มีนาคม 2554
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
8 มีนาคม 2554

:: ปัจฉิมนิเทศ ที่วิทยาลัยเทคนิค เชียงใหม่ (2) ::






:: ปัจฉิมนิเทศ ที่วิทยาลัยเทคนิค เชียงใหม่ (2) ::



โดย : กะว่าก๋า
พูดให้กับนักศึกษาระดับ ปวช. 3 และ ปวส.2



10 กุมภาพันธ์ 2554
















ช่วงถาม-ตอบ




นักศึกษา - ที่บอกว่าให้เชื่อว่าตัวเองมีความสามารถ
เราจะทราบได้อย่างไรว่าเรามีความสามารถมากพออย่างที่เราเชื่อมั่น





กะว่าก๋า - ในการเรียน..เราวัดคนเก่งกับคนไม่เก่งที่เกรดและคะแนนสอบ
แต่ในชีวิตจริงค่าคะแนนเหล่านั้นเกือบจะไม่มีความหมายอะไรเลยในตอนทำงาน
ผมมีเพื่อนที่เรียนจบเกียรตินิยมอันดับ 1
สุดท้ายไปเป็นบรรณารักษ์ในห้องสมุดเล็กๆ
มีเพื่อนที่เรียนเก่งที่สุดในรุ่น
ตอนนี้เป็นเจ้าของร้านเหล้าเล็กๆ
ต้องฟังให้ดีดีนะครับ...ผมไม่ได้บอกว่าการเป็นบรรณารักษ์
หรือเป็นเจ้าของร้านเหล้าตองเล็กๆเป็นความล้มเหลวของชีวิต
เขาอาจจะมีความสุขกว่าการเป็นเจ้าของธุรกิจหมื่นล้านก็ได้

ผมกำลังจะบอกว่า...เราจะทราบว่าตัวเรามีความสามารถได้อย่างไร
นั่นคือ เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณทำอะไร
แล้วมีคนยอมรับเชื่อมั่นในสิ่งที่คุณพูด คิดและทำ

ผมว่านั่นเป็นการยอมรับความสามารถที่มีในตัวเราเช่นกัน

แต่สุดท้ายแล้วจริงหรือไม่จริง
ใช่หรือไม่ใช่ ผมว่าตัวเราเองนั่นล่ะ
ที่รู้ตัวเองดีที่สุดว่าเรามีสามารถมากน้อยเพียงใด


ถ้าคุณลอกข้อสอบแล้วคุณสอบได้ A
การได้เกรด A ถือเป็นความสำเร็จมั้ย ?
คุณย่อมรู้อยู่แก่ใจว่าตัวเองโกง

ความสำเร็จที่แท้จริง
มันอยู่ที่ใจของเราเองนั่นแหละ
คนอื่นอาจจะชื่นชมหรือวิจารณ์เรา
แต่อย่าใช้คำพูดเหล่านั้นมาประเมินตัวเอง

จงถามตัวเองให้มากไม่ว่าทำสิ่งใด
ว่าคุณยังมีความสุขกับการทำสิ่งนั้นอยู่หรือเปล่า ?
สิ่งที่เราทำอยู่คนอื่นได้ประโยชน์หรือเปล่า ?


อย่าวัดความสำเร็จเพียงแค่สิ่งที่คุณมองเห็น
อย่ารอให้รวยแล้วจึงคิดทำบุญ
อย่าพูดว่าต้องรอให้ตัวเองพร้อมก่อน แล้วค่อยช่วยเหลือคนอื่น
วันนี้คุณทำสิ่งดีดีให้กับตัวเอง
ลองทำสิ่งเดียวกันนี้ให้กับคนอื่นด้วย

แค่เดินออกไปนอกห้องเห็นเศษขยะหล่นอยู่
แล้วเก็บไปทิ้ง
นี่ก็เป็นการทำความดีแล้ว

สิ่งนี้ต่างหากที่ผมคิดว่ามันเป็นความสามารถ
และความสำเร็จที่แท้จริงของคนๆหนึ่ง
















นักศึกษา - บล็อกคืออะไรครับ ? (เพื่อนฮา)




กะว่าก๋า – นี่ต้องชมนะ (เพื่อนยังฮาอยู่)
มีในนี้หลายคนที่ไม่รู้ว่าบล็อกคืออะไร แต่ไม่กล้าถาม
เมื่อไหร่ที่คุณไม่รู้ แต่ไม่กล้าถาม
คุณจะไม่รู้ตลอดไป
แต่น้องเขากล้าถาม เพราะฉะนั้นเมื่อผมตอบเสร็จ
น้องเขารู้แล้วนะครับว่าบล็อกคืออะไร ?

ผมเสริมเอาไว้ว่า


“ไม่รู้ให้ถาม” ...


ผมใช้วิธีนี้ในการเรียนรู้มาโดยตลอด
เวลาผมไม่รู้ และอยากรู้ในเรื่องใด
ผมจะเดินเข้าไปขอความรู้เสมอ


“พี่ครับ..ผมโง่เรื่องนี้ครับ พี่ชวยสอนผมที”


ผมไม่เข้าใจเรื่องงานเขียน
ผมก็เขียนอีเมลส่งไปถามนักเขียนเก่งๆให้เขาช่วยแนะนำ
ทุกคนที่เก่งจริงพร้อมจะแบ่งปันความรู้ให้เราเสมอ
ขอเพียงเรากล้าที่จะเดินเข้าไปขอความรู้อย่างนอบน้อมถ่อมตน




บล็อกคือพื้นที่นำเสนอแนวคิด ความรู้สึกและผลงานของเรา
เหมือนไดอารี่เล่มหนึ่ง แต่เขียนลงไปในโลกออนไลน์
และคุณจะมีคนมาอ่านมาทักทายมากมาย

ไม่ว่าจะเป็น Bloggang , blogspot , exteen , facebook ฯลฯ

น้องๆทุกคนสามารถมีบล็อกเป็นของตนเองได้
ด้วยการเข้าไปสมัคร
จากนั้นก็เริ่มเขียนสิ่งต่างๆลงไป
ถ้าเราทำมันอย่างต่อเนื่อง
อย่างมีความสุข สนุกกับการเขียนบล็อก
ถึงวันหนึ่งจะมีคนมองเห็นคุณค่าในงานของเรา
มันอาจจะกลายเป็นอาชีพได้ด้วย















นักศึกษา - พี่เล่าว่าเริ่มต้นทำงานกับธุรกิจครอบครัวที่เป็นร้านเครื่องหนัง
แล้วเปลี่ยนมาทำงานบล็อกและหนังสือได้อย่างไร ?






กะว่าก๋า - ทุกวันนี้ผมยังทำงานที่ร้านอยู่
เวลามีคนถามว่าจบอะไรมา พอบอกว่าจบสถาปัตย์
ทุกคนจะบอกว่าเสียดายจังที่ไม่ได้เป็นสถาปนิก
ใหม่ๆผมก็เสียดายครับ เพราะเรียนมาตั้ง 7 ปี
แถมช่วงที่ทุกข์กับการทำงานในช่วง 4-5 ปีแรก
คำถามเรื่องความเสียดายยิ่งชัดเจนมากในความรู้สึก

จนผ่านความทุกข์ในใจนั้นมาได้
ผ่านพ้นด้วยความคิดที่ว่า
จะไม่ทุกข์กับสิ่งที่ตัวเองเป็นไม่ได้
แต่จะมีความสุขกับสิ่งที่ตัวเองทำอยู่และเป็นได้

พอเปลี่ยนวิธีคิด
แม้งานที่ทำจะเป็นงานเดิมที่เคยทุกข์และไม่ชอบ
เราก็สามารถเปลี่ยนใจและความรู้สึกให้เริ่มกลับมาชอบมันได้
เริ่มมองเห็นข้อดีในงานที่เราได้ทำอยู่
เริ่มเรียนรู้สิ่งต่างๆที่ผ่านเข้ามาด้วยมุมมองใหม่
เริ่มสนุกกับงาน กับการเจอคนมากมายหลายแบบ


เปรียบเหมือนหนังสือในมือเรา
หนังสือยังคงเป็นหนังสือเล่มเดิม
ต่างกันตรงที่ว่าเราเปิดอ่านหรือวางมันไว้เหมือนเดิม
ถ้าคุณเกลียดหนังสือเล่มนี้ แล้ววางมันไว้ที่โต๊ะ
10 ปีผ่านไป มันก็ยังคงเป็นหนังสือที่คุณเกลียด
แต่ถ้าคุณเปิดใจแล้วลองหยิบมันขึ้นมาอ่านทีละหน้า
ถึงแม้วันนี้อาจจะอ่านไม่เข้าใจเลยแม้แต่นิดเดียว
แต่จะต้องมีวันหนึ่งที่คุณจะเข้าใจในเนื้อหาภายหนังสือเล่มนี้ได้อย่างแน่นอน



คนเล่นกีตาร์เก่ง
ไม่จำเป็นต้องเป็นนักดนตรี

คนทำอาหารเก่ง
ไม่จำเป็นต้องเปิดร้านอาหาร

สิ่งที่คุณทำแล้วมีความสุข
วันหนึ่งอาจกลายเป็นอาชีพ

สิ่งที่คุณหวังว่ามันจะเป็นอาชีพ
ท้ายที่สุดอาจไม่ใช่ก็ได้

ทำอะไรก็ได้ แต่ขอให้ทำมันด้วยความรัก
ด้วยความสุขและความสนุก
โอกาสที่จะประสบความสำเร็จ..ไม่ยากเลย

















นักศึกษา - อยากทราบว่าตอนที่พี่ไปบอกพ่อว่าอยากเรียนศิลปะ
แล้วพ่อพูดว่า “จบมาแล้วจะทำอะไรกิน ?”
พี่รู้สึกอย่างไรบ้าง ?




กะว่าก๋า - ตอนนั้นเชื่อพ่อครับ....
เห็นด้วยกับพ่อ
เพราะผมเองก็รู้สึกว่าอาชีพจิตรกรมันยากจริงๆ
ยากมากที่จะขายงานชิ้นละล้านเหมือนยุคนี้

บุคลิกส่วนตัวของผมเองเป็นคนที่ค่อนข้างเชื่อฟังพ่อแม่
ก็คิดตามครับว่าท่านคงมีเหตุผลบางอย่างที่น่ารับฟัง


ผมถึงต้องมานั่งคิดว่าถ้าไม่เรียนศิลปะแล้วจะเรียนอะไร ?
ที่มันดูใกล้เคียงที่สุด เลขนี่ไม่ชอบมาก
ภาษาต่างประเทศก็เข้าขั้นโง่เลย
สุดท้ายมีวิชาหนึ่งที่มันเป็นทั้งวิทยาศาสตร์และศิลปะ
นั่นคือ สถาปัตยกรรม เลยเลือกเรียนสถาปัตย์

นาทีที่พ่อบอกว่าอย่าเรียนเลยลูก
ก็ไม่ได้โกรธพ่อนะครับ เพราะรู้ดีว่าท่านห่วงใยเรา

















กะว่าก๋า - ตอนนี้ยังเหลือหนังสืออยู่อีกหลายเล่ม
ใครอยากได้เดินลงมาเอาเลยครับ


(หลายคนอยากได้ แต่ไม่กล้าลุกเดินลงมา
หลายคนขยับเดินลงมารับหนังสือ)



หนังสือหมดแล้วนะครับ....

ผมกำลังจะบอกว่าเวลาคุณไปทำงาน
เอานิสัยแบบนี้ไปใช้ด้วย
นั่นคือ


“เมื่อคุณอยากจะได้...จงเดินเข้าไปหา”


เมื่อคุณอยากได้ (หนังสือ) จงเดินเข้าไปหา
อย่ารอ...เพราะในชีวิตจริงแห่งการทำงาน
จะไม่มีใครหยิบยื่นอะไรดีดีให้คุณอีกแล้ว

ในห้องเรียนอาจารย์จะเตรียมการเรียนการสอน
เตรียมเนื้อหาให้คุณเป็นปี เพื่อจะนำมาสอนให้คุณในชั้นเรียน
แต่ในชีวิตจริงน้องๆจะไม่เจออาจารย์แบบนี้อีกแล้ว

คุณจะต้องไปทำงานในโลกที่มีแต่การแข่งขัน

มีการเอารัดเอาเปรียบ
ถ้าคุณฉลาดแต่ไม่รู้ทันคน คุณจะตกเป็นเหยื่อ

เมื่ออยากได้...จงกล้าที่จะเดินไปหา เดินไปขอ
เราต้องกล้าที่จะขอความรู้ กล้าที่จะขอโอกาส
อย่ารอให้โอกาสวิ่งมาชนตัวเรา
อย่าอายที่จะบอกว่า “ผมไม่รู้ ผมโง่ ช่วยสอนผมด้วย”


เพราฉะนั้นเวลาไปทำงานจริง
ถึงแม้ว่าคุณจะเก่ง แต่ถ้าคุณไม่กล้าพูด ไม่กล้าแสดงออก
ไม่กล้าร้องขอโอกาสจากใครเลย
คุณไม่มีทางที่จะประสบความสำเร็จได้แน่ๆ

แล้วโอกาสที่จะให้คุณแก้ตัว
มันมีไม่มากหรอก

เพราะฉะนั้นเมื่อมีโอกาส
จงใช้โอกาสนั้นอย่างดีที่สุด
ทำมันให้ดีที่สุด
















นักศึกษา - ความสุขและความสำเร็จมันมีจุดสิ้นสุดไหม ?



กะว่าก๋า - วันนี้สอบผ่านดีใจไหม ? (น้องนักศึกษาพยักหน้า)
วันนี้แฟนบอกว่ารักตัวเองจัง..ดีใจไหม ?
วันนี้ผลสอบออกมาได้ 4.00 เอาเกรดกลับไปให้พ่อกับแม่ดู
อันนี้เรียกว่าประสบความสำเร็จหรือเปล่า ?

ใช่ทั้งหมดเลยนะครับ...


แต่มันเป็นความสุขและความสำเร็จแค่ “ชั่วขณะ”


ความสุขและความสำเร็จ
ผมว่ามันเหมือนกับลูกบอลที่เราโยนไป
แล้วมันก็เด้งไปเด้งมา
ขึ้นๆลงๆ เดี๋ยวสุข เดี๋ยวทุกข์ เดี๋ยวผิดหวัง เดี๋ยวสมหวัง
เดี๋ยวประสบความสำเร็จ เดี๋ยวล้มเหลว

มันยากที่ใครคนหนึ่งจะประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง
หรือมีความสุขอยู่ตลอดเวลา


วันนี้เราเป็นที่หนึ่ง...
พรุ่งนี้จะมีคนที่เก่งกว่าตามมา

สิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกว่าชีวิตมีคุณค่า
อาจต้องเริ่มต้นด้วยคำถามที่ว่า


“ความสำเร็จที่แท้จริงของชีวิตคืออะไร ?”


บางคนอาจจะบอกว่าเรียนจบก็ประสบความสำเร็จแล้ว
หรือว่าการมีเงินทองเยอะๆ การมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของผู้คน
หรือแม้แต่การมีทุกสิ่งทุกอย่างอย่างเพียบพร้อม
ถือเป็นชีวิตที่มีความสุข


ผมเคยถามตัวเองด้วยคำถามนี้...
คำถามที่ว่า ความสำเร็จที่แท้จริงของชีวิตคืออะไร ?
ผมคิดอะไรกันแน่กับชีวิตของตัวเอง ?
อยากรู้ว่าคนเราเกิดมาทำไม?
ตายแล้วไปไหน ?


