อดอย่างไรให้สะอาด สดใส และผอมสวย
Fast to stay Fresh, Beautiful & Slim การไดเอ็ตคือซูเปอร์ไฮเวย์สู่ความสลิม แต่เชื่อไหมว่าความผอมไม่ใช่ประโยชน์ข้อเดียวของการอด... เรามีเรื่องราวของการ "อด" อีกแบบที่ไม่จำเป็นต้องทนหิวเป็นเดือนเป็นปีเหมือนการไดเอ็ต แถมไม่ได้ทำให้ผอมลงอย่างเดียว แต่ยังช่วยขจัดพิษและฟื้นฟูการทำงานในระบบต่าง ๆ ของร่างกาย ซึ่งจะทำให้ผิวพรรณกลับมาสดใสเปล่งปลั่งดูมีชีวิตชีวา
ทำไมจึงควรอด ? ก่อนการประปาจะฉีดล้างทำความสะอาดท่อประปาหลัก ต้องหยุดจ่ายน้ำชั่วคราว เพื่อให้การทำความสะอาดเป็นไปอย่างทั่วถึง การอดหรือ "Fasing" ก็ถือหลักการเดียวกันนี้ คือจำต้องปิดกระแสไหลเวียนของอาหารในร่างกายซักพักหนึ่ง เพื่อให้กลไกของร่างกายทำความสะอาดตัวเอง โดยการย่อยอาหารส่วนเกิน ทำลายสารพิษอนุมูลอิสระทั้งหลายแล้วก็กำจัดทิ้งเสีย
ประโยชน์ของการอด แบ่งเป็นข้อใหญ่ ๆ ได้ดังต่อไปนี้
1. ร่างกายได้พักผ่อนในสภาพที่ไม่ต้องย่อยอาหาร อวัยวะสำคัญอย่างหัวใจ กระเพาะ ลำไส้ ไต ปอด ตับและตับอ่อนก็เสมือนอยู่ในภาวะพักร้อน ชาร์จไฟเพื่อให้พร้อมกลับมาทำงานใหม่ได้ดีขึ้น
2. ล้างพิษ-กลับสู่ความอ่อนเยาว์ หลังย่อยสลายสารพิษที่เกาะอยู่กับเซลล์เนื้อเยื่อ อวัยวะต่าง ๆ และกำจัดออกไป ร่างกายเราจะสะอาดเอี่ยมอ่อง เป็นการคืนความอ่อนเยาว์ ช่วยชะลอความชรา
3. ผิวพรรณสดใส ต่อมไขมันและต่อมเหงื่อได้พักเหนื่อยจึงกลับมาทำงานได้อย่างสมบูรณ์ ผิวพรรณหลังอดจึงเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวลและอ่อนเยาว์ขึ้น เป็นความสดใสที่มาจากความสมบูรณ์ข้างใน
4. สลายไขมันส่วนเกิน นอกจากนี้ระหว่างอด กระเพาะอาหารจะหดตัวกลับสู่ภาวะปกติ หลังจากยืดตัวออกเพื่อรับอาหารที่ล้นเกินวันละหลายมื้อ หลังจากอดเราจึงอิ่มง่ายขึ้น และควบคุมการกินในอนาคตได้
อดอย่างไร ?
คำว่าอดในที่นี้หมายถึงการกินไม่มากไปกว่าวันละ 800 กิโลแคลอรี่ จึงทำให้หลายวิธี ตั้งแต่กินผลไม้ทั้งวัน ดื่มน้ำผลไม้ทั้งวัน กินผลไม้กับดื่มน้ำผลไม้ทั้งวัน รวมทั้งไม่กินอะไรเลยนอกจากน้ำ
ระยะเวลาในการอดมีตั้งแต่ครึ่งวันในตอนเช้าไปจนอดหลายวัน แต่สำหรับการเริ่มต้น น่าจะลองอดให้ได้ซัก 1 วันเต็ม วันที่อดควรเป็นวันที่อยู่บ้าน และเริ่มตั้งแต่เช้าวันใหม่ไปจนถึงเช้าอีกวัน จึงเลิกอด
- กินผลไม้อย่างเดียว เลือกผลไม้ที่ชอบ แต่ต้องไม่ใช่พวกคาร์โบไฮเดรตสูงอย่างทุเรียน น้อยหน่า ลิ้นจี่ ลำไย ขนุน ซึ่งกินแล้วกระเพาะไม่ได้พัก กลับต้องทำงานหนักกว่าเดิม กินผลไม้ที่ชอบเป็นอาหารเช้า กลางวันและเย็น หากหิวสามารถดื่มน้ำผลไม้นั้น ๆ ที่คั้นสดโดยไม่เติมน้ำตาลเป็นของว่างได้
