กุมภาพันธ์ 2557
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
232425262728 
10 กุมภาพันธ์ 2557

:: กะว่าก๋าปัจฉิมนิเทศ 2557 ::




:: กะว่าก๋าปัจฉิมนิเทศ 2557 ::


สถานที่ : แผนกวิชาสถาปัตยกรรม
วิทยาลัยเทคนิคเชียงใหม่


วันที่ : 22 มกราคม 2557









ผมเริ่มต้นการบรรยายด้วยการให้น้องๆทั้งหมดหลับตา
แล้วผมก็ร้องเพลง “ทะเลใจ” ของคาราบาวให้ทุกคนฟัง














ปัจฉิม แปลว่า ครั้งสุดท้าย
นิเทศ แปลว่า คำแนะนำ
ปัจฉิมนิเทศ แปลว่า คำแนะนำในครั้งสุดท้าย

ส่วนใหญ่วิทยากรที่มาบรรยาย
มักจะบอกกับน้องๆว่า
ทำอย่างไรให้ประสบความสำเร็จในการทำงาน
ต้องสมัครงานอย่างไรจึงจะได้งาน
ต้องทำงานอะไรจึงจะได้เงินเยอะๆ
ฯลฯ
แต่ผมจะไม่พูดเรื่องนั้นเลย
หัวข้อที่ผมจะพูด คือ


‘มนุษย์ทุกคนล้วนเท่าเทียมกัน’


ไม่รู้นะครับว่าตอนนี้น้องๆจะรู้สึกถึงความเท่าเทียมกันมั้ย
มันไม่ใช่เรื่องของความอ้วน ความผอม ความสวย ความขี้เหร่
ไม่ใช่เรื่องของความรวย ความจน
แต่เป็นเรื่องของตัวเราจริงๆ
ตอนนี้ทุกคนอาจจะรู้สึกว่า คนเราจะไปเท่าเทียมกันได้อย่างไร
ไม่มีทางเลย เพราะเราเรียนได้เกรด 1.00 1.80 2.00
ในขณะที่เพื่อนบางคนเรียนได้ 4.00
แล้วจะไปเท่าเทียมกันได้อย่างไร
สิ่งนี้ (เกรด) คือ มาตรฐานที่ใช้วัดคุณภาพทางการศึกษา
เพื่อจะบอกว่าใครรู้มากรู้น้อย
แต่จริงๆแล้วในทางศาสนาเราพูดกันมาโดยตลอด
ว่าคนเราเกิดมาเท่าเทียมกัน
เท่าเทียมกันในทุกๆเรื่อง
สิ่งนั้นคือ การเกิด การแก่ การเจ็บ และการตาย
ต่อให้เป็นกษัตริย์ก็ต้องตาย
คนหนุ่มอายุ 12 หรือ 23 ก็ต้องตาย
คนแก่อายุ 80 ก็ต้องตาย
นี่คือความเท่าเทียมที่หนึ่ง
















แต่สิ่งที่ผมค้นพบ
แล้วเสียใจมากที่มาค้นพบหลังจากเรียนจบไปแล้วหลายปี
คือ ผมสงสัยมาตลอด
ว่าเราใช้เวลาในโรงเรียนหรือสถานศึกษาเยอะมาก
เกือบจะครึ่งหนึ่งของชีวิตที่อยู่กับเพื่อน
อยู่กับสถานศึกษา อยู่กับอาจารย์
จากนั้นชีวิตของเราก็ไปอยู่กับสถานที่ทำงาน
ไม่ว่าจะเป็นงานส่วนตัวหรืองานที่บริษัท
เราใช้เวลาไปเกือบตลอดชีวิต
แล้วในที่สุด...เราก็ตาย

คำถาม คือ ช่วงเวลาส่วนใหญ่ในชีวิต
ที่เราใช้ไปในสถานศึกษาก่อนที่จะออกไปทำงาน
เคยถามตัวเองมั้ยครับ
ว่าเราเรียนไปเพื่ออะไร ?
เคยสงสัยมั้ยครับว่าทำไมเราต้องเรียนออกแบบมูลฐาน
ทำไมเราต้องเรียนวิชาภาษาอังกฤษ
ทั้งๆที่เราอาจจะไม่อยากเรียน
บางคณะฯต้องเรียนผ่ากบ
ทำไมต้องไปจำว่านายกฯเปรูชื่ออะไร
ประเทศในอาเซียนมีกี่ประเทศ
ฯลฯ

เคยสงสัยมั้ยครับ
ว่าเราเรียนรู้เรื่องราวต่างๆเหล่านี้ไปทำไม
ตั้งเยอะแยะมากมาย
และหลังจากจบมาใช้ชีวิตทำงาน
ในแต่ละวันหัวของเราต้องไปรับเอาข่าว กปปส.
ข่าวยิ่งลักษณ์ ข่าวดาราคนนี้ท้องกับคนนั้น
ข่าวดาราคนนั้นเลิกกับคนนี้ ฯลฯ

สิ่งต่างๆเหล่านี้เรียกว่า ‘ความรู้’
คือสิ่งที่เราไปรับเข้ามาในตัว
ใครรับข้อมูลได้มากมายก็ดูเหมือนว่ารู้เยอะ ฉลาด

หนังสือเล่มหนึ่งมี 100 หน้า
ถ้าใครจำได้ทั้ง 100 หน้า คนนั้นถือว่าเป็นคนฉลาด
ใครจำได้ครึ่งเล่ม เรียกว่า ปานกลาง
ถ้าใครจำได้แค่สองแผ่น เรียกว่า โง่

นี่คือการตัดสินมาตรฐานการศึกษาในรูปแบบปกติที่เราเคยชิน

แต่สิ่งที่ผมเรียนรู้ก็คือ
พวกเราเท่าเทียมกันจริงๆ
ไม่ว่าคนที่ถูกเรียกว่าเป็นนักปราชญ์
หรือคนที่ถูกเรียกว่าอาชญากร
ทุกคนจะมีดวงไฟดวงหนึ่ง
(ชี้ไปที่อุปกรณ์ประกอบการบรรยาย
ซึ่งเป็นแท่นโคมไฟอันหนึ่งมีหลอดไฟสีเหลือง ปิด-เปิดได้)


















หลอดไฟนี้เหมือนพวกเราทุกคน
เหมือนผม เหมือนคุณ เหมือนอาจารย์
เหมือนพระเกจิชื่อดัง เหมือนนักร้องที่คุณชอบ
ทุกคนเป็นแบบนี้ (ชี้ไปที่หลอดไฟ)

(เปิดสวิชท์ไฟ หลอดไฟสว่าง)
ทุกคนมีแสงสว่างเท่ากัน
มีความแรงของแสงไฟเท่ากัน
แต่ถามว่าทำไมเวลาเราเกิดเป็นคนๆหนึ่งขึ้นมา
ทำไมเราจึงรู้สึกว่าคนนี้เก่งกว่า
ทำไมคนนี้ด้อยกว่า สิ่งที่ทำให้เรารู้สึกอย่างนั้น
ผมเปรียบเทียบเหมือนกับผ้าเหล่านี้
(ชูผ้าหลากสีที่มีความหนาบางไม่เท่ากัน)
ผ้าพวกนี้คือสิ่งที่เรานำมาใส่ตัวเอง
ในภายหลังหลังจากที่เราเกิดขึ้นมา
ตอนเกิดมาทุกคนเป็นหลอดไฟหลอดหนึ่งเหมือนกันหมด
เป็นหลอดไฟที่ถูกเปิดในครั้งแรกที่คุณเกิด
และมันจะถูกดับไปในครั้งสุดท้ายเมื่อคุณตาย
สิ่งต่างๆเหล่านี้คือสิ่งที่เราใส่เข้าไปในชีวิตของเรา
(เริ่มเอาผ้าทีละผืนคลุมไปที่หลอดไฟ)
เราคลุมหลอดไฟเอาไว้ คลุมไปเรื่อยๆโดยที่ไม่รู้ตัว
เราถูกการศึกษาสอนให้เราเชื่อในสิ่งต่างๆ
พ่อแม่สอนเราว่าต้องทำแบบนี้
เพื่อนหล่อหลอมเราว่าต้องเป็นแบบนี้
(เอาผ้าคลุมลงไปเรื่อยๆ จนหลอดไฟเริ่มเปล่งแสงไม่ได้)
คนรอบข้าง ความเชื่อทางศาสนา
แล้ววันหนึ่ง...
แสงของเราก็ไม่อาจเปล่งประกายออกมาได้อีกต่อไป
(ผ้าที่คุลมไว้สิบกว่าผืน ทำให้ไม่เห็นหลอดไฟ)