ที่สุดแล้ว...ผมตอบคำถามเหล่านี้ด้วยคำตอบที่ว่า


“ชีวิตมันคือการทำหน้าที่”


วันนี้เราเป็นลูก..เราเป็นลูกที่ดีแล้วหรือยัง
เราเป็นเจ้านาย ...เราเป็นเจ้านายที่ดีแล้วหรือยัง
เราเป็นพ่อของลูก เราทำหน้าที่อย่างดีแล้วหรือยัง
เราเป็นสามีของภรรยา เราดูแลเธออย่างดีที่สุดแล้วหรือยัง


แล้วถ้าเราทำหน้าที่ทุกอย่าง
อย่างดีที่สุด...
ผมคิดว่าเราประสบความสำเร็จในการใช้ชีวิตแล้วล่ะครับ



และจุดสุดท้ายผมหวังไว้ว่า
ผมอยากตายอย่างดีที่สุด
ผมคิดเสมอว่าอยากจะตายให้เท่ที่สุด
อยากรู้ตัวทุกขณะจิตในตอนที่กำลังจะตาย
ไม่ใช่ตายโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว ตายโดยขาดสติ





อะไรที่ทำได้...จงทำ
ทำทุกสิ่งในดีที่สุด ทำมันเดี๋ยวนี้เลยนะครับ
อย่ารอ เพราะเราไม่รู้จริงๆว่าเราจะตายเมื่อไหร่
เดินออกจากห้องนี้ไป
เราอาจจะหัวใจวายตายไปก็ได้...



ผมเคยอยู่ในเหตุการณ์สองสามครั้งในชีวิต
อยู่ในเหตุการณ์รถชน ป่วย และตกจากหลังคาสูง
แต่ผมไม่ตาย...พอไม่ตาย
เลยเห็นคุณค่าของชีวิต เห็นคุณค่าของการที่ยังมีลมหายใจอยู่
ว่ามันมีโอกาสให้เราได้ทำอะไรต่างๆมากมาย

แล้วถ้าเราไม่ทำ...
เกิดตายก่อนขึ้นมา
เราจะต้องเสียดายมากๆเลย



ดีใจและขอบคุณมากนะครับที่ให้โอกาสได้มาพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดกัน


คำแนะนำที่ดีที่สุด ก็คือ อย่าเชื่อคำแนะนำ
(ของผมหรือของใครก็ตาม)


ลองออกไปใช้ชีวิตจริงๆ
ไปเจอปัญหาจริงๆ
แล้วตอบตัวเองให้ได้ว่ามันจริงอย่างที่ผมพูดหรือเปล่า

แพ้บ้าง ล้มเหลวบ้างก็ช่างมัน
นั่นเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราเติบโต
อย่าไปคิดว่าชีวิตที่ดีคือชีวิตที่ประสบความสำเร็จอย่างเดียว
ชีวิตที่มีแต่ความสุขอย่างเดียว
ไม่ใช่ชีวิตที่แท้จริง…..
ชีวิตจริงมันคือประสบการณ์ทั้งดีและร้าย
ประสบการณ์ที่ทำให้เราเรียนรู้และเติบโต




ขอให้ทุกคนโชคดี.









Create Date : 08 มีนาคม 2554
Last Update : 8 มีนาคม 2554 5:03:15 น. 137 comments
Counter : 3298 Pageviews.  

 
ยู้ฮู
เด๊่ยวกลับมาอ่านน่ะ
อ่านไปได้ครึ่งนึง รู้ว่าจบถาปัด ตอนนี้ทำงานที่ร้าน
เสียดายจบถาปัด ไม่ได้ทำงานที่ตนจบ
ไปรับลูกชายก่อนค่า


โดย: ลงสะพาน...เลี้ยวขวา วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:5:18:03 น.  

 
เรื่องการวัดความสำเร็จจากผลการเรียน บ้านเราถือว่าสำคัญมากเป็นอันดับต้นๆจริงๆนะคะ แต่เราสังเกตว่า เด็กรุ่นใหม่ๆ เรียนเก่งกันมาก แต่กลับไม่รู้เรื่องราวที่เป็นไปรอบๆตัวเลย ส่วนมากจะอยู่กับตำราเรียน เราว่าควรเปลี่ยนวิธีคิดนะคะเนี่ย

ที่นี่เวลารับสมัครงาน จะมีข้อความว่า "ระดับความคิด" คือ วุฒิการศึกษา บวกกับประสบการณ์ ออกมาควรได้ประมาณเลเวลไหน และบางที่รับสมัครงาน โดยใช้คำว่า "ระดับความคิด" เพียงอย่างเดียวเลย เพราะบางคน อาจจะไม่ได้เรียนสูงเลิศเลอ แต่ว่าประสบการณ์และความชำนาญเยอะ ก็อัพเกรดได้เหมือนกัน

บางทีการเรียน มันอาจจะไม่ได้ให้อาชีพที่ตรงสายงาน แต่มันให้พื้นฐานของความคิดนะคะ


โดย: KOok_k IP: 46.129.117.188 วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:5:53:05 น.  

 

เข้ามานั่งฟังเลคเชอร์ด้วยคนค่ะ อจ.ก๋า



โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:5:56:27 น.  

 
อ่านแล้วได้คิดอะไรมากมายค่ะพี่ชายย


โดย: Madam_Hatyai วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:6:07:51 น.  

 

แวะเอาโจ๊กมาให้ทานในยามเช้าจ๊ะน้องก๋า
แวะมาอ่านคำบรรยายปัจฉิมต่อจ้า
แหล่ม


โดย: อุ้มสี วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:6:10:40 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับคุณก๋า

อ่านตอนนี้แล้วสนุกมากๆ พร้อมกับข้อคิดดีๆ ที่คุณก๋า ได้สอดแทรกลงไป
ดีใจแทนน้องๆ นักศึกษามากๆ เลยครับ ที่ได้เก็บเกี่ยวข้อคิดดีเหล่านี้


โดย: ถปรร วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:6:15:13 น.  

 
น้อง ๆ โชคดีที่ได้วิทยากรแจ่มแบบนี้
ไม่ต้องมีป้ายไฟ ไม่ต้องมีการ์ดคอยคุม แม้จะยืนเกาะโพเดียม
emo


โดย: ดอกฝิ่นในสายลมหนาว วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:6:39:58 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่..

ช่วงนี้ดูบอลไม่มันส์เลยเนอะ..
แต่พี่คงไม่เนอะกับผมใช่ป่ะ..555+

แฟนหงส์คงลืมตอร์ไปแล้วอย่างสนิท
จำได้แต่อะไร เรสๆ แต่เป็นซัวเรส แทน กร๊ากกก

มีความสุขมากๆนะครับพี่




โดย: Little Knight วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:7:05:31 น.  

 

อ่านไป รู้สึกดีจริงๆค่ะ
พี่ก๋าพูดได้ดีมากๆ
น้องๆโชคดีมากที่ได้พี่ก๋าไปพูดให้ฟังให้คิด
ในวันที่จบการศึกษาแบบนี้



โดย: fonrin วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:7:07:23 น.  

 
เช้านี้ หมิงหมิง น่ารักจังเลย


โดย: kwan_3023 วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:7:09:21 น.  

 
ไปอ่านตอน 1 แล้ว นร.นั่งหลับป่ะ อาจารย์ ล้อเล่นน่ะ

มาด และหุ่นให้เป็นอาจารย์นะค่า

เค็งต้องรีบมาหาคุณก๋า เพราะช่วงนี้จะเปิดบล๊อกที่มีรูปภาพมากกกกกกกกกกไม่ได้
เครื่องจะรวนและช้ามาก เสียไป 1 เครื่อง
เด๊่ยวอีกเครื่องเสียจะลำบาก ลงแดงตายแน่ 55555
คนที่บ้านบอกจะไปเอาซ่อมที่ไทย
เคยซ่อมที่นิวฯแล้ว ใช้ได้ไม่นานเอง ก็เสียเอง แถมค่าซ่อมก็แพงงงงงงงงงงง

งดเสิร์ฟชาชั่วคราวนะค่า


โดย: ลงสะพาน...เลี้ยวขวา วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:7:11:36 น.  

 
สวัสดีวันอังคารค่ะ

อ่านQA แล้วเพลินดีนะคะ
น้องที่ถามเรื่องบล๊อก
อย่างน้อยต้องรู้จักคุณก๋ามาก่อนหน้า
เป็นการจุดประกายให้เพื่อนคนอื่น
ให้สนใจเข้ามาอ่านเรื่องในบล๊อกนี้
เชื่อว่า..คงนำไปใช้ได้ในชีวิตจริง
นอกเหนือจากการบรรยายในหนึ่งวัน

..ว่าแต่เตรียมตัวนานไหมคะ
อ่านมาสองวัน
แล้วน่าสนุกในการนำเสนอ
ให้แง่คิดและมุขฮา (ตอนท้าย)
..
ขอบคุณนะคะ
แวะมารับสิ่งดีดีเอาไปเผื่อแผ่
ให้น้องๆในที่ทำงานทางนี้ด้วยค่ะ


โดย: A IP: 125.27.39.182 วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:7:19:01 น.  

 
มาเก็บค่าคำชมค่ะ

20 บาท อิอิ

ค้นพบงานที่จะให้รายได้ใหม่แล้ว เอิกกกก

เปิ้นเหวิ่นหนอ


โดย: fonrin วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:7:38:28 น.  

 
จริงหรอ เรื่องนร.หลับ เค็งแซวเล่นน่ะ
คุณก๋า เห็นเองเลยหรือ เด็กคนนั้นก็จริง ๆ ไปแอบหลับก็ได้เนอะ 555555

โฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ ที่ไทยค่าซ่อมคอมฯ ถูกโคตะระเลยอ่ะ
ที่นิวฯน่ะ ให้ทำอะไรนิดหน่อย เปิดเครื่องหรืออะไรทำนองนั้น 60 เหรียญ
* 25 โฮฮฮฮฮฮฮฮอ ลมจะจับ
พอดีมีโครงการจะกลับไทยกันอยู่แล้วแหละ เก็บเศษตังค์ก่อนน่ะ 5555
เครื่องของสามีที่ใช้อยู่ เอามาจากไทย ทนทานนนนนนนน เกือบ 10 ปีได้แล้วแหละ
เขาเอามาประกอบเอง
เครื่องที่เค็งใช้ซื้อที่นิวฯ แพงก็แพง ดันเสียบ่อยอีกต่างหาก

รบกวนฝากบอกคุณดี ด้วยนะค่า ครองแครง เค็งเห็นชื่อเรื่องแล้ว แต่ภาพต้องเยอะแน่ ๆ
ไม่กล้าเข้าไปชิม เด๊๋ยวเครื่องเจ๊งโป้ง พาลจะทะเลาะเอากับคนที่บ้าน
ไว้จะไปตามชิมวันหลังนะค่า

วันนี้ไปแล้วน่ะ


โดย: ลงสะพาน...เลี้ยวขวา วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:7:38:57 น.  

 
ทักทายตอนเช้าจ้า


โดย: tong-crochet วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:7:39:09 น.  

 
“เมื่อผมอยากจะได้...ผมจะเดินเข้าไปหา”


โดย: คนเคยผ่านมหาสมุทร วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:7:39:39 น.  

 
เป็นบ้านพี่ชายผมครับพี่

สร้างแบบโมดูลเฮ้าท์ ไฮโซสุดๆ
บ้านอยู่ในแบบ และ โรงงานมาสามเดือน

เมื่อวานเป็นวันประกอบครับ
วิศวะกร เต็มไปหมด ดูแล้วเป็นสิ่งแปลกใหม่ดีครับ

สร้างบ้านแบบนี้ดีนะครับไม่ต้องพี่งสล่า
แต่เสียดายเค้าไม่สร้างต่างจังหวัด ทำแค่ในกทม.



โดย: Little Knight วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:7:39:56 น.  

 

เวลารู้สึกแย่ๆ แล้วได้มาอ่านอะไรแบบนี้แล้วรู้สึกมีกำลังใจขึ้นเยอะเลย
วันนี้พี่มีเวลาอ่านจนจบ (กลับบ้านก่อนเวลา)
ปล. วันนี้หนุ่มน้อยเราปิดหัวเหม่ง


โดย: พี่ฟ้า ... (kuvasu ) วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:7:40:50 น.  

 



ชอบทุกๆบรรทัดเลยครับพี่ก๋า ^^



ขอบคุณที่แบ่งปันเนื้อความดีๆที่มีความหมายมากๆนะครับ ^^



ปล.บล็อกน้องขวัญวันนี้
ซึ้งจัง

ผมอ่านเมื่อคืนแล้วน้ำตาไหลเลยครับพี่
5555+




อรุณสวัสดิ์นะครับพี่ก๋า ^^


โดย: พระจันทร์ของขวัญ (Great_opal ) วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:7:52:10 น.  

 









สวัสดีครับคุณ A



งานนี้เตรียมตัวไม่นานเท่าไหร่ครับ
เพราะรุ่นพี่ที่เป็นหัวหน้าแผนกชวนแบบปุบปับเหมือนกันครับ
ก็คิดโจทย์อยู่นานครับว่าจะพูดเรื่องอะไรดี

"พูดอะไรก็ได้"

โจทย์แบบนี้ล่ะครับที่ยาก 555
เพราะผมไม่ใช่นักพูดมืออาชีพครับ






โดย: กะว่าก๋า วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:7:55:29 น.  

 
ให้แง่คิดดีนะคะพี่ก๋า
โดยเฉพาะที่ี่เกี่ยวกับการทำงาน ชอบมาก


โดย: BeCoffee วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:7:56:02 น.  

 


อ่านแล้วอยากพิมพ์แจกเด็กทุกโรงเรียนเลย

ได้ข้อคิดที่ดีมาก และที่จริงโรงเรียนควรจะมี

คนอย่างคุณก๋ามาพูดอย่างน้อย ก่อนจบม.5

โดยเฉพาะเด็กต่างจังหวัด แต่เดี๋ยวนี้อาจจะ

เปลี่ยนไปก็ได้ สมัยพี่ได้ไปเรียน ก็ต้องไปหา

เองว่าจะเรียนอะไร ที่ไหน เรียกว่าไม่รู้อะไรเลย

ดีจริงๆ ค่ะ


ว้นนี้น้อง หมิง หมิง น่ารักจริง


โดย: newyorknurse (newyorknurse ) วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:7:58:16 น.  

 
มอนิ่งจ้า


โดย: sierra whiskey charlie วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:7:59:20 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณก๋า

เห็นในรูปทีไรหน่อยก็อดกลืนน้ำลายไม่อยู่ทุกทีไปค่ะ อิอิ

มีความสุขกับครอบครัวมากๆนะคะ



โดย: โตเหมี่ยว วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:7:59:41 น.  

 
วุ้ย...หล่อแล้วยังใจดีอีกนะคะเนี่ย ฮ่ะๆๆ



โดย: fonrin วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:8:09:33 น.  

