8 วิธีเร่งไดเอตให้เห็นผล
หุ่นดีเพรียวกระชับขึ้น แข็งแรงขึ้น ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ขอเพียงรู้จักวิธีสร้างแรงจูงใจ...
ผู้ เชี่ยวชาญด้านสุขภาพกล่าวว่าแรงจูงใจ มีส่วนช่วยกระตุ้นให้การไดเอทได้ผล เราจึงใคร่ขอนำเสนอกลวิธีสร้างแรงจูงใจในการลดน้ำหนัก เพื่อให้คุณสามารถนำเคล็ดลับเหล่านี้ไปปฏิบัติได้
หาก คุณรู้สึกท้อแท้กับน้ำหนักตัวที่ลดลงช้ามาก ไม่ได้อย่างที่ใจหวัง อันดับแรกขอให้นึกถึงสาเหตุที่คุณต้องไดเอท จะเป็นเพราะอยากเห็นตัวเองดูโฉบเฉี่ยวเปรี้ยวไฉไล ในงานแต่งงานของเพื่อนสาว หรือจะเป็นเพราะไม่อยากเห็นตัวเองต้องนั่งหอบแฮ่กๆ หลังจากวิ่งขึ้นบันได จดจำเหตุผลที่คุณอยากผอมเพรียวไว้ให้ขึ้นใจ แล้วการไดเอทของคุณจะประสบผลสำเร็จ
จู ดิธ วิลลิส ผู้เขียนเรื่อง The Diet Bible อธิบายว่า "วิธีนี้อาจช่วยคุณได้โดยการจดบันทึกความรู้สึกทั้งหมดของคุณ เวลาที่เห็นตัวเองหุ่นดี ชีวิตจะเป็นอย่างไรต่อไป เขียนประโยชน์ของการมีสุขภาพดีทั้งหมดเท่าที่เป็นไปได้ อย่าลืมบันทึกช่วงเวลาที่คุณต้องหงุดหงิด หรือทนทุกข์กับน้ำหนักตัวที่เพิ่ม ขึ้นไม่ยอมลด" จากนั้นนำสิ่งที่ประมวลได้ทั้งหมดนี้ มาเป็นแรงจูงใจในการช่วยลดน้ำหนัก
ต่อไปนี้เป็นเทคนิคในการสร้างแรงจูงใจ ที่ช่วยให้การลดน้ำหนักของคุณได้ผลดีเยี่ยม
1. สนุกกับตัวเอง "เลือกออกกำลังกายในแบบที่ชอบ จะช่วยให้คุณลงมือทำกิจกรรมดังกล่าวอย่างต่อเนื่องเป็นกิจวัตร"
แอนน์ วิดด์คอมบ์ ครูฝึกสอนฟิตเนสประจำ Celebrity Fit Club กล่าว "ไม่มีทางที่ใครจะมาดึงฉันให้ไปโรงยิมได้ เพราะว่าฉันไม่ชอบ แต่จะมีความสุขมากกว่าหากฉันได้ขี่จักรยานเสือภูเขาหรือเล่นเทนนิส"
การออกกำลังกายหักโหมก่อให้เกิดโทษ คุณต้องเริ่มอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณไม่ได้ออกกำลังกายมาเป็นเวลานานๆ ถ้าคุณพบว่าน้ำหนักตัวลดลงในตอนแรก แต่หลังจากนั้นกลับหยุดนิ่งไม่เปลี่ยนแปลงทั้งที่ออกกำลังกาย อย่าเพิ่งตกใจหรือพยายามอดอาหาร "เพราะนี่เป็นธรรมชาติของกระบวนการลดน้ำหนัก แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นเองถ้าคุณเพียรพยายาม" แอนน์อธิบาย
2. วางแผนอย่างรอบคอบเพื่อความสำเร็จ การออกกำลังกายเนื่องจากมีแรงจูงใจเป็นตัวกระตุ้น ช่วยให้คุณเกิดความตั้งใจจริงที่จะไดเอท "การไอเอทมีโอกาสจะประสบความสำเร็จอย่างน่าทึ่ง หากมีการวางแผนล่วงหน้าประมาณ 1 สัปดาห์หรือมากกว่านั้น"
