กินอย่างไรให้หุ่นยังสวย
นิสัยพี่ไทยอย่างเรา คงหนีไม่พ้นงานเลี้ยงฉลองมากมาย งานเลี้ยงที่อุดมด้วยอาหารทั้งคาวและหวาน โดยเฉพาะขนมเค้ก ซึ่งแต่ละชนิดอุดมไปด้วยแป้ง ไขมันสูงๆแทบทั้งสิ้น จนบางคนน้ำหนักเพิ่มขึ้นโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัวเลยทีเดียว
เคล็ดลับการกินให้ไขมันและน้ำหนักไม่เพิ่มนั้น คือการเลือกกินแต่พอดี ยับยั้งชั่งใจให้ได้ แต่หลายคนคงบอกพูดง่ายแต่ทำยาก
รศ.ดร.เอมอร วสันตวิสุทธิ์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ชี้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นว่า ประเด็นสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาน้ำหนักเกินคือ ปริมาณและความถี่ที่กินอาหารเข้าไป ยิ่งกินบ่อยในปริมาณมาก ก็ยิ่งทำให้น้ำหนักมากขึ้นเท่านั้น
หากจะห้ามกันในช่วงนี้คงทำได้ยาก เพราะบรรยากาศเทศกาลแห่งความสุขและอากาศเย็นๆอย่างนี้ ยิ่งเพิ่มความเจริญอาหารขึ้นเป็นเท่าทวีคูณ หลายคนเกิดอาการเบรคแตกได้ง่ายๆ บางคนพยายามคุมน้ำหนักมาทั้งปีแต่ก็มาตกม้าตายในช่วงเทศกาลเสมอ
การจะคุมน้ำหนักไม่ให้ทะลุเพดานเกินไปนัก วิธีเลือกรับประทานอาหารน่าจะทำได้ง่ายที่สุด โดยเลือกอาหารที่ให้ไขมันน้อย ให้พลังงานน้อย ดูได้ง่ายๆคืออาหารที่ผ่านกระบวนการต้ม นึ่ง ย่าง มักจะมีไขมันต่ำกว่าอาหารชนิดผัดหรือทอด
สิ่งที่ควรทำควบคู่กันไปคือการออกกำลังกาย เพื่อนำไขมันที่เราสะสมออกไปใช้งานบ้าง จะได้ไม่มีส่วนห้อยส่วนย้อยที่เราไม่ต้องการหลงเหลืออยู่
หลายคนมักคิดว่าเมื่อกินเข้าไปเยอะมากในช่วงเทศกาลแล้ว พอเทศกาลผ่านไปก็ต้องลดอาหารหรืออดอาหาร เพื่อให้น้ำหนักส่วนเกินที่เพิ่มขึ้นมาลดลง รศ.ดร.เอมอร แนะว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะร่างกายนั้นมีกระบวนการใช้พลังงานต่างจากที่เราคิด เมื่อร่างกายได้รับอาหารในจำนวนมากแล้วเกิดการลดอาหารลงทันทีทันใด ภายในร่างกายจะสั่งงานให้ยิ่งสะสมพลังงาน ประหยัดพลังงานและไม่นำออกมาใช้ ทำให้แม้จะกินเพียงนิดเดียว แต่ร่างกายจะยิ่งสะสมไขมันไว้เปลี่ยนเป็นพลังงานมากเป็น 2-3 เท่าจากการสะสมไขมันปกติ
ดังนั้น หลังจากผ่านช่วงงานเลี้ยงไปแล้ว "ไม่ควรอดอาหาร" ให้กินอาหาร 3 มื้อเหมือนเดิม แต่เลี่ยงการกินอาหารไขมันสูง และควรออกกำลังกายหรือเคลื่อนไหวให้ร่างกายได้นำพลังงานไปใช้บ้าง
เมื่อพูดถึงเรื่องการออกกำลังกาย เรื่องง่ายๆที่หลายคนไม่สามารถทำได้หรือเป็นเรื่องยากของบางคน ทั่วไปเราจะพอทราบว่าการออกกำลังกายควรทำอย่างน้อยวันละ 30 นาที สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง แต่เมื่อออกกำลังกายจริงๆ ก็ทำได้ยากและทำให้หลายคนล้มเลิกความตั้งใจไป
รศ.ดร.กัลยา กิจบุญชู หัวหน้าฝ่ายสรีรวิทยาโภชนาการ ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องการออกกำลังกายและโภชนาการ แนะนำวิธีการออกกำลังกายเพื่อให้นำไปใช้ได้จริง โดยมีผลงานวิจัยเกี่ยวกับการออกกำลังกายแสดงให้เห็นว่า หากไม่สามารถออกกำลังกายวันละ 30 นาทีได้ โดยแบ่งการออกกำลังกายเป็น 3 ครั้ง ครั้งละ 10 นาที จะสามารถเผาผลาญพลังงานได้เท่ากับการออกกำลังกาย 30 นาทีเช่นกัน