 

แวะมาทักทายยามเช้าค่ะพี่ก๋า

กลับเจอข้อความยาวเป็นกิโล ... จอดสนิทเลยค่ะ
ขอแปะไว้ก่อนน๊า ..

เด่วมา เด่วมาค่ะ


โดย: แค่ได้รู้จัก_ก็เพียงพอ วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:8:13:45 น.  

 
♥ สวัสดียามเช้าค่ะคุณก๋า ♥



เอาต้นไม้สวยๆ มาแลกความรู้ค่ะ

อยากเห็นบรรยากาศจริงๆ ของวันปัจฉิมฯ จังค่ะ
อยากนั่งฟัง คุณก๋าพูดได้ดีจริงๆ ค่ะ ใช้เวลานานแค่ไหนคะวันนั้น
น้องๆ คงได้อะไรจากพี่ก๋าไปเยอะแยะเลยเน๊อะ



โดย: PhueJa วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:8:17:05 น.  

 
สวัสดีตอนเช้าเช่นกันค่ะ
วันนี้งานยุ่งมากค่ะ
ว่างแล้วจะเข้ามาอ่านใหม่ค่ะ


โดย: Inki วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:8:19:14 น.  

 


แต่สุดท้ายแล้วจริงหรือไม่จริง
ใช่หรือไม่ใช่ ผมว่าตัวเราเองนั่นล่ะ
ที่รู้ตัวเองดีที่สุดว่าเรามีสามารถมากน้อยเพียงใด

.
.
.

ทุกอย่างอยู่ที่ตรงนี้จริงๆค่ะ
คนเรา .. ตั้งสติถามตัวเองให้ได้
ในที่สุดจะรู้คำตอบกับทุกเรื่อง
โดยเฉพาะเรื่อง รู้ หรือ ไม่รู้
จริงหรือ ไม่จริง
ใช่ หรือไม่ใช่ .. รู้หมดแหละ
อยู่ที่ว่าจะยอมรับความจริงหรือเปล่า

บางคนไม่กล้าถามตัวเอง เพราะกลัวคำตอบ
วันนึงถ้าชีวิตไม่ไปถึงไหน
ก็จะโทษฟ้า โทษฝน โทษโชคชะตา
แต่ .. ไม่โทษตัวเอง



.
.
.

ดี.อ่านเรื่องราวที่พี่ก๋าเล่าๆมาอย่างช้าๆ
แบบว่าขอนั่งอยู่ตรงนั้นด้วยคน
อิ่มแต่เช้า อีกวันค่ะ

พี่ก๋าคงมีโอกาสอย่างนี้บ่อยๆ
เพราะฉะนั้น .. เล่าทุกงานนะคะ
รออ่านทุกวัน ทุ๊กกกกงาน








โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:8:21:07 น.  

 
ได้ประโยชน์ทุกบรรทัด

อรุณสวัสดิ์นะคะคุณก๋า


โดย: i'm not superman วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:8:26:18 น.  

 
ประสบการณ์คุณก๋ามีมากมาย จนสามารถตอบโต้
และตอบคำถามน้องๆ ได้แบบนี้ ต้องบอกว่าไม่ธรรมดา
แล้วล่ะค่ะ ... เพราะว่าเป็นประสบการณ์โดยตรง
ที่น้องๆ หลายคนเองก็ต้องเจอในการตัดสินใจทำงาน
และก็เรื่องของครอบครัว การเบนไปทำสิ่งที่เป็นจริง
มากกว่าความฝัน แต่ว่าฝันก็ยังไม่หมด เพียงแต่ว่า
เปลี่ยนรูปแบบการนำเสนอและกระทำเท่านั้นเอง ...

เรียกว่าถ้านำความคิด ความฝัน มาตีไข่ ใส่สีให้ได้รสชาติ
เป็นอาหารสักจาน ... มันจะต้องทำได้กับชีวิตนี่ล่ะค่ะ
เพราะมันจะต้องผสานหลายๆ อย่างไปด้วยกัน ...



ชีวิตมีรสชาติ ไม่ตอ้งดูที่ไหนค่ะ ... มาอ่านที่นี่
ก็ได้รับรู้รสชาติแล้วล่ะค่ะ


โดย: JewNid วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:8:27:11 น.  

 
บทความวันนี้ดีจริงๆค่ะ
ให้แง่คิดอะไรเยอะแยะ มีประโยชน์กับหลายๆ คนเชียวค่ะ


โดย: kapeak วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:8:34:38 น.  

 


หนังสืเล่มใหม่ดี.ก็รอค่ะ
เมื่อไหร่ละคะ





โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:8:38:31 น.  

 
สวัสดียามเช้าค่ะน้องก๋า
พี่อ่านทุกคำเลยค่ะ....เป็นคำพูดที่ดีมาก ๆ.....
เหมือนที่พี่บอกตนเองและน้อง ๆ ถ้าเราทำอะไรอยู่
เราต้องใส่ความรักลงไป....เราก็จะะทำออกมาดีแน่นอน..
และไม่รู้สึกเบื่อ..


โดย: ชีวิตมีลีลา วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:8:39:27 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับ คุณก๋า มาดาม น้องหมิง หมิง
เนื้อหาดีมากครับ
ฟังและอ่านได้ทั้งคนที่กำลังศึกษา คนทำงานแล้ว
หรือผู้...ที่ยังไปไม่ถึงไหน




โดย: เศษเสี้ยว วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:8:53:31 น.  

 


โอ้โห พี่ก๋า เจ๋งมากเลยค่ะ
ไปบรรยายให้ นศ.ฟัง ในเรื่องราวที่มีประโยชน์แบบนี้

อ่านซ้ำสองรอบเลยค่ะ พี่ก๋า ไม่โหวตไม่ได้แล้วนะคะ



โดย: พธู วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:8:54:44 น.  

 
ชอบที่อ่านวันนี้ทั้งหมดเลยค่ะ

อรุณสวัสดิ์นะคะคุณก๋า


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:9:13:12 น.  

 
มีอยูช่วงหนึ่งของชีวิต
ที่พี่คิดว่า ไม่รู้ จะทำงานไปทำไม
อะไร ก็มีหมดแล้ว
บ้าน รถ การงานก็ดี ครอบครัว
รู้สึกไม่อยากทำอะไร
เบื่องาน
เบื่อผู้คน

เคยคิดไปบวช



แต่ก็ทำไม่ได้


เลยต้องหาภาระให้ตัวเองเพิ่ม
ซื้อรถใหม่ ซื้อคอนโดที่กรุงเทพ
เพื่อให้ตัวเองมีภาระ

ซึ่งไม่ใช่ทางออกที่ดีเลย
ทำงายแบบเบื่อๆก็ต้องทำ


แต่เมื่อพบทางออกที่เราทำงานแล้ว มีคนมารอพบ
มีคนต้องการงานที่ทำกับเรา
เราสามารถ ทำให้เขามีความสุข หายจากการเจ็บปวด


ก็ถือว่าเป็นการเติมพลังในงานได้ดีค่ะ


โดย: me-o วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:9:16:11 น.  

 
สวัสดียามเช้าคะน้องก๋า หมิงหมิงทำให้พี่ยิ้มได้แต่เช้าทุกวัน เด็กมหัศจรรย์น๊ะเนี่ย
กรี๊ดดดดด ขอกรี๊ดดด เรื่องราวข้างบน โดนได้อีก ชอบทุกบรรทัดเลยคะ
BG ใช้สีเนวี่บลู Navy Blue สีของทหารเรือสีโปรดของพี่อีก 555 มีความหลัง
ตัวหนังสือบน BG Navy Blue ตัดกันได้แบบลงตัว ชอบมากคร๊า

สุดยอดคะน้องก๋า ไปบรรยายให้นักศึกษาฟังด้วย น้องพี่สุดยอดจริง ๆ
ทุกอย่างทีบอกเล่ามันมาจากประสพการณ์จริง ๆ ซึ่งเด็กสมัยนี้ไม่ค่อยมีน๊ะ

พี่บอกตามตรงเด็กสมัยนี้เก่งจริง เรียนรู้ได้หมด รู้จริง แต่รู้ไม่ลึก ขาดประสพการณ์
ยกตัวอย่างหลายชายพี่ เรียนเก่งมาก แต่ไม่ค่อยรู้เรื่องราวรอบ ๆ ตัว เก่งแต่ในตำรา
และเรื่องราวไร้สาระของเด็กวัยรุ่น สำหรับพี่ขอใช้คำว่าไร้สาระเลยหล่ะ รับไม่ได้

พี่ขอยกตัวอย่าง สมัยนี้เวลาไปติดต่องานใด ๆ และเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
เด็กสมัยนี้จะต้องเปิดคอมฯ เพื่อหาข้อมูลรายละเอียด คือในสมองไม่มีการจดจำใดๆ
ซึ่งผิดกับคนรุ่นพี่น๊ะ เช่น เวลานายถามเรื่องราวเก่า ๆ มันจดจำอยู่ในสมองไม่เคยลืม
เรื่องราวยี่สิบกว่าปีมาแล้ว พี่ยังตอบนายได้ว่ามันเป็นมาอย่างไร ไปถึงไหนแล้ว
นายคนนี้ มิสเตอร์คนนี้ เคยอยู่บริษัทนี้ ทำเกี่ยวกับเรื่องนี้ เราเคยติดต่อเรื่องอะไร
นายมองหน้า มองลอดแว่น ตอบกลับมาว่า "นายเยี่ยมมาก - You're Great"


โดย: บ่งบ๊ง วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:9:22:17 น.  

 
กะว่าก๋า..... สุดยอด
หงส์แดงก็.... สุดยอด เช่นกัน ฮ่ะๆๆๆ

ได้ความรู้พร้อมๆ กับเด็กๆ เลยค่ะ ^^


โดย: wayoflife วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:9:31:49 น.  

 
บ้านแบบนี้ประกอบเสร็จในวันเดียวครับพี่
แต่อยู่ในแบบและโรงงานมากว่า 3 เดือน

ที่เหลือก็ตกแต่งภายในอีก เดือนกว่าๆ

บ้านนี้เค้านวัตกรรมใหม่มากๆ
ปิดบ้านหมดก็ไม่อึดอัด มีระบบการไหลเวียนของอากาศตลอด

ข้างนอกร้อน ข้างในเย็น
ใช้ไฟจากแผงโซล่าเซล..ถ้าเหลือขายคืนให้การไฟฟ้าได้ด้วย

เป็นบ้านในเครือ SCG ของปูนซีเมนท์อ่ะครับ
อยากได้บ้างจัง..อิอิ



โดย: Little Knight วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:9:34:48 น.  

 
อ่านเพลินเชียวครับ
รู้สึกว่าน้อง ๆ เหล่านี้มีโอกาสดีมากที่ได้ฟังบรรยาย
แลกเปลียนเรียนรู้กับน้องก๋าซึ่งมีมุมมองในแง่ต่าง ๆ
ที่ค่อนข้างหลากหลาย

เพิ่งได้รู้อีกอย่างว่า
น้องก๋าจบสถาปัตย์
มิน่า การวาด การเขียน จึงสวยงามนัก

ชอบตรงการนำสิ่งที่เกิดขึ้นจริงมาสอน
ตอนที่ให้เด็กมาหยิบหนังสือ แล้วบอกว่า
ในชีวิตจริง ถ้าอยากได้ต้องมาหยิบเอา ...


โดย: peeradol33189 วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:9:40:35 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณกะว่าก๋า พูดได้ดีมากนะคะ เด็กฟังแล้วคงไม่เบื่อเพราะคุณก๋าเอาเรื่องจากประสบการณ์มาพูดเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งความเป็นจริงเหล่านี้คนจะชอบฟังเพราะบางทีประสบการณ์ต่างๆอาจจะไปตรงเข้ากับการกระทำของใครคนใดคนหนึ่งก็ได้เค้าก็ชอบที่จะฟัง
คิดถึงน้องหมิงหมิงจัง ขอให้ครอบครัวกะว่าก๋ามีความสุขนะคะ

คลิกที่รูป เพื่อเอาโค้ดรูปนี้ไปแปะ

[ของตกแต่งโดนๆคลิกเลย]


โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:9:51:38 น.  

 
แต้ๆ เลยเนอะ "ไม่รู้ให้ถาม" ปี้ต้องอู้คำนี้บ่อยมาก เพราะละอ่อนที่ร้านปี้
มันกั๋วว่า ถ้ามันถามมันจะง่าว เป๋นคนอวดฉลาดอ่ะ
แล้วก็ยะๆไปแบบบ่าถามแล้วก็บ่อฮู้
ผลคือ ..เสียหมด ขนง ขนม ..

บ่าถามนี่แหละ..ง่าวกว่า...เนอะ..


วันนี้ระยอง ..มามืดเลย..สงสัยเด๋วฝนจะตกหื้อหายฮ๊อน ละ..

แวะมาโหวตหื้อ คร๊าบบบ...




โดย: Nongpurch วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:10:22:30 น.  

 
เวลาอยากรู้อะไรแล้วเข้าไปถาม ต้องถามให้ถูกคนด้วยใช่ไหมค่ะ เพราะบางคนกั๊กความรู้ไว้ซะงั้น ไม่ยอมสอน แถมบางคนทำหน้าเซ็ง ๆ เวลาถาม ประมาณว่าเรื่องแค่นี้ ทำไมเราไม่รู้

วิ่งเก่งแบบน้องหมิงหมิง น่าจะแข็งแรง ๆ สุด ๆ ไปเลยค่ะ


โดย: ladiesorange วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:10:30:47 น.  

 
เป็นการปัจฉิมนิเทศที่ดีมากๆ ค่ะ อ่านแล้ว ขนาดเราทำงานแล้ว ยังคิดว่า บางอย่าง ได้นำไปใช้เลยอ่ะ บางอย่าง เราพลาดไปหลายข้อเหมือนกัน น้องๆ เทคนิคโชคดีนะที่ได้มีโอกาส มีพี่ที่มีประสบการณ์มาสอน มาชี้ทางแบบนี้อ่ะ

ในเวลานั้น คงช่วยชี้ทางให้น้องหลายๆ คนได้ไม่มากก้อน้อยเลยหล่ะ ถึงแม้บางคนไม่กล้าเดินมาถาม แต่เมื่อถึงเวลา เค้าก้อจะคิดถึงคำพูดของก๋านะ

ถ้ามีบ้านใหม่ ออกแบบภายในให้ด้วยจิ อิอิ

ราคากันเองนะ ฮิ้วววว


โดย: Always & Forever วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:10:32:26 น.  

 
สวัสดีค่ะ คุณก๋า

อ่านที่คุณก๋าเล่า แล้วจริงแท้แน่นอน
คุณก๋าพูดได้ดีมากเลย
นี่ถ้าสมัยที่พิงกี้เรียนแล้วมี คุณก๋ามาพูดให้ฟังแบบนี้
ป่านนี้พิงกี้คงอาจจะไม่ต้องมานั่งทำงานแบบนี้ก็ได้
ง่า แต่อดีตมันกลับไปแก้ไม่ได้ ทำปัจจุบันให้ดีเพื่ออนาคตดีกว่า

น้องๆที่วิทยาลัยเทคนิค เชียงใหม่ โชคดีจัง








โดย: pinkypunch วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:10:38:18 น.  

