Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2554
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
20 พฤษภาคม 2554
 
All Blogs
 
รับประทานอย่างไร ไม่ให้อ้วน



ทุกครั้งที่จะรับประทานอาหาร...เลือกรับประทานอาหารที่ทำให้คุณอิ่มเร็ว
อย่างพวกผักหรือผลไม้ที่มีไฟเบอร์สูงเสียก่อน


คำแนะนำเพื่อที่จะช่วยให้คุณยับยั้งตัวเอง ไม่ให้รับประทานมากเกินเหตุ นั่นก็คือ
เข้าสังคมกับเพื่อนฝูงที่มีกิจกรรมอื่นๆ นอกเหนือไปจากการชวนกันไปหาอาหารอร่อยๆ รับประทาน

การคบหาสมาคมกันไม่ใช่แค่พากันไปรับประทานอาหารทั้งมื้อกลางวัน มื้อน้ำชาตอนบ่าย หรือมื้อค่ำ
คุณควรจะชักชวนเพื่อนฝูง หรือร่วมกิจกรรมกับเพื่อนคนที่เขาออกกำลังกายเป็นประจำ
เช่น แทนที่จะเดินไปร้านไอศกรีมแล้วนั่งคุยกัน พร้อมกับนั่งรับประทานไอศกรีมถ้วยใหญ่ๆ
คุณก็ควรจะชวนกันไปเดินเล่นในสวนสาธารณะ ซึ่งแม้จะมีไม่มากนักในบ้านเรา
แต่ก็เชื่อว่าทุกจังหวัดคงพอจะหาได้ อย่างสวนลุมฯ กลางกรุงเทพฯ ซึ่งหมอไม่มีโอกาสไปมานานมากแล้ว
เพิ่งเมื่อ ๕-๖ เดือนหลังนี้เอง ที่ลองไปดูชีวิตคนในสวนลุมฯ ก็พบว่าไม่เลวเลยทีเดียว
ต้นไม้ใหญ่มีมากมาย แดดร่มตลอดทั้งวัน
แม้กระทั่งช่วง ๑๑ โมงเช้าก็ยังสามารถไปวิ่ง ไปเดิน ไปออกกำลังกายได้ แถมผู้คนก็น้อยกว่าตอนเช้าตรู่ด้วย
คุณอาจพาลูกๆ หลานๆ ไปวิ่งเล่นไล่กันในสวนสาธารณะ คุณแม่ก็เดินคุยกันไป
แม้จะเดินเล่นช้าๆ ไม่ได้เดินเร็วจริงจัง แต่ก็เชื่อว่าร่างกายจะสามารถเผาผลาญพลังงาน
และปากคุณก็จะไม่ว่างพอที่จะรับประทานขนมจุกจิกของมันของทอด
หรือไม่งั้นก็ชักชวนเพื่อนฝูงไปเข้าคอร์สเต้นแอโรบิค หรือเข้าคอร์สเรียนวาดรูป เรียบเย็บปักถัดร้อย
ก็น่าจะดีกว่านั่งคุยและรับประทานอาหารด้วยกัน

แต่ถ้ามีความจำเป็น ต้องไปรับประทานอาหารเย็นนอกบ้านร่วมกับเพื่อนฝูง ก็ไม่ใช่ปฏิเสธเสียหมด
เพราะคนเรายังต้องอยู่ในสังคม เพียงแต่คุณควรอ่านเมนูอาหารให้ละเอียด
และหลีกเลี่ยงอาหารที่ต้องผ่านขบวนการทอด
อาจจะเริ่มต้นด้วยผักสลัดจานโต แน่นอนว่าคงต้องขอให้น้ำสลัดเป็นน้ำใสไร้ไขมัน
ไม่ใช่สลัดจานโต แต่อุดมไปด้วยมายองเนสหรือสลัดน้ำข้นอย่างเทาว์ซันไอซ์แลนด์
ที่อาจจะให้พลังงานมากว่าสเต็กปลา ๑ จานด้วยซ้ำ
หลังจากสลัดจานใหญ่เชื่อว่ากระเพาะอาหารของคุณก็เกือบจะเต็มหมดแล้ว พอถึงอาหารจานเล็กจริงๆ
คุณอาจจะรับประทานเพียงครึ่งหนึ่ง แล้วอีกครึ่งเก็บกลับบ้านไปฝากคนอื่นก็ยังได้
ไม่จำเป็นต้องรับประทานให้หมดทีเดียว

