ไฟติดๆ ดับๆ
ในยุคที่ผมเพิ่งเรียนรู้เครื่องยนต์กลไกในแบบ “ครูพักลักจำ” หากมีใครสักคนพูดขึ้นมาว่ารถยนต์ของตนเองมีอาการ “ไฟติดๆ ดับๆ” ผมเชื่อว่าคนที่ได้ยินไม่ว่าจะเป็นช่างหรือไม่ใช่ช่างก็ตาม ต่างต้องเข้าใจตรงกันว่าผู้พูดกำลังหมายถึงไฟหน้า ที่ทำหน้าที่ส่องสว่างในยามค่ำคืน หรืออย่างเก่งก็หมายถึงไฟส่องสว่างอื่นๆ เช่น ไฟท้าย, ไฟเบรกหรือไฟเลี้ยว
แต่รถยนต์ในยุคปัจจุบันนี้ หรือรถยนต์ที่ผลิตออกมาตั้งแต่ช่วงปี พ.ศ. 2535 หากพูดถึงอาการไฟติดๆ ดับๆ อาจจะหมายถึงไฟสัญญาณเตือนที่หน้าปัด ซึ่งรถยุคนั้นมีจำนวนมากดวงขึ้น และเป็นไฟที่ใช้สำหรับตรวจเตือนระบบและชิ้นส่วนต่างๆ ของรถยนต์ เช่นไฟเตือนเมื่อถึงระยะทางที่ต้องเปลี่ยนสายพานไทมิ่ง, ไฟเตือนเมื่อถึงระยะเวลาการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง หรือแม้แต่ไฟสัญญาณเตือนว่าแรงดันลมภายในยางลดน้อยลงกว่าปรกติ เป็นต้น
ที่ผมเกริ่นมาทั้งหมดนั้น เพื่อที่จะบอกท่านที่ใช้รถยนต์ทั้งหลายว่า หากท่านจะสื่อสารเกี่ยวกับระบบไฟในรถให้คนอื่นเข้าใจ ท่านควรระบุไปให้ชัดเจนว่าเป็นไฟจากระบบไหน เช่นไฟจากระบบไฟแรงสูงสำหรับจุดระเบิด, ไฟจากระบบส่องสว่าง หรือไฟจากระบบตรวจเตือนอุปกรณ์ทั้งหลาย ผู้ที่รับข้อมูลจากท่านหรือช่างจะได้เข้าใจตรงกัน
วันนี้ผมได้รับคำถามเกี่ยวกับเรื่องของไฟติดๆ ดับๆ ดังที่ว่ามานี้ ซึ่งในครั้งแรกต้องมีการถามกันกลับไปกลับมา กว่าจะรู้เรื่องว่าไฟที่เป็นปัญหานั้นคือไฟอะไร จนได้คำถามที่ครบถ้วนมาดังต่อไปนี้
ถาม. ผมใช้รถยนต์ โตโยต้า อัลติส เครื่อง 1,800 ซีซี. ปี 2001 ปัจจุบันนี้มีปัญหาเกิดขึ้น คือสัญญาณไฟเตือนที่หน้าปัดติดโชว์ขึ้นมาสามดวงด้วยกันประกอบด้วย 1. ไฟรูปเครื่องยนต์ 2. ไฟ VSC 3. ไฟ O/D Off ไฟทั้งสามดวงดังกล่าวนั้นจะติดๆ ดับๆ อยู่ตลอดเวลา แต่อาการอื่นๆ ของรถผมก็ยังใช้งานได้ดีอยู่ ไม่มีการขัดข้องขลุกขลักแต่อย่างใด เครื่องยนต์ยังสตาร์ทติดง่าย ไม่มีอาการสะดุดหรือดับขณะใช้งาน ผมอยากทราบว่าผมจะต้องทำอย่างไรต่อไปอาการไฟติดๆ ดับๆ จึงจะหายไป หรือหากจะปล่อยเอาไว้อย่างนี้ต่อไป จะมีความเสียหายเกิดขึ้นหรือไม่ ขณะนี้ผมเป็นกังวลมากครับ
ตอบ. อาการดังกล่าวหากต้องการคำตอบที่แน่นอนแม่นยำ ควรนำรถไปเข้าศูนย์บริการหรืออู่ที่เครื่องมือทันสมัย เพื่อทำการตรวจสอบระบบ หรือพูดแบบชาวบ้านก็คือเอาคอมพิวเตอร์ไปตรวจสอบกล่อง และหากพบว่า “กล่อง” เสีย ก็จะต้องทำการเปลี่ยนกล่องใหม่ ค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ประมาณ 4 หมื่นบาท