ดังนั้น
เราเกิดมาเท่าเทียมกัน
แต่ที่เราไม่เท่าเทียมกัน
เพราะใครก็ตามหากถูกผ้านี้คลุมทับไปเรื่อยๆจนตาย
แม้ตอนคุณปิดสวิชท์ไฟไปแล้ว
คุณก็ไม่อาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่าดวงไฟของชีวิตนั้นดับลง











แสงสว่างจากหลอดไฟนี้ผมเรียกว่า ‘ปัญญา’

ในทางศาสนาเราเรียก ‘ความรู้’ ว่า ‘วิชา’
ส่วน ‘ปัญญา’ นั้นเราเรียกว่า ‘วิชชา’

ความแตกต่างระหว่างวิชากับวิชชา ก็คือ
ปัญญานี้มีอยู่แล้วในตัวเราทุกคน
เหมือนแสงสว่างจากหลอดไฟนี้
แต่ความรู้คือสิ่งที่เราต้องไปหาเอามาจากนอกตัว

เพราะฉะนั้นหากวันนี้น้องคิดว่าตัวเองยังไม่เก่ง
ยังไม่ฉลาด ไม่มีความสามารถ
ลองถามตัวเองใหม่
ว่าเรายังรู้น้อยไปเพราะอะไร

จริงๆแล้วมันง่ายมาก
หลักในการศึกษาก็คือ
ไม่รู้อะไร ก็ไปทำให้มันรู้ซะ
ไม่เก่งอะไร ทำมันบ่อยๆ เดี๋ยวก็เก่ง












ลูกชายพี่อายุ 5 ขวบครึ่ง
เมื่อเทียบในระดับเด็กอนุบาลสาม
ถือว่าเขียนช้ามาก
ส่วนหนึ่งเพราะผมไม่ได้เร่งรัดในเรื่องการศึกษา
เลยปล่อยให้เขาสนุกในการเรียนรู้
เพื่อนของเขาเขียนได้เยอะ เขียนเป็นคำยากๆได้แล้ว
จนวันหนึ่งพี่นั่งคุยกับลูกว่า
เราลองมาเขียนกันไหม
ทุกเช้าวันละห้าคำ คำละสามครั้ง
ผมทำแบบนี้ทำวัน ทุกเช้า
ตื่นขึ้นมาให้เขาเลือกเองว่าอยากเขียนคำอะไร
เขียนคำอะไรก็ได้ที่เขาอยากเขียน
เตียวหุย เล่าปี่ หนุมาน ผีตาโบ๋ ผีหัวขาด ฯลฯ
ให้เขาเลือกคำเองจะได้รู้สึกสนุกในการเขียน
ปรากฏว่าใช้เวลาเพียงสามเดือน
คุณครูก็ชมว่าจากเด็กที่เขียนไม่ได้
ทำไมแค่สามเดือนกลับเขียนได้เยอะขึ้นมาก

นี่คือสิ่งที่ผมอยากจะบอกน้องๆว่า
วันนี้ขณะที่เรากำลังจะจบการศึกษาออกไป
และคิดว่าตัวเองไม่เก่ง
คิดว่าตัวเองยังมีความสามารถไม่มากพอ
ขอให้นึกถึงเรื่องเล่าเรื่องนี้เอาไว้
ไม่มีใครเก่งมาตั้งแต่เกิด
เราสามารถพัฒนาตัวเองได้ตลอดเวลา
ในทุกๆวัน ทุกๆเรื่อง

นิสัยไม่ดีในตัวเอง
ขี้เกียจ เห็นแก่ตัว เอาเปรียบ ฯลฯ
อยากจะขจัดมันออกไปใครจะทำให้เราได้
เพราะมันอยู่ในตัวเรา
เราคนเดียวเท่านั้นที่จะนำมันออกไป
ยกเว้นว่าเราอ่อนแอและปล่อยให้มันอยู่ในตัวเรา











แล้วผมอยากจะบอกว่า
นิสัยทุกนิสัยที่อยู่ในตัวเราสามารถเปลี่ยนได้
อย่างผมเคยเป็นคนใจร้อน เคยเป็นเจ้านายที่ดุมาก
สามารถเรียกลูกน้องมานั่งคุยที่โต๊ะ
แล้วด่าแรงมาก ตบโต๊ะแล้วด่า
ขนาดห่างไปสามห้องยังได้ยิน
แต่สุดท้ายมาคิดได้ว่ามันไม่ใช่นิสัยที่ดี
อยากเปลี่ยน แต่ต้องใช้เวลาสามสี่ปี
แล้วในที่สุดก็เปลี่ยนได้
เพราะมีความรู้สึกว่าคนเราน่าจะคุยกันดีดีได้
ไม่จำเป็นต้องใช้การด่า หรือดุอย่างรุนแรง

ดังนั้นตัวเราสว่างอยู่แล้วตั้งแต่ต้น
แต่ที่มันไม่สว่างเพราะมันมีตัวที่มาคุลม มาปิดบังไว้
หน้าที่เราไม่ใช่ไปเพิ่มแสงสว่าง
เราไม่สามารถจะเพิ่มปัญญาในตัวเราได้แล้ว
เพราะมีมาเท่ากันและเต็มเปี่ยมมาตั้งแต่ต้น
ทุกคนมีแสงสว่างเท่ากัน
สิ่งที่เราต้องทำคือนำสิ่งที่บดบังหลอดไฟออกไป
หยิบความเกลียด ความขี้เกียจ
ความหลงผิด ความไม่มีวินัยในชีวิต
ความเป็นคนขี้โมโห ใจร้อน ไม่มีเหตุผล
ไม่กตัญญู ไม่ศึกษาหาความรู้
ฯลฯ

เมื่อไหร่ที่เอาออกไปได้หมด
แสงสว่างมาแล้วโดยที่เป็นไปของมันเช่นนั้นเอง

(ผมค่อยๆหยิบผ้าที่คลุมหลอดไฟออกไปทีละผืนๆจนหมด
แล้วหลอดไฟนั้นก็ส่องแสงออกมาเต็มที่)



ผมอยากให้น้องๆคิดถึงหลอดไฟนี้ไปตลอดชีวิต
เมื่อไหร่ที่ออกไปทำงานแล้วล้มเหลว
ขอให้คิดเสมอว่าแสงสว่างของเราทุกคนนั้นเท่าเทียมกัน
แต่เราอาจจะคิดผิด ไม่รอบคอบ
ไม่ละเอียดพอ คิดไม่มากพอ
ขาดที่ปรึกษาที่ดี ฯลฯ
แสงก็เลยไม่เปล่ง
เมื่อไหร่ก็ตามที่เอาสิ่งที่ปกคลุมออกไปทีละข้อๆ
แสงสว่างก็กลับมา การงานก็สำเร็จ











น้องๆในห้องนี้หลายคนคงมีความรัก
เคยสงสัยมั้ยครับว่าทำไมเราไม่ประสบความสำเร็จในความรัก
เดี๋ยวรัก เดี๋ยวเลิก เดี๋ยวเจ็บปวด
เดี๋ยวๆก็ทนทุกข์ทรมาน
เพราะเราเอาความหึงหวง การเอาแต่ใจ
ความเป็นคนไม่มีเหตุผล
อยากเปลี่ยนอีกฝ่ายให้เป็นอย่างที่ตนเองต้องการ
ไม่รักพ่อแม่เค้า รักแต่ตัวเค้าอย่างเดียว
ไม่มีเวลาให้ รักเพื่อนมากกว่าแฟน
ฯลฯ
นี่คือสาเหตุที่ทำให้แสงสว่างไม่อาจเปล่งประกาย
ทำยังไงอยากให้เรารักแฟน อยากให้แฟนรักเรา
อยากอยู่ด้วยกันแล้วมีความสุข

(เอามือหยิบผ้าที่คลุมหลอดไฟออกมาทีละผืนๆ)

เราต้องรู้จักให้เกียรติกัน มองเห็นข้อดีของอีกฝ่าย
ไม่เอาเรื่องหยุมหยิมมาด่าทอกัน
ให้เวลาและพื้นที่ส่วนตัวกันบ้าง
หมั่นจดจำสิ่งเล็กๆน้อยๆที่ทำให้อีกฝ่ายประทับใจ
สัมผัสกอดรัด

