Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
14 กรกฏาคม 2553
 
All Blogs
 
หลากวิธีกำจัดจุดอ้วน



สำหรับคนที่กำลังอยู่ระหว่างการลดน้ำหนัก
ไม่ว่าคุณจะกำลังพอใจกับน้ำหนักที่ลดลงอย่างสม่ำเสมอ หรือกำลังท้อใจเพราะลดน้ำหนักเท่าไรก็ไม่ลงเสียที
เรามีประสบการณ์ของพี่เลี้ยง 6 ท่านผู้จะมาบอกสูตร (ไม่) ลับลดน้ำหนักด้วยวิธีธรรมชาติ
และเทคนิคการสร้างกำลังใจที่ทำให้ลดน้ำหนักได้ผลสมดังที่ตั้งใจค่ะ


อดขนม อดข้าว
คุณณัฐพร อุ่นหิรัญสกุล อายุ 28 ปี นักแปลด้านกฎหมาย
ก่อนลดน้ำหนัก: น้ำหนัก 107 กิโลกรัม
หลังลดน้ำหนัก: น้ำหนัก 92 กิโลกรัม
ระยะเวลาในการลดน้ำหนัก: 6 เดือน
แรงบันดาลใจ: “คิดว่าเมื่ออายุมากขึ้นแล้วจะมีปัญหาสุขภาพตามมา”

วิธีการ :

* งดขนมและของหวาน
“ถ้าอยากกินของหวานก็จะกิน ผลไม้รสหวานน้อย เช่น องุ่น หรือแตงโมแทน
และจะกินปริมาณน้อย อดขนมได้ 1 สัปดาห์ น้ำหนักลดลงไป 6 กิโลกรัม”

* หักดิบข้าวเย็น
การหักดิบข้าวเย็น ไม่ได้ยากเหมือนช่วงก่อนลดน้ำหนักที่เวลาหิวจะหิวจนตัวสั่น
เพราะหลังจากที่งดอาหารจำพวกขนมในช่วงสัปดาห์แรกแล้ว ทำให้ระดับน้ำตาลไม่ขึ้นลงอย่างรวดเร็ว
จึงควบคุมความหิวได้ดีขึ้น

* ออกกำลังกายเผาผลาญไขมัน
เลือกการว่ายน้ำเพราะน้ำหนักตัวมาก วันแรกว่ายน้ำได้เพียง 10 นาที ก็เหนื่อย
ต่อมาเมื่อร่างกายเริ่มปรับตัวก็ว่ายต่อเนื่องได้วันละ 1 ชั่วโมง




ปรับกระบวนอาหาร

คุณวรรณวิทยา เอี่ยมอ่อง อายุ 50 ปี แม่บ้าน
ก่อนลดน้ำหนัก: น้ำหนัก 55 กิโลกรัม
หลังลดน้ำหนัก: น้ำหนัก 49 กิโลกรัม
ระยะเวลาในการลดน้ำหนัก: 2 เดือน

แรงบันดาลใจ: “มีไขมันพอกพูนช่วงตัว หลัง และแขน ถ่ายรูปออกมาแล้วดูตัวกลม
ไปตรวจสุขภาพประจำปีก็พบว่าระดับน้ำตาลสูง และคิดว่าถ้ายังเป็นแบบนี้จะมีปัญหาสุขภาพแน่ๆ
จนมาเรียนทำอาหารกับป้ายุง (คุณผกา เส็งพานิช) เห็นแกสวย สดใส รูปร่างดี และดูอ่อนกว่าวัย
จึงอยากเป็นอย่างป้ายุงบ้าง”


วิธีการ :
* บอกลาแป้งและน้ำตาล
ช่วงลดน้ำหนักจะไม่กินอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาล ทั้งข้าว อาหารเส้น และขนมทุกชนิดที่แต่เดิมชอบกินมาก
ผลไม้ที่เคยกินได้ครั้งละเป็นกิโลก็เลิกกิน แต่เลือกกินโปรตีนแทน โดยเน้นปลา
ดื่มนมถั่วเหลืองแบบไม่มีน้ำตาลเลย กินผักเยอะมาก แต่จะไม่กินผักที่เป็นหัวเพราะจะมีแป้งอยู่
และกินวิตามินซีเสริม อาหารทุกอย่างจะเน้นอาหารธรรมชาติแท้ๆ และไม่ปรุงแต่งรสชาติ