และถ้าจะให้ดีทุกครั้งที่จะรับประทานอาหารที่บ้านหรือที่ไหนก็ตาม
คุณควรเก็บอาหารมันๆ ไว้รับประทานสุดท้าย
เลือกรับประทานอาหารที่ทำให้คุณอิ่มเร็ว อย่างพวกผักหรือผลไม้ที่มีไฟเบอร์สูงเสียก่อน

นั่นคือ ก่อนที่จะไปงานปาร์ตี้อยากแนะนำให้คุณรับประทานผลไม้ที่มีกากเยอะๆ น้ำตาลน้อย
อย่างพวกฝรั่ง มันแกว หรือแอปเปิ้ลสัก ๑ ผล ก็จะช่วยให้คุณอิ่มได้เร็ว
รวมทั้งไฟเบอร์ยังไปช่วยยับยั้งการดูดซึมไขมันและน้ำตาล
จึงเป็นการช่วยลดพลังงานส่วนเกินที่คุณอาจจะได้รับเข้าไปด้วย

ในขณะเดียวกันคุณก็ควรจะจัดอาหารในตู้เย็นรวมทั้งในห้องครัวด้วย ไม่ใช่เดินเข้าในห้องครัวปุ๊บ
ก็เจอมันฝรั่งทอดสารพัดยี่ห้ออยู่ ๕-๑๐ ถุงวางไว้ทุกซอกทุกมุมที่มือจะเอื้อมไปถึง
หรือเปิดตู้เย็นก็เจอแต่ช็อกโกแลต ขนมเค้ก ไอศกรีมที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยไขมัน
หากแต่คุณควรจะเตรียมขนม ของว่างที่ไม่อ้วน เช่น เปลี่ยนจากมันฝรั่งทอดเป็นขนมปังกรอบชนิดไขมันต่ำ
หรือเปิดตู้เย็นก็เจอแต่เบบี้แครอท ผลไม้หลากหลายชนิด
เปิดตู้น้ำแข็งก็เจอองุ่นแช่เย็น ซึ่งคุณสามารถจะหยิบมาขบเคี้ยวแทนไอศกรีมได้อย่างเอร็ดอร่อย

วัฒนธรรมการรับประทานอาหาร ก็ควรจะเรียนรู้จากพฤติกรรมของขาวฝรั่งเศส
คือรับประทานให้เป็นที่เป็นทาง นั่นคือ นั่งรับประทานกับโต๊ะในห้องรับประทานอาหารเท่านั้น
ไม่ใช่หยิบอาหาร ๒ จานไปรับประทานในห้องดูทีวี หรือหน้าจอคอมพิวเตอร์ เล่นอินเตอร์เน็ตไป
ส่ง E-mail ไป ก็รับประทานไปด้วย เพราะนั่นจะทำให้คุณเพลิน จนรับประทานมากเกินความจำเป็น
ขอให้เวลารับประทานอาหารเป็นเวลาที่คุณได้มีความสุขรื่นรมย์กับทั้ง รูป รส กลิ่น เสียง
ของอาหารอย่างเต็มที่ ซึ่งจะทำให้คุณรู้สึกอิ่มได้ เร็วกว่าการที่สายตาเพลินอยู่กับทีวีแต่ปากเคี้ยวๆๆ
คุณจะอิ่มช้าลงและรับประทานได้มากเกินความจำเป็น

คำแนะนำอีกประการหนึ่งจากคณะแพทย์ในเมืองนิวยอร์กก็คือ ขอให้รับประทานบ่อยๆ
แต่ให้รับประทานมื้อเล็กๆ
เรียกว่าทุกๆ ๓-๔ ชั่วโมงควรจะมีอาหารใส่เข้าปาก
แต่ควรจะเป็นอาหารที่ไขมันต่ำแต่มีเส้นใยสูง อย่างพวกโยเกิร์ตไร้ไขมัน นมพร่องไขมัน
ร่วมไปกับผลไม้สด เพราะการที่เขารับประทานบ่อยๆ แต่รับประทานทีละน้อยๆ
จะช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ ทำให้คุณรู้สึกอิ่มได้ตลอดทั้งวัน ไม่โหยไม่หา
ไม่อยากอาหารมันๆ ทอดๆ

