Group Blog
 
 
ตุลาคม 2551
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
27 ตุลาคม 2551
 
All Blogs
 
10 ประการเพื่อเร่งการเผาผลาญอาหาร

ไดเอท ลดน้ำหนัก

1. พยายามสร้างมวลกล้ามเนื้อ
ดังเช่นที่กล่าวไว้แล้วเมื่อตอนต้นว่าระบบการเผาผลาญจะทำงานช้าลง เมื่อเราอายุมากขึ้น
ประมาณว่ามันจะทำงานช้าลงปีละ 2 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็มีบางสิ่งที่คุณทำได้เพื่อต่อสู้กับธรรมชาติ

ชารี ลีเบอร์แมน ผู้เขียนหนังสือชื่อ Dare to Lose ให้ความเห็นว่า
กล้ามเนื้อนี่แหละคือตัวบ่งชี้ที่ดีที่สุด ถึงระบบเผาผลาญพลังงานจากอาหารที่คุณกินเข้าไป
ชี้ให้เห็นด้วยว่าคุณเผาแคลอรี่และเผาไขมันไปได้มากน้อยแค่ไหน”
เธอยังแนะนำด้วยว่า ถ้าคุณต้องการจะเร่งกระบวนการเผาผลาญให้ทำงานดีขึ้น
อย่างน้อยก็ควรจะยกดัมบ์เบลหรือดึงแถบยางต้านแรง อย่างน้อยสัปดาห์ละสองครั้ง
เพียงเท่านี้มันก็ช่วยได้มากเลยในการเร่งกระบวนการเผาผลาญ

และข่าวดีก็คือระบบเผาผลาญของคุณที่ดีขึ้นนี้ จะยังคงทำงานหนักไปได้อีกหลายชั่วโมงทีเดียว
ภายหลังจากออกกำลังมาแล้ว


2. เคลื่อนไหวอยู่เสมอ
ถ้าบอกว่าต้องเคลื่อนไหวอยู่เสมอ ใคร ๆ ก็รู้
แต่ก็ต้องย้ำกันไว้สักหน่อยล่ะว่าคุณควรจะเคลื่อนไหวแบบไม่ธรรมดา
ด้วยการหาเวลาให้ได้สัก 30 นาทีหรือ 1 ชั่วโมง เพื่อมาเดินเร็ว ๆ, วิ่งจ็อกกิ้ง, ปั่นจักรยาน, ว่ายน้ำ
หรือออกกำลังกายแบบแอโรบิกบางอย่างให้ได้ความถี่อาทิตย์ละ 3 ถึง 4 ครั้ง

เรื่องนี้ลีเบอร์แมนคนเดิมบอกว่า “ใคร ๆ ต่างก็ไม่ชอบทำแบบนี้ทั้งนั้นแหละแต่มันก็จำเป็นต้องทำค่ะ”


3. กินเป็นปกติ อย่าได้อดอาหารเป็นอันขาด
ลดน้ำหนักได้แต่อย่าอดอาหาร
ฟังดูอาจจะเพี้ยนๆ หน่อยสำหรับใครก็ตามที่พยายามลดน้ำหนักด้วยการกินให้น้อย ๆ เข้าไว้
แต่ความคิดแบบเก่า ๆ นี้กลับเป็นปัญหาตรงที่ว่า มันกลับไปทำให้กระบวนการเผาผลาญทำงานได้ช้าลง

ตามคำอธิบายของจูลี เบเยอร์ นักโภชนาการจากมหาวิทยาลัยมิชิแกนซึ่งกล่าวว่า
“ทุก ๆ เซลในร่างกายเราก็ไม่ต่างอะไรจากหลอดไฟ
เมื่อเรากินอาหารไม่เพียงพอหรือเปรียบกับได้รับเชื้อเพลิงน้อย เซลหรือไส้หลอดก็จะไม่เผาไหม้สว่างไสว
ผลการวิจัยของนักวิทยาศาสตร์เมื่อไม่นานมานี้แสดงให้เห็นว่า
การรับประทานอาหารมื้อเล็ก ๆ ห่างกันสามถึงสี่ชั่วโมงต่อมื้อก็จะช่วยให้ระบบเผาผลาญทำงานได้ดี
และช่วยให้น้ำหนักลดลงได้ด้วย



4. ละเว้นน้ำตาล
แน่ล่ะ แม้จะไม่มีน้ำตาลคุณก็ยังเลือกกินอาหารอร่อย ๆ ได้ “เพราะเมื่อใดที่คุณกินน้ำตาลเข้าไป
นั่นคือระบบการเผาผลาญ จะถูกเปลี่ยนไปเป็นระบบเก็บกักไขมันอย่างรวดเร็ว

ตามที่ลีเบอร์แมนพูด ในเมื่อเธอเป็นตัวตั้งตัวตีในเรื่องการบริโภคอาหารน้ำตาลต่ำ
ด้วยหลักความคิดว่าอาหารที่เรารับประทานเข้าไป ตามปกตินี้แม้ไม่มีน้ำตาล มันก็แตกตัวออก
เพื่อช่วยรักษาระดับนำตาลในเลือดอยู่แล้ว


