:: ก๋าราณีตอบคำถามคุณคล้ายดาว ::
:: ก๋าราณีตอบคำถามคุณคล้ายดาว ::
ไม่มีคืออะไร?
และ
มีคืออะไร?
กิเลส ล้วนวนเวียนอยู่ในตัวและรอบตัว
มีมากก็ยุ่ง..อยากได้ไม่มีที่สิ้นสุด
แต่หากจะไม่ให้มีเลย.. ก็กลายเป็น..ปล่อยวาง ไม่อยากได้อยากดี ปล่อยชีวิตไปวันๆ
แล้วในเมื่อยังไม่บรรลุ ยังต้องอยู่กับคนหมู่มาก
ใยไม่ใช้คำว่า..พอดี?
คำถามโดย : คล้ายดาว วันที่ : 4 ธันวาคม 2553 เวลา : 15:26:08 น.
มีคนบอกผมว่า ปล่อยวาง คือ ว่าง
ว่าง คือ ไม่ทำอะไรเลย ไม่อยากได้อะไรเลย เฉยๆไปกับทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัว คนรักตายก็ไม่เสียใจ ได้อะไรมาก็ไม่ยินดียินร้ายอย่างนั้นหรือเปล่า
ผมไม่รู้จะอธิบายยังไงดี นอกจากยิ้ม.....
เพราะ “ปล่อยวาง” ในความหมายของผม คือ เข้าใจสิ่งต่างๆอย่างที่มันเป็น แต่เราต้องอยู่กับสิ่งที่มันเป็นอย่าง "ยอมรับ" และ “เข้าใจ” ในความเป็นจริงที่เป็นอยู่
ผมถึงบอกว่า การที่คนเราจะมีความสุข ไม่ใช่ การทำให้ชีวิตไม่มีความทุกข์ แต่เป็นการที่เราอยู่กับทุกข์ทั้งหมดที่มีอย่าง “เข้าใจ”
เข้าใจว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันไม่คงทน
สมมติว่าคนรักตาย เสียใจไหม ? ต้องเสียใจนะครับ เสียใจมากๆก็ได้…ไม่ใช่เรื่องผิดบาปเลย
แต่เมื่อถึงเวลาหนึ่ง ต้องเข้าใจและยอมรับความจริงให้ได้ ว่าคนเราเกิดมาต้องตายทุกคน
แล้วค่อยๆคลายความเสียใจ ใช้ชีวิตต่อไป อย่างที่ควรจะเป็น
การปล่อยวางของผมมีความหมายในทำนองนี้
ปล่อยวางแล้วกิเลสมีไหม -- มีครับ
บางวันอยากได้กีตาร์ตัวละ 3 หมื่นก็ซื้อ ซื้อแล้ววันรุ่งขึ้นอาจไม่อยากเล่นมันแล้ว แต่เรามีความสุขขณะซื้อก็ซื้อไป ถ้าเรามีเงินมากพอที่จะซื้อ ไม่ใช่เงินเดือน 2 หมื่น แต่อยากได้กีตาร์ 3 หมื่น อันนี้ทุกข์เพราะกิเลสที่เกินกำลังตัวเอง
ดังนั้น คำว่า "พอดี" ของผม นิยามยากมากครับ ผมชอบกีตาร์ กีตาร์ตัวละ 3 หมื่น...ผมว่าถูก แต่เวลาแฟนซื้อกระเป๋าหลุยส์ใบละ 3 หมื่น ผมว่าแพงโคตรๆ
เพราะฉะนั้น "ความพอดี" ในตัวเราจึงไม่มีอยู่จริง
คำว่ามีและไม่มีของแต่ละคนก็มีนิยามที่ไม่เหมือนกัน
เงิน 1 พันบาทสำหรับเศรษฐีเป็นเศษเงิน แต่สำหรับคนจนมันคือเงินมหาศาล
นี่คือ คำว่า "มี" และ "ไม่มี" ในนิยามความหมายที่แตกต่างกัน
เวลาคุยเรื่องธรรมะ ผมเลยเลือกที่จะไม่สรุปให้ชัดเจนว่าอะไรเป็นอะไร เหมือนผมเป็นคนเหนือเรากินข้าวซอยอร่อย ให้คนใต้กิน อาจว่าไม่อร่อย แต่ถ้าเอาบูดูมาเสริฟผมก็กินไม่เป็นนะครับ
ธรรมะที่แท้จริงจึงยากที่จะนิยามความหมายด้วย “ถ้อยคำ” ได้ มีแต่ผู้รู้พึงรู้ได้ด้วยตัวเอง แล้วก็ไม่ได้มีการจำกัดสิทธิ์หรอกนะครับ ว่าศาสนาไหน นิกายไหน ใครจะเข้าถึงธรรมได้มากน้อยกว่ากัน
ถ้าเข้าถึง “สัจธรรม” แห่งความเป็นจริงได้ ก็เข้าถึง “ธรรม” ตัวเดียวกัน
เพราะ “ธรรม” ที่แท้นั้นมีหนึ่งเดียว
Create Date : 16 มีนาคม 2554 |
Last Update : 16 มีนาคม 2554 5:15:59 น. |
|
14 comments
|
Counter : 817 Pageviews. |
|
|
|
ฮูปแมวดำ ต๋าสีฟ้า น่ากลัวขนาดเลยเจ้า ยิ่งดูตอนดึกๆ..
...
ปล.. บ่าเอาน้องหื้อเวียงพิงค์ แล้วเจ้า มีคนเดียวก็จะต๋ายแล้ว เป๋นพญาลิง โตยอ้ายหมิง หมิง ไปตึงวัน..
ปิดอู่ แล้วเจ้า อิอิ..