 
อากาศร้อนๆ นำไอศครีม มาฝากหมิง หมิง จ้า

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

แอบมานั่งฟังเป็นวันที่2จ้า


โดย: phunsud วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:10:40:01 น.  

 
ตอบคำถาม ได้ชัดเจน ครอบคลุมดีจังคุณก๋า นั่งอ่านเพลินเลยค่ะ

เรื่องความสำเร็จ คงขึ้นอยู่กับใจตัวเองเป็นผู้วัดเนาะ ต่างคนก็ต่างวัดความสำเร็จ มีความสุขกับความสำเร็จต่างกัน ... อีกเรื่องที่พี่ชอบมาก ๆ ที่คุณก๋า บอกว่า
“ชีวิตมันคือการทำหน้าที่” ... ถ้าทำหน้าที่แต่ละอย่างอย่างดี ก็ถือว่า "สำเร็จ" ... น้องนักศึกษาคงหยิบได้อะไรบ้างล่ะคุณก๋า ถึงหลับช่วงพูด อาจตื่น ช่วงถามตอบ นี่ก็ได้


โดย: Tristy วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:10:45:34 น.  

 
อ่านจบ ปรบมืออีกเหมือนทุกครั้ง คุณก๋าทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีที่สุดอีกตามเคย แนวคิด วิธีสอน เข้าใจง่ายปฏิบัติตามได้ง่าย ดีใจแทนน้องๆที่ได้มีโอกาสมาฟังปัจฉิมนิเทศโดยคุณก๋าค่ะ


โดย: หญิงแก่น วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:10:46:01 น.  

 
ที่โคราชมีสถาปนิก ที่หมดงานเพราะช่วงฟองสบู่แตก ปัจจุบันเป็นเจ้าของร้านขายก๋วยเตี๋ยวซี่โครงตุ๋นหมูที่ดัง และมีชื่อเสียงมากในโคราช ... แต่เราจำชื่อบ่ได้

เพราะเปิ่นบ่ค่อยได้ไปกิ๋น ไฮโซไปหน้อย แปงหน้อย เฮามีรสนิยมติดดิน แต่ขอบอกว่าเขาประสบความสำเร็จนัก ขยายจากห้องเดียวเป๋นสองห้อง มีตึงติดแอร์ กับ บ่ติดแอร์ ขนาดคนไปถ้ารอกิ๋นน่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:10:49:49 น.  

 
พูดได้ ได้พูด...คิดได้ คิดเป็น

แค่สลับขั้วห่งไกลกันมากก

หมิงหมิงช่วงสูบลม ตอนนี้ปล่อยให้จ้ำม้ำไปเลยเพราะจะได้ช่วงยาวววว


โดย: ป้าแหม๋วแหม๋วของหมิงหมิง (ฟ้าคงสั่งมา ) วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:10:59:53 น.  

 
พี่พูดได้ดีครับ

น้องๆ คงได้แนวทางการดำเนินชีวิตดีๆเอยะทีเดียว

ผมชอบถามเหมือนกันครับ ว่าการเรียนในประเทศไทยของเรามันคืออะไร?

ระบบการศึกษาที่ผลิตเราป้อนให้เป็นเหยื่อองสังคมจอมปลอม

ผมล่ะสิ้นศรัทธาเสียแล้ว


มาซูมกล้องเล่นดีกว่า

ฮี่ๆ




โดย: มนุษย์ต่างดาว..ผมยาว..ปากหวาน.. (เป็ดสวรรค์ ) วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:11:05:21 น.  

 
สวัสดีวันอังคารครับน้องก๋า พี่แตนพึ่งกลับจากพาคนไข้พิเศษที่บ้านกลับไปตรวจตามนัดที่ รพ. ภูมิพล มาครับ แอบหนีเด็กไปเที่ยวทะเลมาด้วย555 ไว้รอปลายเดือนปิดเรียนค่อยพาเด็กๆไปซ่อมทีหลัง

พี่แตนอ่านที่น้องก๋าเขียนข้างบนแล้วนะ รู้ว่าปีนี้งานเข้าเลยนะครับ ไม่ค่อยว่างเลยนะครับ


โดย: phaclam วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:11:08:19 น.  

 
ผมชอบวิธีการพูด ใช้การปฏิบัติตัวของน้อง ๆ เป็น
แนวคิด ถ้าอยากได้อยากรู้ต้อง เดินไปหา
และอย่าอาย.



โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:11:18:10 น.  

 
พี่ก๋า
รบกวนสอบถามหน่อยค่ะ
สร้าง friend blog สร้างยังไงเหรอค่ะ
เคยลองทำแล้ว แต่มันไม่ขึ้นนะคะ


โดย: Inki วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:11:20:48 น.  

 
ถ้าชีวิตคือการทำหน้าที่

พี่ก็ยังห่างไกล(มากๆ)กับคำว่าประสพความสำเร็จ
ยังทำหน้าที่ไม่ได้ดีซักอย่าง 555


"ผมคิดเสมอว่าอยากจะตายให้เท่ที่สุด "
^
^
เห็นประโยคนี้แล้วนึกถึงคนสองคนในหนังเรื่อง 2012

คนแรก อีตานักจัดรายการวิทยุที่รายงานข่าววันสิ้นโลกจนถึงวินาทีสุดท้ายของเค้า
คนบ้าอะไรไม่รู้ ตายได้ร่าเริงหนุกหนานจริงๆ

อีกคนก็ลามะทิเบต มองเห็นอวสานของตัวเองอยู่ข้างหน้า หลวงพ่อยังสงบและมีสติมากพอที่จะลุกขึ้นมาตีระฆัง

ดูแล้วอิจฉา อยากตายแบบมีความสุข หรือไม่ก็สงบแบบนี้บ้าง


โดย: พจมารร้าย วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:11:29:51 น.  

 
อ่านจบแล้ว ผมอยากเรียกว่า น้องอาจารย์ก๋า จะได้ไหมเนี่ย

ศรัทธาทุกคำพูด


โดย: ปลายแป้นพิมพ์ วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:11:43:13 น.  

 
เป็นข้อคิดดี ๆ
คนได้รับ ได้เข้าใจ ได้ฟัง
ถ้าเข้าถึงทุกประโยค..
ได้ประโยชน์ไม่น้อยทีเดียวค่ะ


โดย: I_sabai วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:11:45:46 น.  

 
ดีจ้าน้องก๋า สบายดีนะจ๊ะ


โดย: nompiaw.kongnoo วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:12:01:13 น.  

 
วันนี้ พี่ก๋า นำเสนออกมาได้ดีมากมากเลยค่ะ
ถ้าใครบางคนที่เค้าหมดกำลัง แวะผ่านทางมาอ่าน
เค้าคงมีกำลังใจขึ้นมาบ้าง
...
นู๋เชื่อว่าอย่างนั้นนะคะ พี่ก๋า
...
นี่เป็นสิ่งนึงที่นู๋ อยากจะเขียนบล็อก แม้จะเขียนได้ไม่ดีเท่าไหร่
ส่วนมากจะเป็นสิ่งที่ตัวเองนึกคิด เอาจากตัวเองออกมานำเสนอ แต่ก้อหวังว่าในบางส่วนเล็กๆ อาจจะมีใครได้ประโยชน์ไปใช้ได้บ้างในชีวิต ทุกอย่างมันมีการสอดแทรกอยู่ได้อ่านก้อได้คิด ก้อได้ไตร่ตรอง
...
เหมือนกับ
เปรียบเหมือนหนังสือในมือเรา
หนังสือยังคงเป็นหนังสือเล่มเดิม
ต่างกันตรงที่ว่าเราเปิดอ่านหรือวางมันไว้เหมือนเดิม
ถ้าคุณเกลียดหนังสือเล่มนี้ แล้ววางมันไว้ที่โต๊ะ
10 ปีผ่านไป มันก็ยังคงเป็นหนังสือที่คุณเกลียด
แต่ถ้าคุณเปิดใจแล้วลองหยิบมันขึ้นมาอ่านทีละหน้า
ถึงแม้วันนี้อาจจะอ่านไม่เข้าใจเลยแม้แต่นิดเดียว
แต่จะต้องมีวันหนึ่งที่คุณจะเข้าใจในเนื้อหาภายหนังสือเล่มนี้ได้อย่างแน่นอน
...
มีความสุขมากมากนะค พี่ก๋า+


โดย: Nissan_n วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:12:01:50 น.  

 

กะว่าก๋า - ทุกวันนี้ผมยังทำงานที่ร้านอยู่
เวลามีคนถามว่าจบอะไรมา พอบอกว่าจบสถาปัตย์
ทุกคนจะบอกว่าเสียดายจังที่ไม่ได้เป็นสถาปนิก
ใหม่ๆผมก็เสียดายครับ เพราะเรียนมาตั้ง 7 ปี
แถมช่วงที่ทุกข์กับการทำงานในช่วง 4-5 ปีแรก
คำถามเรื่องความเสียดายยิ่งชัดเจนมากในความรู้สึก

จนผ่านความทุกข์ในใจนั้นมาได้
ผ่านพ้นด้วยความคิดที่ว่า
จะไม่ทุกข์กับสิ่งที่ตัวเองเป็นไม่ได้
แต่จะมีความสุขกับสิ่งที่ตัวเองทำอยู่และเป็นได้

โดนเต็มๆ เลย นี่ก้อเกือบจะสิบปีแล้ว ยังเสียดาย ยังทุกข์ทุกทีที่คิดถึงสิ่งที่ตัวเองเคยทำและเคยเป็น ต่อไปนี้พี่คงคิดเสียดายมันน้อยลง พยายามทำสิ่งที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ให้ดีดีกว่า src=https://www.bloggang.com/emo/emo6.gif>


โดย: พี่ฟ้า... (kuvasu ) วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:12:09:35 น.  

 
ใช่แล้วค่ะคุณก๋า...

ทำอะไรก็ได้ แต่ขอให้ทำมันด้วยความรัก
ด้วยความสุขและความสนุก
โอกาสที่จะประสบความสำเร็จ..ไม่ยากเลย

..........

ถ้าเรานั่งอยู่เฉย ๆ อาจจะดูเหมือนคนขี้เกียจ...
แต่ถ้าเรานั่งกำหนดสติ ดูลมหายใจเข้าออกไปด้วย...
การนั่งเฉย ๆ ของเราก็จะกลายเป็นงานชิ้นสำคัญขึ้นมาทันที

ชอบการตอบคำถามของคุณก๋ามาก ๆ ค่ะ


โดย: แม่ไก่ วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:12:10:55 น.  

 
ทำได้แล้วค่ะ
งิงิ ...อายเค้ามั๊ยล่ะ


โดย: Inki วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:12:17:18 น.  

 


ของน้องด้าชอบคำนี้ค่ะ

Happiness is in liking what one does, not in doing what one likes!

คงประยุกต์ได้เหมือนพี่ก๋าปัจฉิมฯ นี่แหละนอะ


โดย: ดวงลดา วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:12:35:20 น.  

 
สวัสดียามเที่ยงครับพี่ก๋า


ชอบทุกคำตอบเลยครับพี่

เป็นสิ่งที่ถ้าเราทำได้จริงในชีวิต ก็ไม่ยากเลยที่จะประสบความสำเร็จในการมีชีวิต



โดย: กลิ่นดอย วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:12:44:54 น.  

 
แพ้บ้าง ล้มเหลวบ้างก็ช่างมัน
นั่นเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราเติบโต
อย่าไปคิดว่าชีวิตที่ดีคือชีวิตที่ประสบความสำเร็จอย่างเดียว
ชีวิตที่มีแต่ความสุขอย่างเดียว
ไม่ใช่ชีวิตที่แท้จริง…..
ชีวิตจริงมันคือประสบการณ์ทั้งดีและร้าย
ประสบการณ์ที่ทำให้เราเรียนรู้และเติบโต

.......
.......

ชีวิตทำงานที่ผ่านมาเวลาจับProjectแต่ละงาน
ก้อล้มลุกคลุกคลานหลายครั้งแต่สุดท้ายก้อจบลงด้วยดี
ชีวิตที่นี่...
ตอนนี้ล้มไม่เป็นท่าไปหลายรอบแล้วค่ะพี่กะก๋า
ตอนนี้บอกตัวเองให้นิ่งๆสักพัก สักพักก่อน





โดย: TheKPP วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:12:47:13 น.  

 
นี่ก็คือ ข้อเสียของคนไทย หัวเราะคนที่ถาม ตอนที่ผมเรียนที่จีนผมสบายใจมาก เพราะไม่ต้องไปกังวลกับพฤติกรรมแบบนี้ อยากถามก็ยกมือถามกัน หรือไม่ก็ถามขึ้นมาเลยไม่ต้องยกมือ ไม่มีการหัวเราะเยาะ

คนจีนมีคำกล่าวไว้ว่า "ไม่กลัวหรอกว่าจะพูดผิด กลัวแต่จะไม่พูด ถ้าไม่พูดแน่นอนว่าไม่มีทางพูดผิด แต่ก็แน่นอนว่าจะไม่มีทางพูดได้" (หมายถึงพูดภาษาจีน)

เรื่องขอความรู้ แหะๆ ผมเจอกับตัวเองเลย คือ ผู้ใหญ่กว่ามาขอความรู้ แต่เหมือนเขาจะไม่พยายามรับความรู้เลย แถมยังพยายามยกตนข่มเราอีกต่างหาก คิดๆ ไปก็ขำ เขาเล่นอะไรของเขา มาขอความรู้หรือจะมาทำอะไร ทำให้ผมรู้สึกไม่อยากให้ความรู้เขาเลย ผิดกับที่พี่ก๋าพูดไว้ว่าควรอ่อนน้อม ซึ่งถ้าเขาอ่อนน้อมผมจะรู้สึกดีกว่านี้ แน่นอนล่ะว่าเขาอายุมากกว่าผม "ต้อง" ให้เกีรยติเขาอยู่แล้ว ขนาดอายุมากกว่าผม 1 ปี ผมยังเรียกพี่เลย

มีอีกเหตุการณ์นึงมีน้องคนหนึ่งมาขอความรู้ผม แต่เพราะเรานั่งกับคนอื่นอีกเยอะ มีพี่คนหนึ่งแกรีบแสดงภูมิเลยแกฉลาดที่สุดในโต๊ะ (คนเดียวกับกรณีข้างบน) แต่น้องคนนั้นดูเหมือนจะไม่ค่อยเชื่อที่พี่คนนั้นพูดครับ หันมาถามผมอีกว่า "ใช่มั้ยพี่" ผมลำบากใจจริงๆ กับสถานการณ์แบบนี้ เพราะที่พี่คนนั้นอธิบาย มันถูกไม่หมด มันแค่ 50% เท่านั้น ผมก็พยายามตอบเลี่ยงๆ ประมาณว่า พี่คนนั้นตอบถูก แต่ผมก็เสริมจุดที่พี่เขาไม่ได้อธิบาย พร้อมบอกว่า คิดว่าพี่เขาน่าจะยังเรียนไม่ถึง (ถามเรื่องภาษาจีน) มันมีอีกความหมาย และวิธีใช้แบบอื่นด้วย ทั้งที่ความจริงแล้วพี่คนนั้นเขาเรียนแล้วล่ะ (ผมเคยดูหนังสือระดับนั้นมาแล้ว) ผมก็พยายามให้หน้าเขานะ แต่ดูเหมือนเขาจะค้อนผมด้วย ผู้ชายไรฟะ ค้อนใส่ด้วย

หลายๆ เรื่องดูอุดมคติไปหน่อย แต่ผมชอบ มนุษย์ยังมีสันดานที่ชอบดูถูกคนที่อ่อนแอกว่าตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นสถาบันการศึกษา หน้าตา เงินทอง เสียดายโจทย์ตะพาบของพี่ก๋าครั้งที่แล้วต้องอ้างที่มา เพราะมีการ์ตูนเรื่องหนึ่ง (จำชื่อไม่ได้แล้ว) มีคำคมที่ว่า "คนที่น่าสมเพช จะหาคนที่ทุเรศกว่าตัวเอง เพื่อไม่ให้ตัวเองโดนดูถูก" (ประมาณนี่ล่ะ) คมดีแต่น่าเสียดายไม่ได้ใช้


โดย: คูรต่อ (toor36 ) วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:12:55:39 น.  