(ผ้าที่คลุมหลอดไฟหายไป หลอดไฟกลับมาเปล่งแสงสว่างจ้าดังเดิม)












ถามว่าสำคัญมากไหมที่น้องจะต้องรู้ในเรื่องนี้
สำคัญมากครับ (เน้นเสียง)

เพราะสิ่งนี้จะทำให้น้องไม่รู้สึกว่าตัวเองต่ำต้อยกว่าคนอื่น
ไม่ว่าน้องจะจบออกไปแล้วทำงานอะไร
ในห้องนี้คงไม่ได้เป็นสถาปนิกทั้งหมดแน่ๆ
ไม่ได้เป็นคนเขียนแบบทั้งหมดแน่ๆ
บางคนต้องกลับไปสานต่องานของครอบครัว
บางคนอยากเรียนต่อ บางคนต้องทำงานจริงๆ
สมมุติว่าต้องไปทำสวนลำไย
มันต้องเริ่มจากแสงสว่างที่มีอยู่แล้วในตัวเราเอง
แต่ถ้าจะไม่ประสบความสำเร็จ
นั่นเป็นเพราะเราไปเอาสิ่งต่างๆที่ผิดมาบดบังมัน
และสิ่งที่จะบดบังแสงสว่างแห่งปัญญาของเราได้มากที่สุด
นั่นคือ ‘ความไม่รู้’
ไม่รู้จักสิ่งที่ตนเองทำอย่างแท้จริง
เปรียบเทียบได้เหมือนกับผ้าสามร้อยผืนที่ห่มคลุมหลอดไฟ

‘ความไม่รู้’ จะทำให้เรา ‘หลงผิด’
พอหลงผิดก็เหมือนคนที่เดินผิดทาง
จะไปดอยสุเทพแต่วิ่งรถไปทางสันกำแพงมันจะถึงมั้ยครับ
ไม่มีทางถึงเลย ขับไปอีกร้อยปีก็ไม่ถึง

เพราะฉะนั้น ‘ทิศทาง’ สำคัญมาก

เมื่อไหร่ก็ตามที่เรารู้แล้วว่า


‘มนุษย์ทุกคนล้วนเท่าเทียมกัน’


ตัวเราไม่ได้ด้อยกว่าคนอื่น
แล้วเราไม่ได้เหนือกว่าคนอื่น จนคิดไปข่มคนอื่น
เพราะฉะนั้นคนเก็บขยะก็เป็นครูสอนเราได้
คนบ้าก็เป็นครูสอนเราได้
กษัตริย์ แพทย์ สถาปนิก ฯลฯ
ทุกคนเป็นครูของเราได้
ถ้าเรารู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน




และ ‘อะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเธอ ?’

บางครั้งน้องต้องถามตัวเองก่อน
ก่อนที่เราจะไปที่ไหนสักแห่ง
เราต้องรู้ใช่มั้ยครับว่าเราอยากไปไหน
แต่แค่ ‘ไปถึง’ มันยังไม่พอ
ต้องถามด้วยว่า ‘ทำไมถึงอยากไปที่นั่น ?’
และผมเชื่อว่าทุกคนในห้องนี้มีเป้าหมายเล็กๆในตัวเอง
เช่น บางคนบอกว่าอยากมีความรักและครอบครัวที่ดี
บางคนอยากมีการงานที่ดี
บางคนอยากไปศึกษาต่อในที่ๆดี
ฯลฯ

ทั้งหมด คือ ‘เป้าหมาย’
แต่สิ่งที่สำคัญกว่าเป้าหมาย
คือการที่เราต้องถามตัวเองว่า


‘สิ่งที่ทำสำคัญอย่างไรกับตัวเรา’


ทำไมสิ่งนี้ถึงเป็นตัวเลือกแรกที่เราให้ความสำคัญ

เหมือนที่มีน้องคนหนึ่งถามพี่ว่า
เขามีความฝันว่าอย่างนี้
ผมอยากรวย อยากมีแฟนสวย
อยากลงทุนในหุ้น อยากลงสมัครฟิตเนส
ผมอยากซื้อรถคันใหม่ อยากเปลี่ยนคอมเครื่องใหม่
มีหกเรื่องที่อยากทำ
รู้มั้ยผมตอบว่ายังไง
ผมบอกว่าไปเรียงลำดับมาให้ดีว่าอะไรสำคัญที่สุด
แล้วทำทีละข้อ อย่าหว่าน

คติพจน์ประจำตัวผมที่ใช้มาตลอด คือ

เดินทีละก้าว
เคี้ยวข้าวทีละคำ
ทำทีละอย่าง

อย่าทำเยอะ
วันที่ผมตัดสินใจเขียนหนังสือ
ผมตัดตัวเลือกที่ไม่สำคัญออกไป
แล้วทุ่มเทให้กับการเขียน
ปีที่แล้วผมใช้เวลาหนึ่งปีเต็ม
ตั้งเป้าว่าอยากจะเขียนบทกวี
ผมเขียนจริงๆ
มีสมุดบันทึกเล่มเล็กๆกับปากกาพกไว้ติดตัว
ในขณะเดินทำงานก็ยังสามารถเขียน
เขียนทุกสิ่งทุกอย่าง
เขียนเยอะมากเพราะอยากให้ตัวเองเก่ง
สิ่งนี้คือ ‘วินัย’
แล้วเราเลือกอย่างเดียว
อย่าไปอยากทำอันนี้ อยากทำอันนั้น
ตัวเลือกที่เยอะเกินไป
จะทำให้เราไม่แน่วแน่

เพราะฉะนั้นตอนนี้เลือกเอาอย่างเดียว (เน้นคำ)

อยากเรียน...มุ่งมั่นในเรื่องเรียน
อยากทำงาน มุ่งมั่นในเรื่องงาน
แล้วพัฒนาตัวเองในแนวนั้นเรื่องนั้นให้มันสุด

พอเรารู้ว่าอะไร ‘สำคัญ’ รู้ว่าอะไรเป็น ‘เป้าหมาย’
‘วิธีการ’ จะตามมา
เราจะรู้เองว่าทำยังไงให้เดินทางอย่างมีความสุข

‘ความสุขมาจากการกำหนดเป้าหมาย’

รู้และต้องรู้อย่างเข้าใจ
เข้าไปในใจ
มีหลายอย่างมากมายในชีวิตที่เราบอกว่า ‘รู้แล้ว’
และคิดว่ารู้ดีด้วย
แต่เอาเข้าจริง เราไม่เคยเข้าใจอะไรเลย
นี่เป็นคำถามที่ผมเพิ่งรู้กับตัวเอง
ปกติผมเป็นคนที่ศึกษาธรรมะมาพอสมควร
แต่วันหนึ่งเมื่อเกิดเหตุการณ์หนึ่งขึ้นกับตัวเอง
ถึงได้รู้ว่าที่เรารู้ อาจยังรู้ไม่จริง รู้อย่างไม่เข้าใจ
จึงเกิดคำถามขึ้นว่า

เกิดมาทำไม ?
มาทำอะไร ?
ตายแล้วไปไหน ?

เมื่อก่อนความตายเป็นเรื่องไกลตัวมาก
แต่เมื่อวันที่ 7 มกราฯ ที่ผ่านมา
ตอนแรกผมนัดกับอาจารย์และน้องๆ
ว่าจะเข้ามาพูดในวันที่ 15 มกราฯ
วันที่ 7 มกราคมพี่ชายผมเข้า ICU
พี่ชายผมเป็นคนแข็งแรงมาก ออกกำลังกายทุกวัน
แข็งแรงสุดๆ
7 มกราฯเข้า ICU ....วันที่ 9 จากไป
เป็นเรื่องที่ในบ้านช็อกทุกคน
ทุกคนเสียใจกับการจากไปของพี่ชาย
ผมถือว่าตัวเองโชคดีที่ได้เฝ้าเขาตลอด
ได้อยู่กับพี่ชายตั้งแต่ต้นจนจบ
ได้เห็นตั้งแต่ยังมีลมหายใจ
จนลมหายใจออกไปจากร่าง
แน่นอน...ผมเสียใจมาก
นั่งร้องไห้คนเดียวอยู่ตรงเก้าอี้โซฟาหน้าห้อง ICU
แล้ววินาทีหนึ่งก็แว๊บขึ้นมาว่า

“เฮ้ย...มันเจ็บปวดอย่างนี้เลยหรือ”

เมื่อก่อนเราไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งคนที่เรารักจะจากไป
ในครอบครัวผมยังไม่มีใครเสียชีวิตเลยสักคน
แล้วถ้ามันเรียงตามความเชื่อของเรา
ก็น่าจะเป็นการเรียงลำดับใช่ไหมครับ
พ่อ แม่ พี่ น้อง ลูก หลาน
แต่นี่มันสลับที่กันแล้ว
พี่ชายจากไปก่อน...

