สุดท้ายตอนที่ 11 ถนนสายนี้มีตะพาบ กม. 83 : โชคดีเกิดเป็นอุ้ม อยากจะเดินทางไกลเราก็ไปมันดุ่ย ดุ่ย
เมื่อคืนพี่อ้อ เริงฤดีนะ มานอนบ้านถามว่า ไม่ UP BLOG ตะพาบ'83 เหรอ วันนี้วันสุดท้าย อ้าว...เมื่อพี่อ้อเขี่ยบอลมาคุณนายอุ้มสีชีเลยจัดให้แบบจัดเต็ม UP BLOG เรื่องความโชคดีละกันเน๊าะ ว่าแล้วมาลงล็อคแบบพอดีเข้ากับเพลงดุ่ยดุ่ยด้วยภาพส่งท้ายตอนที่ 11 ที่ อบต.บางน้ำผึ้ง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ 3 IN 1ตามสไตล์คุณนายอุ้มซะเลยค่ะ ภาพ เพลง และตะพาบเนื้อเพลง : ดุ่ยดุ่ย : วงที-โบนอยากจะทำอะไรเราก็ทำไปตามใจ อยากจะเดินทางใดเราก็ไปมันดุ่ยๆ เมฆมันดูปุยๆ เราก็ลุยไปตามทาง...ทางของเรา 55 โลกมันดูเกินๆ เราก็เดินไปทำฟัน อยากจะนอนกลางวันเราว่ามันสบายดี แต่ยังเป็นคนดีถึงเราไม่เป่าปี่แต่ก็มีขลุ่ย 55เราจะเดินทางใดทางไปมันก็มีเยอะ เราจะเดินทางใดยังไงมันก็ไม่ผิด คนมันคนละคนๆ ละทางคนละความคิด คนมันคนละคนๆ ใจใครก็มีสิทธิ์ ไปซาะลาเจโว โอ้ะโน ยูก็ไปไหน ไปเปอร์โตริโก ทำไม ไปเปอร์โตริโก ไปกินเย็นตาโฟริมทางข้างกะโกโก้ กินกันจนพุงโต พุงโล แล้วก็ไปต่ออยากจะทำอะไรเราก็ทำไปตามใจ อยากจะเดินทางใดเราก็ไปมันดุ่ยๆ เมฆมันดูปุยๆ เราก็ลุยไปตามทาง...ทางของเรา โลกมันดูเกินๆ เราก็เดินไปทำฟัน อยากจะนอนกลางวันเราว่ามันสบายดี แต่ยังเป็นคนดีถึงเราไม่เป่าปี่แต่ก็มีขลุ่ย 55เราจะเดินทางใดทางไปมันก็มีเยอะ เราจะเดินทางใดยังไงมันก็ไม่ผิด คนมันคนละคนๆ ละทางคนละความคิด คนมันคนละคนๆ ละใจใครก็มีสิทธิ์ โดริโมโกะโต๊ะ ไชโย มีแต่โซนี้ กะมีก้าเกียวโต โอ้ะโอ่ว นั่งอยู่บนตึก ไมเคิ้ลแองเจโร เซย์โนว์ ผมไม่เคยนึก อาร์ยูว้อนอะโก เกียวโต ผมไม่รู้จักอยากจะทำอะไรเราก็ทำไปตามใจ อยากจะเดินทางใดเราก็ไปมันดุ่ยๆ เมฆมันดูปุยๆ เราก็ลุยไปตามทาง...ทางของเรา 55 โลกมันดูเกินๆ เราก็เดินไปทำฟัน อยากจะนอนกลางวันเราว่ามันสบายดี แต่ยังเป็นคนดีถึงเราไม่เป่าปี่แต่ก็มีขลุ่ย คนตัวใหญ่ตัวโตบางคนอยากเป็นแรมโบ้ พอไปเจออาโนล ทีไรก็กลายเป็นเด็ก ปลากินตัวโตๆ ยังไงก็กินปลาเล็ก กินกันจนพุงโตไงก็ไม่เคยอิ่ม เราจะเดินทางใดทางไปมันก็มีเยอะ เราจะเดินทางใดยังไงมันก็ไม่ผิด คนมันคนละคนๆ ละทางคนละความคิด คนมันละคนๆ ละใจใครก็มีสิทธิ์หลายคนคงอิจฉาในความโชคดีที่เกิดมาเป็นอุ้มที่ได้ไปตะลอนทัวร์ในที่ต่างๆ อย่างมีความสุข เป็นความโชคดีที่เกิดเป็นน้องพี่อ้อและน้องพี่อ้อมเน๊าะ น้าน...