พฤษภาคม 2556
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
31 พฤษภาคม 2556

:: ก๋าราณีตอบคำถามในเว็บ a thing::





:: ก๋าราณีตอบคำถามในเว็บ a thing::






เขามีครอบครัวแล้ว มีลูก 2 คน
แต่แยกอยู่กันคนละบ้าน ภรรยาบอกว่าไม่ได้รักเขา
ที่แต่งงานด้วยเพราะเขาดีกับเธอ แต่เธอไม่ได้รักเขา
ภรรยาเคยบอกขอหย่า ผ่านมา 2 เดือนบอกว่าไม่หย่า

ทุกวันนี้เขาบอกว่าอยู่อย่างทรมานใจ
อยู่ทน หรือทนอยู่ก็ไม่รู้
เขานอนคนละห้อง อยู่บ้านเดียวกัน แต่ไม่พูด ไม่คุย
ลูกๆ ไม่ค่อยคุยกับเขาสักเท่าไหร่ อยู่รวมกันเป็นครอบครัว
แต่ไม่มีกิจกรรมที่จะชวนทำร่วมกัน ต่างคน ต่างทำ

เขารู้สึกเหมือนเป็นส่วนเกิน เป็นคนที่คอยรับใช้ให้ทำนู้นนี่
ไปนู่นนี่ เใจหนึ่งก็อยากไปอยู่บ้านของเขาเอง
แต่กังวลของความรู้สึกของลูกๆ
เพราะลูกเชื่อฟังแม่มากกว่า

พ่อสอนลูก ตักเตือนลูก
ลูกบอกพ่อมาอยู่แล้วเขาอึดอัด

ขอคำแนะนำค่ะ ว่าเขาควรคิดหรือทำยังไงดี





คำถามโดย : คุณจัน






















ทุกๆครั้งที่เกิดปัญหาภายในครอบครัว
มันไม่ได้มีผลกระทบแค่คู่กรณี แค่สามีภรรยา
แต่คนที่ต้องรับผลแห่งความบาดหมางนี้ไปเต็มๆ
คือ ลูก.....



ผมเคยคุยกับเพื่อนหลายคนที่มีปัญหาพ่อแม่หย่าร้าง
น่าแปลก....ที่ส่วนใหญ่เมื่อเติบโตขึ้นและมีความรัก
มักไม่ค่อยประสบความสำเร็จในชีวิตคู่


เกือบทั้งหมดจบลงด้วยการหย่าร้าง....



เรามักทำสิ่งที่เราเคยเกลียด
ยิ่งเกลียด ยิ่งไม่ชอบสิ่งไหน
ดูเหมือนสิ่งนั้นจะถูกดึงดูดเข้ามาสู่จิตใจของเราโดยไม่รู้ตัว


แต่ถ้ามองย้อนกลับไปที่ต้นตอของปัญหา
เราจะพบว่า ทุกคู่ที่มีปัญหากัน
มักแสดงออกให้ลูกเห็น

มีการด่าทอ มีการทำร้ายร่างกาย มีการทำร้ายจิตใจ
ในรูปแบบต่างๆให้เด็กๆซึมซัมรับรู้อยู่ตลอดเวลา


สิ่งนี้ไม่ต่างจากการรับ “ข้อมูล” เข้าสู่ “ความคิด”

เหมือนคนดูละครมากๆ
แล้วเผลอไปคิดตาม ไปทำตาม ไปเห็นดีงามด้วยกับสิ่งที่ละครนำเสนอ

เหมือนคนที่บ้าการเมือง ติดตามข่าวสารโดยไม่กลั่นกรอง
ที่สุดความคิดความเชื่อก็ถูกลากจูงไปกับข้อมูลที่ตนเชื่อถือรับฟัง
จนสุดท้ายกลายเป็นคนขาดสติ
และงมงายอยู่กับความคิดความเชื่อสุดโต่งของตนเอง





.............................................





เราใส่ “ข้อมูล” ใดใดลงไปให้ลูกรับรู้
เขาก็จดจำ ย้ำเตือนตนอยู่ตลอดเวลาด้วยข้อมูลนั้น

ถึงไม่ชอบ แต่พอข้อมูลถูกเติมลงไปในใจทุกเมื่อเชื่อวัน
วันหนึ่ง...ข้อมูลเหล่านั้นถูกส่งผ่านไปยังตัวลูก
และส่งผ่านไปยังคนรอบตัวที่เด็กแวดล้อม


เหมือนแม่ปู ที่พยายามสอนลูกให้เดินตรงๆ
โดยที่ตัวเองไม่เคยเดินได้ตามที่ตัวเองสอนลูกเลย




..............................................





การที่คู่ชีวิตคู่หนึ่งจะหมดรักและเลิกร้างกันไป
ไม่ใช่เรื่องผิดบาป ไม่ใช่บาดแผลในชีวิต

ชีวิตคู่เป็นเพียง “ช่วงเวลาหนึ่ง”
ที่คนสองคนได้นำชีวิตของตนเองมาทดลองใช้ร่วมกัน
ถ้าวันหนึ่ง “ช่วงเวลานั้น” ไม่ได้สร้างความสุขกายสุขใจ

ผมไม่เห็นประโยชน์ที่ใครคนใดจะต้องทนทุกข์
หรือปล่อยชีวิตให้จมอยู่อย่างเจ็บปวดด้วยคำว่าต้องอดทน

ต้องอดทนเพื่อลูก เพราะสงสารลูก
บางทีเราอาจแค่สงสารตัวเอง
แต่ไม่รู้ว่าจะหาทางออกให้ชีวิตยังไง
เพราะการเลิกราหย่าร้างจะตามมาด้วยคำถามมากมาย
ที่เราต้องตอบกับคนรอบข้างเวลาที่คนเหล่านั้นถามมา


ถ้าเรากล้าหาญพอที่จะตอบคำถาม
ผมคิดว่าการตอบคำถามว่าเราเลิกรากับคู่รัก
ไม่ใช่คำตอบที่ผิดบาปอะไรเลย


ชีวิตเราไม่ได้จบลง ไม่ได้เป็นจุดสิ้นสุด

อาจเป็นจุดเริ่มต้นของความหวัง ความสุข
และสิ่งใหม่ที่ดีกว่าก็ได้.....