คำถามมากมายเต็มหัวไปหมด
แว๊บหนึ่งผมรู้สึกขอบคุณเขาขึ้นมา
ขอบคุณที่เขาใช้ร่างกายของเขามาสอนเรา
มาบอกให้เรารู้ว่า


‘คุณค่าที่แท้จริงของชีวิตคืออะไร ?’


อะไรที่สำคัญที่สุด ?
มันไม่ใช่เงินเลยครับ
ถ้าน้องๆรักใครอย่างดีที่สุด
ถ้าคุณยังไม่มีแฟนก็รักพ่อแม่
คนที่มีเพื่อนรักเพื่อน คนที่มีแฟนรักแฟน
เคยถามตัวเองมั้ยครับ
ว่าเราดูแลคนที่เรารักอย่างดีที่สุดแล้วหรือยัง ?

มันจะมีวินาทีหนึ่ง ไม่รู้น้องเคยโกรธใครมั้ย?
หรือเคยทะเลาะกับใครมั้ย?
แล้วคิดไปเองว่าไม่เป็นไรหรอก
เดี๋ยวเขาก็หายโกรธ
แต่ถ้าเขาเกิดจากไปโดยที่เรายังไม่ทันได้ให้อภัยล่ะ ?

ถ้าน้องมีคนที่ชอบมากแต่ไม่กล้าบอก
เอาแต่เก็บไว้ในใจ คิดว่าเดี๋ยวอีกสักเดือนจะบอก
ปรากฏว่าเขาเกิดจากไปก่อน น้องจะเสียใจมั้ยครับ ?

นี่คือสิ่งที่ผมเรียนรู้มาจากเหตุการณ์ของพี่ชายจริงๆ
คือ ‘อย่ารอ’
อย่ารอก่อนๆ เดี๋ยวก่อนๆ
เพราะเราไม่รู้เลยว่าวินาทีต่อไปจะเป็นอย่างไร
อย่างพี่ชายผมที่แข็งแรงสุดๆ
บทจะไปเขาใช้เวลาแค่สองวัน
โชคดีที่ผมกับพี่ชายไม่เคยมีอะไรค้างคาใจกัน
โชคดีที่พี่ชายผมเขาได้ทำในสิ่งที่เขารัก
เคยคุยกันเล่นๆว่าทำไมบ้าซื้อของจังเลย
กีตาร์มีตั้ง 7-8 ตัวยังอยากจะได้อีก
เขาพูดกับผมมาคำหนึ่งในตอนนั้น
เขาบอกว่า


‘กูไม่รู้ว่ากูจะตายเมื่อไหร่ วันนี้กูได้เล่นแล้ว
กูดีใจแล้ว กูมีความสุขแล้ว’


พูดแบบนี้ไม่ได้หมายความว่าอยากได้อะไรแล้วต้องได้
หรือแม้กระทั่งทำสิ่งที่ผิดเพื่อให้ตัวเองมีความสุข
แต่หมายถึงว่าได้รู้แล้วหรือยังว่าเราอยากทำอะไร
ตอนนี้น้องๆกำลังจะจบออกไป
รู้แล้วหรือยังว่าตัวเองอยากทำอะไร ?
สำคัญมากๆเลยนะครับ รู้หรือยังว่าจะไปไหน ?
ทำอะไรต่อ ?
แล้วถ้าทำสิ่งนั้นไม่ได้จะทำยังไง ?

นี่คือสิ่งที่อยากให้น้องๆได้คิดดู
เพราะมันจะนำน้องๆไปสู่สิ่งที่ถูกต้องตลอดเส้นทาง
แน่นอน...ระหว่างเส้นทางมันต้องมีการล้ม
เพราะไม่มีใครที่ประสบความสำเร็จ
หรือทำในสิ่งที่ถูกต้องตลอดเวลา
แต่ถ้า ‘ทิศทาง’ นั้นถูก
‘เป้าหมาย’ นั้นใช่จากที่เรากำหนดไว้
โอกาสที่เราจะเดินถึงเป้าหมายก็ย่อมมี

ดีกว่าปล่อยชีวิตสะเปะสะปะ
ถามว่าอยากไปไหน ? --- ไม่รู้
อยากทำอะไรต่อ ? --- ไม่แน่ใจ

เมื่อไม่มีเป้าหมายอะไรในชีวิตเลย
แล้วจะไปต่อได้อย่างไร












ฉะนั้นวันนี้กลับไป ลองนั่งทบทวนดู
อยากเรียนต่อ เรียนต่อที่ไหน
สาขาอะไร ทำไมต้องเป็นที่นี่
ถ้าไม่ได้ที่นี่ เรียนที่อื่นได้มั้ย?
นี่คือวิธีการกำหนดเป้าหมาย

ดังนั้นจงเชื่อมั่นนะครับ

(เอื้อมมือเปิดสวิทช์ไฟ-หลอดไฟสว่าง)

ว่าในตัวน้องทุกคน ในตัวครูบาอาจารย์ ในตัวผม
เราต่างมีแสงสว่างเท่าเทียมกัน
ไม่มีใครหลอดใหญ่กว่านี้
ไม่มีใครหลอดเล็กกว่านี้
หลอดทุกหลอดของคนบนโลกนี้
มีแสงสว่างเท่ากัน
เพราะฉะนั้นไม่ต้องไปเพิ่มแสงไฟ
แค่เอาผ้าที่คลุมอยู่ออกไปทีละผืนๆ
วิธีที่จะทำให้รู้ว่าผ้าผืนไหนที่ควรจะเอาออกก่อนหลัง
ก็ต้องหันมาทบทวนตัวเราเอง
นั่งคุยกับตัวเอง
ถามตัวเองว่าเราต้องการอะไร
และได้ทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุดแล้วหรือยัง
นิสัยที่ไม่ดีในตัวเรามีอะไรบ้าง
จะเอามันออกไปได้ยังไง
ไม่ต้องไปถามใครนะครับ
เพราะใครก็บอกเราไม่ได้
ใครก็ทำให้คุณไม่ได้
ไม่มีใครหยิบผ้าของใครออกไปได้
แต่ละคนต้องหยิบผ้าของตัวเองออกไปเอง

ขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จในสิ่งที่ตนเองต้องการ
แล้วสิ่งที่คุณต้องการ ใครก็ทำให้ไม่ได้
อยากได้...คุณต้องทำเอง



ขอบคุณครับ


























Create Date : 10 กุมภาพันธ์ 2557
Last Update : 10 กุมภาพันธ์ 2557 9:58:16 น. 53 comments
Counter : 9985 Pageviews.  

 
อยากทำอะไรให้รีบทำเลย ในวันที่ตัวเองยังทำได้...เนาะ คุณก๋า

บรรยายรอบนี้ พร็อบเยอะเลย แต่น้องๆ เห็นภาพชัดดีค่ะ

คุณก๋าดูไม่อ้วนเท่าไหร่แล้วนะ อาจจะซูบลงตอนงานฯ มัง


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:6:39:02 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับ


โดย: **mp5** วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:8:02:03 น.  

 
สวัสดีตอนเช้าค่ะน้องก๋า
พี่ได้มีโอกาสอ่านปัจฉิมนิเทศของน้องวันนี้น่าจะเป็นปีที่3แล้วนะคะ
แม้จะเป็นเรื่องราวที่ยาวมาก(เพื่อนบล้อกทั่วๆไปเขียนสั้นๆ)
ในทุกๆครั้งๆที่เข้ามาพี่ก็ตั้งใจอ่านทุกครั้งเพราะเรื่องราว
โดนใจ และมีประโยชน์ให้ข้อคิดที่ดีเยี่ยมมากมาย
และพี่จะบอกให้ลูกชายเข้ามาอ่านปัจฉิมนิเทศของน้องก๋าทุกครั้ง
ตั้งแต่ครั้งที่ 1(ตอนนี้เค้าเรียนวิศวไฟฟ้า พลังงาน พระจอมเกล้าพระนครเหนือปี 2 ค่ะ)
หนังสือหมื่นตาของน้องเค้าก็อ่านรวดเดียวจบและชอบนะคะ
ตอนมีงานหนังสือที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์เค้าก็ไปชะเง้อ
แต่ไม่เจอพี่ก๋า แบบว่าจะไปขอลายเซนต์ค่ะ
แล้วจะบอกว่าเป็นลูกชายแม่หมูจาไมก้า(พี่ก๋าจะรู้จักมั๊ย)
คงมีโอกาสได้เจอสักปีนะคะ
ตอนเย็นๆพี่จะให้ลูกชายเข้ามาอ่าน
ขอบคุณข้อคิดและพลังใจที่น้องก๋านำมาฝากให้เด็กๆและสังคมค่ะ


โดย: jamaica วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:8:25:59 น.  

