:: ก๋าราณีตอบคำถามน้องเสือย้อมแมว ::
:: ก๋าราณีตอบคำถามน้องเสือย้อมแมว ::
วันนั้นเห็นพี่ก๋าแนะนำหนังสือ ดีไซน์รัก ของ osho พออีกสัปดาห์หนึ่ง มีหนังสือ ปัญญาญาณ osho อีกเล่มหนึ่ง ออกมาวางขายหน้าแผง เลยซื้อมาอ่านด้วย พออ่านแล้ว เป็นหนังสือที่ถูกจริตมาก เพราะโดนใจไปหลายดอก
แต่ก็พยายามเข้าใจในสิ่งที่ไม่เห็นด้วย ถ้าเราไม่ต้องการที่จะมีความสุขแบบพระพุทธเจ้า และไม่ได้อยากรวยเหมือนบิลเกตต์
เราต้องการความสุขพอประมาณในฐานะระดับหนึ่ง เราควรหยิบหน้าเค้ก แล้วทิ้งที่เหลือไว้ไหมครับ
อยากให้พี่ก๋าลองบรรยายความคิดเห็นที่มีต่อ osho ทั้งด้านที่ชอบ และ ที่ขัดแย้งกันด้วยครับ
คำถามโดย : เสือย้อมแมว พี่ก๋าอ่านงานของโอโชทุกเล่มเท่าที่มีแปลในประเทศไทยอ่านแล้ว ชอบแต่ ไม่เชื่อ ในสิ่งที่โอโชพูดทั้งหมดทำไมถึง ชอบ แต่ ไม่เชื่อเพราะถ้าจะให้เชื่อ ต้อง พิสูจน์ ก่อนครับว่ามัน จริงโอโชเป็นนักคิด นักเขียน นักพูดชาวอินเดียหนังสือเกือบทั้งหมดเป็นการถอดความมาจากการบรรยายในสถานที่ต่างๆที่โอโชไปพูดไว้....ความโดดเด่นของนักพูด นักคิดชาวอินเดียก็คือการวิพากษ์ การพูดคุยเชิงตรรกะการถาม-ตอบ โต้แย้งกันด้วยเหตุด้วยผล ด้วยวิธีคิดด้วยถ้อยคำ....ลักษณะการพูดคุยแบบนี้เป็นที่นิยมมากในสมัยโบราณเช่น ยุคกรีก และ โรมันเป็นการเรียนการสอนในลักษณะการวิพากษ์โต้แย้งกันด้วยเหตุด้วยผลจนนำไปสู่คำตอบ.....จุดเด่นที่พี่ก๋าชอบในหนังสือของโอโชก็คือมักจะมีชุดความคิดที่แย้งย้อนโยนเข้ามาให้เราคิดตามอยู่เสมอหนังสือหลายเล่มที่โดดเด่นของโอโชที่พี่ก๋าชอบจึงมีลักษณะพิเศษคือ มักจะโต้แย้งสิ่งที่มีอยู่เดิมเช่น การนำเอาคำสอนขององค์ศาสดาในศาสนาต่างๆมาวิเคราะห์ พิเคราะห์ แยกส่วนและตีความอย่างอิสระ(สอดแทรกด้วยมุขตลก)สื่อตะวันตกบอกด้วยซ้ำว่าโอโชคือบุคคลอันตรายทางความคิดเป็นคนที่เสนอแนวคิดที่สุดโต่งและอันตรายคงเพราะเขามักนำคำสอนที่มีอยู่ในแต่ละศาสนามาตีความใหม่มองหาแง่มุมความเชื่อตามความคิดของเขาซึ่งมันมักจะผิดแผกแตกต่างไปจากการตีความเดิมๆที่มีพี่ก๋าว่าการคิดแปลกและแตกต่างนี้เป็นสิ่งที่ดีมันทำให้เราได้พบแง่มุมใหม่ๆทางความคิดแต่อย่าลืม --- ชอบ ไม่ได้แปลว่าต้อง เชื่อ เสมอไปชีวิตส่วนตัวของโอโชนับว่ามีปัญหาไม่น้อยในขณะที่เขาสอนลูกศิษย์มากมายให้ปล่อยวาง เป็นอิสระ และรู้จักคิดส่วนตัวเขาเองกลับมีปัญหาพัวพันกับยาเสพติดสะสมรถยนต์หรูเกือบสองร้อยคันคบหาสมาคมกับกลุ่มมาเฟีย สถานปฏิบัติธรรมในอเมริกาที่เขาสร้างขึ้นถูกตั้งข้อครหาว่าเป็นสถานที่มั่วเซ็กส์และพบว่ามีการใช้ยาเสพติดในสถานปฏิบัติธรรม ฯลฯนั่นย่อมเป็นทางเลือกของเราเองแล้วว่าเราจะ อ่านความคิด ของโอโชหรือจะเลือก ยึดติด ในภาพลักษณ์และตัวตนที่เขาเป็น....อ่านหนังสือของโอโช แต่อย่าเชื่อในสิ่งที่เขาเขียนอ่านตามแล้วคิด คิดอย่างเป็นอิสระเรียนรู้สิ่งที่แตกต่างออกไปแล้วการตีความ การรับรู้และตระหนักใน ความจริง ของเราจะลึกซึ้งมากขึ้นเรื่อยๆ....พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนให้เราปฏิเสธความสุขและหมกมุ่นอยู่กับความทุกข์เพื่อบรรลุธรรมการตีความตามความเข้าใจของเราหรือของใครควรเป็นไปเพื่อกระตระหนักรู้ทีละนิด ทีละน้อย อย่าใช้ ความคิด ที่เรามีอยู่ ตัดสินถูกผิดในคำสอนปัญญาที่ขาดศรัทธา คือ ความแห้งแล้ง ศรัทธาที่ขาดปัญญา คือ ความงมงายถ้าสนใจโอโช ลองอ่านงานของกฤษณมูรติ ควบคู่ไปด้วยท่านเป็นนักคิดในยุคสมัยเดียวกันกับโอโชใช้วิธีการสอนที่เหมือนกันคือการถามตอบกับลูกศิษย์แล้วเราจะพบความเหมือนในความต่างพบความต่างในความเหมือนนักคิดทุกคน ศาสนาทุกศาสนายังมีความแตกต่างในตัวเองพุทธมีหินยาน และมหายาน คริสต์มีโปรแตสแตนท์และคาทอลิกอิสลามมีชีอะห์และสุนหนี่ ในแต่ละนิกายยังแยกย่อยออกไปนับร้อยนับพันรูปแบบนี่คือรูปแบบการเรียนรู้ รูปแบบความคิด รูปแบบความเชื่อยิ่งเราเรียนรู้ถึงความแตกต่างได้มากเท่าไหร่เราจะเรียนรู้ถึง ความไม่แตกต่าง ในสิ่งต่างๆที่ปรากฏพี่ก๋าชอบอ่านหนังสือของโอโชชอบ แต่ไม่ได้ เชื่อเพราะที่สุดของความเชื่อ พี่ก๋าคิดว่าเราควรสร้างมันขึ้น จาก ความคิด(ปัญญา) และ ความเชื่อ(ศรัทธา) ของตัวเราเอง
น้องรินทำบล้อกสัมภาษณ์ กะว่าก๋า เอาไว้ ติดตามอ่านกันได้ กดที่ชื่อลิ้งค์บล็อกได้เลยครับ
:: Interview .. the Blogger :: ~ กะว่าก๋า ~
Create Date : 12 พฤษภาคม 2556 |
|
41 comments |
Last Update : 12 พฤษภาคม 2556 6:31:26 น. |
Counter : 1743 Pageviews. |
|
|
ภาพประกอบสวยจัง