การเยียวยาตัวเองออกจากความเจ็บปวดเป็นสิ่งสำคัญและควรทำ

ใช่...มากพอๆกับที่เราต้องคิดด้วย
ว่าเราจะบอกสอนลูกอย่างไร
จะทำให้ลูกเข้าใจได้อย่างไร
ว่าเขาไม่ได้เป็นต้นเหตุของความบาดหมางของพ่อแม่
เพราะเด็กจะชอบคิดว่าตัวเองไม่ดี ถึงทำให้พ่อแม่ต้องเลิกร้างห่างกัน
ที่สุดเมื่อไม่เห็นคุณค่าตนเอง เด็กจะโทษตัวเอง
จะทำร้ายตัวเองด้วยพฤติกรรมด้านลบ
และทุกสิ่งจะส่งต่อไปยังชีวิตของเขาเมื่อเติบโตขึ้นมา





..................................................





วันนี้พ่อแม่อาจไม่ได้รักกันแล้ว
หรืออาจกำลังแยกทางห่างกัน
เพื่อไปมีชีวิตใหม่ที่ดีขึ้น

อย่าลืมบอกลูก
อย่าลืมทำให้ลูกรู้สึกด้วยนะครับ

ว่าลูกไม่ได้เป็นคนผิด
ลูกไม่ได้เป็นจุดเริ่มต้นของความบาดหมาง

พ่อแม่อาจเลิกกัน ไม่ได้เป็นสามีภรรยา
แต่ลูกคือลูก
ยังเป็นลูกของพ่อแม่ไปตลอดชีวิต



เราไม่รู้จริงๆนะครับ
ว่าการรักใครสักคนจะจบลงตรงไหน

ตรงความรัก ความสุขสม ตรงเงินทองหรือความมั่นคง
ตรงการแต่งงาน ครองคู่กันไปจนแก่เฒ่า
หรือแค่รักกันอย่างเร่าร้อน แต่จบลงตรงการเลิกราหย่าร้าง



รักกันให้ดีในวินาทีนี้
เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียใจเวลาพรากจาก

ดูแลกันให้ดีที่สุด
เพื่อจะได้ไม่ต้องมาถามในวันที่สายเกินไป
ว่าฉันได้ทำสิ่งต่างๆอย่างดีที่สุดเพื่อความรักแล้วหรือยัง


จบแล้วเริ่มใหม่ได้เสมอ
ชีวิตก็เป็นอย่างนี้นะครับ

เราเริ่มต้นใหม่ในทุกๆเรื่อง
ทำให้ดีกว่าเดิมได้ ขอเพียงเรียนรู้จากความผิดพลาดที่เคยมี

แต่อย่าลืม “ดูแล” บางสิ่งที่เคยเกิดขึ้นมาท่ามกลางความรักความเกลียดชังด้วย

เพราะสิ่งนั้นคือ “ลูก” ของคุณทั้งสองคนครับ



















น้องรินทำบล็อกสัมภาษณ์ กะว่าก๋า เอาไว้
ติดตามอ่านกันได้
กดที่ชื่อลิ้งค์บล็อกได้เลยครับ




:: Interview .. the Blogger :: ~ กะว่าก๋า ~









Create Date : 31 พฤษภาคม 2556
Last Update : 31 พฤษภาคม 2556 6:19:22 น. 51 comments
Counter : 5662 Pageviews.  

 
เย

เจิม


โดย: แม่น้องไอแอมค่ะ (dogamania ) วันที่: 31 พฤษภาคม 2556 เวลา:6:25:43 น.  

 
บีนไม่เคยเป็นครูตามโรงเรียนค่ะ

ไม่แก่กล้าสามารถพอค่ะ

ได้แต่เขียนหลักสูตร ส่งกระทรวง กับ สยช

แต่ส่งไป ก็ไม่ได้ดั่งใจ โดน เอาไป ยำ ซะเละ 555

บีนสอนแบบส่วนตัวค่ะ

ถ้าสอนที 20-30คน แค่คิดก้อขนหัวลุกแล้วค่ะ

ที่ละ 2-3คน ยังแทบตายเลยพี่

https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=dogamania&group=3

ดูหน้าพวกมันสิคะ 5555555555

ร้ายกาจมว้ากค่ะ


โดย: แม่น้องไอแอมค่ะ (dogamania ) วันที่: 31 พฤษภาคม 2556 เวลา:6:32:34 น.  

 
ไหนๆก้อเจิมแระ

ป่วนบล็อกพี่ก๋าเรย

อืมมม พ่อแม่บีนหย่ากันตอนบีน 2ขวบ

ด้านชา ไม่เห็นรู้สึกไรเรย

ไม่ติดยา ไม่มีปัญหา เป็นนักเรียนทุน จน จบ ป.ตรีีด้วย

อืมมมมมม

อารมณ์ ตายด้าน 555555555

คุณแม่ลูก สามแบบหนู ถ้าพ่อมันมีกิ๊ก

หนู จาตัด คิ้กคาปู้มานนน คลุกข้าวให้ น้องหมา จรจัด กิน


โดย: แม่น้องไอแอมค่ะ (dogamania ) วันที่: 31 พฤษภาคม 2556 เวลา:6:36:53 น.  

 

กด Like ให้เป็นคนที่ 1
แหล่มเลยน้อง
พี่อุ้มชอบตั้งแต่คำถามที่คุณจันนำมาถาม
แล้วพี่อุ้มชอบน้องก๋าตอบ
ลูกเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องเคลียให้ชัดเจนมาก
พี่อุ้มมาโหวตให้ในหมวดข้อคิดและธรรมะ
สุดยอด



โดย: อุ้มสี วันที่: 31 พฤษภาคม 2556 เวลา:6:42:43 น.  