 

คุณได้ทำการแปะ ให้กับคุณ กะว่าก๋า เรียบร้อยแล้วนะคะ

คุณเหลือ อีก 9 ดวง สำหรับวันนี้ค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: jamaica วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:8:27:14 น.  

 
คุณได้ทำการแปะ ให้กับคุณ กะว่าก๋า เรียบร้อยแล้วนะคะ

คุณเหลือ อีก 8 ดวง สำหรับวันนี้ค่ะ

แวะมาแปะหัวใจให้กันค่ะ...นานมากกกกก จะเข้ามา พอเข้ามาอ่านซะตาลาย และคิดได้บล๊อกเราก็ยาวไม่ใช่ย่อยนิ...5555555....



โดย: deeplove วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:8:32:17 น.  

 
อ่านแล้วเรื่องราวปัจฉิมนิเทศน์คราวนี้ดีมากๆค่ะ
ทุกเรื่องล้วนมีข้อคิดเตือนใจ
น้องๆทุกคนก็ดูตั้งใจฟังกันอย่างดีเลย

โหวตหมวดนี้ค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
schnuggy Klaibann Blog ดู Blog
Close To Heaven Food Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Dharma Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น




โดย: mambymam วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:8:33:08 น.  

 
ชอบที่พูดมาทั้งหมดค่ะ


โดย: ธูปหอม IP: 110.77.181.50 วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:8:40:02 น.  

 
อนุโมทนาในการทำวิทยาทานด้วยนะคะคุณก๋า


ห้ะ?? น้ำท่วม น้ำท่วมเขื่อนเชี่ยวหลานน่ะเหรอคะ?


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:9:01:32 น.  

 
เป็นข้อคิด ที่ให้ไว้กับเด็ก ที่ดีมากๆ ค่ะ น้องก๋า



โดย: me-o วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:9:49:50 น.  

 
สวัสดีครับคุณแม่

ปีนี้เป็นครั้งแรกที่ผมพูดแบบไม่มีการเตรียมสคริปต์ครับ
มีความรู้สึกว่าอยากพูดในสิ่งที่ตัวเองรู้สึก
มากกว่าจะพูดในสิ่งที่น้องๆอยากฟัง 555

แต่โดยรวมผมพอใจในการพูดครั้งนี้ครับ
ผมคิดว่าน้องๆน่าจะได้รับประโยชน์ไปบ้างไม่มากก็น้อยครับ





โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:9:57:06 น.  

 
ขอบคุณค่ะคุณก๋า

เพลงเก่าๆฟังแล้วสบายใจดีค่ะ




โดย: mambymam วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:10:19:59 น.  

 



อิจฉา มั่ก มั่ก..

...






คุณหนู ขา...

เชื่อเหอะ ว่าพี่ป๋องอ่ะ ขี้โมโห มากกกกกกกกกกกกกกกกกก...

แต่.. ถ้าใครเจออย่างพี่ป๋อง ก็คงจะเป็นเหมือนกัน...

ไม่ว่าจะอยู่ในบ้าน..

กับพวก จัด "เสิร์ฟ ถึงที่"...


...


หรือ.. ที่ ไม่ว่าพี่ป๋องจะไปไหน ..

ก็จะเจอ ..
สัมภเวสี ..

"นี่.. นี่.. เธอ คนนี้ไง... เขา..."

อย่าว่าแต่เมืองไทยเลยค่ะ ไปถึงพุทธคยา.. (ที่มีคนไทย) ก็ยังเจอคนในหมู่บ้าน...

เขาก็จะ ..

"นี่.. นี่.. เธอ คนนี้ไง... เขา..."

เขาถึงว่า เรื่องไม่ดี ไปไกลหมื่นลี้.. เรื่องดี ไม่พ้นประตูบ้านไง

พี่ป๋องเจอแบบนี้ ทุกวัน... ทุกวัน... ทุกวัน... ทุกวัน... ทุกวัน... ทุกวัน... ทุกวัน...

7 ปี กว่า ค่ะ...





...


หลายคนบอกให้พี่ป๋องย้ายบ้าน...

ของพี่ป๋อง ต้อง ย้ายประเทศค่ะ...

เล็งๆไว้ ก็อัฟริกาใต้ ไม่ก็ เอสกิโม โน่นแหละ...

อ้อ.. กลัวหนาว เขตร้อนดีกว่า...

เดี๋ยวจะลองหาดู ที่เหมาะๆค่ะ...


..


เออ...

จะว่าไป..

อยู่ หรือ ลี้ภัย ก็เท่านั้น...

ทุกอย่าง อยู่ที่ "ใจ" ค่ะ..

ปรับทุกข์ กับ คุณเพื่อน คนหนึ่ง พบกันที่พุทธคยา..

บอกเธอว่า "เฮ้อ ป๋องล่ะเบื่อจริงๆ ทุกข์กรู ก็จะตายเห่ อยู่แล้ว ยังมาเจอ ทุกข์จร อีก"

เธอว่า...

"คุณป๋อง นี่ไม่ใช่ ทุกข์จร นะคะ เป็นทุกข์ที่คุณเจออยู่ทุกวัน..

ทางเดียวที่จะดับทุกข์ได้ คุณป๋องต้อง ดับ ที่ ใจ ค่ะ

คุณมาอยู่ใกล้ พระพุทธเจ้า ถึงพุทธคยาแล้ว ถ้าทำไม่ได้ ก็อายเขานะคะ..."


..


อ่ะ

ก็ได้ (ฟะ..)

แต่... เชื่อเหอะ พี่ป๋องอ่ะ ไม่ได้แข็งแรง อย่างที่เห็นหรอกค่ะ....


...


ถ้าใครเจอแบบนี้ทุกวัน... แล้วไปในประเทศที่ไม่มีใครรู้จัก ไม่มีใครสนใจ..

คุณจะรู้สึก เหมือนเดินอยู่บนสวรรค์เลยล่ะ...



..





คุณก๋าคะ...


พี่ป๋องจะ ระวังตัวให้มากๆด้วยแหละ...

ขอบคุณมากค่ะ...


...



ขอบคุณ คุณเอ็ม สำหรับ หัวใจ ค่ะ...







โดย: foreverlovemom วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:10:28:41 น.  

 



กลับมาดูรายละเอียดอีกครั้งค่ะ..

ช้า ... ช้า ...

ชัด ... ชัด ..

พี่ป๋องเลือกอันนี้ปะ...



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
อุ้มสี Travel Blog ดู Blog
สายหมอกและก้อนเมฆ Photo Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Fanclub Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น





โดย: foreverlovemom วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:10:38:35 น.  

 
คุณได้ทำการแปะ ให้กับคุณ กะว่าก๋า เรียบร้อยแล้วนะคะ

คุณเหลือ อีก 7 ดวง สำหรับวันนี้ค่ะ

สวัสดีค่ะน้องก๋า เพิ่งกลับจากแพร่ค่ะ มาแปะหัวใให้ก่อนค่ะ แล้วพี่กิ่งจะมาฟังบรรยายนะคะ รีบไปบ้านอื่นก่อนค่า เม้นท์ตรึมเลยค่ะ



โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:11:21:19 น.  

 
คุณได้ทำการแปะหัวใจ
ให้กับคุณกะว่าก๋า เรียบร้อยแล้วนะคะ
คุณเหลือหัวใจอีก 7 ดวง สำหรับวันนี้ค่ะ


Like ให้เป็นคนที่ 4
เห็นด้วยกับน้องก๋ามากๆ เลย
วันนี้ก็เลยมาแบบ 3 IN 1
"ความสุขมาจากการกำหนดเป้าหมาย"
เหมือนอย่างพี่อุ้มพบเจอะเจอคำถามเสมอ
มาเที่ยวคนเดียวได้ไง
มาเที่ยวคนเดียวจะมีความสุขเหรอ
มาเที่ยวคนเดียวไม่เหงาเหรอ
ก็จะตอบว่าชอบที่จะเที่ยวคนเดียว
เพราะเรากำหนดเป้าหมายแค่ว่า
ไปเที่ยวคนเดียวอย่างมีความสุข
เพราะชีวิตทุกวันนี้อยู่ในกรอบ
อยู่ในกฎเกณฑ์ของสังคม
เราก็ว่าเรามีความสุขของเราที่เป็นแบบนี้

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ถปรร Photo Blog ดู Blog
NaiKonDin Travel Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Dharma Blog ดู Blog


โดย: อุ้มสี วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:11:50:30 น.  

