Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
26 ธันวาคม 2551
 
All Blogs
 
อดอย่างไรให้สะอาด สดใส และผอมสวย

ไดเอท ลดน้ำหนัก

Fast to stay Fresh, Beautiful & Slim
การไดเอ็ตคือซูเปอร์ไฮเวย์สู่ความสลิม แต่เชื่อไหมว่าความผอมไม่ใช่ประโยชน์ข้อเดียวของการอด...
เรามีเรื่องราวของการ "อด" อีกแบบที่ไม่จำเป็นต้องทนหิวเป็นเดือนเป็นปีเหมือนการไดเอ็ต
แถมไม่ได้ทำให้ผอมลงอย่างเดียว แต่ยังช่วยขจัดพิษและฟื้นฟูการทำงานในระบบต่าง ๆ ของร่างกาย
ซึ่งจะทำให้ผิวพรรณกลับมาสดใสเปล่งปลั่งดูมีชีวิตชีวา


ทำไมจึงควรอด ?
ก่อนการประปาจะฉีดล้างทำความสะอาดท่อประปาหลัก ต้องหยุดจ่ายน้ำชั่วคราว
เพื่อให้การทำความสะอาดเป็นไปอย่างทั่วถึง การอดหรือ "Fasing" ก็ถือหลักการเดียวกันนี้
คือจำต้องปิดกระแสไหลเวียนของอาหารในร่างกายซักพักหนึ่ง
เพื่อให้กลไกของร่างกายทำความสะอาดตัวเอง
โดยการย่อยอาหารส่วนเกิน ทำลายสารพิษอนุมูลอิสระทั้งหลายแล้วก็กำจัดทิ้งเสีย


ประโยชน์ของการอด แบ่งเป็นข้อใหญ่ ๆ ได้ดังต่อไปนี้

1. ร่างกายได้พักผ่อนในสภาพที่ไม่ต้องย่อยอาหาร
อวัยวะสำคัญอย่างหัวใจ กระเพาะ ลำไส้ ไต ปอด ตับและตับอ่อนก็เสมือนอยู่ในภาวะพักร้อน
ชาร์จไฟเพื่อให้พร้อมกลับมาทำงานใหม่ได้ดีขึ้น

2. ล้างพิษ-กลับสู่ความอ่อนเยาว์
หลังย่อยสลายสารพิษที่เกาะอยู่กับเซลล์เนื้อเยื่อ อวัยวะต่าง ๆ และกำจัดออกไป
ร่างกายเราจะสะอาดเอี่ยมอ่อง เป็นการคืนความอ่อนเยาว์ ช่วยชะลอความชรา

3. ผิวพรรณสดใส
ต่อมไขมันและต่อมเหงื่อได้พักเหนื่อยจึงกลับมาทำงานได้อย่างสมบูรณ์
ผิวพรรณหลังอดจึงเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวลและอ่อนเยาว์ขึ้น เป็นความสดใสที่มาจากความสมบูรณ์ข้างใน

4. สลายไขมันส่วนเกิน
นอกจากนี้ระหว่างอด กระเพาะอาหารจะหดตัวกลับสู่ภาวะปกติ
หลังจากยืดตัวออกเพื่อรับอาหารที่ล้นเกินวันละหลายมื้อ
หลังจากอดเราจึงอิ่มง่ายขึ้น และควบคุมการกินในอนาคตได้



อดอย่างไร ?

คำว่าอดในที่นี้หมายถึงการกินไม่มากไปกว่าวันละ 800 กิโลแคลอรี่ จึงทำให้หลายวิธี
ตั้งแต่กินผลไม้ทั้งวัน ดื่มน้ำผลไม้ทั้งวัน กินผลไม้กับดื่มน้ำผลไม้ทั้งวัน รวมทั้งไม่กินอะไรเลยนอกจากน้ำ

ระยะเวลาในการอดมีตั้งแต่ครึ่งวันในตอนเช้าไปจนอดหลายวัน
แต่สำหรับการเริ่มต้น น่าจะลองอดให้ได้ซัก 1 วันเต็ม
วันที่อดควรเป็นวันที่อยู่บ้าน และเริ่มตั้งแต่เช้าวันใหม่ไปจนถึงเช้าอีกวัน จึงเลิกอด

- กินผลไม้อย่างเดียว
เลือกผลไม้ที่ชอบ แต่ต้องไม่ใช่พวกคาร์โบไฮเดรตสูงอย่างทุเรียน น้อยหน่า ลิ้นจี่ ลำไย ขนุน
ซึ่งกินแล้วกระเพาะไม่ได้พัก กลับต้องทำงานหนักกว่าเดิม
กินผลไม้ที่ชอบเป็นอาหารเช้า กลางวันและเย็น
หากหิวสามารถดื่มน้ำผลไม้นั้น ๆ ที่คั้นสดโดยไม่เติมน้ำตาลเป็นของว่างได้