- อดมื้อเช้า แน่นอนว่ามื้อเช้าเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญของทั้งวัน แต่ความจริงอีกอย่าง คือช่วงเวลานับตั้งแต่มื้อเย็นจนกระทั่งถึงเช้าวันใหม่ เป็นช่วงที่เราได้อดนาน 10-12 ชั่วโมง จึงมีสารพิษออกจากเนื้อเยื่อมาอยู่ในกระแสเลือดเพื่อรอการขับออก จึงมีอาการเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวในตอนเช้า หากมีการกินเกิดขึ้นตอนนี้ กระบวนการล้างพิษของร่างกายก็จะหยุดชะงัก สารพิษกลับเข้าสู่เซลล์ อาการไม่สบายก็จะหายไป เราจึงรู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นหลังกินอาหาร ในทางกลับกัน ถ้าต้องการให้ร่างกายขับพิษออกมาอย่างต่อเนื่องทางเหงื่อ ปัสสาวะ ลมหายใจ และระบบน้ำเหลือง ก็ต้องอดต่อไปอีกซัก 5-6 ชั่วโมง การล้างพิษด้วยการอดอาหารเช้าแบบนี้ควรทำต่อเนื่องกัน 7 วัน
- ไม่กินอะไรเลย โดยหลักการแล้วการอดแบบนี้จะเกิดผลเร็วและมีประสิทธิภาพสูง ขจัดสารพิษออกจากร่างกายได้อย่างเกลี้ยงเกลา ควรอดในวันที่ 3 ก่อนวันพระจันทร์เต็มดวง และวันที่ 3 ก่อนวันพระจันทร์ดับ เพราะสองวันนี้เป็นวันที่แรงดึงดูดของดวงจันทร์ มีอิทธิพลต่อระดับน้ำในร่างกายของเรามากที่สุด กล่าวคือในสองวันนั้นสมองมีน้ำไปเลี้ยงมาก ซึ่งอาจส่งผลให้อารมณ์ของเราแปรปรวณ ฉุนเฉียว การอดวันนี้จึงช่วยให้เราคูลดาวน์ลงได้ด้วย
เมื่อไรจะเลิกอด ? ครบกำหนดแล้วอย่าเพิ่งผลีผลามกินอะไรหนัก ๆ เยอะ ๆ ให้เริ่มด้วยการดื่มน้ำสองลิตร แต่ละลิตรบีบมะนาวลงไป 2 ผล ตามด้วยเกลืออีก 1 ช้อนชา เขย่าให้เข้ากัน ดื่มให้หมด จากนั้นก็กินกล้วยน้ำว้าสุกครึ่งผล กัดทีละคำ กลืนโดยไม่ต้องเคี้ยว กล้วยจะทำตัวเป็นผ้าขี้ริ้ว กวาดเอาสารพิษที่ตกค้างในทางเดินอาหารออกจากร่างกาย หลังจากกินกล้วย พักซักครึ่งชั่วโมงแล้วค่อยเริ่มอาหารเช้าเบา ๆ ที่ย่อยง่าย ถ้าเป็นได้ควรปรุงจากผักสดและผลไม้ เมื่อจะอาบน้ำ ควรใช้เส้นใยธรรมชาติอย่างใยบวบ ขัดถูผิวหนังเพื่อเปิดรูขุมขน ต่อมเหงื่อ และต่อมไขมันให้สะอาดสดใส หลังจากนั้นก็เริ่มต้นการกินอย่างสมดุล เพื่อรักษาสุขภาพและน้ำหนักใหม่ต่อไปด้วย
อดบ่อยแค่ไหนถึงจะดี ? ไม่เฉพาะแต่คนอ้วนที่ควรจะอด ร่างกายเราทุกคนล้วนมีสารพิษ มีสิ่งสกปรกที่ตกค้าง และหมักหมมอยู่ในตัวกันทั้งนั้น การอดอย่างถูกวิธี ไม่มีอันตรายและสามารถทำได้บ่อยเท่าที่ต้องการ ถ้าอยากลองดู น่าจะเริ่มจากรูปแบบที่คิดว่าพอจะทำได้ก่อน แพทย์ทางธรรมชาติบำบัดแนะนำว่า น่าจะอดแบบ 1 วันทุก ๆ 6 เดือน แต่ในคนที่มีโรคเรื้อรังน่าจะลองที่ 2-3 เดือนหน และสำหรับคนที่มีอาการของโรคเฉียบพลันควรแทรกด้วยการอดแบบ 24 ชั่วโมง หรืออดอาหารเช้าต่อเนื่อง 7 วัน
เห็นไหมว่า การอดอย่างมีหลักการนั้นให้ผลดีกับร่างกายอย่างไม่น่าเชื่อ อย่างไรก็ตาม หากจะลองอดดูก็ควรจะปฏิบัติตามกติกาของการอดอย่างจริงจัง พร้อมทั้งสังเกตอาการก่อนและหลังการอด พร้อมกับความเปลี่ยนแปลงของร่างกายด้วย อ้อ!! อย่าลืมชั่งน้ำหนักก่อนและหลังอดอาหารด้วยนะคะ (จะได้มีกำลังใจอดอีกไงคะ)
ขอขอบคุณข้อมูลดี ๆ มีประโยชน์จาก WOW Fitness Magazine ภาพจาก : //www.fotosearch.com
สารบัญ ลดอ้วน ลดน้ำหนัก
Create Date : 26 ธันวาคม 2551 |
Last Update : 4 สิงหาคม 2554 19:48:22 น. |
|
0 comments
|
Counter : 869 Pageviews. |
|
|
|
|
|