 
พิมพ์พลาดไปหน่อย คูรต่อ**** คุณต่อ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:12:57:31 น.  

 
ต้องรื้อระบบใหม่หมดครับ

ตอนนี้เริ่มมีการปฏิรูปการถือครองที่ดิน ที่พูดถึงกันหนาหู

แต่ผมว่า มันยังเร็วไปครับ

แต่อีก 7-8 ปี ก็ไม่แน่


โดย: เกิดมามั่วๆ..ตัวดำ..ฟันหลอ.. (เป็ดสวรรค์ ) วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:12:58:59 น.  

 
เขียนดี ตอบดีมากๆ เลยคุณก๋า ..

ชอบๆๆ อ่านทั้งของเมื่อวาน และ วันนี้


โดย: Life & Learn วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:12:59:10 น.  

 
ขอบคุณมากครับสำหรับคำอวยพรวันเกิด ขอให้คุณก๋าเป็นขวัญใจชาวBloggangไปนานๆๆๆๆๆนะครับ


โดย: JohnV วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:13:00:21 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่ก๋า
สวัสดีค่ะหมิง หมิง ที่เชียงใหม่ร้อนมากมั้ยเอ่ย ที่กทม. ร้อนมากๆเลยค่ะ เดินออกไปหาของกินตอนเืที่ยงกลับมาเหงื่อโซกเลย นึกว่าไปวิ่งมาราธอนกลับมาซะอีกค่ะ

ทักทายยามบ่ายค่ะ



โดย: ภายใต้ วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:13:07:14 น.  

 
ดีจ้าน้องก๋า

เห็นเขียนว่า ปัจฉิม...... (2) แสดงว่ามีตอนที่ 1 ด้วยซิเนอะ แหะ แหะ น้องก๋าคนขยันอัพบล็อกทุกวัน

ส่วนโอ๋คนขี้เกียจก็อ่านบล็อกแบบลักปิดลักเปิด กร๊ากกกก

เห็นคำถาม 6 ข้อ กับร้อยล้านคำตอบ เอ้ยไม่ใช่กับคำตอบแบบจุดประกาย ทำให้นึกย้อนกลับไป สมัยเรียนแค่ไม่กี่ปีนี้เอง 555 นั่นอย่าม้องค้อนกันขนาดนั้นซิ

พูดก็พูดเถอะ เวลาจะเรียนจบ มักจะมีอาจารย์แนะแนวมาพูดให้ฟัง หรือไม่ก็เชิญวิทยากรมาพูดให้ฟัง แต่โอ๋หน่ะไม่เคยเข้าสมองเลยซักครั้ง คงเพราะยังไม่ถึงเวลาหรือโง่กันแน่เนี่ย เอิ๊กกกกก

ตอนเรียนอนุบาลดอกบัวของหลวงเนี่ยจบป.6 ก็มีอาจารย์แนะแนวไม่ได้เข้าสมองเล้ย สุดท้ายก็ไม่ต้องสอบ ดันจับพลัดจับพลูไปเรียนเอกชนซะงั้น จะเข้าม.ปลายก็ดั้นสอบไม่ติดซักกะที่ โน่นเลยไปพาณิชย์เลย ชิ่ว ชิ่ว พ่อคิดว่ายังงัยคงไม่ต้องเอ็นสะท้านมันแล้ว ก็ยังเจ๋อเข้าไปสอบตามกระแสงั้นหล่ะ สุดท้ายกลายเป็นเด็กโครงการช้างเผือก เผือกร้อนซะด้วย555 เรียนแบบกระท่อนกระแท่น คิดว่าชีวิตนี้พอกันทีกับการเรียนแบบเกรดมาตรฐานจบ ที่ไหนได้ผ่านไปสิบปี มหาวิทยาลัยบอกมามะมาต่อโทกัน เหอเหอ น้ำหน้าอย่างชั้นเนี่ยนะ เอาก็เอาวะ แม่เจ้าโว้ยยยยย ไอ้เด็กเกรดมาตรฐานมันหายไปไหนแล้วเนี่ย สงสัยอาจารย์หลับตาตอนให้เกรด555 ไม่น่าเชื่อว่าเด็กที่เรียนไม่เก่ง เวลาผ่านไปมันจะเก่งขึ้นมาได้ ง่ะแล้วตอนนั้นไปทำมันสมองหล่นหายไปตรงไหนเนี่ย พึ่งจะได้กลับคืนมาเหรองัย

มิหนำซ้ำพอจบก็มีปัจฉิมงี้หล่ะ อาจารย์ให้ขึ้นไปพูด คิด คิด คิด ไม่รู้จะพูดอะไร แต่ขึ้นไปเล่นพูดซะน้ำไหลไฟแลบ แทบจะไม่ยอมวางไมค์ 555

ก็เลยได้รู้อะไรบางอย่างว่า คำว่าเก่ง กับไม่เก่ง หรือโง่เนี่ย มันไม่ใช่แล้ว น่าจะเป็นคำว่ารู้ กับไม่รู้ ก็แค่ปัจจัยแวดล้อมยังไม่ส่งเสริมให้คน ๆ นึงเท่านั้นเอง มันขึ้นกับเวลา การเรียนรู้ ประสบการณ์ สติ ปัญญา โอ๋ไม่เคยใช้คำว่าโง่กับใคร เพราะแต่ก่อนเคยโดนด่าประจำ ไม่ใช่เก็บกดเลยไม่เอาออกมาใช้ แต่ก็แค่ยังไม่รู้เท่านั้นเอง

คนที่เรียนรู้เร็ว มีพัฒนาการเร็ว ก็แค่รู้ก่อน ส่วนคนที่ไม่รู้ มีพัฒนาการช้า ก็แค่รู้ทีหลัง แต่ไม่ได้แปลว่าคน ๆ นั้นจะโง่ โอ๋ว่าคำว่าโง่ ไม่เหมาะจะใช้กับทั้งคน สัตว์ สิ่งของ แต่ถ้าใครจะใช้ โอ๋ว่าคน ๆ นั้นน่าจะได้รับคำ ๆ นั้นมากกว่าผู้อื่น เพราะคน ๆ นั้น ไม่เปิดใจคิดบ้างว่า ศักยภาพแต่ละคนมีไม่เท่ากัน อย่าง ไอคิว ที่มีต่างกันอาจทำให้พัฒนาการทางความคิดแต่ละคนต่างกันก็เท่านั้นเอง แต่เมื่อเวลาผ่านไป ได้รับการฝึกฝน ขัดเกลา มีทักษะเพิ่มขึ้น ได้เรียนรู้มากขึ้น คน ๆ นั้นก็จะกลายเป็นคนเก่งในสายตาผู้อื่น ขึ้นมาทันที

อ้ะ ยาว ย้าว ยาว คราวนี้อาจจะเท่าแฮร์รี่ พอตเตอร์

ขอบทสรุปหน้านี้ก่อน 555 ออกนอกประเด็นไปไกลถึงกาแลคซี่แล้ว วิทยากรผู้มาให้คำตอบ และให้ข้อแนะนำ จำเป็น และสำคัญสำหรับเด็ก ๆ อยู่ไม่น้อยก็จริง แต่ ศํกยภาพของเด็กแต่ละคนที่จะสามารถรับสารที่เราส่งไปถึงเค้านั้นก็มีไม่เท่ากัน แต่อย่างน้อยก็ดีกว่าให้เขาคลำหาทางเอาเองแบบคนตาบอด


โดย: oa (rosebay ) วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:13:18:52 น.  

 
เขาว่ากันว่าเริ่มต้นดีมีชัยไปกว่าครึ่ง
ได้แนวทางดีดีก็มีชับไปกว่าครึ่งนะก๋าจ๋า
เยี่ยมมากๆโชคดีของนักศึกษารุ่นนี้ไปจ้ะ
ขอบคุณนะคะพี่มาโหวตเช่นกันค่ะ
ว่าแต่ว่า หมิง หมิงวันนี้งงอะไรเอ่ย
ทุกทีเห็นยิ้มร่ามาเลยหน่ะคะ


โดย: Sweety-around-the-world วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:13:42:56 น.  

 
" สิ่งที่คุณทำแล้วมีความสุข วันหนึ่งอาจกลายเป็นอาชีพ

สิ่งที่คุณหวังว่ามันจะเป็นอาชีพ ท้ายที่สุดอาจไม่ใช่ก็ได้

ทำอะไรก็ได้ แต่ขอให้ทำมันด้วยความรัก ด้วยความสุขและความสนุก
โอกาสที่จะประสบความสำเร็จ..ไม่ยากเลย "

ชอบตรงนี้มากค่ะ

และขอเล่าประสบการณ์การเรียนต่อของป้าแอ๊ดนิดหนึ่งนะคะ

เพราะป้าแอ๊ดเองก็เรียนมาจากเพาะช่าง และอายุมากกว่าคุณก๋ามากมาย
แต่สมัยนั้น พอบอกคุณพ่อ-คุณแม่ ว่าจะเรียนเพาะช่าง ท่านไม่ว่าอะไรเลยทั้งสองคน
ท่านสนับสนุนทุกอย่างค่ะ เพราะท่านบอกว่า ความรู้ทำให้เรามีสมองและความคิดเพิ่มมากขึ้น
ท่านไม่เคยมองว่าถ้าจบแล้วจะทำอะไรกิน
ป้าแอ๊ดเรียนทางด้าน วิจิตรศิลป์ ด้วยซ้ำไป เขียภาพเป็นหลัก
เพื่อนๆ แยกไปเรียนด้านพาณิชย์ศิลป์ เรายังไม่ไปเลย

แต่สุดท้ายก็ต้องมาใช้วิชาทั้งหมดในการทำงานโฆษณา
ออกแบบสร้างฉากโฆษณา ทั้งที่ไม่ได้เรียนสถาปัตย์

ป้าแอ๊ดเชื่อแน่ว่า การเรียนรู้ต่างๆ ทำให้เราสามารถต่อยอดความรู้ไปได้ต่างๆ นาๆ แล้วแต่เราต้องการค่ะ

และที่ดีที่สุดคือ ทำในสิ่งที่เรารัก แล้วเราจะมีความสุขที่สุดค่ะ




โดย: addsiripun วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:13:46:39 น.  

 
แวะมาสวัสดีคุณก๋ายามบ่ายๆ หลังจากเสร็จภาระกิจค่ะ
แนวความคิดดีมากค่ะ ขอชมเชย อ่านแล้วพลอยได้ความรู้
ไปกับเด็กๆด้วยนะค่ะ

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


โดย: ดาวริมทะเล วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:13:48:02 น.  

 
ไม่ใช่คอมเม้นท์ยาวอย่างเดียวแล้วเรา ยังใช้เวลายาวนานอีกด้วย ตอนเปิดทีแรกว่าคนที่ 50 กว่าคอมเม้นท์เอง ไหงกว่าจะคอมเม้นท์เสร็จกลายเป็นคนที่ 70 กว่าซะแล้ว555

เห็นคำถามน้องๆ แล้วก็อ่านะ เก่งกว่าเราอีกแฮะ รู้จักตั้งคำถาม แต่คงต้องบอกว่าคนตอบหน่ะเก่งกว่า เพราะถ้าเป็นโอ๋คงไม่รู้จะงัดคำตอบแบบไหนออกมา

มันเป็นคำถามแบบไม่ได้ตั้งตัว หรือจะมีเวลาคิดและไตร่ตรองมาก่อนมากนัก ถ้าเขาให้เราไปบรรยาย เรายังมีหัวข้อ มีขอบเขตกำหนดไว้ ทำให้เราพูดออกไปได้ลื่นไหลกว่า แต่ถ้าเป็นการถามตอบแล้วหล่ะก็ คงต้องใช้สติและปัญญา ที่มี บวกกับความรู้ ประสบการณ์ ที่ไม่มีในตำรา และไม่ได้ท่องจำ งัดออกมาใช้ นี่หรือเปล่าน้องก๋าที่เขาเรียกว่าพรสวรรค์

แล้วพรสวรรค์ที่ว่าเนี่ย มันจะออกมาตอนไหนน้า เอ๋แล้วเราจะรู้ได้งัยว่าเรามีพรสวรรค์ด้านนี้หล่ะ แล้วถ้ามีมันจะใช้งานได้จริง ๆ รึเปล่า จะทำยังงัยให้เรามั่นใจได้หล่ะว่า นี่หล่ะคือความสามารถของเราจริง ๆ ฟังเหมือนยาก แต่ไม่ยาก ฟังเหมือนง่ายแต่ไม่ง่าย

จำได้ว่าครั้งแรกที่โอ๋วาดรูป บอกได้คำเดียวว่าห่วยแตก วาดประจำคือ ทะเล ภูเขา พระทิตย์ ต้นมะพร้าว และนกหนึ่งตัว กา กา สงสัยชั้นจะไม่มีพรสวรรค์ด้านนี้ เลิกดีกว่า แต่ นี่หล่ะชีวิต อาจารย์บังคับวาดก็ทุก ๆ การเรียนมันมีวิชาอสรพิษที่เรียกว่า ศิลปะ ต้องวาดรูปส่ง ทำงัยดีหว่า เอางี้ เห็นภาพไหนสวย ก็ทำการ copy มันซะเลย ทั้งแบบ ทั้งสี แล้วจะทำงัยหล่ะ ก็ตีสแกล ทำตารางทั้งต้นแบบและกระดาษ โป๊ะเชะ เท่านี้เอง สวยเช้ง ส่งอาจารย์ได้ ได้รับการฝึกฝนนานเข้า ถึงแม้มันจะไม่มีความสุขและสนุกเลยในช่วงแรก พอเจอบ่อย ๆ สแกลหายไป เกิดเป็นจินตนาการ กระดาษวาง อยากวาดก็วาด อยากใช้สีอะไรก็ใช้ เออ วาดรูปเป็นเหมือนกันนี่นา

วิชาที่ไม่น้อยหน้าอีกวิชาคือ หัตถกรรม โอ้วววววว ไม่เคยทำเองเพื่อนทำให้ตลอด เกิดไฟล์บังคับต้องขึ้นชก เอ้ยไม่ใช่ อาจารย์ไม่ให้เอาอุปกรณ์กลับบ้านไว้โรงเรียน ถึงคาบเรียนก็เอาออกมาทำ มหาหิน ทำงัยหล่ะ ทำก็ทำ จากการปักผ้าพื้นขนาด 8 นิ้ว คูณ 8 นิ้ว กลายเป็นผ้าขนาด 36 นิ้วไปซะแล้ว

การเรียนรู้ ทักษะ ความชำนาญในงานที่เราทำ ทำให้เราเกิดความมั่นใจ เมื่อมั่นใจแล้ว ก็รู้สึกพอใจกับงานที่ทำ ผลงานก็จะเปิดเผยตัวตนของเราออกมาทั้งหมด ผลพวงที่ตามมาก็คือคำชม (ก็แค่โบนัส ไม่ใช่เงินเดือนประจำ) แต่สิ่งที่ได้มากกว่านั้นคือความสุขทุกครั้งที่เห็นผลงาน(นี่ซิถึงเรียกว่าเงินเดือนประจำ)

นี่คือคำตอบของคำถามแรก สำหรับโอ๋ที่มีการวางพล็อตไว้ก่อนแล้ว แต่ถ้าเป็นด้นสดคงไม่มีคำตอบให้ 555 อารมณ์ศิลปินก็งี้หล่ะ จริง ๆ ไม่ใช่หรอก ไม่มีอะไรในสมองมากกว่า กร๊ากกกกก แต่คำตอบของน้องก๋าโอ๋ก็ชอบและก็คิดว่ามันก็จริงแฮะ จริงมาก ๆ เลยด้วยนะเออ ^_^


โดย: oa (rosebay ) วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:13:56:52 น.  

