:: คายความทุกข์ - โชคดีหรือโชคร้าย ::
:: คายความทุกข์ - โชคดีหรือโชคร้าย ::
เรื่องและภาพ : กะว่าก๋า
แม่นกอยากจะบอกว่า คุณพ่อคุณแม่ทุกคนในที่นี้ เป็นคนโชคดีจริงๆค่ะ
เสียงวิทยากรที่อยู่บนเวทีพูดขึ้นมา พ่อแม่จำนวนหลายร้อยคนนั่งฟังอย่างตั้งใจ ในงานอ้อมอุ่นรัก งานวันแม่ของโรงเรียนต้นกล้า เชียงใหม่
ผมนั่งฟังและคิดตามไปด้วย โชคดีหรือโชคร้าย ใครกำหนด ?
........................
น้องลูกหิน ลูกชายของแม่นก เกิดมาพร้อมกับความพิการทางสมองขั้นรุนแรง ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เลย ทั้งการกิน การนอน การขับถ่าย และการใช้ชีวิต
แม่คนหนึ่งจึงต้องอุทิศตัวให้กับการรักษา ดูแลและฟูมฟักลูกน้อยคนหนึ่งให้เติบโตขึ้นมา ท่ามกลางความเหน็ดเหนื่อย ความกังวล ความท้อใจ ฯลฯ
ปัญหาเกิดขึ้นในทุกวันและทุกวินาที บางปัญหาที่ดูเล็กน้อยอาจทำให้ลูกน้อยเสียชีวิตได้
แม่นกจึงต้องคิดและทำทุกวิถีทาง เพื่อให้ลูกของตนเองอยู่รอดปลอดภัย และมีลมหายใจอยู่ต่อไป
................................
ผมเชื่อว่าพ่อแม่ทุกคนในงานวันนั้น รับรู้ถึงความกล้าหาญ พลังใจ และความทุ่มเทใจกายทั้งหมดที่แม่คนหนึ่งมีกับลูกของตนเอง
ผมเชื่อว่าพ่อแม่ทุกคนของนักเรียนโรงเรียนต้นกล้า จะรู้สึกว่าตนเองโชคดีเหมือนที่แม่นกพูด รู้สึกขอบคุณที่ตนเองเกิดมามีลูกที่แข็งแรง เติบโตครบสามสิบสองประการ
เราโชคดีจริงๆ
......................................
ในโชคดีมีโชคร้าย ในเรื่องร้ายมีเรื่องดี
แม่นกมีลูกที่พิการทางสมอง แต่น้องลูกหินไม่เคยขาดแคลนความรัก
แม่นกเลี้ยงลูกด้วย ความหวัง แต่ไม่ได้เลี้ยงลูกด้วย ความคาดหวัง
เพราะถ้าคาดหวังอยู่ตลอดเวลาแม่นกคงเสียสติไปแล้ว เพราะน้องลูกหิน คงไม่สามารถสามารถตอบสนองทุกความคาดหวังของผู้เป็นแม่ได้
แม่นกไม่ได้เสียใจเมื่อลูกงอแงไม่อยากทำกายภาพ แม่นกไม่ได้ท้อแท้เมื่อลูกป่วยและมีอาการแย่ลง แต่กลับพลิกวิกฤตเป็นโอกาส เรียนรู้จากข้อผิดพลาดต่างๆ จนสามารถนำความรู้มาพัฒนาต่อยอด สร้างของเล่นเพื่อพัฒนาเด็กที่มีปัญหาพิการทางสมอง
เรียนรู้ที่จะดูแลลูกน้อยด้วยการฝึกสังเกต จดจำ ทดลอง เพื่อจะแก้ไขปัญหาทุกอย่างที่เกี่ยวกับลูก
เช่น เมื่อหมอแจ้งว่าอาจจะต้องทำการเจาะคอ เพื่อช่วยให้น้องลูกหินสามารถหายใจได้ดีขึ้น แม่นกเลือกที่จะจัดเปลี่ยนท่านอน สังเกตดูความอ่อนแข็งของหมอน จนค้นพบว่าท่านอนและหมอนที่เหมาะที่สุดสำหรับเด็กพิเศษ จนลูกไม่ต้องถูกเจาะคอ...
หรือ การออกแบบของเล่นเพื่อช่วยพัฒนากล้ามเนื้อมือ ซึ่งในท้องตลาดไม่มีสินค้าหรือของเล่นสำหรับเด็กพิการทางสมอง แม่นกเลยร่วมคิดกับบริษัทออกแบบของเล่น จนสร้างของเล่นขึ้นมาใหม่ ที่เหมาะที่สุดสำหรับเด็กพิการทางสมองทุกคน
ฯลฯ
.............................
กลับกัน.... บ้านบางบ้าน พ่อแม่บางคน กลับตั้งความคาดหวังเสียสูงลิบ ทำร้ายทำลายลูกที่สมบูรณ์แข็งแรงของตน ด้วยความเข้มงวด ด้วยความรักที่ผิดวิธี จนนำไปสู่ปัญหาในระยะยาวของลูก
........................................
ผมฟังเรื่องราวของแม่นกจนจบ คิดตามไปด้วยว่าเรากำลังเลี้ยงลูกแบบไหน ด้วย ความหวัง หรือด้วย ความคาดหวัง ด้วยความกดดันหรือด้วยความสุข
ในเรื่องร้ายมีเรื่องดีซ่อนอยู่ และในโชคร้ายมีโชคดีซ่อนอยู่เสมอ
แต่ผมเชื่อว่าเราสร้าง โชคดี ได้ สร้างขึ้นด้วยการไม่ยอมแพ้และไม่ยอมจำนนต่อโชคชะตา
แต่ต้องสร้างทำขึ้นมา ด้วยการมองทุกอย่างตามความเป็นจริง ทำทุกอย่างอย่างเข้าใจ และทำให้ดีที่สุดอย่างที่ทำได้และควรจะทำ ในฐานะของพ่อแม่คนหนึ่ง ที่ไม่ควรรักลูกมากเกินไป จนเผลอทำร้ายลูกในนามของความรัก และความห่วงใยที่มากเกินไป
Create Date : 11 กุมภาพันธ์ 2557 |
|
44 comments |
Last Update : 11 กุมภาพันธ์ 2557 6:06:19 น. |
Counter : 1300 Pageviews. |
|
|