 
พระพุทธพจน์ จิตท่ีฝึกดีแล้วนำสุขมาให้ หรือฝึกฝืนจิตได้นำสุขมาให้

เราคงต้องดูว่าเราอยู่กับทุกข์หรือสุข เรายินดีในสิ่งท่ีได้รับแล้วหรือ

เราเท่านั้นท่ีจะต้องแก้ไข และแก้ไขท่ีตัวเราก่อน


โดย: ธูปหอม IP: 110.77.181.22 วันที่: 31 พฤษภาคม 2556 เวลา:6:43:17 น.  

 
อรุณสวัสดิ์คะ
อากาศดี ๆ ...มีความสุขกับการทำงานนะคะ...
- HapPy FriDay




โดย: ลงสะพาน...เลี้ยวขวา วันที่: 31 พฤษภาคม 2556 เวลา:6:43:18 น.  

 
แต่ลารูป

หมิง หมิง น้อย ทำหน้ากวนโอ้ย มว้ากค่ะ


โดย: แม่น้องไอแอมค่ะ (dogamania ) วันที่: 31 พฤษภาคม 2556 เวลา:6:48:26 น.  

 
หลายคนอดทนกับสภาพครอบครัวที่ไม่มีทางกลับมาเหมือนเดิม เมื่อวันที่เคยรักกัน...ปากก็บอกว่า "เพื่อลูก" ไม่อยากให้ครอบครัวแตกแยก อย่างที่คุณก๋าบอก ลูกรู้สึกได้แล้วเค้าจะอึดอัดกับบรรยากาศแบบนี้... จริงแล้วอาจไม่ใช่ทำเพื่อลูกหรอก แต่เพื่อ "หน้า" ตัวเองมากกว่า ขี้เกียจตอบคำถามคนรอบข้าง มันก็คงแย่เหมือนกัน พอเข้าใจได้ แต่เราต้องกล้าหาญเนาะ พี่ไม่นึกว่าคุณก๋าจะตอบแบบนี้ แต่ชอบใจค่ะ บางเรื่องบางภาคเราก็คงไม่คิดบวก รอมชอมประนีประนอมได้หรอก ต้องเด็ดขาดไปเลย

ใช่เลย... เราไม่รู้จริงๆ ว่าการรักใครซักคนจะจบที่ตรงไหน


*** ความรู้จากของจริง มันสุดยอดกว่าการนั่งอ่านแต่ตำราเยอะเลยครับ...พี่คิดเทียบกับตัวเองด้วยค่ะคุณก๋า พี่เพิ่งได้เที่ยวเยอะเพราะลูก เรารู้เลยว่าประสบการณ์ตรง ประสบการณ์จริง เป็นแบบนี้เอง

หมิงหมิงใส่หมวกอาราเล่ พี่เมฆอยากได้นานแล้วลูก ป้าก็ไม่ซื้อให้ซักที ก็หมวกพี่เมฆมีหลายใบแล้วเนาะ


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 31 พฤษภาคม 2556 เวลา:6:55:29 น.  

 







โดย: กะว่าก๋า วันที่: 31 พฤษภาคม 2556 เวลา:6:57:19 น.  

 
สวัสดีค่ะ รักกันให้ดีในวินาทีนี้
เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียใจเวลาพรากจาก...

บ้านปลาเองก็ใช้ชีวิตเหมือนวันนี้จะเป็นวันสุดท้าย
ให้กันและกันค่ะ วันพรุ่งนี้มีหรือเปล่าไม่รู้
แต่วันนี้เรามี เพราะงั้นดีต่อกันเหมือนสะว่า
วันนี้เป็นวันสุดท้ายของชีวิตนะค่ะ
ปล.อากาศเปลี่ยนดูแลสุขภาพด้วยค่ะ


โดย: หนูซายูริ วันที่: 31 พฤษภาคม 2556 เวลา:7:44:48 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณก๋า
ตอนนี้ฝนกำลังตกเปาะแปะค่ะ น่านอนต่อที่สุด อิอิ..

พี่ก็ไม่เห็นประโยชน์ที่ใครคนใดจะต้องทนทุกข์
แต่เห็นด้วยถ้าพ่อแม่เลิกกัน ลูกก็ยังเป็นลูกของพ่อแม่ตลอดชีวิต
ไม่จำเป็นต้องเอาสีดำไปเปอะเปื้อนจิตใจลูกค่ะ




โดย: เนินน้ำ วันที่: 31 พฤษภาคม 2556 เวลา:7:58:04 น.  

 
สวัสดีค่ะน้องก๋า

มาอ่านตอบคำถามตอบได้ดีมีคุณภาพเหมือนเดิม

หมิงหมิงโชคดีมากที่ได้เกิดมาเป็นลูกน้องก๋า

รูปหมิงหมิงทำกิจกรรมอะไรครับ วันนี้ทั้งไล้ค์ทั้งโหวตค่ะ


กะว่าก๋า Dharma Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 3 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: พรไม้หอม วันที่: 31 พฤษภาคม 2556 เวลา:8:02:34 น.  

 


สว้สดีค่ะ คุณน้องก๋า

น้องตอบได้ดีมากค่ะ

newyorknurse


โดย: newyorknurse วันที่: 31 พฤษภาคม 2556 เวลา:8:24:45 น.  

 


ตั้งใจอ่านความคิดของคุณพ่อเลยค่ะ


โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 31 พฤษภาคม 2556 เวลา:8:34:50 น.  