 
สวัสดีต๋อนบ่ายแก่แก่จ้า
ถ้าละอ่อนฟังแล้วเข้าใจแล้วเอาไปใจ้ท่าจะดีขนาด

emoemo


โดย: BongKet วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:14:03:18 น.  

 
ทีนี้ก็มาถึง คำถามระหว่างเรียน ไม่รู้เป็นงัย ระหว่างเรียนหน่ะ เข้าใจเป็นอย่างดี แต่เวลาออกนอกห้องเรียนแล้วกลับมาบ้าน กลับมีคำถามเต็มหัวไปหมดเพราะว่ามาเจอการบ้านที่ไม่เหมือนที่ครูสอนนี่นา

อันนี้เป็นปัญหาของเด็กที่เรียนอ่อน เพราะเขาไม่สามารถตอบโจทย์ที่เกิดอาการพลิกคว่ำตะแคงหงายได้ มันถึงเป็นคำตอบว่า คนเรียนไม่เก่ง สามารถสอนนักเรียนให้รู้เรื่องมากกว่า เพราะเขาไม่จำเป็นต้องเร่งรัด ไม่จำเป็นต้องอวดภูมิวิชาความรู้ แต่เขาจะรู้จุดบกพร่องของเด็กที่เรียนไม่เก่งเป็นอย่างดี แล้วก็ไม่ต้องแปลกใจที่คนเรียนเก่งมักสอนไม่รู้เรื่อง เพราะเขามีวิธีคิดลัด คิดเร็วตลอดเวลา และเขาก็คิดว่ามันมีประโยชน์เวลาสอบที่ต้องทำเวลา

ตอนเรียนป.โท ทำให้เข้าใจ สมัยก่อนโน้นนนนน ก็ไม่เข้าใจหรอกนะ มีวันนึงอาจารย์ที่สอนประจำไม่มา มีอาจารย์มาแทน จบด๊อกเตอร์ 2 ใบ เป็นด๊อกแบบทุนอีกต่างหาก หมดไป 3 ชั่วโมง ไม่มีใครรู้เรื่องซักคน น้อง ๆ หันมาถาม พี่โอ๋เอางัยดีหล่ะ เราก็ตอบแค่ว่า อาจารย์สอนมาหมดแล้วหล่ะ ที่เขาสอนวันนี้เป็นวิธีคิดลัด อย่าซีเรียส รับรองอาจารย์กลับมาสอน เราก็รู้เรื่องอยู่ดี

การตั้งคำถามเป็นสิ่งที่ดี เพราะทำให้เรารู้คำตอบ และแก้ไขสิ่งที่เราเข้าใจผิดให้เข้าใจถูก

อันนี้เห็นด้วยกับน้องก๋าที่ว่าเด็ก ๆ ไม่กล้าถามในห้องเรียนส่วนมากน่าจะเกิดจากที่โอ๋ว่าไว้ข้างต้น แต่นอกห้องเรียนโอ๋ว่าน่าจะเกิดจากที่น้องก๋าว่าไว้ข้างต้น สำหรับนักธุรกิจแล้วมักจะไม่ค่อยกลัวที่จะถาม เพราะบางครั้งคำตอบเหล่านั้น มักจะเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์ในการทำธุรกิจ เปรียบเทียบกับตู้เก็บเอกสาร โอ๋มีตู้เก็บเอกสารอยู่หนึ่งตู้ มีลิ้นชักอยู่หนึ่งร้อยลิ้นชัก แต่ละลิ้นชักเกิดจากการเก็บข้อมูลที่แตกต่างกัน บางลิ้นชักข้อมูลมาจากการศึกษา บางลิ้นชักข้อมูลมาจากการซักถาม บางลิ้นชักมาจากกูเกิ้ล 555

เง้ยยยยย สงสัยโอ๋พาน้องก๋าเดินเข้าป่าไปแล้ว ไม่รู้จะอ่านกันรู้เรื่องมั๊ยเนี่ย


โดย: oa (rosebay ) วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:14:13:49 น.  

 
แวะมาเยี่ยมกันตอนบ่ายแก่ ๆ


โดย: ไกลเกินใจสายเกินแก้ วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:14:17:07 น.  

 
สพฺเพ ว นิกุขิปิสุสนฺติ ภูตา โลเก สมุสฺสยํ
สัตว์ทั้งปวง จักทอดทิ้งร่างไว้ในโลก

ดำเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาท ตลอดไป..นะคะ



ยอดเยี่ยมภาคสองเลย..ค่ะ คุณก๋า พี่รีบกดโหวตแทบไม่ทัน..อิ อิ

เมื่อวานเข้าไปเคลียร์งานนิดหน่อย แล้วต้องเผ่นหนีตามระเบียบ
วันนี้ ต้องแหง่วอยู่บ้านทั้งวัน ไปทำงานได้แป๊บ ๆ เซ็งหลาย..

ดีที่ยังมี lap top ให้นั่งพิมพ์งานธรรมะไปได้เรื่อย ๆ ไม่งั้นหงอยแย่เลย..อิ อิ

อากาศที่กรุงเทพฯ ไม่ค่อยดีเลย..ค่ะ ร้อน ก็ร้อนจัดมาก
อยู่ ๆ ก็มืดครึ้มฝนอีกแล้ว เชียงใหม่เป็นไงมั่งคะ
หมู่นี้ไม่ค่อยได้อัพเด็ทกะหลาน ๆ ที่นี่เลย..ค่ะ

รักษาสุขภาพทั้งสามคน พ่อ-แม่-อ้ายหมิงหมิง..นะคะ



โดย: พรหมญาณี วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:14:21:30 น.  

 
พี่อยากเรียนช่างก่อสร้างคะ แต่ไม่มีเพื่อนสักคน
ชายล้วน...ไม่กล้าด้วยละ กลัวจะเป็น
หงส์ในฝูงมังกร...555


โดย: aenew วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:14:23:33 น.  

 
คำถามข้อ 3 ธุรกิจครอบครัวกับงานเขียน ของน้องก๋า

พึ่งรู้ว่าน้องก๋าทุกข์ใจกับงานที่ไม่คาดคิดว่าจะต้องทำในช่วงปีแรก ๆ ที่ลงไปทำงานด้วยแฮะ

ช่วงปีแรก ๆ หน่ะโอ๋ไม่ทุกข์ใจในการทำงานที่บ้านเลย เพราะเป็นช่วงเวลาแห่งการเรียนรู้งาน ถึงแม้จะมีบางอย่างใกล้เคียงกับสิ่งที่ได้เรียนมาในตำราบ้าง

แต่พอทำมาได้ซัก 5 ปี เริ่มทุกข์ ก็เพราะเราดันไปเปรียบเทียบกับเพื่อน เรียนมาเหมือนกันก็จริงแต่ดูเหมือนเขาจะได้ใช้ภาษา และสิ่งที่เรียนมาแบบครบถ้วน แต่เรากลับไม่ค่อยได้ใช้ทั้งภาษา และสิ่งที่เรียนมาเลย สิ่งที่เราได้ใช้อยู่ทุกเมื่อเชื่อวันคือการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในแต่ละวัน เกี่ยวกับงาน และคน จริงดังว่า ถ้าแก้ปัญหาเรื่องคนได้แล้วหล่ะก็ เรื่องอะไรก็ดูจิ๊บ ๆ ไปซะหมด

สำหรับน้องก๋าเรียกได้ว่า ได้ทำในสิ่งที่รักแล้วทั้ง 2 อย่างเพราะน้องก๋าพอใจ และมีความสุขกับสิ่งที่ทำอยู่

สำหรับโอ๋คงเบนเข็มไปไหนไม่ได้แล้วหล่ะ เพราะรู้สึกคงเข้าโหมดเต็มสูบ งานกำลังโดนถ่ายโอนช้า ๆ ทางเดินแห่งชีวิตเป็นจริงเป็นจังแล้ว ส่วนทางเดินแห่งความฝันคงต้องทิ้งไว้ที่ปลายสะพาน อ้ะ อ้ะ อ้ะ งงหล่ะซิ มันเอามาจากไหนฟร่ะเนี่ย ปลายสะพาน 555

เฮ้อ ไม่มีอะไรหรอก น้องก๋าลองคิดต่อเองละกานนนนน แต่ทุกวันนี้โอ๋ก็มีความสุขดีแบบหุงข้าวแล้วกินไม่ได้หน่ะ นั่นถ้าเล่นตลกต้องโดนไล่ออกจากคณะ ก็หุงข้าวแบบสุก ๆ ดิบ ๆ งัย โอ้ยยยยย จะหัวเราะก็หัวเราะเลยนะโอ๋ไม่ว่า ก็ไม่เห็นนี่นา เชิญ


โดย: oa (rosebay ) วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:14:31:20 น.  

 
ขอบคุณสำหรับความคิดดีๆค่ะ...
อ่านแล้ว ก็พยักหน้าตามไปด้วยหลายข้อ

รู้สึกเล็กๆ ในใจ ว่าเราล้มเหลวในชีวิตยังไงไม่รู้
เพราะป่านนี้ ยังไม่รู้เลยค่ะ ว่าตัวเองต้องการทำอะไร
และต้องทำอะไร แค่ใช้ชีวิตไปวันๆ มันน่าเบื่อแต่ว่าคิดไม่ออก


โดย: nikanda วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:14:43:15 น.  

 
อ้ะลืมเรื่องสำมะคัญ เอาบุญมาฝากจ้า เมื่อวันอาทิตย์ไปทำบุญวันเกิดพ่อ เลี้ยงพระทั้งวัด ดันขยันทำกับข้าวเอง เหนื่อยแต่สุขใจเพราะพระฉันหมดเกลี้ยง ดีจริง เมื่อปีที่แล้วจ้างเขามาทำ ข้าวของเหลือเยอะแยะ ก็อย่างนี้หล่ะน้า อะไรที่ทำเอง ยอ่มพิถีพิถันกว่า สะอาดกว่า แล้วก็อร่อยกว่าด้วย

เรื่องเรียนไม่เคยต้องเลือก พ่อเลือก พ่อจัด ให้หมด ท่านก็ไม่ได้บีบ ไม่ได้บังคับ แต่ดูจากสภาพความฉลาดของลูกแล้ว เอาแค่พอจบก็พอ ใจจริงหน่ะอยากเรียนครุ จะได้ไปเป็นครู หรือไม่ก็คหกรรมก็ได้ (แต่อันนี้แม่บอกว่าสอนให้ได้ เห็นจะจริง) แต่พ่อคงเล็งการณ์ไกล ว่าอีกหน่อยต้องรับช่วงต่อ ก็เลยให้เรียนบริหารแทน ยากจะตายชัก ใครฟร่ะบอกบริหารง่าย ไม่รู้เลยว่ามันต้องมีแคคูลัสด้วย สถิติอีก 2 เล่ม เศรษฐฯอีก 2 กฎหมายอีก 2 เง้ยยยยเด็กพาณิชย์มันคงจะไปรอดหรอกนะ เรียน 3 ปี ไม่เคยจับเลยซักกะวิชานอกจากบัญชี เฮ้อ

แต่เห็นจะจริง จบมาไม่ต้องไปไหน พ่อก็โยนงานลงมาโครมเบ้อเริ่มแล้ว มีประโยชน์แฮะ ดีนะที่ไม่ดื้อ ทนเรียนจนจบ นี่หล่ะน้าเขาถึงว่าตามผู้ใหญ่หมาไม่กัด 555 เจ้ยยไม่ใช่ ต้องบอกว่าผู้ใหญ่อาบน้ำร้อนมาก่อนซิถึงจะถูกใช่มั๊ยเนี่ย


โดย: oa (rosebay ) วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:14:43:56 น.  

 
สวัสดีค่ะ
ไม่ได้มาซะนาน ดูซิก๋าน้อยเป็นหนุ่มแล้ว


โดย: โสนบ้านนา วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:14:52:36 น.  

 
สมกับที่เป็นพี่ก๋าคนที่ขวัญศรัทธาจริงๆค่ะ..

วันนี้พญาลิงน้อยหล่อจัง

สุขกับทุกวันนะคะพี่ก๋า


โดย: ในความอ่อนไหว วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:14:58:09 น.  

 
วันนี้ลงฮูปเก่าตี่เจียงใหม่เน่อ

แถว ๆ บ้านเปิ่นแหละ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:15:00:21 น.  

 
อ๋อย ท่านลุง มิใช่แค่ 300 คับ
หมดไปเท่าตัว -0-
6-700 ได้เลยคับ แถมวิดีโออีกคลิปสั้นๆ อิอิ


โดย: หัวเหม่งคุง วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:15:02:03 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณก๋า

มาอ่าน มาโหวตให้เพื่อนๆ
แล้วก็ออกไป ไม่ค่อยได้ทักทายใครเลยค่ะ
คุณก๋านอกจากจะเป็นนักเขียนแล้ว
กลายเป็นนักพูดเพิ่มมาอีกอย่าง


พี่กำลังแสกนภาพถ่ายเก่าๆลงคอมค่ะ
มีความสุขในสิ่งที่ทำก็ถือว่าประสบความสำเร็จ
ตอนนี้พี่ทำหลายอย่าง สนุกมีความสุข แต่เหนื่อยจัง อิ อิ


แอมอร




โดย: peeamp วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:15:03:37 น.  