แอโรบิกฟิตหุ่น

คุณวรากร หมวดสิงห์ อายุ 27 ปี นักวิชาการโสตทัศนศึกษา
ก่อนลดน้ำหนัก: น้ำหนัก 103 กิโลกรัม
หลังลดน้ำหนัก: น้ำหนัก 78 กิโลกรัม
ระยะเวลาในการลดน้ำหนัก: 9 เดือน

แรงบันดาลใจ: “ตอนซ้อมรับปริญญา เกิดรับผิดจังหวะ เพราะก้าวเดินช้า
ทำให้อาจารย์เรียก “ไอ้อ้วน” ดังลั่นหอประชุม รู้สึกอายมาก
อีกเรื่องคือตอนไปซื้อเสื้อผ้า บ่อยครั้งที่แค่จับดูยังไม่ได้ถามอะไร คนขายก็จะพูดว่าไซส์น้องไม่มีนะ
เราก็เลยตั้งใจว่าวันหนึ่งจะใส่เสื้อไซส์เอ็มให้ได้”


วิธีการ :

* เริ่มต้นด้วยการควบคุมอาหาร
เริ่มควบคุมอาหารโดยลดอาหารประเภทแป้งและน้ำตาล กินข้าวมื้อละ 1 ทัพพี และลดปริมาณกับข้าวลง
เลือกกินผัก มื้อเย็นกินผลไม้แทน ภายใน 2 เดือนครึ่ง น้ำหนักลดลงจนเหลือ 90 กิโลกรัม
แล้วค่อยเริ่มออกกำลังกาย

* แอโรบิกฟิตหุ่น
เริ่มเต้นแอโรบิก โดยไม่หักโหมด้วยการวอร์มอัพ ซึ่งเป็นการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ
แล้วเต้นต่อในท่าเต้นที่ยังไม่ต้องออกแรงมาก




ปรับเวลากินสลายไขมัน

คุณณัฐนันท์ รู้จำ อายุ 29 ปี เจ้าหน้าที่ฝ่ายวิจัยตลาด
ก่อนลดน้ำหนัก: น้ำหนัก 53 กิโลกรัม
หลังลดน้ำหนัก: น้ำหนัก 47 กิโลกรัม
ระยะเวลาในการลดน้ำหนัก: 1 ปีครึ่ง

แรงบันดาลใจ: “เมื่อก่อนเห็นเพื่อนๆ ที่ผอมสามารถใส่เสื้อผ้าตัวเล็กๆ แล้วสวย
ขณะที่เราอ้วนใส่แล้วคับ พุงเป็นห่วงยางและดูไม่สวย
ส่วนตัวเป็นคนชอบแต่งตัวอยู่แล้ว จึงตั้งใจลดน้ำหนักอย่างจริงจัง เพื่อจะใส่เสื้อผ้าสวยๆ แบบที่เราชอบได้ค่ะ”


วิธีการ :

* ปรับเวลาการกิน
กินอาหารครบทั้ง 3 มื้อ แต่เลื่อนเวลากินข้าวมื้อเย็นให้เร็วขึ้นจากเดิม 3-4 ทุ่ม เป็นเวลาก่อน 6 โมงเย็น
และหลังจากนั้นเป็นต้นไปจะไม่กินอาหารอะไรอีก ทำเช่นนี้อย่างสม่ำเสมอ
นอกจากช่วยให้น้ำหนักลดลงแล้วยังรักษารูปร่างให้คงที่ได้

