หญิงและชายลดน้ำหนักได้ไม่เท่ากัน
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ไม่ว่าผู้หญิงหรือชายที่พยายามลดน้ำหนัก จะต้องยอมรับความจริงข้อหนึ่งที่ธรรมชาติไม่ให้ความเสมอภาค คือผู้ชายจะลดน้ำหนักได้ง่ายกว่าผู้หญิง ทั้งๆ ที่ผู้หญิงมีความพยายามมากกว่าผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้ผู้หญิงรู้สึกล้มเหลวเมื่อต้องเปรียบเทียบกัน แต่อย่างไรก็ตาม การหาเพื่อนลดน้ำหนักจะช่วยเพิ่มโอกาสไปสู่ชัยชนะได้ง่ายขึ้น เพราะได้รับแรงสนับสนุนให้กำลังใจจากคู่ เวลาออกนอกลู่นอกทางก็มีคนคอยดึง และมีเป้าหมายที่จะประสบชัยชนะร่วมกัน คู่ที่ลดน้ำหนักหากกินเหมือนกัน เวลาทำอาหารรับประทานเองย่อมควบคุมได้ง่ายกว่า และถ้าออกไปกินอาหารนอกบ้านก็ได้ตัดสินใจร่วมกัน
แต่หนทางการไปสู่สุขภาพดีมักมีหลุมมีบ่อ ถ้าคุณไม่เข้าใจถึงความแตกต่างระหว่างเพศ จะทำให้ประสบอุปสรรคในการลดน้ำหนักร่วมกันได้ สงครามแคลอรีระหว่างชายกับหญิง ไม่ว่าคุณจะเพศใด ก็ใช้หลักในการดูแลน้ำหนักตัวแบบเดียวกัน นั่นคือแคลอรีที่กินจะต้องเท่ากับแคลอรีที่ร่างกายเผาผลาญหรือใช้ไป แต่โดยทั่วไปผู้ชายมีรูปร่างใหญ่กว่าผู้หญิง และความต้องการพลังงานสูงกว่า ยิ่งไปกว่านั้นผู้ชายมีกล้ามเนื้อมากกว่า และกล้ามเนื้อเผาผลาญพลังงานได้ดีกว่าเนื้อเยื่อไขมัน แม้ว่าผู้หญิงหรือผู้ชายมีรูปร่างเท่าๆ กัน แต่ผู้ชายจะกินได้มากกว่าผู้หญิงโดยที่น้ำหนักไม่ขึ้น และลดได้ง่ายกว่า เพียงแค่ลดปริมาณอาหารให้น้อยลง ธรรมชาติช่างไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย แต่ก็เป็นความจริงที่ผู้หญิงต้องยอมรับ
"อายุ" ปัจจัยส่งเสริมความต่าง เมื่ออายุมากขึ้น เราจะสูญเสียกล้ามเนื้อมากขึ้นไม่ว่าจะเพศไหนก็ตาม ทำให้ร่างกายต้องการแคลอรีลดลง ถึงกระนั้นผู้ชายก็ได้เปรียบเพราะไม่ว่าจะอยู่ในช่วงวัยไหน ถึงลดแคลอรีลงสัก 200-300 ก็ยังมีแคลอรีเหลือพอที่จะกินอาหารไขมันต่ำ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพด้วย แต่สำหรับผู้หญิงไม่ง่ายนัก แม้ว่าผู้หญิงจะกินอาหารที่มีปริมาณแคลลอรี่ต่ำ ตามตำราแนะนำคือวันละ 1,600 กิโลแคลอรี เพราะผู้หญิงจะต้องประสบกับวิกฤตการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ในวัยหมดประจำเดือน ทำให้กล้ามเนื้อลดลงเร็วกว่าปกติ คำเตือนคืออย่าพยายามลดน้ำหนักด้วยการลดแคลอรีมากๆ เพราะนั่นเท่ากับว่าคุณกำลังเร่งการสูญเสียกล้ามเนื้อ ซึ่งจะมีผลให้ระบบเผาผลาญลดลง การออกกำลังกายแบบใช้แรงจะช่วยสร้างกล้ามเนื้อ และเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่ผู้หญิงจะผยุงระบบเผาผลาญ
วิธีการต่อไปนี้ จะช่วยกระตุ้นให้ระบบเผาผลาญไม่เฉื่อยชา
กินมื้อเล็กๆ หลายมื้อ แบ่งอาหาร 3 มื้อที่คุณเคยกินเป็นมื้อเล็กๆ 5-6 มื้อ จะช่วยเพิ่มระบบการเผาผลาญได้ ดื่มชาเขียว (ชนิดชงไม่ใส่น้ำตาล) แทนเครื่องดื่มชนิดอื่นที่มีพลังงานหรือแคลอรี ชาเขียวมีสารต้านอนุมูลอิสระและกาเฟอีน ซึ่งช่วยเพิ่มระบบเผาผลาญได้เล็กน้อย กินโปรตีนให้เพียงพอ เพื่อป้องกันการสูญเสียโปรตีนจากร่างกาย และยังช่วยให้รู้สึกอิ่มขึ้น ผู้ชายต้องการโปรตีนอย่างน้อยวันละ 63 กรัม ผู้หญิงต้องการอย่างน้อยที่สุดวันละ 50 กรัม เป้าหมายการกินโปรตีนสำหรับลดน้ำหนักประมาณวันละ 100 กรัม เนื้อล้วนไม่ติดมันและสุก 30 กรัม (เนื้อ 2 ช้อนโต๊ะ มีโปรตีน 7 กรัม) อย่าอดนอน ร่างกายคุณต้องการนอนหลับพักผ่อนวันละ 7-8 ชั่วโมง การวิจัยเปิดเผยว่าคนที่อดนอนบ่อย ๆ จะอ้วนง่าย
