ลดให้ดีไม่มีโยโย่เอฟเฟ็ค
เคยไหมที่อุตส่าห์พยายามลดน้ำหนักลงได้แล้ว แต่พอเวลาผ่านไปไม่นานน้ำหนักที่ลดลง กลับย้อนขึ้นมาใหม่แถมยังมากกว่าก่อนทำการลดเสียอีก การไดเอ็ตด้วยวิธีการผิดๆ นอกจากไม่ช่วยให้ผอมลงแล้วกลับจะทำให้รูปร่างเปลี่ยนไปอยู่ในรูปแบบที่อ้วนได้ง่ายขึ้น ต้องไดเอ็ตอย่างไรไม่ให้เกิดโยโย่เอฟเฟ็ค ลองทำตามคำแนะนำต่อไปนี้ดูนะค่ะ
การไดเอ็ตแบบงดอาหาร อาจทำให้รูปร่างอ้วนได้ การลดน้ำหนักหมายถึง การทำให้ พลังงานรับที่ได้จากการทานอาหารต่ำกว่าพลังงานใช้เพื่อการดำรงชีวิตประจำวัน หรือการออกกำลังกายต่างๆ แต่หากลดพลังงานรับโดยวิธีจำกัดอาหารไปนานๆเข้า ร่างกายก็จะปรับตัวด้วยการใช้พลังงานให้น้อยลงตามไปด้วย เมื่อร่างกายเริ่มชินกับการ ใช้พลังงานที่น้อยลงแล้ว แม้การทานอาหารปริมาณเท่าเดิมก็ไม่สามารถเผาผลาญได้ หมือนเดิม และหากมีพลังงานเหลือร่างกายก็จะรีบเปลี่ยนให้อยู่ในรูปของไขมันเก็บไว้ ใช้ในยามที่พลังงานรับของร่างกายไม่เพียงพอ ด้วยเหตุนี้การไดเอ็ตโดยวิธีการงดอาหาร เพียงอย่างเดียวนานๆ จึงเป็นสาเหตุให้ร่างกายสะสมไขมัน เปลี่ยนลักษณะทางกายภาพให้กลายเป็นรูปร่างที่อ้วนได้ง่ายขึ้น
วิธีเพิ่มปริมาณการเผาผลาญพลังงานแบบง่ายๆ แทนที่จะลดพลังงานรับลองเปลี่ยนไป เพิ่มพลังงานใช้ โดยการเพิ่มอัตราเผาผลาญพลังงานในร่างกายให้มากขึ้น เช่น เพิ่มการเคลื่อนไหวร่างกายแต่ไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายหักโหม หลักสำคัญอยู่ที่การ เสริมสร้างกล้ามเนื้ออย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการเพิ่มอัตราเมตาบอลิซึ่มพื้นฐานมากกว่า
เมตาบอลิซึ่มพื้นฐานหมายถึง พลังงานขั้นพื้นฐานที่ร่างกายจำเป็นต้องใช้ในการดำรงชีวิต เช่น การหายใจ การรักษาอุณหภูมิในร่างกาย การเต้นของหัวใจ โดยพลังงานขั้นพื้นฐานนี้ถือเป็น 60 - 70 % ของพลังงานทั้งหมดที่ใช้ ซึ่งเป็นปริมาณ ที่สูงกว่าพลังงานที่ใช้เพื่อการออกกำลังกายหรือเคลือนไหวร่างกายอยู่มาก แต่เมตาบอลิซึ่มพื้นฐานนี้จะสูงสุดในช่วงอายุ 20 ปี จากนั้นจะค่อยๆ ลดลงสวนทางกับ อายุที่เพิ่มขึ้น สาเหตุที่คนสูงอายุอ้วนได้ง่ายกว่าคนหนุ่มสาวก็ด้วยเหตุนี้นั่นเอง
มาเสริมสร้างกล้ามเนื้ออย่างมีประสิทธิภาพกันดีกว่า เมตาบอลิซึ่มพื้นฐานเกิดบริเวณ กล้ามเนื้อมากที่สุด หากร่างกายมีปริมาณกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้นแม้ไม่ได้เคลื่อนไหว พลังงานก็ยังถูกเผาผลาญได้มากขึ้น โดยออกกำลังกายแบบ Anarobic Exercise กระตุ้นให้เกิดแรงกระทำ ณ บริเวณนั้นๆ ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีการออกกำลังกายแบบหนักหน่วงเหมือนพวกนักกีฬา แค่เพียงออกกำลังกายให้มีแรงกระตุ้นเบาๆ ที่กล้ามเนื้อก็เพียงพอแล้ว อย่างเช่น การยกดัมเบลสามารถเพิ่มกล้ามเนื้อหน้าท้อง กล้ามเนื้อแขนได้
