชชนนี เสด็จมาประทับ ณ พระราชวังพญาไท ได้ใช้พระที่นั่งองค์นี้
รับรองแขกที่มาเข้าเฝ้า แต่ตัวพระตำหนักที่พระองค์ประทับนั้นก็ยังเป้นเรือนไม้

เมื่อพระบรมราชชนนีสวรรคต ตำหนักไม้เหล่านั้นก็ทรุดโทรมลง รัชกาลที่ 6 จึงโปรดให้รื้อออก
เพื่อสร้างพระที่นั่งก่ออิฐถือปูนที่เราเห็นในตอนนี้ มีเพียงพระที่นั่งเทวราชสภารมย์
ที่เป็นสิ่งก่อสร้างหลังเดียวที่หลงเหลือมาจากสมัยรัชกาลที่ 5

โดยเป็นอาคารโดยมีลักษณะทางสถาปัตยกรรมเป็นแบบไบแซนไทน์
ภายในท้องพระโรงทาสีฉูดฉาดหลายสี และมีพระปรมาภิไธยย่อ สผ
หรือ เสาวภาผ่องศรี อยู่ตอนบนใกล้หลังคาภายในพระที่นั่ง

พระที่นั่งแห่งนี้ใช้เป็นท้องพระโรงสำหรับงานต่าง ๆ เช่น ใช้เป็นที่ประกอบพิธีทางศาสนา
ใช้รับรองแขกส่วนพระองค์ ใช้เป็นโรงละคร เป็นต้น

พระที่นั่งอุดมวนาภรณ์

ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันออกของพระที่นั่งไวกูญฐเทพยสถาน ก่ออิฐฉาบปูน 2 ชั้น
เน้นการออกแบบที่เรียบง่าย โครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กแบบอาร์ต นูโว
ตกแต่งด้วยกระเบื้องเคลือบสีขาว สันนิษฐานว่าการสร้างพระที่นั่งองค์นี้
ไม่น่าจะมีความเกี่ยวข้องกับหมู่พระที่นั่งพิมานจักรี แต่เมื่อใช้เป็นที่ประทับของ
พระสุจริตสุดาและพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี พระสนมเอก
และพระวรราชเทวีในรัชกาลที่ 6 ตามลำดับ จึงมีการสร้างทางเชื่อมกับ
พระที่นั่งไวกูญฐเทพยสถานในชั้นที่ 2 ทำให้สามารถเดินถึงกันกับหมู่พระที่นั่งได้

Create Date : 02 เมษายน 2553

Last Update : 5 เมษายน 2553 10:04:29 น.

8 comments

Counter : 2352 Pageviews.