Bloggang.com : ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง : เลือกเครื่องดื่มอย่างไร...ให้ไกลความอ้วน

เลือกเครื่องดื่มอย่างไร...ให้ไกลความอ้วน

* อาหาร แนะอ่านฉลาก-คิดให้ดีก่อนดื่ม

เหตุผล หนึ่งที่ทำให้หลายคนทดท้อว่าทำไมถึงลดน้ำหนักยากนัก อาจเพราะมองข้ามแคลอรีจากเครื่องดื่ม
เมื่อได้ดื่มจนหายกระหายก็มักลืมนึกถึงแคลอรีกัน เลยได้น้ำตาลสะสมเข้าในร่างกายไปด้วยเป็นของแถม
ดังนั้นผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก ก็ควรคิดให้ดีก่อนจะเลือกเครื่องดื่ม ต่างๆ

เหตุผล ที่เราบริโภคน้ำตาลเกินพิกัด เพราะน้ำตาลนั้นอาจแอบแฝงอยู่ในรูปของน้ำเชื่อม ชนิดต่างๆ
น้ำผึ้ง น้ำผลไม้ ฟรุกโตส และกากน้ำตาล ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นพลังงานว่างเปล่า คือให้แค่พลังงานอย่างเดียว
โดยไม่มีวิตามิน แร่ธาตุ และกากใยอาหารเหมือนน้ำตาลธรรมชาติที่พบในผลไม้สดและนม
อย่างไรก็ตามขึ้นชื่อว่าน้ำตาลแล้วไม่มีชนิดไหนดีไปกว่ากัน เพราะให้พลังงาน ใกล้เคียงกัน

ใน น้ำอัดลมต่างๆ ล้วนมีส่วนผสมของน้ำตาล
โดยน้ำตาลทุกๆ 1 ช้อนชา จะเพิ่มพลังงานส่วนเกินแก่ร่างกาย 16 กิโลแคลอรีจากคาร์โบไฮเดรตที่เราไม่ต้องการ
ยิ่ง พวกน้ำผลไม้ 100% แม้จะมีประโยชน์แต่ก็ประกอบด้วยคาร์โบไฮเดรตจากน้ำตาลดื่มมากก็อ้วนได้เช่นกัน
แม้จะให้วิตามินซีสูงแต่ขอให้ดื่มไม่เกินวันละ 120-240 มล. ถ้าดื่มเกินกว่านี้คุณจะได้พลังงานส่วนเกินมาด้วย
ซ้ำยังไม่ได้ใยอาหารและสารอาหารเหมือนกับการทานผลไม้สด

ถ้า คุณเป็นคนหนึ่งที่รักสุขภาพและต้องการลดน้ำหนักหรือควบคุมน้ำหนัก
หากต้องการ เครื่องดื่มสักแก้วควรพิจารณาให้ถี่ถ้วน เช่น ถ้าจะดื่มนมก็หันมาดื่มนมจืดพร่องมันเนย
หรือนมถั่วเหลืองเสริมแคลเซียมไม่เติมน้ำตาล เพราะเป็นเครื่องดื่มที่มีมีคุณค่าทางอาหารสูง
แม้จะมีน้ำตาลปนอยู่แต่ก็ยังได้พลังงานจากโปรตีน เรียกว่าหวานแต่มีคุณค่า

เช่นเดียวกับ น้ำเปล่า น้ำแร่ น้ำโซดา ชาไม่ใส่น้ำตาล ก็เป็นเครื่องดื่มที่ปลอดแคลอรี
ส่วนแอลกอฮอล์ ทั้งไวน์ เบียร์ และเหล้าผสม มีแคลอรีสูงทั้งนั้น
ดังนั้นคุณควรหลีกให้ไกล แค่จิบสองจิบก็เป็นอุปสรรคต่อการลดน้ำหนักได้

สำหรับ ผู้ที่ออกกำลังกายหนักๆ สูญเสียเหงื่อมากย่อมกระหายอยากดื่มเครื่องดื่มเกลือแร่
ถ้าคุณหุ่นดีอยู่แล้วก็ดื่มได้เลยไม่จำเป็นต้องวิตก
แต่ถ้ากำลังควบคุมน้ำหนักตัวหรือผู้เป็นเบาหวาน ควรจำกัดปริมาณการดื่มต่อครั้ง
เพราะเครื่องดื่มประเภทนี้มีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบอยู่มาก

ผู้บริโภคต้องรู้เท่าทันปริมาณน้ำตาล ที่ระบุในฉลากเครื่องดื่มแต่ละยี่ห้อ ซึ่งพอสรุปโดยสังเขปได้ดังนี้

น้ำหวานมีแคลอรีประมาณ 130-120 แคลอรีต่อกระป๋อง
แคลอรีทั้งหมดมาจากน้ำตาลทราย ซึ่งมีอยู่ประมาณ 10 ช้อนชา
ส่วนน้ำชาเขียวชาขาวที่มีส่วนผสมของน้ำตาลมีแคลอรีประมาณ 120-200 แคลอรีต่อขวด (500 มล.)
เครื่องดื่มธัญพืช 1 กล่อง (200 มล.) มีแคลอรีประมาณ 90-110 แคลอรี หรือเท่ากับข้าวสวย 1 ทัพพี

คนที่ชอบดื่มกาแฟเย็น โอเลี้ยง ชาเย็น ชาดำเย็น ต้องคำนึงว่ามีส่วนผสมของน้ำตาลสูงมาก
แต่ละแก้วมีแคลอรีสูงถึง 120-300 แคลอรี ถ้าดื่มบ่อยๆ จะทำให้ได้รับแคลอรีและน้ำตาลเกินได้ง่าย

ส่วนนมเย็นที่มีขายทั่วไปมีส่วนผสมของนมข้นหวานมากกว่านมจืด
และไม่จัดว่าเป็นเครื่องดื่มที่มีคุณค่าทางอาหารสูงเหมือนนมสด

ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตเร่งรีบและคุ้นเคยกับเครื่องดื่มกาแฟ ชา และเครื่องดื่มรสมอลต์แบบสำเร็จรูป 3 In 1
ต้องระวังให้ดีเพราะเครื่องดื่มพวกนี้มีน้ำตาลสูง และมีส่วนผสมของครีมผงที่มีส่วนประกอบของน้ำมันมะพร้าว
ซึ่งมีไขมันอิ่มตัวสูงด้วย จึงควรเลือกเติมนมผงหรือนมสดใส่ในเครื่องดื่มเหล่านี้แทน

เราสามารถตรวจสอบน้ำตาลจากฉลากอาหารบนเครื่องดื่มได้
โดยปริมาณน้ำตาลที่ระบุเป็นปริมาณรวมระหว่างน้ำตาลธรรมชาติ และน้ำตาลหรือน้ำเชื่อมที่เติมลงไปในเครื่องดื่ม
วิธีดูปริมาณน้ำตาลที่ดีที่สุดคือการอ่านส่วนประกอบในอาหารให้ดี และคิดให้ดีก่อนดื่ม

บทความจาก : ประชาชาติธุรกิจ
ที่มา : //www.thaihealth.or.th/node/11279
ภาพจาก : //www.allaboutyou.com/diet-wellbeing/healthy-drinks/gallery

Create Date : 14 ธันวาคม 2552

Last Update : 14 ธันวาคม 2552 11:37:46 น.

0 comments

Counter : 818 Pageviews.