 
หากต้องฝืนทนอยู่ด้วยกัน
แล้วต่างฝ่ายต่างรู้สึกอึดอัดใจ
ก็ไม่น่าจะมีเหตุผลอันใดที่ต้องทนทุกข์อยู่แบบนั้นเน๊าะ
ในเมื่อลูกก็ไม่ได้เชื่อฟังและเหนี่ยวรั้งผู้เป็นพ่ไว้เลย
สู้จบๆกันไปซะน่าจะดีกว่าเน๊อะ
ต่างคนก็จะได้ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ตามเส้นทางของตนเอง


ชอบประโยคนี้มากๆเลยค่ะพี่ก๋า
มันโดนใจจริงๆเลย

"เหมือนแม่ปู ที่พยายามสอนลูกให้เดินตรงๆ
โดยที่ตัวเองไม่เคยเดินได้ตามที่ตัวเองสอนลูกเลย"

ชวนให้นึกถึงเพลง "ปูนาขาเก" ซึ้งเป็นเพลงที่ชื่นชอบ
เพราะในเนื้อหาของเพลงไม่เพียงแต่ให้ความสนุกสนานเพียงอย่างเดียว
แต่ยังสอดแทรกแง่คิดไว้ให้ด้วย

สวัสดีวันศุกร์ สุขหรรษานะคะพี่ก๋า

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
mambymam Food Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 3 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: พริ้วไหวไปตามลม วันที่: 31 พฤษภาคม 2556 เวลา:9:21:48 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณก๋า เรื่องราววันนี้ดีจัง

จบแล้วเริ่มใหม่ได้เสมอ
ชีวิตก็เป็นอย่างนี้นะครับ

จริงๆค่ะ

สวัสดียามสายค่ะ




โดย: mambymam วันที่: 31 พฤษภาคม 2556 เวลา:9:31:26 น.  

 
สวัสดีครับคุณแม่


น้อมรับคำสอนของคุณแม่ครับ






โดย: กะว่าก๋า วันที่: 31 พฤษภาคม 2556 เวลา:9:38:02 น.  

 
ฟัง(อ่าน)แล้วหดหู่ชอบกล
ไม่รัก แต่แต่งงานด้วยเพราะเค้าดีด้วย สุดท้ายไม่มีความสุขทั้งคู่
พาลไปทำให้ลูกอึดอัดอีกต่างหาก

แต่งงานกับคนที่เรารัก ก็ไม่ได้มีแต่ความสุขอย่างเดียว มีทุกข์มีโกรธ มีขัดใจกันตลอด
แต่งกับคนที่ไม่รัก พี่ว่าอยู่คนเดียวดีกว่า


โดย: พจมารร้าย วันที่: 31 พฤษภาคม 2556 เวลา:9:53:49 น.  

 
สวัสดีวันร้อนๆอยากกิงของเย็นๆค่ะพี่กำ อิอิ




โดย: ญามี่ วันที่: 31 พฤษภาคม 2556 เวลา:10:06:15 น.  

 
น้ำใสมีบทบาทเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวคะ มีปัญหาครอบครัวตั้งแต่ปี 2544 ลูกคนโตอายุ 6 ขวบ คนเล็ก 4 ขวบ หย่าขาดเมื่อ ปี 2550 ปัญหาครอบครัวถูกเก็บเงียบ ไม่ทะเลาะให้ลูกเห็น คุณพ่อคุณแม่และญาติ ๆ ไม่มีใครรู้ น้ำใส ใช้ความอดทนอย่างมาก แสดงบทบาทครอบครัวอบอุ่นเหมือนเดิม ไม่ได้โกหก แต่ไม่อยากให้ใครมาเป็นทุกข์กับเรา และเผื่อไว้ว่าพ่อบ้านจะแก้ปัญหาได้
พื้นฐานเดิมพ่อแม่ของน้ำใสทะเลาะกันทุกวัน ท่านต่างก็ทุกข์มากแต่ไม่เลิกกัน น้ำใสตั้งใจไว้เลยว่าถ้ามีครอบครัวจะไม่ทะเลาะกันให้ลูกเห็น เพราะน้ำใสเอง ตอนพ่อแม่ทะเลาะกัน จะรู้สึกเครียดและปวดหัวเหมือนจะระเบิดเลย แต่สมัยก่อนเค้าไม่มีความรู้เรื่องผลกระทบที่เกิดกับลูก เราเองรักอนาคต พ่ออยากให้รับราชการ ก็ทำให้ท่านได้สำเร็จ
คุณพ่อคุณแม่ของน้ำใสมารู้ความจริงเรื่องหย่าตอนปี 2556 ท่านเห็นเราไม่ทุกข์ ท่านก็ไม่ทุกข์นะ แต่ท่านให้กำลังใจ เค้ามาเยี่ยม เค้าร้องให้ท่านก็สงสาร และไม่ได้ต่อว่าอะไร ท่านบอกว่าถ้าน้ำใสมีแฟนใหม่ท่านก็เข้าใจ แต่น้ำใสบอกว่าตอนนี้ศึกษาธรรมะ ดูแลลูก ดูแลท่าน คงไม่มีเวลาให้ใคร

เค้าจะมาพบลูกและนัดไปทานข้าวเดือนละครั้ง นั่งมองเค้าแล้วขำ ๆ ไม่น่าเชื่อว่านี่คือคนที่เราเคยรักมากที่สุด ขาดเค้าไม่ได้แน่ชีวิตนี้ แต่วันนี้มันไม่มีอะไรเหลือเลย ทั้งรัก เกลียดหรือแค้นเคืองอะไร นี่คือผลของการเข้าถึงธรรมะ

"สิ่งที่ทำร้ายเราที่สุดไม่ใช่คนที่ เปลี่ยนไป แต่เป็นตัวแราเอง
ที่ไม่เข้าใจการ เปลี่ยนแปลง"
สวัสดีคะ
"


โดย: น้ำใส...ไหลเย็น IP: 203.113.0.206 วันที่: 31 พฤษภาคม 2556 เวลา:11:06:33 น.  

 
รู้ว่าคุณก๋าไม่ทานของพวกนั้น
เลยไม่ยกมาฝากค่ะ อิอิ




โดย: mambymam วันที่: 31 พฤษภาคม 2556 เวลา:11:13:29 น.  

 
อือม์...ปัญหานี้กลายเป็นปัญหาสามัญประจำสังคมคนยุคนี้ไปเสียแล้ว...

