ทางลัดเพื่อหุ่นดี มีจริงหรือ
ทางลัดเพื่อหุ่นดี มีจริงหรือ เป็นคำถามที่ต้องตอบกันบ่อยๆ
★ ยาลดความอ้วน มีกี่ประเภท อันตรายหรือไม่ หลักที่สำคัญของการลดความอ้วน จำเป็นอย่างยิ่งต้องควบคุมอาหารและออกกำลังกาย สำหรับยาลดความอ้วนคือ การเอาสารเคมีไปออกฤทธิ์กับร่างกายให้ทำงานผิดไปจากเดิม แพทย์จำนวนไม่น้อยไม่ยอมใช้ การจะใช้ยามีข้อพึงจำไว้ว่า ถ้าไม่อ้วนจริง อย่าใช้ เพราะปัจจุบันมีบางคนน้ำหนักเพียง 40-50 กก. ก็มักคิดว่าตัวเองอ้วน แล้วริเริ่มไปใช้ยาเข้า ส่วนมากเป็นพวกวัยรุ่นใจร้อน เห่อตามกระแสนิยม จะเกิดผลร้ายมากกว่าผลดี
ถึงแม้อ้วนจริง ถ้าใช้ก็ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของแพทย์ ซึ่งที่ถูกต้องแพทย์ต้องตรวจร่างกายให้รอบคอบว่า ไม่มีข้อห้ามอื่นๆ และต้องตอกย้ำหลักออกกำลังกายและคุมอาหารแก่ผู้ป่วย
การเร่งลดความอ้วนด้วยยา โดยเฉพาะที่จัดเป็นยาชุด ประกอบด้วยยา 6 ชนิดคือ ยาเร่งความเครียดและเพิ่มความกดดันแก่สรีระร่างกาย ซึ่งก็คือยาบ้าในรูปแบบหนึ่ง กินควบกับยานอนหลับ ยาระบาย ยาขับปัสสาวะ ยาเร่งไทรอยด์ และยากดการเต้นหัวใจ อาจเกิดผลลดเร็ว แต่เมื่อเลิกยา น้ำหนักจะสวิงขึ้นเร็ว มารู้ตัวอีกทีเมื่อน้ำหนัก 100 กก. ถึงตอนนั้นแล้วร่างกายจะเสียศูนย์ไปหมด ลดยากอย่างยิ่ง มีแต่จมจ่อมในความทุกข์เพราะน้ำหนักเกิน
ยาเหล่านี้ยังออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ทำให้เกิดปัญหาทางอารมณ์และจิตใจอีกมากมาย แถมหัวใจ ไทรอยด์ กระเพาะลำไส้ และไตจะปั่นป่วนรวนเรไปหมด
ยา ลดความอ้วนชนิดที่ปลอดภัยกว่า ใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์มีอยู่ 2 กลุ่ม กลุ่มแรกเป็นยาขัดขวางการดูดซึมไขมัน พอช่วยได้ในการคุมน้ำหนัก แต่ไม่ถึงกับลดความอ้วน กลุ่มที่สองเป็นยาลดความอยากอาหารและเร่งการเผาผลาญอาหาร เกิดผลช้าๆในแง่ของการคุมน้ำหนัก แต่ก็ต้องระวังการใช้ในคนความดันเลือดสูง โรคหัวใจ ซึ่งคนอ้วนจริงจำนวนไม่น้อยก็มีปัญหาโรคเหล่านี้อยู่
★ อาหารลดน้ำหนักชนิดซองชง ใช้กินแทนมื้ออาหาร ได้ผลหรือไม่ อาหารชนิดซองชงที่ทำอย่างมีหลักวิชา เป็นการตวงวัดสารอาหารให้กินพออิ่ม มีกากใย และเติมแร่ธาตุเข้าไปเพื่อว่าผู้กินจะไม่ขาดสารอาหาร
อาจช่วยให้ลดช้าๆได้ แต่ในทางปฏิบัติใครจะมานั่งกินตลอดทั้งวัน หรือกินทุกวัน จะน่าเบื่อหน่ายจนไม่อาจปฏิบัติจริงได้ นอกจากใช้ชั่วคราว โดยกินแทนอาหารสักมื้อหนึ่ง ส่วนอีก 2 มื้อกินอาหารปกติที่ควบคุมให้ดี