ชงกันเอง อิอิอิ แบบมุมที่เหนื่อยรันทดสาหัสก็จะไม่เห็นที่บล็อกอุ้มสีดอกเจ้าค่ะแบบว่าจะเม้าธ์กับเจ้าน้องอุ้มสองคนแต่ก็นับเป็นความโชคดีที่ได้เกิดเป็นลูกสาวของคุณแม่จิราพรกับคุณชายทวีเน๊าะ เป็นหลานคุณปู่ที่เป็นทหารก็เลยจะชอบไปไหนมาไหนคนเดียวไม่ยืมจมูกคนอื่นหายใจเจ้าค่ะ โชคดีสุดสุดเลยค่ะคุณนายอุ้มสีว่าแล้วก็ชมภาพงามส่งท้ายเป็นการลัดเลาะริมคลองบางน้ำผึ้ง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ตรงข้ามกทม. เรานี้เองแค่ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยามาก็เจอบรรยากาศบริสุทธิ์เติมโอโซนให้กับชีวิตได้เป็นอย่างดีเจ้าค่ะมาปั่นจักรยานดุ่ยดุ่ยตามอุ้มกันเน๊าะพี่น้องหมู่เฮา ภาพถ่ายเมื่อวันที่ 15 เมษายน 2556 เจ้าค่ะ วันนั้นบรรยากาศฝนตกปรอยปรอยฟ้าเลยดูหม่นไม่ใสฟ้าไม่เปิดเลยค่ะเข้ามาสู่ตอนที่ 11 ประวัติของอบต.บางน้ำผึ้งคงไม่ต้องนำมาบอกอีกแล้วเน๊าะ หาอ่านย้อนหลังได้เลยนะคะ สำหรับทริปนี้เห็นภาพอุ้มเยอะเพราะปั่นจักรยานมากับป้าปุ๊ย บ้านริมสวนกันสองคน ในเมื่อป้าไม่ขอออกสื่อป้าปุ๊ยเลยเป็นช่างภาพจำเป็น ฉก. ให้อุ้มภาพเลยเพียบค่ะสิ่งหนึ่งที่ได้มาพักที่นี่ได้เรียนรู้ว่าชุมชนบางน้ำผึ้งเป็นชุมชนที่บริหารจัดการได้อย่างเข้มแข็ง เป็นชุมชนที่ดูแลระบบนิเวศตลอดทั้งมีการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ของท้องถิ่นที่เป็นปึกแผ่นและมั่นคงได้เห็นถึงความก้าวหน้าและความเจริญควบคู่กับการพัฒนาได้อย่างลงตัวที่สุด...ชอบจัง เป็นการเที่ยวเมืองไทยไม่ไปไม่รู้จริงๆ เลยค่ะ เมื่อมาสัมผัสถึงวิถีชีวิตของชาวบางน้ำผึ้งน่ารักและอบอุ่นอุ้มนั่งเรือดูหิ่งห้อยมาแล้วค่ะ หิ่งห้อยเยอะมากเจ้าค่ะ สุดยอด แค่ปริมณฑล กทม. ก็มีหิ่งห้อยให้ดูเยอะจริงๆ เพียบ แหล่มเลยสิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดว่าความเจริญชุมชนนี้เกิดจากผู้หญิงคนนี้มีส่วนร่วมมากเลยค่ะ ท่านเป็นผู้ใหญ่บ้านอาภรณ์ พานทองค่ะ ป้าปุ๊ยทำไมถ่ายภาพคู่อุ้มไหวเนี่ยหากมาบางน้ำผึ้งอยากพักโฮมสเตย์ที่ได้จอยกับกลุ่มชุมชนชาวบ้าน ก็แวะมาพักได้ที่บางน้ำผึ้งโฮมสเตย์ ซึ่งที่นี่เกิดจากการรวมตัวกันของชาวบ้านหมู่ 3 กับหมู่ 4 ของตำบลบางน้ำผึ้ง ก่อตั้งขึ้นเป็นรัฐวิสาหกิจชุมชนโดยมีประธานคือ ผู้ใหญ่อาภรณ์ พานทอง และครูมะลิ พูนสวัสดิ์ค่ะ ลักษณะเด่นของโฮมสเตย์ของที่นี่เน้นการมาสัมผัสกับวิถีชีวิตชาวบ้านบางน้ำผึ้ง