ทีมออร์เดอร์มาเร็วไป
กรณี "Multi 21" เรื่องราวเดือดๆ ของเร้ดบูลจากสนามเซปัง สถานการณ์ ณ ปัจจุบันเป็นอย่างไรก็ไม่อาจรู้ได้นะคะ ต่อเมื่อทางผู้บริหารของทีมออกมาบอกว่า "จบ" ทางหน้าสื่อเราก็คงต้องว่าจบตามกัน จะมีก็เพียงแต่ว่าจะสามารถสังเกตร่องรอยของความขุ่นข้องของทั้งสองนักขับนับจากนี้ได้มากน้อยแค่ไหนเท่านั้นเอง...
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ยังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์มาจนถึงวันนี้ รายล่าสุดในแพ็ดด็อกที่ออกมาให้ความคิดเห็นได้แก่ เอริก บูลลิเยร์ ทีมบอสโลตัส ซึ่ง จขบ. เห็นว่าน่าสนใจเลยนำมาแบ่งปันกันค่ะ
ในความเห็นของบอสโลตัสคิดว่าเร้ดบูลไม่น่ารีบร้อนใช้ทีมออร์เดอร์ตั้งแต่ต้นปี "ผมคิดว่ามันเกิดขึ้นเพราะอะดรีนาลีนและความตื่นเต้นของการจะได้ชัยชนะ แต่สำหรับฟอร์มูล่าวันแล้วผมคิดว่าไม่น่าเป็นอย่างนั้น อย่างแรกเราไม่ควรใช้ทีมออร์เดอร์ตั้งแต่ต้นฤดูกาลขนาดนี้ ซึ่งเป็นช่วงที่การชิงแชมป์ยังอยู่แค่เพียงช่วงต้น แต่ถ้ามันเกิดขึ้นแล้วเราก็ต้องแก้ไขและแก้ไขอย่างรวดเร็วด้วย
"จริงอยู่ที่นักขับคนหนึ่งของเรา (คิมี่ ไรค์โคเน่น) มักเป็นที่รู้กันว่าเขาค่อนข้างจะได้ทำในสิ่งที่เขาต้องการ แต่เมื่อเรามีคนอีก 600 คนอยู่เบื้องหลัง เราก็ต้องมีความเคารพให้กับทีมด้วย"
แต่บูลลิเยร์ได้กล่าวเน้นย้ำว่าทีมจะต้องชัดเจนว่าทีมสำคัญกว่าตัวนักขับ
"ทีมออร์เดอร์เป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขัน เราอาจมีการระบุ 'นักขับมือหนึ่ง' และ 'นักขับมือสอง' หากเป้าหมายของเราคือแชมป์ประเภทนักขับ ในทางกลับกัน ถ้าเราทำให้นักขับทั้งสองเท่าเทียมกันเพราะเราอยากให้เกิดการแข่งขันก็เท่ากับว่าทีมมีความสำคัญอย่างยิ่ง ทีมให้รถกับนักขับเหมือนกัน สภาพเหมือนกัน สมรรถนะเท่ากัน แต่ต้องมีพันธะจากทีมต่อนักขับ
"ในกรณีนี้ ผมเข้าใจได้สำหรับการใช้ทีมออร์เดอร์ เพราะคุณกำลังทำงานให้ทีม ไม่ใช่นักขับ ซึ่งพวกเขาเป็นผู้ทำงานให้กับคุณ บางครั้งดูเหมือนว่าอารมณ์มาเหนือสิ่งอื่นใด แต่ต้องไม่ลืมว่านักขับได้รับค่าจ้างมาทำงานให้คุณ เหมือนมาทำงานให้บริษัทหนึ่ง ผมไม่เห็นคนที่ไหนในโลกที่ไม่ทำตามกฎของบริษัทแล้วไม่ถูกลงโทษ หรืออย่างน้อยก็ต้องมีการชี้แจงว่าทำไมถึงไม่ทำตามกฎนั้น"
กรณีทีมออร์เดอร์ที่ใช้ตั้งแต่ต้นฤดูกาล มาเลเซีย 2013 ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทีมฟอร์มูล่าวันหยิบกฎข้อนี้ขึ้นมาใช้เสียตั้งแต่ต้นฤดูกาล ลองไปดูกรณีทีมออร์เดอร์อันโด่งดังที่ดูเหมือนถูกใช้เร็วไปในอดีตกันค่ะ
บราซิล 1981
คาร์ลอส รอยเทอมันน์ โดนผลงานของอลัน โจนส์ บดบังมาตลอดการทำงานร่วมกันฤดูกาลแรกภายใต้ทีมวิลเลียมส์ในปี 1980 ซึ่งภายหลังโจนส์เป็นแชมป์โลกในปีดังกล่าวด้วย และเพียงก้าวเข้าสู่สนามที่ 2 ของปี 1981 ทั้งคู่ก็เปิดฉากปะทะกันในสนามเสียแล้ว