การออกกำลังกายเพื่อเผาผลาญไขมันส่วนเกินในร่างกายจำเป็นต้องใช้เวลา ซึ่งการลดน้ำหนักแค่ 2-3 เดือน แล้วน้ำหนักตัวลดลงมากนั้นเป็นเพียงการดึงน้ำออกจากร่างกายเท่านั้น เพราะการลดไขมันต้องใช้เวลานาน แต่เป็นการลดน้ำหนักได้อย่างถาวร ไม่เหมือนการดึงน้ำออกจากร่างกายที่จะกลับมาอ้วนอีกได้
การออกกำลังกายเพื่อลดไขมัน หลักการคือต้องเคลื่อนไหวช้าๆเนิบๆ เพื่อให้ร่างกายได้เผาผลาญไขมัน ได้ดึงไขมันมาใช้อย่างเต็มที่ แต่หากเลือกออกกำลังกายที่เคลื่อนไหวเร็ว ร่างกายจะเลือกดึงน้ำตาลมาเปลี่ยนเป็นพลังงาน แทนที่จะดึงไขมันมาใช้เพราะน้ำตาลสามารถนำมาใช้เป็นพลังงานได้เร็วกว่าไขมัน
รศ.ดร.กัลยา อธิบายถึงการออกกำลังกาย กับการอดอาหารว่า หากออกกำลังกายในขนาดที่สามารถเผาผลาญพลังงานได้ 500 กิโลแคลอรี โดยทานอาหารตามปกติ เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ออกกำลังกายแต่ใช้การอดอาหารแทน อาจจะไม่เพิ่มพลังงานหรือไขมันสะสมในปริมาณ 500 กิโลแคลอรีเท่ากันได้ แต่ผลลัพธ์ที่ได้ต่างกันอย่างมาก คนที่ออกกำลังกายจะสดชื่น แจ่มใส กระปรี้กระเปร่า ส่วนคนที่อดอาหารจะเศร้าซึม เพลีย ไม่ร่าเริง และอยากกินอาหารอยู่ตลอดเวลา ซึ่งผลที่ได้จากการออกกำลังกายย่อมดีกว่าอย่างแน่นอน
หากจะวัดปริมาณแคลอรีว่าเรากินแค่ไหนแล้วควรออกกำลังกายแค่ไหน ในทางปฏิบัติคงทำได้ยาก แต่ร่างกายจะเป็นตัวส่งสัญญาณให้เรารู้ได้เอง หากเริ่มรู้สึกอึดอัดหรือกางเกงตัวเดิมเริ่มใส่ไม่ได้ เป็นสัญญาณบอกว่า ปริมาณพลังงานไขมันที่เรากินเข้าไปเริ่มมากกว่ากระบวนการเผาผลาญ การนำพลังงานไปใช้ทำให้เกิดการสะสมของไขมันขึ้นในร่างกาย
เพราะฉะนั้นหากไม่ต้องการให้ไขมันสะสมจนทำให้น้ำหนักเกินจนอ้วน ก็ต้องหมั่นออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายนำไขมันสะสมออกไปใช้
วิธีที่ดีที่สุดในการออกกำลังกายเพื่อสลายไขมันคือการ"เดิน" โดยการเดินเร็วกว่าปกติแต่ไม่ถึงกับวิ่ง เพื่อให้ร่างกายดึงไขมันออกมาใช้ได้มากที่สุด แต่คนเรามักอ้างว่าไม่มีเวลา ยุ่งอยู่กับงาน ก็สามารถออกกำลังกายในที่ทำงานได้ เช่น เดินขึ้นลงบันไดแทนลิฟต์ หมั่นลุกขึ้นเดินเคลื่อนไหวร่างกาย ไม่ใช่นั่งจมอยู่แต่หน้าคอมพิวเตอร์หรือโต๊ะทำงาน
ที่สำคัญการเลือกรับประทานอาหารเพื่อไม่ให้น้ำหนักเพิ่มนั้น นอกจากเลี่ยงอาหารไขมันสูง ต้องกินอาหารให้หลากหลาย กินในปริมาณที่พอดี เช่น ขนมเค้กก็กินเพียงให้พอรู้รสชาติเพราะใน 1 มื้อยังมี อาหารที่ต้องกินอีกหลายอย่าง พอมารวมกันก็จะมีปริมาณสารอาหารที่ร่างกายต้องการเกินพอดี และเมื่อรู้ตัวว่ากินอาหารมากกว่าปกติก็ต้องอาศัยการออกกำลังกายเพื่อช่วยไม่ให้น้ำหนักเพิ่มเกินงาม
หากทำได้อย่างนี้ไม่ว่าเทศกาลไหนๆ เราก็ยังจะมีหุ่นสวย สุขภาพดีไปอีกนาน
ข้อมูลจากข่าวสด ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต
Create Date : 26 เมษายน 2552 |
Last Update : 26 เมษายน 2552 10:44:06 น. |
|
2 comments
|
Counter : 1393 Pageviews. |
|
|
|
แต่หนูกำลังลดน้ำหนักด้วยการเดินเร็ว
กำลังรอผลว่าเป็นไงค่ะ^^