 
สวัสดีค่ะ
วันนี้อ่านจุใจ
ข้อคิดดีๆ

ีเอาไปใช้ได้กับทุกคน เท่าเทียม
ไม่ใช่กับแค่วงการศึกษาเท่านั้น



โดย: ป้าคาล่า วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:12:15:13 น.  

 





ขอบคุณ คุณก๋า มากมาย ค่ะ...






โดย: foreverlovemom วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:12:22:27 น.  

 
คุณได้ทำการแปะ ให้กับคุณ กะว่าก๋า เรียบร้อยแล้วนะคะ

คุณเหลือ อีก 2 ดวง สำหรับวันนี้ค่ะ

ได้ข้อคิดเยอะเลยค่ะ ยาวมากๆวันนี้
พี่ก๋าดูเหมือนอาจารย์กำลังสอนหนังสือมากกว่านะ ดูจากรูป 55



โดย: NENE77 วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:12:34:01 น.  

 

มนุษย์ทุกคนเท่าเทียมกัน คือความเสมอภาคเป็นอุดมการณ์เดียวกับ

ประชาธิปไตยค่ะ ไล้ค์และโหวตค่ะ

กะว่าก๋า Dharma Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: พรไม้หอม วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:12:45:21 น.  

 
~ ปราชญ์อ้วน 55555555 และ อ้อชอบแนวแบบเนี้ยะ ไม่รู้ทำไม มันชัดเจน มันเข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน


โดย: ~ ริมน้ำ_voUฟ้า ~ (rimnam_kobfa ) วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:13:01:25 น.  

 
สวัสดีตอนบ่ายๆค่ะคุณก๋า
แวะเอาหัวใจมาฝากค่ะ
คุณได้ทำการแปะ ให้กับคุณ กะว่าก๋า เรียบร้อยแล้วนะคะ


โดย: phunsud วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:13:26:59 น.  

 
หล่อมากครับพี่ก๋า
เดือนนี้ป่วยหลายโรคเลยครับ โรคใจ โรคกาย โรคเสียเงินเสียทอง
หมอสั่งห้าม ออกกำลังกาย นอนๆๆๆ อย่างเดียว


โดย: เสือย้อมแมว วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:13:30:01 น.  

 
~ พรุ่งนี้เลี้ยงพระเพลค่ะ ครูร่วมอนุโมทนาด้วยกันนะคะครู อิรุกะว่าก๋า


โดย: ~ ริมน้ำ_voUฟ้า ~ (rimnam_kobfa ) วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:13:30:21 น.  

 
สวัสดีค่ะน้องก๋า

ดีจังค่ะ อยากให้น้องๆ ที่จะไปเรียนต่อได้อ่านทุกคนเลย

แวะมาแปะห้วใจด้วยค่่ะ

newyorknurse


โดย: newyorknurse วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:13:57:41 น.  

 
แวะมานั่งฟัง(อ่าน)ปัจฉิมนิเทศจากพี่ก๋าด้วยคนค่ะ
อ่านถึงตอนที่พี่ชายพี่ก๋าจากไปแล้วก็น้ำตาคลอเลยค่ะ
ส่วนหนึ่งที่ทำให้นุ่นหาทางออกของปัญหาตัวเองได้ส่วนหนึ่งก็มาจากเรื่องของพี่ก๋าด้วย
ขอบคุณตรงนี้อีกครั้งนะคะ
....
....
เราไม่รู้ว่าคนที่เรารัก คนที่รักเรา
หรือแม้แต่ตัวเราจะมีชีวิตอยู่ถึงวันพรุ่งนี้ไม๊
วันนี้ก็ขอทำสิ่งดีๆให้กับคนเรานั้น ถ้าวันนึงมีใครจากไป
จะได้ไม่ต้องเสียใจที่ไม่ได้ทำในสิ่งที่คิดและตั้งใจไว้
นุ่นตั้งใจจะทำทุกๆวันให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ จะยิ้มมากกว่าทุกข์เหมือนที่ผ่านๆมาค่ะ
ต้องขอบคุณพี่ก๋าจริงๆ


โดย: หนีแม่มาอาร์ซีเอ วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:14:06:50 น.  

 
พี่ก๋าเตรียมตัวดีมาก และคิดว่าน้องๆคงไม่รู้สึกเบื่อในการฟังนะคะ ทั้งดนตรี ทั้งภาพฝีมือพู่กันเดียว เยี่ยมค่ะ

น้องๆเค้าคงน่าจะได้ข้อคิดอะไรดีๆกลับไปบ้างล่ะนะคะ


โดย: coji วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:14:50:01 น.  

 

คุณได้ทำการแปะ ให้กับคุณ กะว่าก๋า เรียบร้อยแล้วนะคะ

คุณเหลือ อีก 0 ดวง สำหรับวันนี้ค่ะ


คุณก๋าสุดยอดมากๆๆๆๆๆ ปรบมือดังๆๆๆๆ เลยค่ะ
น้องๆ นักศึกษาโชคดีที่ได้รับความรู้ ความเห็นจากคุณก๋าไป
เรื่องบางเรื่อง ศึกษาจากประสบการณ์ตรง เป็นอะไรที่หาค่ามิได้ค่ะ


โดย: Close To Heaven วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:15:04:13 น.  

 
เยี่ยมเลยค่ะ พี่ก๋าอธิบายเปรียบเทียบชัดเจนเห็นภาพ
เป็นข้อคิดที่เป็นประโยชน์มากในการใช้ชีวิตด้วยค่ะ



กะว่าก๋า Dharma Blog ดู Blog


โดย: ที่เห็นและเป็นมา วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:15:32:50 น.  

 



มาวันละหลายครั้ง...

ก็ ทั้ง แปะ ทั้ง โหวต ทั้ง... ฯลฯ...


อ่ะ...







โดย: foreverlovemom วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:16:38:58 น.  

 
ถูกอย่างที่พี่ก๋าบอกหลายอย่างเลยครับ ผมก็ถือคติที่ว่า "อย่ารอ" อยากทำอะไรก็ทำ ถ้าสิ่งนั้นไม่ได้ไปทำให้คนอื่นเดือดร้อน แค่นั้นมันก็เป็นการรู้จักตัวเราในระดับหนึ่งแล้วครับ อ่านแล้วได้ข้อคิดดีมาก กดไลค์กดโหวตให้เลยครับ


โดย: ปีศาจความฝัน วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:16:52:36 น.  

 
สวัสดีครับคุณก๋า

อ.เต๊ะ อ่านเรื่องจบไปรอบนึง พอดูวีดีโอถึงตอนแนะนำตัว
รู้สึกดีใจมากเลยครับ ที่เจอศิษย์ร่วมสถาบันเดียวกัน
คุยกันมาตั้งนานพึ่งจะรู้นะครับ แหะๆ

ของ อ.เต๊ะ อยู่ฝั่งสถาปัตย์ ครับ
ตอนนี้ อ.เต๊ะ ก้ยังไปสอนเป็น อ.พิเศษ ให้
สจล. อยู่เลยครับ แต่ นศ.เดี๋ยวนี้แยะมากๆ ห้องที่ อ.เต๊ะ สอน 80 กว่าคน
สอนทีปากเปียกปากแฉะกันทีเดียวครับ555

เรื่องปัจฉิมนิเทศน์นี่ น้อยคนจะไปบรรยายได้นะครับ ต้องอาศัยคนที่มีประสบการณ์ ผ่านและเข้าใจชีวิต มาพอสมควร จึงจะสามารถให้คำแนะนำแนวทางการใช้ชีวิต ได้อย่างถุกต้อง

อ.เต๊ะ ดีใจที่ น้องๆ นศ. โชคดีมากที่ได้ผู้รอบรู้ และเข้าใจชีวิตอย่างคุณก๋ามาบรรยายให้ฟังนะครับ

วันนี้จัด triple pac สุขคูณ3 ให้เลยนะครับ
1โหวต 1ไลค์ 1ใจ นะครับ


คุณได้ทำการแปะ ให้กับคุณ กะว่าก๋า เรียบร้อยแล้วนะคะ

คุณเหลือ อีก 8 ดวง สำหรับวันนี้ค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต

กะว่าก๋า Dharma Blog ดู Blog






โดย: multiple วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:17:21:33 น.  