ในช่วงท้ายของการแข่งขันที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยสายฝนที่ริโอ ขณะที่รอยเทอมันน์อยู่ข้างหน้าโจนส์ ฝ่ายแรกได้รับคำสั่ง 'โจนส์-รอยท์' จากพิตบอร์ด (ป้ายบอกข้อมูลที่ยกบอกนักแข่งหน้าพิตวอลล์) เขาไม่ได้ทำตามแต่อย่างใดและเข้าเส้นชัยไปตามที่เป็นอยู่ โดยที่ในพิธีมอบถ้วยรางวัล โจนส์ไม่สนใจแม้แต่จะขึ้นรับรางวัลที่ 2 บนโพเดียม ภายหลังรอยเทอมันน์ยืนยันว่าเขาตั้งใจจะสลับให้โจนส์ขึ้นหน้าอยู่แล้วในรอบสุดท้าย แต่เป็นเพราะครบเวลาการแข่งขันสูงสุด 2 ชั่วโมงเสียก่อนจึงไม่ทันได้ทำตามแผน
คลิปจากยูทูบโดยคุณ Alessandro Neri
ซานมารีโน 1982
ท่ามกลางปัญหาความขัดแย้งระหว่างสหพันธ์กีฬายานยนต์นานาชาติ (FISA) กับสมาคมผู้สร้างรถฟอร์มูล่าวัน (FOCA) ซึ่งทำให้ทีมซึ่งส่วนใหญ่เป็นทีมไม่ใช่ผู้ผลิตประท้วงไม่ลงแข่งขันและทำให้เหลือรถเพียง 14 คันในกริดของการแข่งขันสนามที่ 4 ของฤดูกาล การแข่งขันส่วนใหญ่จึงเป็นการขับเคี่ยวระหว่างสองนักขับเฟอร์รารี่ ฌิลส์ วิลเนิฟ และดิดิเยร์ ปิโรนี่
วิลเนิฟเชื่อว่าเขาและเพื่อนร่วมทีมจะรักษาตำแหน่งซึ่งวิลเนิฟเป็นผู้นำไปตลอดครึ่งหลังของการแข่งขัน แต่ปิโรนี่สู้ไม่ถอยกระทั่งเข้าเส้นชัยไปพร้อมกับชัยชนะ วิลเนิฟโกรธอย่างหนักจนถึงขั้นประกาศว่าจะไม่พูดกับปิโรนี่อีกต่อไป ซึ่งเป็นจริงอย่างที่เขากล่าวเพราะการแข่งขันในสนามถัดมาที่โซลเดอร์ ประเทศเบลเยียม วิลเนิฟได้ประสบอุบัติเหตุถึงแก่ชีวิตในรอบควอลิฟาย
คลิปจากยูทูบโดยคุณ mylifeisfone
ซานมารีโน 1989
ความสัมพันธ์ที่สั่นคลอนระหว่างสองนักขับแม็คลาเรน ไอร์ตัน เซนน่า และอแลง พรอสต์ เริ่มเป็นจริงเป็นจังขึ้นในสนามที่ 2 ของปีดังกล่าวนั่นเอง
พรอสต์เชื่อในคำสัญญาก่อนการแข่งขันว่าใครก็ตามที่ขึ้นนำในโค้งแรกได้ก่อน คนนั้นจะได้สิทธิ์อยู่ข้างหน้าเมื่อเข้าเส้นชัย แต่เซนน่าไม่ได้ปฏิบัติตามเช่นนั้นเมื่อการแข่งขันต้องเริ่มต้นใหม่หลังอุบัติเหตุรุนแรงของแกร์ฮาร์ด แบร์เกอร์ ที่โค้งทัมบูเรลโล เขาถือว่าข้อตกลงนั้นเป็นโมฆะไป ทิ้งไว้แต่ความโกรธขึ้งให้กับพรอสต์เมื่อเขาเป็นผู้ผ่านเข้าเส้นชัยคนแรก
คลิปจากยูทูบโดยคุณ MrViniciusf11995
ออสเตรเลีย 1998
ความขมขื่นในการเป็นพระรองมีเรื่องเล่าอยู่เสมอ แม็คลาเรนยุคนั้น เดวิด คูลธาร์ด ต้องคอยเสียสละให้มิก้า ฮัคคิเน่น อยู่บ่อยครั้ง โดยในการแข่งขันสนามสุดท้ายของปี 1997 ที่เฆเรซ นักขับสกอตต์ก็ปล่อยให้เพื่อนร่วมทีมขับผ่านไปเพื่อเข้าเส้นชัยเป็นคันแรก
ในสนามแรกของปี 1998 ที่เมลเบิร์น คูลธาร์ดเจอเรื่องเดิมๆ อีกครั้ง หลังฮัคคิเน่นควอลิฟายได้ตำแหน่งโพลและนำการแข่งขันโดยที่ทั้งสองคันของแม็คลาเรนทิ้งห่างคู่แข่งไปไกล แต่เพราะความผิดพลาดในพิตทำให้ฮัคคิเน่นสูญเสียอันดับผู้นำ ต่อมาแม็คลาเรนจึงขอให้คูลธาร์ดคืนตำแหน่งให้ เขาทำตามแต่โดยดีด้วยหวังว่าวันหนึ่งเขาจะได้รับความช่วยเหลือเช่นนี้บ้าง
เจแปนิส กรังด์ปรีซ์ 2001 หรือเกือบ 4 ปีถัดมา คูลธาร์ดได้รับการตอบแทนด้วยการที่ฮัคคิเน่นเสียสละโพเดียมอันดับที่ 3 ให้ในการแข่งขันซึ่งเป็นสนามสุดท้ายในฟอร์มูล่าวันของแชมป์โลกสองสมัยคนนี้
คลิปจากยูทูบโดยคุณ SStylez06
*ข้อมูลจาก autosport.com/f1 / espnf1.com / wikipedia.org
Create Date : 06 เมษายน 2556 |
|
16 comments |
Last Update : 6 เมษายน 2556 21:10:22 น. |
Counter : 2445 Pageviews. |
|
|
|