อีกประการหนึ่งวิธีนี้ขัดต่อหลักธรรมชาติแน่ เพราะแม้วิทยาการจะก้าวหน้าเพียงใด ก็ไม่สามารถสกัดสารจำเป็นต่อร่างกายได้หมดทุกชนิด ถ้ากินแบบนี้นานๆก็จะได้สารอาหารไม่ครบอยู่ดี
★ Chitosan หรือสารสกัดจากเปลือกปูซับไขมันได้จริงหรือ ช่วยลดน้ำหนักได้จริงหรือไม่ สารตัวนี้ขายตามแนวคิดที่ว่า มันสามารถจับไขมันได้ และพิสูจน์ให้เห็นจริงได้ คือ เอาสารนี้ใส่ลงในน้ำมัน ก็จะจับน้ำมันรวมไว้เป็นก้อน แต่ข้อจำกัดก็คือ สารนี้ 1 กรัมจะจับน้ำมันได้ 4 กรัมเท่านั้น ถ้ามื้อนั้นกินไขมันเข้าไปมากกว่านั้นก็จับไว้ไม่อยู่
อีกประการหนึ่งในร่างกายของเราจริงๆ แต่ละมื้ออาหารก็จะมีผักบ้าง ผลไม้บ้างปะปนกันอยู่ในท้อง ถ้าสารนี้ไม่ได้เจอกับน้ำมันโดยตรงก็ไม่สามารถจับอะไรไว้ได้ ดังนั้นถ้าบอกว่าสารนี้ช่วยลดการดูดซึมไขมันได้บางส่วน ก็เป็นไปได้ แต่ไม่ควรถือว่าลดน้ำหนักโดยตรง
★ ส้มแขก ช่วยลดน้ำหนักได้หรือไม่ สารในส้มแขกออกฤทธิ์ทางชีวเคมีคือ ยับยั้งการเปลี่ยนแป้งเป็นไขมัน ซึ่งพิสูจน์ได้ในหลอดทดลอง แต่ก็อีกนั่นแหละ การที่สารนี้จะออกฤทธิ์ในร่างกายได้ถึงขนาดนั้น ต้องมีปริมาณมากและในสภาวะที่เหมาะสม ดังนั้นถ้าบอกว่าสารนี้ช่วยคุมน้ำตาลน่าจะมีผลที่ดีกว่า การจะใช้เพื่อลดน้ำหนัก
★ บุกหรือกลูโคแมนแนนช่วยลดน้ำหนักได้หรือไม่ ก่อนอื่นต้องรู้ว่าบุกมีทั้งหมด 90 กว่าสายพันธุ์ ต้องใช้สายพันธุ์ที่ถูกต้อง แถมต้องระวังว่าในบุกเองก็มีสารที่เป็นพิษ ซึ่งต้องสกัดออกไปเสียก่อน
กลูโคแมนแนนในบุกออกฤทธิ์โดยจับตัวกับน้ำ เกิดเป็นวุ้นที่ปริมาณมากกว่าเดิม 10 เท่า การใช้จึงต้องกินบุกพร้อมกับน้ำแก้วใหญ่ๆแล้วรอ 30 นาทีให้พองตัวเสียก่อน จึงค่อยกินข้าว มีผลทำให้เราอิ่มและกินข้าวน้อยลง ความเป็นวุ้นของบุกยังช่วยเคลือบผิวกระเพาะลำไส้ ทำให้ดูดซึมสารอาหารน้อยลง พึงจำไว้ว่า ถ้ากินบุกแล้วไม่กินน้ำ จะเกิดผลร้ายคือ ทำให้ท้องผูก อย่างบุกพอจะใช้ควบคุมน้ำหนักได้ แต่ไม่ใช่ลดน้ำหนัก ที่ถูกต้องก็ยังต้องคุมอาหารและออกกำลัง
★ การกินข้าวแล้วล้วงคอให้อาเจียน ควรทำหรือไม่ มีอันตรายอย่างไร นี่เป็นปัญหาใหญ่ที่กำลังแพร่ระบาดให้หมู่เยาวชนจนเป็นที่น่าห่วงใย มีวัยรุ่นอยู่คนหนึ่ง น้ำหนัก 42 กก.ส่วนสูง 165 ซม. ซึ่งควรถือว่าต่ำกว่าเกณฑ์อยู่แล้ว เกณฑ์ปกติในการวัดความอ้วนผอม ถือเอาค่า BMI หรือดัชนีมวลของร่างกาย มีสูตรว่า
BMI = น้ำหนัก (กิโลกรัม) /ส่วนสูง (เมตร)2