* รับมือกับอาการหิวกลางดึก
ช่วงแรกของการลดน้ำหนักด้วยวิธีนี้ อาจทำให้รู้สึกท้องโหวงหรือหิวกลางดึกได้
จะใช้วิธีกินโยเกิร์ตหรือดื่มนมเปรี้ยวสักขวดเล็กๆ แทน
แต่หลังจากปรับตัวได้ประมาณ 3-4 เดือน จะไม่หิวมื้อดึกอีก

* เพิ่มมื้ออาหารเพื่อสุขภาพ
นอกจากนี้ยังเพิ่มเติมเมนูสุขภาพในทุกมื้ออาหาร อย่างส้มตำ สลัดผลไม้
และน้ำพริกกินกับผักลวกจิ้มชนิดต่างๆ เช่น ข้าวโพดอ่อนหรือดอกแคลวก
และหลังมื้อเที่ยงก็เปลี่ยนจากการกินขนมกรุบกรอบมาเป็นกินผลไม้ เช่น สับปะรดหรือมะม่วงแทน




หักดิบเพื่อหุ่นสวย

คุณรัตนา แสงสุวรรณ อายุ 43 ปี ผู้จัดการฝ่ายสำนักงาน
ก่อนลดน้ำหนัก: น้ำหนัก 52 กิโลกรัม
หลังลดน้ำหนัก: น้ำหนัก 42.7 กิโลกรัม
ระยะเวลาในการลดน้ำหนัก: 3 สัปดาห์

แรงบันดาลใจ: “เวลาขับรถแล้วรู้สึกว่าพุงติดพวงมาลัย ใส่ชุดเดิม กางเกงยีนส์และเสื้อทุกแบบไม่ได้
เพราะใส่แล้วอึดอัด หายใจไม่สะดวก เวลานั่งต้องนั่งตัวตรงอยู่ตลอดเวลา
พอเดินไปไหนเริ่มไม่มั่นใจ จึงคิดว่าลดน้ำหนักดีกว่า”


วิธีการ :

* หักดิบหนึ่งในสามมื้อ
ช่วงหักดิบจะเลือกอดมื้อใดมื้อหนึ่งในวันธรรมดา โดยจะเลือกอดระหว่างอาหารมื้อเที่ยงหรือมื้อเย็น
แต่ในวันเสาร์และอาทิตย์จะกินตามปกติพร้อมกับสามีทั้งสามมื้อ เพื่อไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ภายในครอบครัว
แต่จะปรับลดปริมาณอาหารให้น้อยลง

* ลดปริมาณเพื่อปรับสมดุลน้ำหนัก
เมื่อใช้วิธีหักดิบประมาณ 3 สัปดาห์ น้ำหนักจะลดลงฮวบฮาบจากเดิม 52 กิโลกรัมเป็น 42.7 กิโลกรัม
หลังจากนั้นจะปรับสมดุลน้ำหนักให้เหมาะสมด้วยการปรับขนาดมื้ออาหาร
โดยกินให้ครบทั้งสามมื้อ เพื่อไม่ทำลายสุขภาพและรักษาน้ำหนักให้คงที่ตามต้องการ
เช่น ต้องการน้ำหนัก 45 กิโลกรัม

* อยากหุ่นเพรียวต้องเคี้ยวช้าๆ
เริ่มฝึกการกินช้าๆ หรืออย่างที่ชีวจิตแนะนำให้เคี้ยวอาหารคำละ 50 ครั้ง จะช่วยให้ความอยากอาหารลดน้อยลง
เพราะตามปกติเมื่ออาหารตกสู่กระเพาะแล้ว จะมีสัญญาณจากกระเพาะส่งไปยังสมอง เพื่อให้รับรู้ว่าอิ่ม
ซึ่งใช้เวลานาน 20 นาที ทีนี้ต่อให้อาหารอร่อยแค่ไหนก็ตาม เราจะรู้สึกอิ่มแล้ว

* เลิกพฤติกรรมทำลายสุขภาพ
ช่วงที่หักดิบจะเลิกกินจุบจิบ ไม่ว่าจะเป็นน้ำอัดลม น้ำหวาน กาแฟ ขนมกรุบกรอบ และของหวานทั้งหลาย
รวมถึงอาหารมื้อดึก