 
คุณก๋าพาน้องหมิงหลับยังไงคะ ร้องเพลงกล่อมเหรอคะ อิอิ
เสียงคุณก๋าเพราะออก น้องหมิงหมิงฟังแล้วเคลิ้มหลับไปเลย
วันนี้กิ่งว่าจะโหวตให้คุณก๋า แต่ว่ากิ่งโหวตไปครบ 3 ท่านแล้ว ขอยกยอดเป็นพรุ่งนี้นะคะกิ่งจะมาโหวตให้

ขอให้สุขสดชื่นยามบ่ายที่ร้อนๆค่ะ ลำปางร้อนสุดๆค่ะ

คลิกที่รูป เพื่อเอาโค้ดรูปนี้ไปแปะ

[ของตกแต่งโดนๆคลิกเลย]


โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:15:10:45 น.  

 
ขอบคุรมากจ้าสำหรับข้อคิดดีๆที่นำมากระตุกใจอีกครั้งหนึ่งจ้า


โดย: chabori วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:15:26:22 น.  

 
เมื่อคุณอยากได้ จงเดินเข้าไปหา

อ้ะ อันนี้ไม่ใช่คำถาม แต่เป็นการสอดแทรกคำสอนลงไปในสถานการณ์ด้วย น้องก๋าฉลาดเนอะ

บ่อยครั้งที่โอ๋ไม่เคยเดินไปหา อย่างในกรณีที่มีหนังสือแจก แจกของ หรือแจกอะไรก็แล้วแต่ เป็นเพราะว่ามักคิดเสมอว่าไม่อยากได้ เพราะเรายังไม่ได้ใช้ประโยชน์และยังไม่เห็นคุณค่าของของสิ่งนั้น หากนำมาไว้ในครอบครองก็คงเปล่าประโยชน์ คงเป็นเพราะเป็นคนเรียบ ๆ ง่าย ๆ ไม่ค่อยทะเยอทะยาน อยากไปใคร่มีซักเท่าไหร่

เวลาไปไหนมาไหนกับแม่ แม่มักจะชอบเข้าไปรับของ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่แม่ไม่เคยได้ใช้งานมันเลย กลับเป็นโอ๋ที่นำมาใช้ประโยชน์ แม่ชอบพูดว่า "ไม่เป็นไร เอามาไว้ก่อน เผื่อวันข้างหน้าได้ใช้ประโยชน์" จนตอนนี้บ้านหน่ะรกไปหมดแล้ว ส่วนโอ๋ก็คอยกำจัดจุดอ่อน 555 โดยไม่บอกท่านหน่ะนะ

เจ้านิสัยแบบนี้มันก็ดีไปอย่าง คือไม่ทะเยอทะยานอยากได้ของใคร แต่มันก็มีข้อเสียตรงที่ไม่ทะเยอทะยานนี่หล่ะ เพราะความทะเยอทะยานเป็นจุดเริ่มต้นแห่งความคิดที่จะเอาชนะ ไม่ว่าจะจากธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมหรือจากมนุษย์ด้วยกันเอง ก็อย่างเครื่องบินนั่นปะไร

ถ้ามีคนอย่างโอ๋เยอะ ๆ ประเทศคงไม่พัฒนาแน่ 555


โดย: oa (rosebay ) วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:15:30:44 น.  

 
สวัสดีคะพี่ก๋า ป๊อบมาเชิญไปตามดูชมบรรยากาศที่ไปทำบุญมาเมื่อวันอาทิตย์คะ

น้อง ๆ มีความสุข และได้ให้ความสุขแกป๊อบมาเยอะแยะเลยคะ

วันนี้ป๊อบขออนุญาตก๊อบบล็อกนี้ของพี่ก๋ามาเปิดอ่านวันหลังนะคะ ช่วงสอบคะ ตอนนี้แว๊บมาเล่น 555


โดย: onedermore วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:15:36:54 น.  

 
อ่านแล้วซึ้งคะ ขอบคุณนะคะ



โดย: ปันฝัน วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:15:56:06 น.  

 
สวัสดียามเย็นค่ะพี่ก๋า มาอ่านต่อจากเมื่อวาน

" ความสำเร็จที่แท้จริงของชีวิตคืออะไร " โดนใจเลยค่ะ...


emoemoemo


โดย: Tonkra49 วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:15:58:06 น.  

 
ภาษาจีนเป็นภาษาที่ไม่สามารถอวดอ้างได้เลยว่า "ข้าเก่ง" ภาษาอื่นอาจทำได้ แต่ภาษาจีนไม่ว่าจะในบทเรียนหรือวัฒนธรรม เขาจะสอนให้ถ่อมตนมากๆ ถึงแม้ว่าจะเป็นจริง ก็มักจะแกล้งพูดว่า "ใช่ที่ไหนกัน" "ไม่เก่งหรอก" เราจะรู้ตัวดีครับว่าเราเก่งแค่ไหน และเมื่อรู้มากขึ้น เราจะยิ่งรู้สึกว่าเรานี่มันไม่ได้เรื่องเลย

อาจารย์ที่สอนภาษาจีนท่านว่า บางครั้งเราพูดคุยกับคนที่ความรู้ต่ำกว่า เราก็จะได้เรียนรู้อะไรจากเขาเช่นกัน ฉะนั้นอย่าได้มองว่าคนที่มีความรู้ต่ำกว่าเราว่าด้อยกว่า ซึ่งกรณีที่ผมยกไปมันก็ทำให้เราได้เรียนรู้ว่า เรารู้ลึกกว่า แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ควรหลงตัวเองว่าข้าแน่กว่าใคร

ผมไม่ใช่คนรู้เยอะ หรือรู้จริง เพราะเมื่อเทียบกับคนอื่นที่เก่งกว่าเราจะรู้ว่าเราไม่เก่งเลย ยังมีคนเก่งกว่าเราอีกมาก เพียงแต่ เราก็แค่อ้างตามที่เรารู้จากประสบการณ์ที่เรามีก็แค่นั้นเอง ใครจะไปรู้ว่าคำตอบที่น้องเขาได้รับมาตอนแรกถูกแค่ 50% ผมพูดเสริมเข้าไป มันอาจจะแค่ 90% ก็ได้ มีน้องหลายคนบอกว่าผมมันระดับเทพ ผมยังคิดเลยว่ามันธรรมดาจะตาย เทพบ้าอะไร สมัยก่อนผมได้ยินเรื่องเขียนเรียงความ 1000 ตัวอักษร ยังเคยคิดเลยว่าเราไม่มีทางทำได้แน่ แต่เมื่อเวลานั้นมาถึงผมกลับคิดอีกอย่างว่า คนที่มาถึงระดับนี้แล้วทำไม่ได้ต่างหากที่อ่อน (ตรงนี้คงคล้ายๆ คำคมในการ์ตูน คำว่าเป็นไปไม่ได้ นั่นแหละที่เป็นไปได้)

น่าเสียดายที่คนที่มาขอความรู้ผมเป็นถึงอาจารย์ แน่นอนว่าในเรื่องวัยวุฒิเขาเหนือกว่า ผมย่อมให้ความเคารพ แต่เรื่องคุณวุฒิ "เฉพาะด้านภาษาจีน" อย่างน้อยผมก็ไม่อายปากที่จะบอกว่าผมเป็นรุ่นพี่เขา มันตลกครับ กับการที่จะขอความรู้แล้วข่มคนอื่น คุณจะใหญ่มาจากไหนไม่สำคัญถ้าจะขอความรู้ต้องสุภาพ ผมถือตรงนี้มาก แน่นอนว่าผมย่อมให้เกียรติคนถามในเรื่องวัยวุฒิเช่นกัน

ก็... ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเขาค้อน อาจเป็นเพราะทุกคนเรียกแกว่าอาจารย์มั้ง มันเหมือนผมไปหักหน้าแก หรือผมควรจะบอกว่า "ถูกต้อง พี่เก่งจังเลย เก่งกว่าผมอีก" ให้มันจบๆ ไปเลย แล้วค่อยเรียกน้องคนนั้นไปสอนอีกที แต่แบบนั้นถ้าเขารู้ทีหลัง ผมว่ามันยิ่งกว่าหักหน้าอีก มนุษย์นี่มันเข้าใจยากจริงๆ

ความจริงคนที่ผมพูดถึงแกเป็นประเภทชอบให้มีคนยอแกน่ะ ผมไปเหยียบตาปลาแกมั้ง แกเลยค้อน มารู้ทีหลังจากเพื่อนหลายๆ คนว่า แกบอกให้แอนตี้ผม เพราะผมไปเกินหน้าแก ผมก็พอจะรู้ว่าน่าจะมีเรื่องแบบนั้น แต่แกล้งเฉยๆ ซะ แถมเพื่อนมันไม่ทำซ้ำยังเอามาบอกมาอีก ผมล่ะหมดศรัทธาแกจริงๆ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:16:03:18 น.  

 
สำหรับคำถามสุดท้าย ที่ว่า

ความสุข ความสำเร็จมีจุดสิ้นสุดไหม

เนื่องจากโอ๋อ่านให้คุณพ่อฟัง ก็เลยกลับมาคอมเม้นท์ล่าช้า

คุณพ่อบอกว่าเหมือนที่ท่านพุทธทาสพูดเลย และข้อความนี้หล่ะที่จุดประกายให้คุณพ่อลุกขึ้นมาทำงานบ้านให้ลูก

ท่านคิดว่า ปกติโอ๋ก็ช่วยงานที่โรงงานอยู่ทั้งวันแล้ว แต่ก็ยังต้องซักผ้า เก็บบ้าน แล้วก็ทำกับข้าวอีก

ท่านก็เลยคิดว่าในเมื่อลูกช่วยทำงานในโรงงานแล้ว ท่านก็เลยช่วยทำงานบ้านด้วย

ท่านบอกว่าภรรยากับลูก ๆ ทำมาให้ท่านนานแล้ว ท่านก็เลยอยากทำให้บ้าง เพราะอนาคตมันไม่แน่นอน วันนี้เรายังอยู่ด้วยกัน วันหน้าหากต้องพรากจากกัน อย่างน้อยความดีของท่านก็จะได้มากพอให้ภรรยาและลูก ๆ ได้คิดถึงบ้าง

ขณะเขียนคอมเม้นท์ให้คุณก๋าทุกครั้ง มักจะมีรายการงานเข้ามาแทรกเป็นช่วง ๆ แต่วันนี้คุณพ่อมานั่งและปรับทุกข์เรื่องความทุกข์ของผู้อื่น เพื่อที่จะขอคำปรึกษาจากโอ๋ เรียกว่าร่วมกันหาหนทางที่จะผ่อนปรนความทุกข์ของเขาเหล่านั้นให้เจือจางลงไปบ้างไม่มากก็น้อย

คอมเม้นท์วันนี้ก็เลยลากยาวมาจนเย็น เย็นจริง ๆ ฟ้ามืดครึ้มเชียว พอดีกว่าเนอะ กลัวจัง กลัวน้องก๋าชังน้ำหน้า เดี๋ยวนี้ทำไมมันเขียนยาวนักนะ ต่อไปจะพยายามหด ย่อ ให้เหลือสั้นลงนะจ้ะ

แต่วันนี้เอามหากาพย์ไปก่อนละกัน 555


โดย: oa (rosebay ) วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:16:07:16 น.  

 
มาอ่านต่อค่ะพี่ ตอนที่2นี่ก็ได้อะไรไปคิดอีกเยอะเลย


โดย: coji วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:16:11:19 น.  

 
เข้ามาอ่านอย่างละเอียดเลยค่ะน้องก๋า

มันใช่และเป็นอะไรที่เป็นปัญหาวนเวียนอยู่รอบๆตัวเรา

คำพูดของน้องเมื่อวานที่บอกว่า...

เด็กที่ชัดเจนในเรื่องการเรียนและรู้ว่าตัวเองอยากเรียนอะไร
ไม่น่าห่วงเลยครับ...
คิดว่าใช่เพราะเค้าชัดเจนจริงๆ ตอน ม. 3
แม่ก็จำยอม

ลูกกำลังวัยรุ่นมาก ๆพี่ก็ตามแบบห่างๆแต่ไม่ได้ปล่อย

ปัจจุบันพี่ก็ไม่ได้บังคับเค้าเป็นฝ่ายขอเรียนพิเศษเสริมภาษาและวิชาการเอง

และเกรดไม่ได้เป็นตัวตัดสินนะคะว่าลูกเราเป็นคนดีหรือไม่ดีเห็นด้วย

และที่ดีใจมาก ๆที่สุดคือเมื่อเช้าลูกชายคนโตของพี่

ได้เข้ามาอ่านจบไปแล้วทั้งสองภาคที่น้องก๋าบรรยาย

และบอกว่าดีมากครับ เป็นประโยชน์มาก ๆ

ขอบคุณพี่ก๋ามาก ๆครับ

สำหรับพี่ขอเป็นกำลังใจให้น้องมีพลัง

ในการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตให้กับสังคมต่อ ๆไปนะคะ



โดย: jamaica วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:16:56:00 น.  

 
มะเหม่งคลานตามเวียงพิงค์อย่างเดียวเลยท่านลุง
พี่แมวก้อช่วยกันล่อ
เหนื่อยยยยยยยยยยยยยย
เทอไม่สนใจอะไรเลยอ่ะ เทอจาเล่น เอิ๊กส์ๆ
แถมชอบเอาฝาเลนส์ไปกินมากๆๆๆๆ เหนเปนไม่ได้เชียว


โดย: หัวเหม่งคุง วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:17:13:06 น.  

 
มาอ่านข้อความดีๆของจานก๋าค่ะ
อิๆ


โดย: aitai วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:17:16:16 น.  

 
เป็น ข้อคิด เป็นคำตอบที่พูดได้ดี มากเลย ..
น่าจะมีรูป ประกอบด้วย นะอยากเห็นหน้า ..ตอนนั้น คงดู..ดูจริงจังมาก เลย...
ภูมใจไหม ละ ที่เราสอนน้องๆ ได้. เรามีส่วน เปลี่ยนชีวิต เขาได้นะ..
เด๋ว ตามเด็ก ที่บ้าน มาอ่าน อิอิ..


โดย: tifun วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:17:16:37 น.  

 
เรื่องการศึกษาถ้าจะพูดกันผมว่าพูดกันได้ยาว บล็อกของบล็อกแกงค์ในหนึ่งบล็อกเราสามารถเขียนได้ไม่เกิน 40,000 ตัวอักษร อาจไม่พอเลยทีเดียว

เมื่อกี้ลืมไปโม้มากไปหน่อย ขอชื่นชมพี่ก๋าจากใจจริง และขอให้พี่ก๋าทำแบบนี้ต่อไปครับ ในเรื่องการชื่นชมในข้อดีของผู้อื่น (กรณีนี้คือนักเรียน นักศึกษา)

แนวคิดของฝรั่งกล่าวไว้ว่า การฝึกสุนัขเราจะเน้นที่การส่งเสริมพฤติกรรมดี และไม่สนใจในพฤติกรรมแย่ๆ ของมัน น่าเสียดายที่เราใช้วิธีนี้กับสุนัขแต่ไม่ค่อยใช้กับคน ทั้งที่การฝึกคนก็ใช้วิธีเดียวกับสุนัข "ส่งเสริมพฤติกรรมดี และไม่สนใจในพฤติกรรมแย่" ของประเทศเราจะเน้นด่าและตำหนิแต่จุดที่แย่ สุดท้ายก็ไม่รู้ว่าเรามีอะไรดี ผมมองว่าควรทำควบคู่กัน จะดีกว่า

+


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:17:22:17 น.  