การทำท่า Squats ย่อตัวลงช้าๆ จากท่ายืนนลงมาอยู่ในท่าเกือบนั่งแล้ว ยืนกลับขึ้นใหม่ ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของสะโพก กล้ามเนื้อต้นขา กล้ามเนื้อก้น เหมาะแก่การเพิ่มเมตาบอลิซึ่มพิ้นฐานได้เป็นอย่างดี
เราสามารถเสริมการเผาผลาญพลังงานเข้ากับการใช้ชีวิตประจำวันได้ง่ายๆ อย่างเช่น ลงจากรถโดยสารก่อนถึงสถานที่จริงประมาณหนึ่งป้ายเพื่อเดินต่อ หรือใช้บันไดแทนการใช้ลิฟท์
นอกจากนี้การออกกำลังกายโดยคำนึงถึงกล้ามเนื้อที่ต้องการใช้ก็สามารถเพิ่ม ประสิทธิภาพการเผาผลาญได้ งานบ้านที่ต้องทำเป็นประจำทุกวัน หากมีการเน้น ในแต่ละจุึดก็จัดว่าเป็นการออกกำลังกายที่ช่วยกระตุ้นกล้ามเนื้อได้อย่างดีทีเดียว
แม้ว่าปริมาณกล้ามเนื้อจะลดน้อยลงไปเมื่ออายุมากขึ้นแต่การฝีกฝนร่างกายอย่างพอดี เป็นประจำก็สามารถเพิ่มกล้ามเนื้อโดยไม่เกี่ยวเนื่่องกับอายุได้เหมือนกัน
นอกจากนี้ร่างกายของผู้หญิงซึ่งจัดว่ามีกล้ามเนื้ออยู่ไม่มากนัก หากเพิ่มการออกกำลัง กายเสริมเข้าไปเพียงเล็กน้อย กลับจะเสริมสร้างกล้ามเนื้อได้ง่ายกว่าผู้ชายด้วยซ้ำไป
การทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ช่วยกระตุ้นเมตาบอลิซึ่มพิ้นฐานของร่างกายและ ออกกำลังกายไปพร้อมๆกัน จะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การออกกำลังกายจะเห็นผลได้จากการทำต่อเนื่่องทุกๆวัน เราจึงควรทำอย่างสนุกสนาน เพื่อให้ได้มาซึ่งรูปร่างอันฟิตกระชับและไม่เกิดปฏิกิริยาโยโย่เอฟเฟ็คตามมาดีกว่านะคะ
เน้นการบริหารกล้ามเนื้อในจุดสำคัญ การทำงานบ้านก็กลายเป็นการออกกำลังกายได้ ตากผ้าบนราวที่แขวนไว้สูงกว่าปกติ โดยต้องยกมือให้สูงกว่าหัวไหล่ขณะตาก และหากเขย่งเท้าไปด้วยก็จะช่วยกระตุ้นกล้ามเนื้อลำตัวช่วงล่าง และกล้ามเนื้อหัวไหล่ไปพร้อมๆ กันได้
☆ ตากผ้าโดยวางตะกร้าไว้ที่พิ้นย่อตัวลงหยิบผ้าทีละชิ้น
☆ ขณะพับผ้าให้แยกไว้เป็นกองๆ ซ้าย - ขวา หน้า - หลังรอบตัว เอี้ยวตัวช้าๆเพื่อวางผ้าแต่ละกอง เป็นการกระตุ้นกล้ามเนื้อลำตัวด้านข้าง
☆ ขณะยืนล้างจานให้เขย่งส้นเท้าขึ้น - ลง ช้าๆ เพื่อเป็นการกระตุ้นกล้ามเนื้อน่อง
☆ ขณะดูดฝุ่นทำความสะอาดพิ้น ยกขาข้างที่ก้าวไปข้างหน้าขึ้น - ลงตามจังหวะเพลงที่เปิดคลอกันไป เป็นการกระตุ้นกล้ามเนื้อต้นขาและกล้ามเนื้อก้น
☆ เดินเร็วๆไปจ่ายตลาด ยืดหลังตรงผ่อนแรงที่หัวไหล่ แกว่งมือตั้งฉากไปมาหน้า-หลัง ก้าวเท้าให้กว้างกว่าปกติ จะช่วยกระตุ้นกล้ามเนื้อต้นขา สะโพก น่อง ลำตัวช่วงล่างได้ทั้งหมด
ข้อมูลจาก : เว็บ dhc.co.th
Create Date : 17 มกราคม 2552 |
Last Update : 17 มกราคม 2552 16:56:28 น. |
|
1 comments
|
Counter : 742 Pageviews. |
|
|
|
โดย: นางมารสีขาว IP: 118.173.227.140 วันที่: 18 มกราคม 2552 เวลา:15:52:36 น. |
|
|
|
|
|