 
ขอบคุณค่ะพี่ก๋า


โดย: หนีแม่มาอาร์ซีเอ วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:19:34:03 น.  

 
ขอบคุณที่แวะไปทักทายนะคะ
แวะมาแปะหัวใจให้น้องชาย 1 ดวงค่ะ

คุณได้ทำการแปะ ให้กับคุณ กะว่าก๋า เรียบร้อยแล้วนะคะ

คุณเหลือ อีก 2 ดวง สำหรับวันนี้ค่ะ


โดย: ฝากเธอ วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:19:44:36 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณก๋า
น้อง ๆ โชคดีนะคะที่ได้คุณก๋าไปช่วยแนะค่ะ
อ่านแล้วได้ข้อคิดดี ๆ เยอะเลย
ทุกอย่างจะสำเร็จได้ ก็ด้วยตัวเราเองทั้งนั้นจริง ๆ ค่ะ
อ.เต๊ะเบิ้ลสุขคูณสามให้ แต่พี่แวะเวียนบล็อกเพื่อนมาเรื่อย ๆ เลยมาถึงช้า
แถมยังหมดโควต้าด้วยค่ะ กด like ได้อย่างเดียว


โดย: เนินน้ำ วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:20:00:21 น.  

 
คุณได้ทำการแปะ ให้กับคุณ กะว่าก๋า เรียบร้อยแล้วนะคะ

คุณเหลือ อีก 7 ดวง สำหรับวันนี้ค่ะ


วันนี้มาซะมืดเลยจ๊ะ เวลามีน้อย
มาแปะใจให้ก๋าแล้วก้อไปก่อนนะ
มีความสุขยามค่ำคืนนะจ๊ะ


โดย: ดาวริมทะเล วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:20:55:24 น.  

 
คุณได้ทำการแปะ ให้กับคุณ กะว่าก๋า เรียบร้อยแล้วนะคะ

อยากนั่งฟังคุณกะก๋าพูดบ้างจัง


โดย: ซองขาวเบอร์ 9 วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:20:57:54 น.  

 
พี่ชายผมเท่ห์มากเลยครับ
ขอโหวตให้สามครั้งเลย


โดย: หมอหว่อง วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:21:38:27 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณก๋า อ่านเพลินมากค่ะ แถมชมคลิปต่ออีก
ทั้งสองแบบได้ความรู้สึกต่างกันค่ะ อ่านที่คุณก๋าถอดสคริปมา
โห...นี่ขนาดไม่มีสคริปมาก่อน อินโทรก่อนบรรยายเรียกความสนใจได้น่ารักมากๆค่ะ
มีน้องๆน้ำตาซึมมั๊ยค่ะ เลือกเพลงได้ดีมากด้วยค่ะ เป็นเราคงน้ำตาซึม นั่งหลับตาแล้วฟังอินกับความหมายของเพลง
และวันนี้เป็นวันสุดท้ายกับเพื่อนๆและทุกๆคนอีก มีสิทธิ์ไหลแน่ๆค่ะ

เนื้อหาดีมากๆเลยค่ะคุณก๋า สอนและให้ข้อคิดจากประสบการณ์ตรงพูดจากใจที่ไม่ได้เตรียมมาก่อน
มันลึกซึ้งกินใจมากค่ะ น้องๆคงจดจำคำสอนและนึกถึงสิ่งที่พี่ก๋าได้ให้ไว้ไม่มีวันลืม เชื่อเหอะ

เราเองทั้งอ่านทั้งฟังยังซาบซึ้งไปด้วยค่ะ สุดยอดค่ะคุณก๋า นับถือมากค่ะ

อยากคุยเรื่องบอลทีมรักต่อ แต่ไว้วันหลังค่ะ ไม่เข้ากับเรื่องวันนี้เลย
ชอบมากค่ะที่ให้ข้อคิดกับน้องพร้อมทั้งยังมีอุปกรณ์ประกอบ ยิ่งทำให้จำได้ดี และไม่เบื่อที่จะฟังค่ะ ชอบๆๆๆมากๆๆค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
คนบ้า(น)ป่า Home & Gargen Blog ดู Blog
haiku Fanclub Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Literature Blog


โดย: tui/Laksi วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:21:46:02 น.  

 
คุณได้ทำการแปะ ให้กับคุณ กะว่าก๋า เรียบร้อยแล้วนะคะ


โดย: tui/Laksi วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:21:46:59 น.  

 
เด็กสมัยนี้มีพุงตั้งแต่เรียนจบใหม่ๆกันทุกคนเลยวุ้ย (ดูอะไร?!)
อยากฟังพี่ก๋าร้องเพลงทะเลใจจังครับ อิอิ
พี่ก๋าได้รับเชิญไปบรรยายอีกแล้ว มีภาพลายพู่กันแปะข้างฝาด้วย
บล็อกนี้ยาวมากๆเลยครับ เหมือนได้เข้าห้องอบรมไปกับพวกน้องๆด้วย คุ้มที่แวะมาอ่านวันนี้พอดี ^^
ชอบที่สอนเรื่องความเท่าเทียมที่ไม่มีใครหลีกหนีเกิดแก่เจ็บตายได้นะครับ แล้วก็ชอบที่เปรียบเทียบแสงหลอดไฟกับปัญญา
การกำหนดเป้าหมาย-วิธีการ และมีวินัยในการดำเนินตามวิธีการของพี่ก๋าเหมือนการวางแผนกลยุทธ์ที่ ปตท. ใช้อยู่เลยครับ เรียกว่าวางกรอบยุทธศาสตร์แบบ END-WAY-MEAN

เมื่อวันเสาร์น่อลเละเป็นมินิคุกกี้เลยครับ
สงสัยจะเข้าโค้ง "หลุดทุกแชมป์ในสัปดาห์เดียว" แบบที่ทำเป็นประจำมาทุกปี อิอิ เบื่อเจงๆ
ช่วงเปิดตลาดขายนักเตะก็ไม่เสริมทีม ซื้อใหม่มาตัวนึง ลงซ้อมทีเดียวเจ็บยาวอีก -A-


โดย: ชีริว วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:21:53:33 น.  

 
รู้สึกเหมือนได้ฟังคำบรรยายไปพร้อมกับน้องๆด้วย
ป้าเชื่อว่าน้องๆจะประทับใจเหมือนป้าแน่ๆค่ะ



คุณได้ทำการแปะ ให้กับคุณ กะว่าก๋า เรียบร้อยแล้วนะคะ

คุณเหลือ อีก 2 ดวง สำหรับวันนี้ค่ะ


โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:22:02:32 น.  

 
พ่อก๋าเก่งจัง


โดย: maistyle วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:22:07:05 น.  

 
เก่งจังเลยคุณก๋า ทึ่งมากกกกกก


โดย: schnuggy วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:22:56:07 น.  

 
คุณได้ทำการแปะ ให้กับคุณ กะว่าก๋า เรียบร้อยแล้วนะคะ

คุณเหลือ อีก 2 ดวง สำหรับวันนี้ค่ะ

พี่ก๋ามีความสามารถหลายด้านจังค่ะ
ดีจัง ได้ให้ความรู้ ทัศนคติ
ได้เล่าประสบการณ์ให้น้องๆที่กำลังจะเติบโต
รับเชิญไปบรรยายบ่อยมั๊ยคะ น่าทึ่งมากๆเลยค่ะ



โดย: lovereason วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:23:30:04 น.  

 
เป็นปัจฉิมนิเทศที่เยี่ยมมากครับ คุณก๋า
โหวตให้ครับ กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog
+คุณได้ทำการแปะ ให้กับคุณ กะว่าก๋า เรียบร้อยแล้วนะคะ


โดย: เศษเสี้ยว วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:23:31:49 น.  