BMI < 20 ถือว่าผอม, BMI = 20-25 ถือว่าปกติ, BMI > 25 ถือว่าท้วม, BMI > 30 ถือว่าอ้วน
เด็กวัยรุ่นคนนี้ไม่อ้วนแน่ แต่มาหาแพทย์เพราะกลุ้มใจเรื่องความอ้วน เพราะเดิมทีน้ำหนักเพียง 37 กก.เท่านั้น คนที่มีลักษณะเช่นนี้กำลังมีปัญหาทางด้านจิตผิดปกติ และกำลังระบาดมากในหมู่วัยรุ่นนักศึกษาไทยทุกวันนี้ ต้องรู้ว่าการล้วงคอให้อาเจียน สักครู่ก็จะหิวแล้วกินใหม่ ล้วงคออีก สักหลายๆครั้งก็จะติดเป็นนิสัย ต่อไปพอกินก็อาเจียนออกโดยอัตโนมัติ เรียกว่าโรค Bulemia พวกนี้มีอัตราค่อนข้างสูงที่ถึงกับฆ่าตัวตายถึง 30% ดังนั้นพ่อแม่ถ้าเห็นลูกกินอาหารสักครู่ก็ไปเข้าห้องน้ำ พึงสังเกตให้ดีและแก้ไขให้ทันเหตุการณ์
★ พริกไทยดำและชาเขียวลดน้ำหนักได้หรือไม่ พริกไทยมีสารแคบไซซินช่วยเร่งอัตราเผาผลาญร่างกาย แต่ต้องใช้ปริมาณสูงมากถึง 800 มก.ต่อครั้ง ซึ่งระดับนั้นเป็นอันตรายกับเยื่อบุกระเพาะอย่างรุนแรง ชาเขียวมีสารต้านอนุมูลอิสระ แต่ไม่น่าถึงกับลดน้ำหนักได้
★ ฝังเข็มลดความอ้วน มีจริงหรือไม่ จุดเข็มบางจุดช่วยเพิ่มอัตราเผาผลาญ บางจุดช่วยจิตใจสงบ อาจใช้ควบขณะควบคุมอาหาร แต่การฝังเข็มตรงไหนลดส่วนนั้น แถมแอบจ่ายยาลดความอ้วนด้วย เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้
★ ดูดไขมัน กระตุ้นผิวหนังด้วยไฟฟ้า นวดด้วยเครื่องปั๊มสูญญากาศช่วยลดน้ำหนักหรือไม่ ดูดไขมันเอาไขมันออกได้ครั้งละไม่เกิน 1 กก. แล้วก็กินกลับคืนมาใหม่ นวดด้วยเครื่องสูญญากาศช่วยขับน้ำ อาจช่วยปรับรูปร่างได้ชั่วคราว ไม่ควรถือเป็นวิธีลดน้ำหนัก กระตุ้นผิวหนังด้วยไฟฟ้าอาจเกิดอันตรายเพราะไฟฟ้ารั่ว ผิวไหม้ กล้ามเนื้อช้ำ
ผู้รักสุขภาพพึงรู้ไว้ว่า ทางลัดเพื่อหุ่นดีนั้น มีจริง แต่ไม่จีรังยั่งยืน แถมเกิดอันตรายสารพัด เพราะที่แท้แล้วตัวตนของเราเป็นผลพวงของสิ่งที่เรากิน สิ่งที่เราคิด และสิ่งที่เราปฏิบัติ
โดย นพ.บรรจบ ชุณหสวัสดิกุล ที่มา : //www.balavi.com/content_th/nanasara/Con00019.asp ภาพจาก : //www.weightlosswomen.org/
สารบัญ ไดเอท ลดน้ำหนัก คลิกดู ที่นี่ค่ะ
Create Date : 18 ธันวาคม 2552 |
Last Update : 18 ธันวาคม 2552 12:49:03 น. |
|
2 comments
|
Counter : 711 Pageviews. |
|
|
|
โดย: เซ็วเล่งนึง IP: 58.137.97.19 วันที่: 18 ธันวาคม 2552 เวลา:16:37:40 น. |
|
|
|
โดย: Ben IP: 220.135.202.142 วันที่: 3 พฤษภาคม 2555 เวลา:10:26:03 น. |
|
|
|
|
|