ที่บางน้ำผึ้งโฮมสเตย์จะเปิดรับนักท่องเที่ยวเฉพาะวันเสาร์อาทิตย์เท่านั้นค่ะ วันธรรมดาปิดนะคะ ยกเว้นกลุ่มนักเรียนนักศึกษาที่จะมาอบรม ดูงาน หรือวิจัย ที่ต้องใช้เวลามากกว่า 3 วัน 2 คืนกลุ่มรัฐวิสาหกิจชุมชนบางน้ำผึ้งโฮมสเตย์ มีทั้งหมด 10 หลังด้วยกันค่ะ ทุกหลังคิดค่าใช้จ่ายเท่ากันหมด คือ 350 บาท/คน/วัน มีที่พัก อาหารเย็น และอาหารเช้าให้ ถ้าต้องการตักบาตรตอนเช้าก็จะมีอาหารใส่บาตรให้แต่ต้องแจ้งล่วงหน้าด้วยนะคะ และถ้าต้องการนั่งเรือชมหิ่งห้อยตอนกลางคืนก็เพิ่ม 50 บาท/คน ก็ต้องแจ้งล่วงหน้าเช่นกันค่ะ หรือถ้าอยากปั่นจักรยานกินลมชมวิวทางโฮมสเตย์ก็มีจักรยานไว้บริการค่ะ 30 บาท / คัน / วัน ติดต่อสอบถามได้ที่ : ผู้ใหญ่บ้านอาภรณ์ พานทอง 08-9807-2501ป้าปุ๊ยบอกว่านี่ก็เป็นโฮมสเตย์ที่กำลังจะเปิดให้พักอีกที่หนึ่งค่ะบรรยากาศความของวิถีชีวิตชาวบางน้ำผึ้งค่ะอุ้มยังหานามบัตรที่คุณลุงให้ไว้ไม่เจอ ติดไว้ก่อนเดี๋ยวอุ้มขอไปคุ้นข้อมูลมาใส่ทีหลังนะคะน้องหมาน่ารักว่าแล้วเดินผ่านบ้านคุณลุงไปถ่ายธงชาติที่ท่าเรือริมน้ำเจ้าพระยาค่ะชอบจังมีความสุขกับท่องเที่ยวธรรมชาติแบบนี้จังค่ะนี่ก็เป็นโฮมสเตย์อีกแห่งหนึ่งที่ใกล่จะเปิดให้พักค่ะก่อนกลับไปยังบ้านป้าปุ๊ย ป้าเขาพาแวะมาชมสีเขียวที่นี่ค่ะมาดูสีเขียวขจีของแมกไม้และเส้นทางเดินธรรมชาติกันค่ะกฏของที่นี่ทุกคนชาวบางน้ำผึ้งปฏิบัติกันอย่างเคร่งครัดก็คือ "ห้ามตัดต้นไม้ทุกต้น" เพราะว่าต้นไม้ทุกต้นในผืนดินผืนนี้มีสิทธิ์ที่จะมีชีวิตอยู่และเติบโตเช่นเดียวกับสิ่งมีชีวิตทุกชนิดงามแบบอวบระยะเบื้องต้น 555ภาพส่งท้ายของการมาตะลอนทัวร์ 13-15 เมษายน 2556 ก็มาจบลงตอนที่ 11 นี้ค่ะ ซาบซึ้งและอบอุ่นมากค่ะคิดไม่ผิดที่เลือกมาบางน้ำผึ้ง เป็นการมาดุ่ยดุ่ยที่ประทับใจอีกทริปหนึ่ง ช่างโชคดีที่เกิดเป็นคุณนายอุ้มสี อยากจะเดินทางไกลเราก็ไปมันดุ่ย ดุ่ยทางของเรา BLOG หน้าไปเที่ยวแบบสำนึกรักษ์บ้านเกิดกันที่จ.อุบลราชธานีเน๊าะพี่น้องขอขอบคุณ banner : คุณ no filling / BG & กรอบ : น้อง KungGuenter / กล่องเขียนคอมเม้นท์ : คุณ lozocat เพลง : ดุ่ย ดุ่ย : วงที-โบน โค้ดแต่ง BLOG : ป้ามด & น้องดอกหญ้าเมืองเลย / ดุ๊กดิ๊ก : คุณยายชมพร & คุณญามี่ & คุณเนยสีฟ้า
Create Date : 23 มิถุนายน 2556
87 comments
Last Update : 25 มิถุนายน 2556 9:11:41 น.
Counter : 4653 Pageviews.