ลิซ ทักเกอร์ ผู้เขียนเรื่อง When You Want To Say Yes But Your Body Says No กล่าว เธอยังบอกอีกว่า "ให้นึกถึงอาหารที่กิน และสิ่งที่อยากทำ บางทีคุณอาจต้องเก็บกวาดอาหารที่เหลือค้างอยู่ในตู้เย็น ทิ้งไปก่อนจะเริ่มลงมือไดเอทอย่างจริงจัง"
จังหวะเวลาในการเริ่มต้นควบคุมอาหารก็มีความสำคัญ เช่นกัน ควรเริ่มต้นในช่วงจังหวะที่เหมาะสมดีกว่าคิดจะเริ่มตอนไหนก็ได้ อย่าเลือกไดเอทก่อนวันหยุดหรือก่อนวันแต่งงานของเพื่อน เพราะช่วงนี้ควรเป็นเวลาที่คุณจะได้มีความสุขกับการกินของอร่อย
3. อยู่กับเพื่อน การ รวมตัวเป็นทีมหมายถึงการที่คุณมีใครคอยให้กำลังใจอยู่เคียงข้าง การที่คุณไปงานปาร์ตี้หรือไปกินข้าวนอกบ้านกับเพื่อน ช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงการกินของมันได้ เพราะจะมีเพื่อนคอยสะกิดเตือน "ถ้าคุณอยากหุ่นเพรียวบาง ให้โทรหาเพื่อน" การมีคนคอยให้กำลังใจอยู่ใกล้ๆ ช่วยให้คุณไม่กินตามใจปากเช่นเดียวกับการไปออกกำลังกายกับเพื่อน
ผลการวิจัยพบว่า หุ่นของคุณจะฟิตกระชับมากขึ้น ถ้าได้ออกกำลังกายกับเพื่อน
4. เอาจริงเอาจัง "การ เปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นทีละขั้น เมื่อถึงเวลาหนึ่ง" ลี จาน็อคลี ผู้เขียนเรื่อง Only Fat People Skip Breakfast กล่าว
จงเสริมแรงจูงใจด้วยการทำให้เป้าหมายบรรลุผล ควรตั้งสัตย์อธิษฐานเช่น "จากเดิมที่เคยใส่เสื้อไซส์ 16 ฉันจะต้องใส่เสื้อไซส์ 8 ให้ได้ก่อนฤดูร้อนหน้านี้จะมาถึง" และเพื่อให้คำอธิษฐานของคุณเป็นจริง ก็ให้ตั้งสัตย์ปฏิญาณว่า "ฉันจะลดน้ำหนักให้ได้อาทิตย์ละ 2 กิโลกรัม รวมเป็นเวลาทั้งหมด 20 อาทิตย์"
เพราะความคิดที่จะลดขนาดเสื้อผ้าที่สวมใส่ ดูจะเป็นภารกิจที่ทำได้ยากมาก แต่ถ้าคุณแตกภารกิจที่ต้องทำออกเป็นทีละขั้นตอน งานทุกอย่างก็จะง่ายขึ้น และเมื่อทำขั้นแรกได้แล้ว ก็จะเกิดแรงจูงใจที่จะทำขั้นต่อไปให้สำเร็จ
5. ออกไปหาอะไรทำเพลินๆ "เมื่อ ตอนเป็นเด็ก ฉันบอกแม่ว่าเบื่ออาหาร นอกจากแม่จะไม่เคี่ยวเข็ญให้กินแล้ว แม่ยังพูดว่า ถ้างั้นก็ออกไปเล่นนอกบ้านสิ " เจสัน เวล ผู้เขียนเรื่อง Slim 4 Life บอก
ดังนั้นเวลาที่คุณเกิดอยากกินขนมจุบจิบ จะด้วยสาเหตุจากความเบื่อ ความเครียด ความเหงา หรือซึมเศร้า อย่าเยียวยาอารมณ์ด้านลบเหล่านี้ด้วยอาหาร เพราะจะก่อให้เกิดความรู้สึกละอายใจได้ในภายในหลัง จงลุกขึ้นหาอะไรเพลินๆ ทำ จิตใจจะได้ไม่จดจ่อกับอาหาร วิธีนี้ช่วยให้คุณมีชีวิตอยู่อย่างมั่นใจและ ภาคภูมิใจที่ตัวเองไม่หวั่นไหวต่อสิ่งยั่วยุ คุณจะมีความรู้สึกที่ดีกับตัวเองมากขึ้น และยังทำให้น้ำหนักส่วนเกินหายไปด้วย