ออกกำลังกาย...แต่อย่าให้หนักเกินไป คนที่เคลื่อนไหวร่างกายน้อยมาก โดยเฉพาะผู้ชายเมื่อเคลื่อนไหวร่างกายมากขึ้น จะลดน้ำหนักได้โดยยังไม่ต้องเปลี่ยนแปลงการกิน ผู้ชายที่กระฉับกระเฉงออกกำลังกายอยู่เสมอ จะลดน้ำหนักได้เร็วขึ้นอีก แต่การออกกำลังกายหนักๆ อาจจะไม่ได้ผลสำหรับผู้หญิง
เมื่อผู้ชายออกกำลังกายมากขึ้น น้ำหนักจะลดลงเพราะร่างกายไม่กระตุ้นให้อยากกินมากขึ้น ในขณะที่ผู้หญิงออกกำลังกายหนักร่างกายจะส่งสัญญาณให้ "อยากกิน" เพื่อชดเชยกับพลังงานที่เสียไป เพราะร่างกายผู้หญิงทำงานในลักษณะคอยเก็บไขมัน ซึ่งเป็นระบบการป้องกันร่างกายของผู้หญิงในวัยเจริญพันธุ์ เวลาที่ออกกำลังกายหนักจึงกระตุ้นให้หิว และรู้สึกอยากกิน และการวิจัยพบว่าถ้าลดความแรงของการออกกำลังกายจะมีผลไม่เหมือนกัน ซึ่งชี้ให้เห็นว่าการออกกำลังกายระดับปานกลาง น่าจะช่วยลดไขมันส่วนเกินของ ผู้หญิงได้ดีกว่า ถ้าเราต้องการจะลดน้ำหนักหรือควบคุมน้ำหนัก จำเป็นต้องเคลื่อนไหวให้มากขึ้นตลอดวัน ไม่ใช่ออกกำลังกายเพียงแค่วันละ 30 นาที แล้วเอาแต่นั่งทั้งวันก็จะไม่เห็นผล
กล้ามเนื้อที่แข็งแรงเผาผลาญพลังงานได้ดีกว่า ผู้หญิงเพิ่มระบบการเผาผลาญได้มากกว่าผู้ชาย จากการออกกำลังกายชนิดแรงต้าน โดยใช้เครื่องมือที่มีน้ำหนักหรือยางยึด การฝึกความแข็งแรง (strength training) ให้ประโยชน์ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ในการเพิ่มความยืดหยุ่น การคล่องตัว และการมีสุขภาพดีทั่วๆ ไป
ค้นหาความจริงในการกินและออกกำลังกาย ผู้หญิงที่พยายามจะลดน้ำหนัก มักจะคาดประมาณแคลอรีที่กินต่ำกว่าความเป็นจริง และประมาณการออกกำลังกายเกินกว่าความเป็นจริง ถ้าจะค้นหานิสัยการบริโภคที่ไม่ดีของตัวเอง ควรจดบันทึกกิจกรรมการใช้พลังงานและอาหาร เครื่องดื่มที่ดื่ม-กินดูสักอาทิตย์ อย่าลืมจดอย่างละเอียดยิบแม้แต่หยิบนิดหยิบหน่อยเข้าปาก เวลาจดบันทึกอย่าลืมจดเวลาที่กิน สถานที่ และความรู้สึกที่กินด้วย หลายคนอาจไม่เชื่อว่า ยามรู้สึกเบื่อคุณจะใช้อาหารในการแก้ความเบื่อ ลองจดบันทึกดู แล้วจะพบพฤติกรรมการกินที่แท้จริงของตัวเอง ทำให้รู้ว่าการกินมีอิทธิพลของต่ออารมณ์ของคุณอย่างไร
สิ่งที่ควรทำ เพื่อลดช่องว่างระหว่างเพศในการลดน้ำหนัก
มองหาวิธีการออกกำลังกายที่ไม่หนักมาก เช่น การเดิน 10 นาที โดยเฉพาะหลังอาหารหรือทำกิจกรรมอื่นๆ สังเกตดูว่าอาหารสะท้อนถึงอารมณ์คุณอย่างไร ใช้บันทึกช่วยในการแก้ไขพฤติกรรมนั้นๆ ติดตามความก้าวหน้าในการลดน้ำหนักของตัวคุณเอง และประคับประคองพฤติกรรมให้อยู่ในกฎเกณฑ์
อย่าเปรียบเทียบตัวเองกับคู่ของคุณ อย่าให้ความล้มเหลวในการลดน้ำหนักของคนอื่นทำให้คุณหมดกำลังใจ
ที่มา //www.healthandcuisine.com ภาพจาก: //www.fotosearch.com.au
สารบัญลดอ้วน ลดน้ำหนัก
Create Date : 26 กรกฎาคม 2552 |
Last Update : 3 กุมภาพันธ์ 2555 15:45:39 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1085 Pageviews. |
|
|
|
|
|