การเลิกร้างช่างเกิดขึ้นได้ทุกซอกทุกมุม ทุกระดับชนชั้น
ทิ้งไว้ซึ่งผลพวงเป็นความเจ็บปวดของลูก ๆ ที่กำลังจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่และมีครอบครัวของตัวเองในวันข้างหน้า...และอาจจะมีพฤติกรรมการครองเรือนเช่นเดียวกับคนเป็นพ่อเป็นแม่...หมุนเวียนเป็นวัฏจักรไปเรื่อย ๆ

น่ากลัวจริง ๆ เนาะ


โดย: แม่ไก่ วันที่: 31 พฤษภาคม 2556 เวลา:11:18:20 น.  

 
เรื่องครอบครัว...เป็นเรื่องละเอียดอ่อน..
ความรักเป็นของคน 2 คน..บางที่ ข้อมูล ไม่ครบ ก็ตัดสินใจอะไรไม่ได้..ลูกก็สำคัญ..แต่ถ้าอยู่แล้ว ไม่ดี..แยกกันอยู่ แล้วแวะไปหาบ่อย ๆ อาจดีกว่าก็ได้..มั้งคะ..เพราะเด็กที่พ่อ-แม่แยกทางกัน..ก็ไม่ใช่ว่าจะมีปมด้อย หรือ มีปัญหาเสมอไปนี่คะ..


โดย: simplyusana วันที่: 31 พฤษภาคม 2556 เวลา:11:24:57 น.  

 
ผมเคยคุยกับเพื่อนหลายคนที่มีปัญหาพ่อแม่หย่าร้าง
น่าแปลก....ที่ส่วนใหญ่เมื่อเติบโตขึ้นและมีความรัก
มักไม่ค่อยประสบความสำเร็จในชีวิตคู่
เกือบทั้งหมดจบลงด้วยการหย่าร้าง
...
หนูเป็นหนึ่งคนที่คิดว่าผลลงเอยมันจะจบแบบนี้เสมอเลยค่ะ คิดจนเกิดความกลัว
และคิดว่าควรจะต้องทำมันให้ดีที่สุดในเวลาหนึ่งขณะ ที่ครุ่นคิด
แต่พอวันเวลาผ่านไป สุดท้ายของคำตอบและความเป็นจริงที่ดีที่สุด
นั่นคือไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นและต้องจบลง ในวันใดวันหนึ่ง ทำทุกๆ ขณะให้ดีที่สุด
ทำทุกอย่างๆ ไม่รัดตัวเองว่าทุกอย่างมันจะต้องมาอย่างดีที่สุด
ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาต เรียนรู้และพร้อมเติบโต ยอมรับกับทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้นอยู่เสมอจะดีกว่า
....
พอมาเจอประโยคนี้ อิอิ ยิ้มเลยค่ะ
" เหมือนแม่ปู ที่พยายามสอนลูกให้เดินตรงๆ โดยที่ตัวเองไม่เคยเดินได้ตามที่ตัวเองสอนลูกเลย "
...
เพราะหนูเป็นแม่ปูที่เดินไม่เคยตรงเลย ไม่ว่าจะพยายามเท่าไหร่ รู้แค่เพียงว่าเดินไปตามเส้นทางของตัวเองเท่านั้นเอง
มีความสุขมากมากนะคะ พี่ก๋า


โดย: white in the dark วันที่: 31 พฤษภาคม 2556 เวลา:11:49:48 น.  

 
เราไม่รู้จริงๆนะครับ
ว่าการรักใครสักคนจะจบลงตรงไหน

ความรักของผมมันธรรมดา ผมรักในธรรมชาติของคนที่ผมรัก ในทุกด้านที่ร้ายกาจของเค้า ความรักคงจบลงที่ถ้าคนที่ผมรักเค้าจริตแยะ แต่ปราชญ์สบายใจได้ ศิษย์ของปราชญ์อีกคน ธรรมชาติล้วนๆๆ บ้าบอ ติสแตก แหกกฏ แหกคอก ขาวีน สาระพัด ความรักเลยยังดำเนินต่อได้อีก



โดย: ~ ริมน้ำ_voUฟ้า ~ (rimnam_kobfa ) วันที่: 31 พฤษภาคม 2556 เวลา:11:52:24 น.  

 
สวัสดียามเที่ยงค่ะพี่ก๋า
การแต่งงานไม่ใช่จุดจบเหมือนนิยายนะคะ นิยายพอแต่งงานกันปุ๊บ จบปั๊บ แต่การแต่งงานในชีวิตจริงถือว่าเป็นการเริ่มต้น เหมือนที่ใครเคยบอกไว้ว่า เหมือนซื้อล็อตเตอรี่ คนโชคดีมีน้อย เฮ้อ แย่จัง
----
ยิ่งพี่ก๋าบอก ยิ่งอยากไปเที่ยวแบบนี้ดูมั่งค่ะ ส่วนใหญ่จะไปกับพี่ๆ ที่ค่อนข้างสนิทกันค่ะ แต่ช่วงนี้พักการเที่ยวไว้ก่อน

มีความสุขกับการทำงานนะคะ


โดย: ประกายพรึก วันที่: 31 พฤษภาคม 2556 เวลา:12:12:15 น.  

 
ปูนาขาเกของแคทรียา -- ใช่แล้วค่าพี่ก๋า

ฟังสนุกดี แถมมีแง่คิดให้สะกิดเตือนใจได้ด้วยเน๊อะ 55


อิ่มอร่อยกับมื้อกลางวันนะคะพี่ก๋า


โดย: พริ้วไหวไปตามลม วันที่: 31 พฤษภาคม 2556 เวลา:12:13:54 น.  