6. สร้างจินตนาการ การนึกถึงภาพตัวเองตอนลดน้ำหนักลงได้ตามที่ตั้งใจไว้ มีส่วนช่วยกระตุ้นให้คุณปฏิบัติตามแผนการกิน เพื่อสุขภาพอย่างเคร่งครัด ลองนึกภาพตัวเองเวลาที่ผอมไว้ในใจ นึกถึงรูปร่างหน้าตาของคุณเอง สิ่งที่คุณกิน วิธีการออกกำลังกายที่คุณทำ คุณจะป็อบปูล่าแค่ไหนถ้าหุ่นดี นึกถึงตัวเองในลักษณะนี้ทุกเช้าหลังตื่นนอน บ่อยเข้าคุณจะรู้สึกว่าตัวเองเป็นอย่างที่จินตนาการไว้ แล้วคุณจะเลือกกินของที่มีประโยชน์มากขึ้น ออกกำลังกายมากขึ้น ลดน้ำหนักได้ ในที่สุดคุณก็จะผอมลงได้อย่างที่ใจหวัง
7. อย่าตกเป็นทาสเครื่องชั่งน้ำหนัก เพราะ น้ำหนักตัวของคุณบนเครื่องชั่งในแต่ละชั่วโมงอาจขึ้นๆ ลงๆ ไม่แน่นอน ขึ้นกับสิ่งที่คุณกิน หรือว่าคุณไปขับถ่ายมาหรือยัง คุณจะรู้สึกท้อเมื่อพบว่าน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นในระหว่างวัน
พาเมลา พีค ผู้เขียนเรื่อง Fight Fat After Forty แนะนำให้ใช้เสื้อผ้าเป็นตัววัดน้ำหนักที่หายไปแทน "ใช้เสื้อผ้าเป็นตัวบอกน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นหรือลดลง ดูว่าหลวมหรือคับ นั่นคือให้เปลี่ยนจากมาตราชั่งมาเป็นมาตราวัด" ลองทำเช่นนี้สักสัปดาห์ละครั้ง สังเกตดูความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
8. ลืมวันที่เลวร้าย แม้ สัญญากับตัวเองว่าจะปฏิบัติตามแผนการกินเพื่อสุขภาพอย่างเคร่งครัด แต่ก็มีบางวันที่อาจเผลอกินไม่เลือก ที่สำคัญคุณต้องไม่ให้ความผิดพลาดนี้มา มีผลกระทบต่อแรงจูงใจในระยะยาว "ถ้ามีสักวันคุณเกิดตบะแตกไปกินอาหารจังก์ฟู้ดเข้า ก็ไม่ต้องนึกละอายใจจนต้องรีบอดอาหารในวันรุ่งขึ้น"
บาร์บาราเคอร์รี่ ผู้เขียนเรื่อง 10-minute Yoga Workouts บอกว่า อย่าเอาแต่คิดหมกมุ่นอยู่กับเรื่องที่ผ่านมาแล้ว "ฉันเองก็เคยตบะแตกเหมือนกัน แต่ก็รีบๆ ลืมมันไป" ยอมรับความจริงที่ว่าคุณคือมนุษย์ปถุชนธรรมดา ย่อมมีพลาดพลั้งได้ และให้รีบกลับมาทำตามแผนเดิมที่กำหนดไว้อีกครั้งในวันรุ่งขึ้น
ข้อมูลจาก Health Plus ที่มา ://www.vcharkarn.com/vblog/73754 ภาพจาก ://componentsofahealthylifestyle.wordpress.com/
สารบัญ บทความเรื่อง ไดเอท ที่มีในบล็อกค่ะ คลิกดู ที่นี่ค่ะ
Create Date : 05 ธันวาคม 2552 |
Last Update : 5 ธันวาคม 2552 14:08:24 น. |
|
0 comments
|
Counter : 793 Pageviews. |
|
|
|
|
|