 
หวัดดีเจ้าอ้ายก๋า

ได้ไปทุกปีเลยนะเจ้า ปีนี้มีละอ่อนลักหลับแหมก่อเจ้า 555

รินชอบตรงที่แต่ละคนมีความรัก ทำไมไม่ประสบความสำเร็จ
เดี๋ยวรัก เดี๋ยวเลิก
นั่นเพราะเรามีความหึงหวง เอาแต่ใจตัวเองไม่ฟังเหตุผล
ล้วนแต่เป็นการทำให้อีกฝ่ายหนึ่งหน่ายระอาจริงๆเจ้า
แต่ละคนเท่าเที่ยมกันด้วยความคิด

และก็เชื่อว่า น้องๆ จะประสบความสำเร็จ
ตากความคิดบวกของตัวเองเน้อ




ส่งหัวใจหื้อเจ้า



คุณได้ทำการแปะ ให้กับคุณ กะว่าก๋า เรียบร้อยแล้วนะคะ

คุณเหลือ อีก 4 ดวง สำหรับวันนี้ค่ะ




โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:23:41:57 น.  

 
มาโหวตงานเขียนหื้ออ้ายก๋าเจ้า


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เศษเสี้ยว Photo Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog




โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:0:02:51 น.  

 


+ Korea Fever ( 2 ) +
ภาคสองมาแล้วค่า ที่จบทริปด้วยดี ด้วยความประทับใจ ^^




โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:0:03:26 น.  

 
แวะมาติดตาม
และนั่งเรียน กะเด้กๆด้วยนะคะ
อจ.ขา เอ๊ย!! อจ.ก๋า


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:0:06:07 น.  

 
มาเล่าไรให้ฟังก่อน คิคิ ดึกแล้วเล่าได้ บ้านนี้เปลี่ยนบล๊อคทุกวัน
เล่าเรื่องความฉลาดของตัวเองก่อน 555 ตอนไปซื้อกล้องตัวนี้นะ E-PL5
ขอเค้าดู พนักงานก็หยิบมาให้ดู แหม...ไอ้เราก็ความเคยชินคอมแพ็คเนาะ
ใช้ตรงนิ้วชี้ขวา เกี่ยวๆตรงปุ่มกด มันก็ซูมแล้วเนาะ ก็เตรียมจะเกี่่ยว..
แต่..เห้ย...ปุ่มที่เกี่ยวมันหายไปไหนล่ะ บริษัทลืมป่าว แว๊...ทำไงดี
ก็ต้องถามพนักงานล่ะ แหะๆ อ๊ายอาย พนักงานบอกว่าถ้าซูมก็ต้องเอามือซ้ายหมุนตรงเลนส์
....เพล้งงงงง....หน้าแตก ตอนที่1 5555555

อ๊ะ..หน้าแตกผ่านไปแล้วเนาะ .....
แล้วก็นิมนต์ตัวเอง ไปนั่งเป็นเสือซุ่ม(ซ่าม)อยู่ห้องกล้อง โห..มึนตึ๊บ
พูดภาษาไรกันว๊า ให้ตายเหอะโรบิ๊นนนนน แต่ก็อ่านมันต่อไปนะ
พร้อมกับความหวังว่าเราจะฉลาดขึ้น กรั่กๆๆๆๆ

แล้วก็ไปเจอคำว่า"มือหมุน" บ๊ะ..ของเราก็มือหมุนเฟ้ย อ๊ะ..ถูกทางแระเนาะ
แล้วพี่ก็ไปเล่นเฟส ก็กลุ่มห้องกล้องนั่นแหละ โม้กันไปมา
มีอยู่คนนึงชื่อคุณเปิ้ล แกเอารูปแกมาแปะ พร้อมบรรยาย มือหมุนบลาๆๆๆ
เราสองคนใช้กล้องรุ่นเดียวกัน พี่ก็เข้าไปเม้นท์ รูปแกสวยอ่ะนะ ก็ชมว่าสวยค่ะคุณเปิ้ล
แกก็ถามมา คุณไก่ไม่ลองมั่งล่ะ ราคาหลักพันเอง คุณภาพก็ตามราคาละน๊า บลาๆๆๆ

ก็เลยโชว์โง่ไปอีกรอบ 555555 ถามคุณเปิ้ลไปตรงๆเลย สงสัยมานานแระ ไอ้มือหมุนเนี่ย
กล้องรุ่นที่เราใช้มันก็มือหมุนไม่ใช่เหรอ ทำไมต้องพูดคำว่ามือหมุนต่างหากด้วยล่ะ
คำตอบคือ เลนส์ที่พี่ใช้น่ะ มันเป็นออโต้โฟกัส ไอ้มือหมุนนี่คือหมุนหาโฟกัสเอง
รีบขอบคุณเค้าเป็นการใหญ่ 5555555 โชว์โง่แล้วสบายใจจุงเบย
มันคาใจมานานแระ

ไปอ่านคำคมของล็อคอิน ปาปา ณ.ทุ่งพญาไท ได้ความว่า

กล้องในมือท่านนั่นแหละ เป็นกล้องที่ดีที่สุด
โหมดที่ถ่ายแล้วได้รูปมาดู นั่นแหละเป็นโหมดที่ดีที่สุด

อ่านแล้วคาราวะงามๆเจ็ดจอก อิอิ ถูกใจสาวกโหมดออโต้ที่ซู๊ดดดด
อย่าเอาอ่าวเอาเกาะอะไรเรื่องโหมดโฟโต้กะพี่เร๊ย ไม่ได้เรื่องกะเค้าหรอกค่ะ
แค่กดให้มันได้อย่างใจ กะระยะต้นไม้มั่ง แม่น้ำมั่ง
ให้ไอ้ที่เราอยากได้ มันอยู่ในเฟรมเดียวกัน แค่นั้นก็งานเยอะสำหรับพี่แล้วล่ะ
หู๊ยย นึกภาพไม่ออกถ้าต้องไปนั่งจำชัตเตอร์ รูรับแสง
สงสัยคงหงอกหนักกว่าเดิมแน่ 55555

แถมถ้าเดินไปกะลุงเนี่ย พี่ต้องวิ่งตามทู๊กที
เค้าไม่หยุดรอถ่ายรูปหรอกนะ แค่วิ่งตามก็หืดแล้วจ๊ะ
กดรัวมันไปเรื่อย มันต้องมีดีซักใบละน๊อ 555
บางทีโดนถามอีกนะ เธอกดถ่ายไปตั้งเยอะแล้ว จะกดอีกกี่ทีเนี่ย
บ๊ะ..มืออาชีพยังกดตั้งหลายที นับประสาอะไรกะมือสมัครเล่นล่ะเนี่ย
แถมถ้าถ่ายไม่ดี ก็ไม่ได้พากลับไปเที่ยวใหม่นี่เนาะ อิอิ

ฝันดีนะคะคุณก๋า ขอบคุณสำหรับโหวตค่า


โดย: schnuggy วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:0:13:03 น.  

 
จะว่าอย่างไรดี อ่านแล้วรู้สึกว่าประเทศนี้มีปัญหาในเรื่องของการศึกษา และความคิดของคนที่ยังฝังหัวทำให้คนไม่เท่ากัน

ความฉลาดคืออะไร ความรู้คืออะไร ทำไมคนถึงเท่ากัน และอะไรที่เท่ากัน การศึกษาไทยไม่ได้ฝึกให้เราคิดเรื่องพวกนี้เลย

เมืองไทยเรียนหนังสือไม่สนุก น่าเบื่อเลยแหละครับ

ก็ไม่รู้ว่าน้องๆ จบออกไปจะเป็นอย่างไรก็ขอให้พวกเขาโชคดี อย่าได้เจอความโหดร้ายของสังคมที่เป็นอยู่เลย


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:0:26:26 น.  

 
มาอีกรอบค่าคุณก๋า

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Dharma Blog ดู Blog
Rinsa Yoyolive Travel Blog ดู Blog
ซองขาวเบอร์ 9 Home & Gargen Blog ดู Blog
Close To Heaven Food Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: schnuggy วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:0:30:41 น.  

 
คุณได้ทำการแปะ ให้กับคุณ กะว่าก๋า เรียบร้อยแล้วนะคะ

คุณเหลือ อีก 9 ดวง สำหรับวันนี้ค่ะ
-------------------
เติมหัวใจให้กันก่อนไปนอนค่ะคุณก๋า


โดย: เกศสุริยง วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:0:35:35 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กะว่าก๋า
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 392 คน [?]




มองฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
หรืออาจไม่เห็นฉัน

ฉันแค่แวะผ่านทางมา
และอาจไม่หวนกลับมาทางนี้อีกแล้ว

เราเคยรู้จักกัน
และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

มองดูฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
และฉันอาจมองไม่เห็นเธอ.





[Add กะว่าก๋า's blog to your web]