ขณะที่ถ้าคุณอดอยากปากแห้ง เพราะอยากจะให้น้ำหนักลดลงเหมือนสูตรของดาราหรือนางงามทั้งหลาย
อดไปอดมาพอถึงมื้อเย็นคุณก็ไม่สามารถจะอดต่อไปได้ คราวนี้ก็ไม่เลือกหน้าอินทร์หน้าพรหมแล้ว
อะไรขวางหน้าก็รับประทานหมด และมีแนวโน้มที่จะเลือกรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง
รวมทั้งมีน้ำตาลสูง มากกว่าที่จะเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์จริงๆ
อย่างไรก็ตามไม่แนะนำให้คุณไดเอ็ทหรืองดอาหารบางประเภทไปเลย
เพราะนั่นยิ่งทำให้ร่างกายคุณโหยหามากยิ่งขึ้น อย่างเช่น คนที่ชอบรับประทานช็อกโกเลตเป็นชีวิตจิตใจ
ก็ไม่ได้ห้ามรับประทาน หรือถือว่าเป็นของต้องห้าม
เพียงแต่เราอาจจะรับประทานช็อกโกเลตหลังอาหารมื้อค่ำสัก ๑ ชิ้น เป็นการให้รางวัลแก่ชีวิต
ที่วันนี้คุณเป็นคนดีมาตลอดทั้งวัน ไม่ใช่รับประทานช็อกโกเลตกันทั้งถุงหมดในคราวเดียว

ระหว่างที่นั่งดูทีวี หรือคุณๆ ที่ชอบไอศกรีมก็เหมือนกัน
ถ้าหากคุณชอบไอศกรีมที่หวานๆ มันๆ ให้พลังงานสูง ก็ขอแค่ถ้วยเล็กๆ เก็บไว้ติดบ้าน
หลังมื้อเย็นคุณก็อาจจะตักรับประทานเพียงแค่ ๑ ช้อนชาเท่านั้น อมให้นานที่สุด
ให้อาหารอยู่ในปากให้นานที่สุด เคี้ยวอาหารให้ช้าที่สุด เพื่อให้คุณได้รับรสชาติของอาหารอย่างเต็มที่


คำแนะนำที่สำคัญอีกประการหนึ่งนั่นก็คือ
อย่าหลงกลจากผู้ขายที่ว่าซื้อกล่องใหญ่จะได้ราคาถูกกว่ากล่องเล็ก
เพราะถ้าคุณซื้อมันฝรั่งถุงใหญ่ คุณก็มีแนวโน้มที่จะรับประทานหมดเลยในครั้งเดียว
เพราะเหตุรู้ดีอยู่แก่ใจว่า การเก็บเอาไว้ในมื้อต่อไปนั้นทำได้ยากยิ่ง
มันฝรั่งทอดจะสูญเสียรสชาติ ไม่เอร็ดอร่อยเท่าเดิม
ดังนั้นคุณอาจจะยอมเสียเงินเพื่อที่จะซื้ออาหารซองเล็กๆ ที่เหมาะสำหรับมื้อเดียวครั้งเดียวเท่านั้น
จะได้ไม่ต้องเหลือเก็บไว้ แม้ว่าจะต้องจ่ายแพงขึ้นมาอีกสักนิดหนึ่ง
แต่ก็ยังดีกว่าให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น แล้วต้องมานั่งเสียใจทีหลัง

ผู้เชี่ยวชาญยังแนะนำให้คุณฝึกควบคุมตนเองดังนี้
ถ้าหากอยากจะรับประทานอาหารอะไรก็ตาม ให้คุณหยุดความอยากสัก ๑๐ นาที
คุณอาจเดินไปเดินมาในบ้าน นั่งอ่านหนังสือพิมพ์ หยิบหนังสือนิยายเล่มโปรดขึ้นมาอ่าน
หรือจะนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ส่ง E-mail ทำอะไรก็ได้ ๑๐ นาทีหลังจากนั้น
ส่วนใหญ่แล้ว ความอยากความโหยอาหารที่ว่านั้น มักจะหายไปเอง
ยกเว้นว่าคุณขาดอาหารมานานเกิน ๔ ชั่วโมง นั่นคงเป็นความหิวจริงๆ ที่ร่างกายคุณต้องการอาหาร
แต่ในเรื่องของความอยากสามารถหายไปได้
ถ้าหากคุณสามารถเบี่ยงเบนความสนใจไปทำกิจกรรมอย่างอื่นแทน จิตใจคุณก็จะไม่หมกมุ่นอยู่กับอาหาร
ทำให้คุณลดการรับประทานขนมขบเคี้ยวที่ไม่จำเป็นได้เป็นอย่างดี