 
สวัสดีครับคุณน้ำใส...ไหลเย็น


ชื่นชมคุณน้ำใสฯมากๆเลยนะครับ
ทั้งความเข้มแข็งและความเข้าใจชีวิต

คำถามนี้ไม่มีใครตอบได้ดีเท่ากับคนที่เคยผ่านความทุกข์จากความรักมา

เพื่อนผมหลายคู่ที่รักและเลิกกัน
เมื่อย้อนกลับไปดู
ก็พบว่าเกือบทั้งหมดเป็นการรักกัน
เพราะ "คิดว่ารักกัน"
พอเวลาผ่านไปก็ "คิดว่าไม่รักแล้ว"

ผมเคยถามตัวเองเหมือนกันว่ารักมาดามเพราะอะไร
มันไม่ใช่ "ความคิด" แต่เป็น "ความรู้สึก"
ทั้งความคิดและความรู้สึกไม่มีอะไรคงทนเลย

แต่สำหรับชีวิตคู่
ผมกลับคิดว่า "ความรู้สึก" ก็เป็น "เหตุผล" อย่างหนึ่ง
ที่ทำให้เรายังรักใครคนหนึ่งได้ ให้อภัยได้ เข้าใจเค้าได้
ในแบบที่เค้าเป็น
ไม่ใช่ในแบบที่เราอยากให้เป็น

ในบางเวลา
เราเองยังเป็นอย่างที่คนรักคาดหวังไม่ได้เลย
เพราะผมเชือ่เหลือเกินว่า

ไม่มีใครสมบูรณ์แบบในเรื่องของความรักจริงๆ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 31 พฤษภาคม 2556 เวลา:12:44:00 น.  

 
ชีิวิตคู่ คนในอยากออก คนนอกอยากเข้า
ชีวิตคู่ เหมือนซื้อลอตเตอรี่

สำหรับผม ชีวิตคู่ คือ การเป็น"เพื่อนแท้"กันไปตลอดชีวิต

สวัสดีพักเที่ยงครับ คุณก๋า มาดาม น้องหมิง หมิง
ฝนเริ่มตกบ่อยแล้วครับ ช่วงนี้
เมื่อวาน ที่อุทัยโปรยปรายตั้งแต่ 9 โมงกว่า ไปหยุดบ่ายสอง



โดย: เศษเสี้ยว วันที่: 31 พฤษภาคม 2556 เวลา:12:46:29 น.  

 

ความรักเป็นสิ่งที่เรียนรู้ได้ไม่มีวันสิ้นสุดครับ
...


โดย: white in the dark วันที่: 31 พฤษภาคม 2556 เวลา:12:47:03 น.  

 
หายากครับผู้ชายทำอาหารอร่อยน่ะ

มาเล่าครับ

อีกคนเค้าทำได้ทุกอย่าง จริงๆ ผมว่าระดับสติปัญญาเค้าสูงมากหรือจะเป็นที่เค้าไฮเปอร์ แต่ สองสิ่งที่อย่าให้เค้าทำ

หนึ่งขับรถ ขอบอก ตายกันเป็นร้อยๆแน่

สองทำอาหาร เค้าไม่ชิม ไม่ปรุง นึกอยากใส่อะไรใส่ เช่นวันนั้นแกงจืด เค้าใส่น้ำ ใส่ซุปก้อน กระแทกซีอิ๊วขาวลงไปไม่ยั้ง พอผมชิม มันเค็มมาก ผมบอกว่าเค็มเกิน เค้ามายกหม้อแกงไปเทน้ำทิ้งไปครึ่งนึง แล้วใส่น้ำเพิ่มไป แล้วยกลงมากิน ทำเองกินไม่ได้ ติสแตก

ผมชอบนะเรื่องทำอาหาร แต่ ตอนทำอย่าให้อีกคนมาวุ่นวาย มาถ่ายรูป มามอง มาถาม ไม่ซักไซร้ ผมเลิกทำเลย ผมชอบทำครัวตามลำพัง เสร็จยกมากิน กัน ผมถึงรำคาญถ้าเค้าจะอัพบล๊อกอาหารที่ผมทำ 55555555555

มาขอบคุณด้วยตัวเองสำหรับรูปวาดครับ ชอบมากๆๆ และ ถ้าปราชญ์ให้อีก เราก็จะเก็บกันอีก ยังคิดกันว่าจะแปะให้เต็มฝาบ้าน





โดย: ~ ริมน้ำ_voUฟ้า ~ (rimnam_kobfa ) วันที่: 31 พฤษภาคม 2556 เวลา:13:17:59 น.  

 
คำถามวันนี้น่าสนใจมากเลยค่ะ
ปอยเองก็ไม่รู้เหมือนกันนะคะ ว่าการมีครอบครัวของตัวเอง
มันจะมีปัญหาอะไรมากมายนัก แต่หากเป็นปอยแล้ว
หากไม่ได้รัก คงไม่ตัดช่องน้อยแต่พอตัวใช้ชีวิตคู่กับใครแน่ๆ
ขนาดกับคนรักที่ยังไม่ได้ใช้ชีวิตคู่ บางเวลายังมีงอนมีขัดใจกันเลย
แล้วหากต้องออกไปสร้างครอบครัว ต้องอยู่ด้วยกัน ใช้ชีวิตร่วมกัน มีลูกร่วมกันที่ต้องรับผิดชอบ
ปอยว่าสิ่งเหล่านี้เป็นหน้าที่อันยิ่งใหญ่เลยนะคะ กับการที่เราจะอยู่กับใครสักคน นั่นคือการฝากชีวิตแล้ว
และมีลูกที่เราต้องคอยดูแล ปอยคิดว่านั่นคือภาระอันยิ่งใหญ่เลยล่ะ
หากปอยไม่พร้อมกับสิ่งเหล่านี้ ปอยไม่ออกเรือนง่ายๆ แน่ ฮ่าๆ
ขออยู่แบบโสด มีอิสระเต็มร้อยแบบนี้สบายกว่ากันเยอะค่ะ

ความคิดของแต่ละคนต่างก็แตกต่างกันออกไป
แต่สำหรับปอยคงจะแนวนี้อ่าน๊าา




รักกันให้ดีในวินาทีนี้
เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียใจเวลาพรากจาก
.
.
ขอบคุณสำหรับประโยคดีดีค่ะพี่ก๋า
เป็นประโยคที่มีความหมายมากๆ เลยค่ะ



โดย: แค่ได้รู้จัก_ก็เพียงพอ วันที่: 31 พฤษภาคม 2556 เวลา:13:23:27 น.  