- อดมื้อเช้า
แน่นอนว่ามื้อเช้าเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญของทั้งวัน
แต่ความจริงอีกอย่าง
คือช่วงเวลานับตั้งแต่มื้อเย็นจนกระทั่งถึงเช้าวันใหม่ เป็นช่วงที่เราได้อดนาน 10-12 ชั่วโมง
จึงมีสารพิษออกจากเนื้อเยื่อมาอยู่ในกระแสเลือดเพื่อรอการขับออก
จึงมีอาการเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวในตอนเช้า
หากมีการกินเกิดขึ้นตอนนี้ กระบวนการล้างพิษของร่างกายก็จะหยุดชะงัก สารพิษกลับเข้าสู่เซลล์
อาการไม่สบายก็จะหายไป เราจึงรู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นหลังกินอาหาร
ในทางกลับกัน ถ้าต้องการให้ร่างกายขับพิษออกมาอย่างต่อเนื่องทางเหงื่อ ปัสสาวะ ลมหายใจ
และระบบน้ำเหลือง ก็ต้องอดต่อไปอีกซัก 5-6 ชั่วโมง
การล้างพิษด้วยการอดอาหารเช้าแบบนี้ควรทำต่อเนื่องกัน 7 วัน

- ไม่กินอะไรเลย
โดยหลักการแล้วการอดแบบนี้จะเกิดผลเร็วและมีประสิทธิภาพสูง
ขจัดสารพิษออกจากร่างกายได้อย่างเกลี้ยงเกลา
ควรอดในวันที่ 3 ก่อนวันพระจันทร์เต็มดวง และวันที่ 3 ก่อนวันพระจันทร์ดับ
เพราะสองวันนี้เป็นวันที่แรงดึงดูดของดวงจันทร์ มีอิทธิพลต่อระดับน้ำในร่างกายของเรามากที่สุด
กล่าวคือในสองวันนั้นสมองมีน้ำไปเลี้ยงมาก ซึ่งอาจส่งผลให้อารมณ์ของเราแปรปรวณ ฉุนเฉียว
การอดวันนี้จึงช่วยให้เราคูลดาวน์ลงได้ด้วย



เมื่อไรจะเลิกอด ?
ครบกำหนดแล้วอย่าเพิ่งผลีผลามกินอะไรหนัก ๆ เยอะ ๆ ให้เริ่มด้วยการดื่มน้ำสองลิตร
แต่ละลิตรบีบมะนาวลงไป 2 ผล ตามด้วยเกลืออีก 1 ช้อนชา เขย่าให้เข้ากัน ดื่มให้หมด
จากนั้นก็กินกล้วยน้ำว้าสุกครึ่งผล กัดทีละคำ กลืนโดยไม่ต้องเคี้ยว
กล้วยจะทำตัวเป็นผ้าขี้ริ้ว กวาดเอาสารพิษที่ตกค้างในทางเดินอาหารออกจากร่างกาย
หลังจากกินกล้วย พักซักครึ่งชั่วโมงแล้วค่อยเริ่มอาหารเช้าเบา ๆ ที่ย่อยง่าย
ถ้าเป็นได้ควรปรุงจากผักสดและผลไม้
เมื่อจะอาบน้ำ ควรใช้เส้นใยธรรมชาติอย่างใยบวบ ขัดถูผิวหนังเพื่อเปิดรูขุมขน ต่อมเหงื่อ
และต่อมไขมันให้สะอาดสดใส
หลังจากนั้นก็เริ่มต้นการกินอย่างสมดุล เพื่อรักษาสุขภาพและน้ำหนักใหม่ต่อไปด้วย



อดบ่อยแค่ไหนถึงจะดี ?
ไม่เฉพาะแต่คนอ้วนที่ควรจะอด ร่างกายเราทุกคนล้วนมีสารพิษ มีสิ่งสกปรกที่ตกค้าง
และหมักหมมอยู่ในตัวกันทั้งนั้น การอดอย่างถูกวิธี ไม่มีอันตรายและสามารถทำได้บ่อยเท่าที่ต้องการ
ถ้าอยากลองดู น่าจะเริ่มจากรูปแบบที่คิดว่าพอจะทำได้ก่อน
แพทย์ทางธรรมชาติบำบัดแนะนำว่า น่าจะอดแบบ 1 วันทุก ๆ 6 เดือน
แต่ในคนที่มีโรคเรื้อรังน่าจะลองที่ 2-3 เดือนหน
และสำหรับคนที่มีอาการของโรคเฉียบพลันควรแทรกด้วยการอดแบบ 24 ชั่วโมง
หรืออดอาหารเช้าต่อเนื่อง 7 วัน


เห็นไหมว่า การอดอย่างมีหลักการนั้นให้ผลดีกับร่างกายอย่างไม่น่าเชื่อ
อย่างไรก็ตาม หากจะลองอดดูก็ควรจะปฏิบัติตามกติกาของการอดอย่างจริงจัง
พร้อมทั้งสังเกตอาการก่อนและหลังการอด พร้อมกับความเปลี่ยนแปลงของร่างกายด้วย
อ้อ!! อย่าลืมชั่งน้ำหนักก่อนและหลังอดอาหารด้วยนะคะ (จะได้มีกำลังใจอดอีกไงคะ)


ขอขอบคุณข้อมูลดี ๆ มีประโยชน์จาก WOW Fitness Magazine
ภาพจาก : //www.fotosearch.com


สารบัญ ลดอ้วน ลดน้ำหนัก



Create Date : 26 ธันวาคม 2551
Last Update : 4 สิงหาคม 2554 19:48:22 น. 0 comments
Counter : 869 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.