คำแนะนำอีกประการหนึ่งนั่นก็คือ คนหลายๆ คนเวลาได้ดูทีวีเหมือนกับเราได้ผ่อนคลาย
แต่เราก็อยากจะทำกิจกรรมอื่นๆ ไปด้วย ซึ่งหลายๆ คนกิจกรรมที่ทำพร้อมไปกับการดูทีวี
มักจะเลือกขบเคี้ยวอาหารที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยไขมันส่วนเกิน
คำแนะนำคืออย่าให้มือคุณว่างอย่างเช่น อาจจะดูทีวีไปด้วยต่อจิ๊กซอร์ขนาด ๕๐๐ แผ่นไปด้วย
หรืออาจจะถัก ไหมพรม ทาเล็บ ปักครอสติช ซึ่งมือจะได้ไม่ว่างพอที่จะหยิบอาหารเข้าปาก


เวลาที่ต้องไปรับประทานอาหารจำพวกบุฟเฟต์ คุณควรจะอยู่ให้ห่างโต๊ะอาหารให้มากที่สุด
ควรจะสนุกสนานสร้างความสุขจากการสังคมกับเพื่อนฝูง พูดคุยกับเพื่อนฝูง
มากกว่าที่จะสนใจกับอาหารตรงหน้า ถ้าจะให้ดีก็ควรจะมีเครื่องดื่มประเภทที่ไม่มีพลังงานหรือมีพลังงานต่ำ
อย่างพวกน้ำเปล่าหรือไดเอ็ทโค้ก แล้วดื่มน้ำให้มากๆ ตลอดเวลา กันคอแห้งจากการพูดคุย
คุณก็จะรู้สึกอิ่มท้องได้ โดยที่ไม่ต้องรับประทานอาหารมากเกินความจำเป็น

หรือถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบรับประทานเพื่อที่จะผ่อนคลายความเครียด
เห็นทีจะต้องหากิจกรรมอื่นๆ ทำแทน
อย่างเช่น อาบน้ำอุ่น ถ้ามีอ่างอาบน้ำก็แช่น้ำอุ่นเปิดเพลงเบาๆ
อ่านหนังสือสนุกๆ คุณก็จะเพลิดเพลินจนลืมรับประทานอาหารไปได้เลย ไม่อย่างงั้นก็ไปนั่งทำสมาธิ
หรือไปออกกำลังกาย หรือโทรศัพท์ถามข่าวคราวเพื่อนฝูง ปากจะได้ไม่ว่างพอที่จะรับประทาน

คำแนะนำข้อสุดท้าย สำหรับคนที่มีแนวโน้มที่จะรับประทานเกินความต้องการของร่างกาย
ซึ่งเป็นคำแนะนำที่ดีที่สุด แต่ทำได้ยากที่สุด นั่นก็คือ ควรหาเวลาออกกำลังกาย จากการวิจัยพบว่า
คนที่ออกกำลังกายเป็นประจำจะมีแนวโน้มที่จะรับประทานอาหารเกินอิ่ม หรือ Overeating น้อยกว่า
ทั้งนี้เพราะการออกกำลังกาย จะทำให้สภาวะจิตใจและอารมณ์ของคุณสดชื่นอยู่ตลอดเวลา
โดยไม่จำเป็นที่จะต้องพึ่งพาการรับประทานอาหาร
รวมทั้งคนที่ตั้งอกตั้งใจออกกำลังกาย เพื่อรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงนั้น
จะมีแนวโน้มที่จะสนใจดูแลรักษาสุขภาพในแง่อื่นๆ ด้วย ทำให้คนที่ออกกำลังกายเป็นประจำ
มักจะเป็นคนที่พินิจพิเคราะห์ พิจารณาอาหารก่อนที่จะรับประทานเข้าไป
เรียกว่า ในเมื่อเสียเหงื่อ เหนื่อยกับการออกกำลังกายแล้ว
ก็ควรจะเลือกว่าอาหารชนิดไหนที่ไม่ควรรับประทานเข้าไป
เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเหนื่อยเพิ่มขึ้นกับการรีดไขมันออกมา


หวังว่าคุณผู้อ่านคงได้เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยในการควบคุมตนเอง ไม่ให้เกิดภาวะ Overeating
หรือรับประทานมากเกินความจำเป็นนะคะ


ที่มา : //www.sakulthai.com
ภาพจาก : //www.fotosearch.com


สารบัญ ลดอ้วน ลดน้ำหนัก


Create Date : 20 พฤษภาคม 2554
Last Update : 20 พฤษภาคม 2554 13:17:49 น. 0 comments
Counter : 858 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.