 
เห็นพี่ๆ ที่ทำงานก็บ่นเหมือนกันค่ะว่าพอมีลูกแล้วไม่ค่อยได้เที่ยว เพราะที่บางที่เด็กๆ ไปด้วยไม่ได้ แต่ก็ไม่เห็นเดือดร้อน อยู่กับครอบครัวคงจะมีความสุขอีกแบบมั๊งคะ
เด็กๆ เปิดเทอมแล้ว รถก็เริ่มติดเหมือนเดิมค่ะ ทั้งเช้าทั้งเย็น เสียงนกหวีดของตำรวจปลุกทุกเช้าเหมือนเดิม (โรงเรียนอยู่ใกล้ๆ ที่ทำงาน)


โดย: ประกายพรึก วันที่: 31 พฤษภาคม 2556 เวลา:14:16:49 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เกศสุริยง Education Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Dharma Blog ดู Blog
jamaica Music Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 3 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
---------------
ไม่ได้มาทักทายเสียหลายวัน คุณก๋าสบายดีนะคะ


โดย: ดรสา วันที่: 31 พฤษภาคม 2556 เวลา:14:38:17 น.  

 
^^ ตามอ่านบ่อยแต่ไม่ค่อยคอมเม้นเท่าไร เป็นบลอกที่ดีมากค่ะ ^^


โดย: ^^ IP: 49.231.118.183 วันที่: 31 พฤษภาคม 2556 เวลา:14:44:33 น.  

 
บ่ฮู้ว่า ได้เปิดใจอู้กั๋นแบบ เพื่อน แบบ man to man ก่
เข้าใจ๋กั๋นก่
บางเตื่อเฮาอาจจะกึดเว่อร์เกินจริงไปก่ได้
อาจจะบ่มีอะหยัง


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 31 พฤษภาคม 2556 เวลา:15:22:18 น.  

 
สวัสดียามบ่ายๆ ค่ะพี่ก๋า ช่วงนี้ขี้เกียจอัพบล็อกมากๆ เลย


โดย: sawkitty วันที่: 31 พฤษภาคม 2556 เวลา:15:38:29 น.  

 



--------------------------
สวัสดียามบ่ายแก่ๆวันศุกร์ พรุ่งนี้จะได้พักผ่อนตื่นสายกันเสียที ช่วงนี้เพื่อนๆในblogเงียบหายเพราะติดธุระก๊เยอะ เลยดูเหมือนbloggang ร้างๆยังไงก็ไม่รู้55555 แวะมาทักทายค่ะ วันนี้พอมีเวลาเลยรีบมาก่อน คิดถึงอยู่เสมอนะคะคุณก๋า


โดย: เกศสุริยง วันที่: 31 พฤษภาคม 2556 เวลา:15:46:26 น.  

 
วันก่อนนับมาแล้วถ่ายฮูปมา 2700+++ เจ้า


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 31 พฤษภาคม 2556 เวลา:16:08:01 น.  

 
วันนี้หมิงหมิงพิมพ์หม่ามี้มาเลย

ชีวืตคู่ แต่ละคู่ก็เป็นแต่ละแบบ
ปัญหาไม่เหมือนกัน
สิ่งสำคัญแม่ว่าเราต้องคุยกันด้วย
อย่างน้อยลูกก็เป็นส่วนหนึ่งให้คนสองคนสร้างความเข้าใจกันได้

คนสมัยนี้ด้วยถือตัวตนเป็นใหญ่ไม่คิดพึ่งพากัน
ถือว่าฉันไม่มีคุณฉันก็อยู่ได้

ยากนะคะ ทุกวันนี้จึงมีแต่เรื่องหย่าร้าง


โดย: ซองขาวเบอร์ 9 วันที่: 31 พฤษภาคม 2556 เวลา:17:55:29 น.  

 
อ่านเนื้อหาช่วงแรกๆ ของเพจพี่ก๋าแล้ว...ความคิดแล่นปรู๊ดปร๊าดไปถึงเรื่อง "จันดารา" (เวอร์ชั่นก่อน) ที่เคยดูก่อนที่จะมาเป็นปฐมและปัจฉิมบทเลยค่ะ ตอนนั้นยังเด็กๆ อยู่ สรุปได้แบบเด็กๆ ว่า ไอ้พฤติกรรมต่างๆ ที่จันเกลียดพ่อเขา สุดท้ายก็ทำเสียเอง คงจะอย่างที่พี่ก๋าว่าเน๊อะ ข้อมูล>ความคิด>การกระทำ

ตั้งแต่เก็บรายละเอียดที่พี่ก๋าเขียนบล็อคมานี่...ไผ่ว่า...พี่ก๋าสมกับเป็นศิราณีจริงๆ เลย หุหุ ก้ำกึ่งระหว่างที่ปรึกษาและจิตแพทย์


โดย: คมไผ่ วันที่: 31 พฤษภาคม 2556 เวลา:20:00:29 น.  

 
ในสังคมปัจจุบัน มีปัจจัยหลายอย่างที่เสี่ยงให้เกิดการหย่าร้างมากขึ้น
ในยุคโซเชียลแบบนี้ เห็นเลิกกันมาหลายคู่แล้ว จากคนรอบข้างที่รู้จัก
รักๆเลิกๆกันเป็นว่าเล่นเลย อย่างที่บอกมาจากการเก็บข้อมูลโดยไม่รู้ตัว
นานวันเข้าเกิดความเคยชิน พอทำกันมากๆ ทั้งที่เป็นเรื่องไม่ดี เหมือนอุปทานหมู่ กับคำว่าใครๆก็ทำ ทำบ้างจะเป็นไรไป ก็ทำไปโดยไม่คิดอะไร สมัยนี้ข่าวไม่ดี ที่คนในครอบครัวเดียวกันทำร้ายกัน หดหู่ใจทุกครั้งที่มีข่าวเด็กเล็กๆถูกทำร้ายโดยผู้ที่เด็กเรียกว่าพ่อ หลายข่าวคนพวกนี้ไม่สมควรจะเป็นพ่อใคร
ถ้าจะพูดให้ถูก อย่าเรียกว่าเป็นมนุษย์จะดีกว่า ...