* ขอความร่วมมือจากคนรอบข้าง
อย่าลืมบอกคนใกล้ตัวทุกๆ คน ทั้งคนในครอบครัว
อย่างสามี ตลอดจนเพื่อนๆ ที่ทำงานซึ่งกินข้าวด้วยกันเป็นประจำว่าช่วงนี้เรากำลังลดน้ำหนัก
เพื่อให้ทุกคนเข้าใจตรงกันว่าต่อไปนี้เราจะอดหรือปรับลดปริมาณอาหาร
ที่สำคัญพวกเขาจะได้ให้ความร่วมมือ เช่น สามีต้องเลิกซื้อข้าวหรือบะหมี่มาให้กินตอนกลางคืน

* ออกกำลังกายเฉพาะส่วน
ต้องการให้ขาดูเรียว เล็กจะทำท่าบริหารต้นขา เริ่มจากยืนตรง ยกขาข้างใดข้างหนึ่งขึ้นตั้งฉาก 90 องศากับพื้นดิน
แล้วยกค้างไว้ประมาณ 10-15 นาที พยายามฝืนจนกระทั่งเมื่อยเล็กน้อย ก่อนสลับขาทำอีกข้างหนึ่ง
สามารถทำท่านี้พร้อมกับทำกิจวัตรประจำวันต่างๆ เช่น อาบน้ำ สระผม ยืนซักผ้า




สวยสั่งได้ด้วยโยคะ

คุณชมพูนุช คงมงคล อายุ 30 ปี นักเขียน
ก่อนลดน้ำหนัก: น้ำหนัก 63 กิโลกรัม
หลังลดน้ำหนัก: น้ำหนัก 50 กิโลกรัม
ระยะเวลาในการลดน้ำหนัก: 10 ปี น้ำหนักลดลง 13 กิโลกรัม

แรงบันดาลใจ: “สมัยเรียนมหาวิทยาลัยเคยแอบชอบรุ่นพี่คนหนึ่ง แต่เขาบอกไม่ชอบเรา เพราะอ้วนเกินไป
ทำให้เราเสียใจมาก รู้สึกไม่มีความมั่นใจ และกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เราอยากลดน้ำหนัก”


วิธีการ :

* ฝึกโยคะไล่ความอ้วน
เริ่มต้นฝึกโยคะท่าพื้น ฐานง่ายๆ ฝึกวันละ 3 ท่า ท่าละ 10 ครั้ง เช้าและเย็น
ทุกครั้งที่ฝึกท่าหนึ่งเสร็จจะพักด้วยท่าศพอาสนะประมาณ 1 นาที จึงเริ่มต้นฝึกต่อในท่าถัดไป

* สั่งสมองลดอ้วน
เมื่อก่อนเราเคยชอบกินอาหาร หวานๆ มันๆ แต่หลังจากฝึกโยคะแล้วจะปรับพฤติกรรมตัวเองเสียใหม่
ด้วยการสั่งสมองทุกครั้งก่อนกินว่า ฉันไม่ชอบกินของหวาน ไม่กินทุเรียน ไม่กินกะทิ และไม่กินของทอด
จนกระทั่งทุกวันนี้ก็สามารถเลิกกินอาหารดังกล่าวได้อย่างเด็ดขาด


ข้อมูลโดย : นิตยสารชีวจิตฉบับที่ 273
ที่มา : //www.cheewajit.com


สารบัญลดอ้วน ลดน้ำหนัก




Create Date : 14 กรกฎาคม 2553
Last Update : 14 กรกฎาคม 2553 12:53:19 น. 1 comments
Counter : 1032 Pageviews.

 
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดี ๆ ค่ะ
น่าสนใจทุกสูตรเลย ^^


โดย: หญิงกัล (kookkaijung ) วันที่: 14 กรกฎาคม 2553 เวลา:16:56:02 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.