5. ไม่อดอาหารเช้า
เป็นความจริงที่ไม่ค่อยจะมีใครคำนึงถึงเท่าไหร่เลยว่า คนที่กินอาหารเช้าที่ถูกสุขลักษณะเป็นประจำ
มักจะสะโอดสะองกว่าพวกที่ไม่กิน
ลองคิดแบบนอกกะลา (คิดนอกกรอบ) กันดูหน่อยเป็นไร
ถ้าหากคุณจะกินอาหารเช้าที่เป็นสลัดผักหรือว่าข้าวซ้อมมือ
อาหารแบบนี้แหละที่จะช่วยเร่งกระบวนการเผาผลาญได้ดีนัก
ทั้งยังมีเส้นใยอาหารมากกว่าอาหารประเภทอื่นด้วย


6. กินเผ็ดเข้าไว้
คงไม่ต้องถึงกับควันออกหู แต่ถ้าคุณชอบอาหารไทยอยู่แล้วก็ย่อมถือว่าเดินมาถูกทาง
แม้แต่ลีเบอร์แมนเองก็ยังพูดเลยว่า “อาหารเผ็ด ๆ นี่แหละช่วยเร่งกระบวนการเผาผลาญดีนัก
ไม่เชื่อก็ลองสังเกตดูเถอะว่า ใครบ้างในวงข้าวของคุณที่กินเผ็ดแล้วเหงื่อแตกพลั่ก ๆ
นั่นแหละกระบวนการเผาผลาญของเขากำลังทำงานอย่างหนักอยู่


7. ดื่มชาเขียว
มิแชลล์ สเตรฟ ผู้ฝึกซ้อมกีฬาจากเนบราสกาให้ความเห็นว่า “มีวิธีค่อนข้างทำลายสุขภาพตั้งหลายอย่าง
ที่จะช่วยเร่งกระบวนการเผาผลาญ อย่างการดื่มกาแฟแก่ ๆ สักแก้วหรือการรับนิโคตินเข้าร่างกาย
แต่ดิฉันไม่ได้บอกว่าคุณต้องสูบบุหรี่นะ” แต่ลีเบอร์แมนเองก็ให้คำแนะนำที่น่าสนใจในเรื่องนี้เช่นกันว่า
แทนที่จะดื่มเครื่องดื่มผสมคาเฟอีนมาก ๆ แล้วต้องพบกับผลข้างเคียงค่อนข้างอันตราย
ก็น่าจะใช้ชาเขียวร้อนแทน ซึ่งชาเขียวที่ว่านี้จะกระตุ้นระบบเผาผลาญได้นานกว่า
และมีประสิทธิภาพมากกว่ากาแฟเสียอีก


8. อย่าลืมดื่มน้ำ
อย่าได้ละเลยการดื่มน้ำเป็นอันขาด
การดื่มน้ำอยู่เป็นประจำนี้สำคัญมาก กับการขับของเสียออกจากร่างกายในระหว่างการเผาผลาญไขมัน
แม้น้ำเย็นก็ยังช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญได้เล็กน้อย
เนื่องจากร่างกายจะใช้ความร้อนมาเพื่อทำให้อบอุ่นขึ้น
แล้วมันจะมาจากไหนล่ะ ถ้าไม่ใช่ระบบการเผาผลาญแล้วได้ความร้อนเป็นผลพลอยได้


9. หลีกเลี่ยงความเครียด
จงอยู่ให้ห่างความเครียดให้มากที่สุด ตามที่ลีเบอร์แมนพูดคือ
เพราะความเครียดสามารถเพิ่มน้ำหนักให้คุณได้ โดยเฉพาะไขมันตรงหน้าท้อง”
ทำไมคุณลีเบอร์แมนถึงพูดเช่นนั้น
ก็เพราะทั้งความเครียดทางกายและจิตใจ มันจะไปกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารคอร์ติโซลออกมาน่ะสิ
และเพราะเจ้าคอร์ติโซลนี่ มันมีอำนาจชะลอกระบวนการเผาผลาญให้ช้าลงด้วย
เราจึงควรทำทุกอย่างเพื่อให้ไม่เครียด หรือเครียดน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้


10. นอนหลับมาก ๆ
นักวิทยาศาสตร์ได้ทำวิจัยมาแล้วหลายครั้งในหมู่ผู้นอนหลับ
พบว่าใครก็ตามที่นอนน้อยกว่าวันละเจ็ดหรือแปดชั่วโมง จะมีโอกาสน้ำหนักขึ้นได้มาก
ยิ่งกว่านั้นเราก็รู้ด้วยว่า กล้ามเนื้อจะถูกเสริมสร้างขึ้นมาใหม่ด้วย ในช่วงชั่วโมงท้ายของการนอนก่อนจะตื่น
ตามคำกล่าวอ้างของเบเยอร์ ถ้าจะทำตามข้อแนะนำข้อที่ 1 ไปพร้อม ๆ กับข้อนี้ด้วย
ก็จะช่วยได้มากในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ


ทั้งหมดนี้เราได้มาจากข้อความของคุณซูแซน วูดเวอร์ด
ซึ่งปัจจุบันเธออาศัยอยู่ในเมืองโอลิมเปีย รัฐวอชิงตัน
เป็นคอลัมนิสต์เกี่ยวกับสุขภาพและวัฒนธรรมในนิตยสารหลายเล่ม
รวมทั้งอเมซอน โพรมิส องค์กรเพื่อสุขภาพไม่หวังผลกำไร
และมีบทความลงในนิตยสารลอส แอนเจลิส ไทม์สด้วย


ที่มา :
//www.tlcthai.com
//variety.teenee.com


สารบัญ ลดอ้วน ลดน้ำหนัก


Create Date : 27 ตุลาคม 2551
Last Update : 4 สิงหาคม 2554 19:32:38 น. 0 comments
Counter : 923 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.