...............

มีความสุขในวันหยุดนะคะพี่


โดย: NENE77 วันที่: 31 พฤษภาคม 2556 เวลา:20:37:52 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณก๋า
ได้ยินบ่อยเลยค่ะทนอยู่ด้วยกันเพื่อลูก
บางทีอาจเป็นเพราะคนใดคนนึงกลัวการเปลี่ยนแปลงจากที่เคยมีกลายเป็นไม่มี
หรือเสียงเสียดสีของคนในสังคมรอบข้างน่ะค่ะที่ทำให้หลายคู่ต้องทน
เห็นด้วยนะคะชีวิตเราเริ่มใหม่ได้ตลอดเวลา
::ขอบคุณสำหรับโหวตด้วยค่ะคุณก๋า


โดย: blueberryblossom วันที่: 31 พฤษภาคม 2556 เวลา:21:13:22 น.  

 
รู้สึกตื้อ ๆ มีน ๆ แวะมาหาศิษย์พี่...แต่ก็ไม่ได้อ่านอะไรเลย...จนกระทั่งถึงอ่านอะไรไม่ได้เลย

ใช้สมองคิดวิเคราะห์(งาน)จนกระทั่งรู้สึกเบลอ ๆ อยากพักมากเลยค่ะศิษย์พี่



โดย: minporee วันที่: 31 พฤษภาคม 2556 เวลา:22:20:52 น.  

 
แวะมาเยี่ยมยามค่ำคืน...หลับฝันดีครับ


โดย: **mp5** วันที่: 31 พฤษภาคม 2556 เวลา:23:43:32 น.  

 
หวัดดีเจ้าอ้ายก๋า

เรื่องครอบครัวแบบนี้เนี่ย ลำบากใจแต้ๆ เจ้า
หากไม่เจอกับตัวเองบางทีก็ไม่รู้สึก

หากเจอมาก็สงสารคนกลางตวย
แต่บางคนก็เห็นแก่ตัวเกินไป เอาตัวรอดมีก็นักเจ้า
นานาจิตตัง
จึงเจอปัญหาหลากหลายสารพัดไม่รู้จักจบสิ้นแต้ๆ







:: Interview .. the Blogger :: ~ multiple ~

รับประกันเสียงหัวเราะตลอดทั้งบล็อกที่นี่ !!



โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 1 มิถุนายน 2556 เวลา:0:08:12 น.  

 
ลูกซวยตลอด ถึงพ่อแม่จะพยายามบอกว่าลูกไม่ใช่สาเหตุ

แต่

เขาจะทำได้ดีแค่ไหน

ที่สำคัญลูกจะเชื่อที่ พ่อ แม่ พูดหรือไม่

ได้อ่านแล้วผมคิดถึงคำสอนอันหนึ่งที่ได้ยินบ่อยๆ ว่า

"สอนด้วยการทำให้ดูเป็นตัวอย่าง"


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 1 มิถุนายน 2556 เวลา:0:56:00 น.  

 
สวัสดีค่า พี่ก๋า ^^
นุ่นมาดึกมากๆเลยวันนี้

คำถามปัญหาครอบครัวนี่เป็นปัญหาโลกแตกเนอะนุ่นว่า
ต่างคนต่างความคิด ต่างเหตุผล
เข้าใจยากจังคะ



โดย: lovereason วันที่: 1 มิถุนายน 2556 เวลา:1:15:10 น.  

 




สวัสดีจ้ะน้องกิจ

ตอบได้ดีมากจ้ะ
พ่อแม่หย่าร้างกัน ไม่ใช่ความผิดของลูก
และการอธิบายให้ลูกเข้าใจเป็นทางออกที่ดี

แต่ส่วนมากที่เห็นจะตรงกันข้าม

โหวตอะไรให้ดีนี่ พี่โหวตนี่ให้นะ
กะว่าก๋า Dharma Blog

ปรกติเข้ามาตอนดึกๆนี่บล๊อกน้องกิจเป็นร้อยกว่าคอมเมนท์
วันนี้น้อยจัง หรือว่าเพื่อนๆหนีไปเฟสกันหมด


โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 1 มิถุนายน 2556 เวลา:1:39:33 น.  

 
55555555555

พี่ กิจก๋าบอกว่า มีมาดามคนเดียว

ของ จริง พี่ อาจ จา.......5555555555

มีพู่ชายใน ฮาเร็ม อีก เยอะ

รักมาดามคนเดียว แต่รักอีหลายชาย 555555555555

ทำครอบครัว ร้าว ฉาน เป็น งานประจำของหนู

มาดามอย่าำได้แคร์นะคะ

หนูมั่วนิ่มค่ะ


โดย: แม่น้องไอแอมค่ะ (dogamania ) วันที่: 1 มิถุนายน 2556 เวลา:2:14:40 น.  

 
ภาพประกอบสวยชวนเศร้าลึก...สมกับเรื่องเลยค่ะ

ชีวิตคู่...เป็นของที่คู่มากับความกลมกลืนจริงๆ เลยนะคะ
ถ้าไม่สามารถทำให้กลมกลืนกันได้
ชีวิตคู่ ก็เป็นแค่ส่วนผสมของสิ่งที่ไม่เข้ากัน


โดย: ณ ปลายฉัตร วันที่: 6 มิถุนายน 2556 เวลา:10:29:07 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กะว่าก๋า
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 392 คน [?]




มองฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
หรืออาจไม่เห็นฉัน

ฉันแค่แวะผ่านทางมา
และอาจไม่หวนกลับมาทางนี้อีกแล้ว

เราเคยรู้จักกัน
และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

มองดูฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
และฉันอาจมองไม่เห็นเธอ.





[Add กะว่าก๋า's blog to your web]