 
..."ถึงแม้ว่าคุณจะเก่ง แต่ถ้าคุณไม่กล้าพูด ไม่กล้าแสดงออก
ไม่กล้าร้องขอโอกาสจากใครเลย
คุณไม่มีทางที่จะประสบความสำเร็จได้แน่ๆ"

เห็นด้วยอย่างแรงค่ะพ่อก๋า ^-^

ปล.คุณครู (พระจันทร์ของขวัญ) คงแอบนึกถึงใครอยู่จริงๆนะคะ ถูกบล็อคแต่ผิดชื่อ อิอิ


โดย: อรุณสวัสดิ์ที่รัก วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:17:35:47 น.  

 
สวัสดีค่ะ พี่ก๋า

วันนี้มาอ่านซะเพลินเลยค่ะ
ชอบจังเลยค่ะ
ตอบได้ใจจริง ๆ ๆ ค่ะ

กำลังคิดอยู่เลยว่า..
ถ้าเราโดนยิงคำถาม..แบบนี้
จะพูดอะไร จะตอบอะไร

พอมาอ่านที่พี่ก๋าตอบแล้ว
คิดว่า นักศึกษาที่นั่งฟังอยู่คงจะพอใจ
และรู้สึกว่า มีกำลังใจ มีความมุ่งมั่น
และทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดแน่ ๆ ค่ะ

ขนาดก้อยอ่านแล้วยังรู้สึก
ดี ดี มาก ๆ ค่ะ
และต้องเอาไปคิดแบบนี้บ้าง และ ทำบ้างซะแล้ว
(ทำใจ - หน้าที่ของตัวเราเอง)

ขอบคุณค่ะ สำหรับ blog วันนี้
อิ่มตา - อิ่มใจค่ะ


โดย: Gunpung วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:17:51:16 น.  

 
555 เข้ามาขำ ได้ยินมาเยอะแระว่า พวกถาปัตย์ จะไม่ค่อยได้แต่งบ้านตัวเองอ่ะ


โดย: Always & Forever วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:17:56:50 น.  

 
น่าดีใจแทนน้องๆเหล่านั้น
สำหรับคำถามคำตอบที่ใครคนหนึ่งซึ่งผ่านทางมาแล้ว
ได้แบ่งปันให้คนข้างหลัง ไม่ต้องล้มลุกคลุกคลานเรียนรู้เอง


โดย: HoneyLemonSoda วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:18:24:47 น.  

 
คุณก๋า พูดดีมากๆเลย เข้ามาตามอ่านเนี่ย ได้ข้อคิดเยอะแยะ



โดย: มะฮอกกานีใบใหญ่ วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:19:14:42 น.  

 
เนื้อหาการบรรยายเต็มไปด้วยสาระดีดี
เป็นประโยชน์ยามเมื่อนักศึกษาเหล่านี้จบการศึกษาและต้องมุ่งทำงานเพื่ออนาคตต่อไป


โดย: ลุงแอ๊ด วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:19:16:14 น.  

 


สวัสดีค่ะคุณก๋า

โห...พูดเก่งจัง เก่งพอๆหรืออาจเก่งกว่านักพูดมืออาชีพบางคนซะอีก

ช่วงนี้เราจะไม่พูดถึงเรื่องบอลเนอะ


โดย: สีฟ้าใส วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:19:21:58 น.  

 

ตอนนี้มีอยู่สองบาท

บาททองหรือคะพี่ก๋า อิอิ


โดย: fonrin วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:20:01:00 น.  

 
คนบางคนจบต่างสาขามาก็สามารถทำงานอะไรได้ดีกว่าคนจบสายตรงมาเลยเจ้าอ้ายก๋า

อยู่ที่ว่า เขามีความสุขกับการงานในสิ่งที่ำทำ

อย่างอ้ายก๋าทุกวันนี้ก็มี่ความสุขในการทำงานที่ร้านตัวเองมากกว่าจะเป็นสถาปัตย์
แม่นก่อเจ้า

อย่างน้องรินเอง จบบัญชีมาก็ทำงานเกี่ยวกับบัญชี

พอน้องรินมาเจอเพื่อน ๆ

น้ิองรินบอกเพื่อน ๆ เลยว่า

"สงสัยอะไร ขอให้ถาม ถามได้ ยกเว้นเรื่องบัญชี"



โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:20:39:41 น.  

 
มีคนบอกคุณก๋ารึยังว่า
คุณก๋าเป๋นสปีกเกอร์ที่ปลุกปลอบพลังใจได้ดีเยี่ยม
มาอ่านวันนี้เต็ม ๆ อ่านไปตวย กึ๊ดไปตวย
แถมกึ๊ดว่า คุณก๋าหยังมากึ๊ดกำอู้ได้ดีแต้ ๆ อิอิ

ถ้าหื้อปี้หาเรื่องตี้จะไปอู้จะอี้
ถ้าจะกึ๊ดหลายตลบ กึ๊ดบะออกเจ้า 555
แต่ว่าเป็นคนเลี่ยมขี้ถามเน้อ เอิ๊ก ๆ


โดย: JinnyTent วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:20:46:28 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

แวะมาเพราะคิดถึงนะจร้า :)


โดย: สาวสะตอใต้ วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:20:51:54 น.  

 
อ่านแล้วพยักหน้าเห็นด้วยเป็นระยะ ๆ คุณก๋าตอบคำถามดีมาก ๆ เลยค่ะ จะแจ้ง เข้าใจง่าย

ทำงานอะไรก็ได้ ถ้ามีความสุข งานก็ไม่ใช่งานอีกต่อไป และไม่ยากที่จะประสบความสำเร็จ

วิธีเดินไปหาสิ่งที่อยากได้นี่ใช่เลยค่ะ ถ้าอยากได้แล้วนั่งเฉย ๆ สิ่งนั้นคงไม่เดินมาหาเราแน่ ๆ

คุณก๋าเจ็บหนักเลยนะนั่น โชคดีที่ไม่พิการ ทั้งรถชน ป่วย แถมตกจากที่สูง แสดงว่าทำบุญมาดี เลยรอดปลอดภัยมาได้


มาชวนคุณก๋าไปอ่านบล้อคเติ้งลี่จวินภาคห้าค่ะ บล็อคนี้ยาวโลดดดด


โดย: haiku วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:21:40:37 น.  

 
สวัสดีค่ะ มาดาม หมิงหมิง และพี่ก๋า.(^_^)



โดย: อาร์ลาฟองค์ วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:21:45:34 น.  

 
พี่ก๋า ไปวิปัสนาก่อนนะคะ 12 วันเจอกัน


โดย: windsylph วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:21:56:15 น.  

 
+
ค่ืะ พี่ก๋า
...
คืนนี้หลับฝันดีนะคะ


โดย: Nissan_n วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:22:04:09 น.  

 
มีความสุขมากที่ได้อ่านค่ะ คุณก๋า
ขอบคุณมากที่นำมาแบ่งปัน


โดย: เหมือนพระจันทร์ วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:22:22:59 น.  

 
อ่านแล้วโดนมากๆ ..
ควรค่าแก่การไปปัจฉิมนิเทศน์ให้กับ
นักเรียนที่กำลังเดินมาถึงทางแยก..
ที่จะต้องตัดสินใจในการก้าวต่อไป..
เพิ่อเผชิญกับความเป็นจริง..

...ไม่จำเป็นต้องจบ คุรุศาสตร์..ก็เป็นครูสอนได้...เยี่ยมจริงๆค่ะ..


โดย: ภัสสรา วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:22:41:50 น.  

 


โดย: veerar วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:22:58:13 น.  

 
โห ถ้าพี่ได้เป็นนักศึกษาที่นั่งฟังอยู่ในนั้น คงจะประทับใจจนเก็บไปนอนฝันดีแน่เลยค่ะ เพราะได้คำตอบแบบไม่ต้องไปแปลอีก หลายครั้งที่ฟังนักวิชาการบรรยายแล้วต้องกลับไปนอนก่ายหน้าผากคิด หลับแล้วยังฝันร้ายตามมาอีก หุหุ


โดย: pinkyrose วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:22:58:13 น.  

 
ชอบใจคำตอบที่ให้แง่คิดดีๆ กับนักศึกษา และผู้ใหญ่อย่างพี่ค่ะ


โดย: Maew-Tua-Lek วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:23:02:47 น.  

 

ไม่ได้เข้ามาหลายวัน

งานยุ่งมากๆค่ะ

เข้าบล๊อกน้องก๋าแล้วได้ประโยชน์มากมาย

ได้แง่คิดหลายอย่างมากๆ

คิดภาพน้องหมิง หมิง ออกเลย

ว่าโตขึ้นต้องซึมซับสิ่งดีๆมาแน่ๆ





โดย: nok_noyly วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:23:02:57 น.  

 
เลนส์พี่แมว คงจาเต็มไปด้วยน้ำลาย 5555555+
คว้าได้ เข้าปากหมับเลยคับ

ชอบแฉกเลนส์ตัวนี้มากเหมือนกันคับ
ตัว ไวด์ 10-20 ของซิกม่า แฉกไม่ค่อยโดนใจ อิอิอิ


โดย: หัวเหม่งคุง วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:23:04:03 น.  

 


ใข่เลยอีกแล้วคะคุณก๋า สำหรับพี่อร คนเราเมื่ออยู่นาน อายุมากขึ้นๆ เหมือนกับวิ่งไม่เคยได้หยุดเลยคะ

อ่านแล้ว คุณก๋ามีช่วงเฉียดใกล้เคียงกับพี่อรมกาเลยคะ

1. ผ่าตัดตั้งแต่ ป 4 คะ
2. ตกหลังคาโรงรถที่บ้าน ตอนนั้น ม.ศ. 1 คะ
3. รถคว่ำ ข้างหนึ่งลึกประมาณ 3000 ฟุต อีกข้างเป็น Teenเขา โชคดีคะผลิกไปฝั่ง TeenเขากับTeenเรา 555 (กลัวโดนเซ็นเวอร์คำหยาบอีกคะ ก็เลยรอดไป แต่รถยนต์ขายไปที่ Junk Yard ได้ ไป 50$ คะ)

รอดมาใช้กรรมต่อจนถึงทุกวันนี้หละคะคุณก๋า แต่มองย้อนไปก็ฮา สุดๆ ตอนตกโรงจอดรถหละคะ นึกอย่างลองเดินบนหลังคาแบบช่างบ้างนะคะ สงสัยว่าเขาเดินกันอย่างไร ไม่รู้ว่าต้องเหยียบตรงที่เป็นสันที่ต่อกันคะ ก็เลยออกไประเบียงบ้านแล้วปีนลงนะคะ อิอิ อยากรู้ไปซะทุกเรื่องคะ
แต่ ตอนรถควำนี้ ขำไม่ออกเลยคะ



โดย: cengorn วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:23:04:37 น.  

 


โดย: nulaw.m วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:23:13:42 น.  

 
คิดว่านักศึกษาเหล่านั้น

คงได้แรงบันดาลใจกลับไปบ้างไม่มากก็น้อยจ้ะ


โดย: นักล่าน้ำตก IP: 27.130.156.171 วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:23:32:36 น.  

 
ชอบจังเลยกับประโยคที่ว่า "เปลี่ยนวิธีคิด"
หนี่ฯว่าจะพักผ่อนแล้วค่ะ แวะมากู๊ดไนท์คุณก๋า
คุณมาดามน้องหมิงหมิง พักผ่อนนอนหลับฝันดี
สดชื่นยามเช้าเลยนะคะ



เรื่องเครื่องสำอางค์หนี่ฯก้อว่าแยอะมากมาย
เห็นด้วยเลยค่ะ บางตัวหนี่ฯยัง แอบบ งงๆ เอาเหมือนกัน ผลิตภัณฑ์ก้อเข้าใจคิด ออกตัวใหม่ๆมาเอาใจสาวๆอยู่สม่ำเสมอ


โดย: แพรวขวัญ วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:23:39:39 น.  

 

สวัสดีค่ะคุณก๋า...

แวะมาชวนชมภาพถ่ายคะ



โดย: คนผ่านทางมาเจอ วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:23:42:04 น.  

 
เอ่อ..พี่ก๋าแอบหยิบของมาดามมาใช้ตอนไหนคะเนียะ


โดย: หนีแม่มาอาร์ซีเอ วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:23:55:44 น.  

 
หวัดดีค่ะพี่ก๋า น้องหมิงหมิงที่น่ารักขึ้นทุกวั๊นทุกวัน
ก้อนหินกำลังจะเข้านอนค่ะ วันนี้จะนอนไม่เกินตีหนึ่ง
และจะพยายามนอนให้หลับ
โดยไม่คิดอะไร กะว่านอนหลับตานับขาตะขาบหนึ่งตัวว่ามีกี่ขา
ก็คงพอจะหลับได้นะค่ะ แค่นึกภาพก็ขนลุกแล้วค่ะ ๕๕๕+++



โดย: ก้อนหิน (cator ) วันที่: 9 มีนาคม 2554 เวลา:0:42:52 น.  

 
บทความวันนี้นี่
อยากให้เอาไปพูดงานอิกไนต์อีกจัง
รู้สึกว่ามีประโยชน์มากๆ
จะบอกใครดีเนี่ยะ?
อิกไนต์เตอร์ครั้งต่อไป
ขอเสนอ..นิชคุณ
เอาอีกๆๆ...
ปล.วันนี้สังเกตุดูหมิง หมิง
รู้สึกว่าเค้าตัวสูงขึ้นนะ..รึป่าว?
ฝันดีกั๊บบบ


โดย: โจนบ้ากับป้าแก่ๆ วันที่: 9 มีนาคม 2554 เวลา:1:10:29 น.  

 
ดีจังเลยค่ะ เหมือนได้นั่งฟัง แล้วก็ได้ย้อนถามตัวเองอีกรอบสำหรับหลาย ๆ อย่าง

วันนี้ได้ข้อคิดว่าชีวิตคือการเรียนรู้ไปเรื่อย ๆ ไม่รู้ก็ถาม หลายครั้งที่ไม่กล้าถาม เพราะกลัวคำพูดกลับมาว่า เฮ้ย...แค่นี้ก็ไม่รู้เหรอ ผ่านมาได้ไงอ่ะ...

มีความสุขกับเช้าวันพุธนะคะพี่ก๋า


โดย: อุ๊ (oumon ) วันที่: 9 มีนาคม 2554 เวลา:7:41:47 น.  

 
วันนี้ได้โอกาสมาอ่านย้อนหลังค่ะ
อ่านแล้วรู้สึกว่าอยากย้อนกลับไปทำอะไร
หลายๆ สิ่ง หลายๆ อย่าง ที่พี่ก๋าพูดมาค่ะ
คิดขึ้นมาได้มันก้อไม่ทันแล้วล่ะค่ะ
ขอทำทุกวันที่เป็นอยู่ให้ดีที่สุดแล้วกันค่ะ


โดย: Inki วันที่: 9 มีนาคม 2554 เวลา:15:16:33 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




[Add 's blog to your web]