ถ้าหากอาการดังกล่าวเกิดขึ้นกับไฟเตือนดวงใดดวงหนึ่ง ยังน่าจะคาดเดาว่าเป็นความบกพร่องของระบบที่ไฟสัญญาณเตือนติดขึ้นมา เช่นหากพบว่าไฟติดมาที่ VSC ก็ยังพอจะเดาว่าระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ที่เกี่ยวพันกับการควบคุมการทรงตัวของรถเกิดบกพร่องขึ้นมา หรือหากเป็นไฟ O/D Off ติดขึ้นมา ก็ยังสังเกตได้จากรอบการทำงานของเครื่องยนต์ หรือดูจากจังหวะเร่งแซงว่าเกียร์มีการเปลี่ยนไปหรือไม่ หากเกียร์เปลี่ยนไปตามจังหวะ หรือรอบการทำงานของเครื่องยนต์ไม่เปลี่ยนแปลง ระหว่างที่ไฟดังกล่าวติดขึ้นมาและไม่ติด ก็เดาเอาว่ากลไกทำงานตามปรกติ แต่ไปผิดพลาดที่เซนเซอร์สัญญาณเตือนเอง หรือบกพร่องที่ตัวไฟ
แต่หากเป็นไฟรูปเครื่องยนต์ติดขึ้นมาเพียงดวงเดียว อย่างนี้ก็ยากที่จะคาดเดา เพราะการที่ไฟรูปเครื่องยนต์ติดขั้นมาหมายความว่า ระบบตรวจสอบพบว่ามีความผิดปรกติเกิดขึ้น ซึ่งหากต้องการรู้ว่าส่วนใดของระบบผิดปรกติ ก็ต้องใช้เครื่องมือเข้าทำการวิเคราะห์ตรวจสอบ
ดังนั้นเมื่อรถของคุณมีไฟสัญญาณติดขึ้นมาถึงสามดวงดังกล่าว จึงไม่น่าเชื่อว่าระบบใดๆ จะบกพร่องขึ้นมาพร้อมกันทั้ง 3 ระบบในเวลาเดียวกัน ผมจึงต้องเดาว่าเป็นความบกพร่องของกล่องควบคุม ที่ทำหน้าที่อ่านการทำงานทั้งหมด ซึ่งหมายถึงตัวกล่องควบคุมเองอาจจะบกพร่องในตัวของมันเอง การแก้ไขก็ต้องทำการเปลี่ยนกล่องควบคุมซึ่งราคาแพงมากดังกล่าว
แต่เมื่อเป็นที่ทราบกันดีว่าสภาพอากาศในประเทศไทยของเรา อยู่ในสภาพที่มีความร้อนชื้นสูง หมายถึงเป็นศัตรูตัวร้ายของระบบไฟฟ้าต่างๆ อาจจะทำให้เกิดการช็อตหรือลัดวงจรขึ้นมาได้ ผมจึงมีข้อแนะนำให้ทำการเบื้องต้นด้วยตนเองดังต่อไปนี้ ให้ทดลองถอดขั้วแบตเตอรี่ออกมาทิ้งไว้สัก 1 วันเต็มๆ เพื่อให้หน่วยความจำที่อาจจะผิดเพี้ยนลืมความจำที่ผิดพลาด หลังจากนั้นจึงสวมขั้วแบตเตอรี่เข้าไปใหม่ จะทำให้ตัวกล่องควบคุมหรือหน่วยความจำต่างๆ ทำการปรับเซตตัวเองใหม่ อาการดังกล่าวก็อาจจะหายไปได้ ซึ่งหากอาการที่ว่ามายังคงอยู่ จึงค่อยนำรถไปเข้าศูนย์บริการเพื่อดำเนินการต่อไป
วิธีที่ผมบอกมานี้จะเป็นการตรวจสอบ ด้วยการเสียค่าใช้จ่ายน้อยไปหามาก และยุ่งยากน้อยไปหาขั้นตอนที่ยุ่งยากมากขึ้นตามลำดับครับ
เรื่องโดย พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ ที่มา: //www.bangkokbiznews.com ภาพจาก: //www.fotosearch.co.uk
สารบัญรู้เรื่องรถ
Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2555 |
|
1 comments |
Last Update : 25 กุมภาพันธ์ 2555 18:06:14 น. |
Counter : 11741 Pageviews. |
|
|
|