Group Blog |
ทัวร์ลำพัง กับการออกเดินทางตามหาสายหมอก เขาค้อ-ภูเรือ-เชียงคาน คนเดียวก็เฟี้ยวได้ สวัสดีค่ะเพื่อนๆ วันนี้นักเดินทางตัวน้อยขอมาแชร์ประสบการณ์การเดินทางอีกครั้งหลังจากหายไปจากการรีวิวไปนาน ทริปนี้ส่งท้ายปี 3เดือนแล้ว เขียนเก็บไว้ แต่เพิ่งมีเวลามานั่งพิมพ์ค่ะ ในทุกๆเรื่องที่แจ๊คเล่ามักจะมีสาระอยู่น้อยมาก แต่แอบหวังว่าจะสร้าง แรงบันดาลใจให้ใครบางคนอยากออกเดินทาง และขอบคุณเพื่อนๆที่สละเวลามาอ่านกันค่ะ Hey!! Hey Hey เวลาของการเดินทางเริ่มขึ้นูอีกแล้ว ร่างกายต้องการธรรมชาติอย่างหนัก ความเบื่อเมืองหลวงเริ่มกัดกร่อนหัวใจ ปีนี้ภาระงานก็เยอะมากกกก จัดว่าเครียดมากเลยค่ะ แจ๊คนี่นับวันรอเลย หยุดปีใหม่สิบกว่าวันเนี่ยมันสวรรค์ชัดๆ ทริปส่งท้ายปี57 วันที่ 25-30ธันวาคม2557 ขณะที่เราเดินทาง หลายๆคนยังนั่งทำงานกันอยู่เลยต้องไปคนเดียว ทริปยาวๆแบบนี้ เมื่อไรจะมีใครมีเวลาไปกับเราบ้างนะ น่อววววว 555 เชื่อมั้ยว่าทริปมั่วๆทริปนี้เกิดจากการไม่มีเวลาหาข้อมูลใดๆ ถ้าถามถึงที่พัก ก็เตรียมแล้ว เตรียมไปหาเอาข้างหน้า ทัวร์ลำพังด้วย ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงเสมอตามหัวใจเรียกร้อง แจ๊คไปช่วงที่คนเค้ายังทำงานอยู่ ที่พักต้องมีแน่ๆ ปีนี้ขับรถไปเองก็เลยชิลค่ะ ยังไงก็ได้ (*****หลายๆที่ที่เคยไปก่อนหน้านี้ จะนั่งรถทัวร์รถสองแถว ต้องหาข้อมูลเยอะหน่อย การเดินทางจะได้ไม่ทุลักทุเลมากนัก ที่พักก็ดูๆข้อมูลไว้บ้าง) คิดไว้ว่าอยากไปทางภาคอิสานบ้าง ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะไปไหนดี อยากขึ้นภูกระดึงด้วย แต่ไม่มีเพื่อนเดินขึ้น เอาตรงๆเลยนะ ชีวิตของนักเดินทางตัวน้อยที่ดูโลดโผน เธอไม่เคยเกรงกลัวอะไร เดินทางคนเดียวตลอด แต่ภูกระดึงนี่ยอมอ่ะ ไม่กล้าเดินขึ้นคนเดียว รู้สึกแปลกๆถ้าเราจะไปคนเดียว ตัดใจละกัน5555 คิด คิด คิด คิด คิด คิดไรไม่ออก อ๋อออออออเราเคยขับไปภูทับเบิกมาแล้ว ไม่ต้องดูข้อมูลอะไรเยอะเพราะมีข้อมูลอยู่ในหัวว่าเป็นเส้นทางเดียวกัน คนส่วนใหญ่ก็เดินทางเส้นทางนี้ เส้นทางทริปส่งท้ายปีก็เลยออกมาเป็นแบบนี้ เขาค้อเพราะอยากได้ภาพทะเลหมอกเห็นในเน็ตมันสวยมากอ่ะ วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว เป็นศิลปะแนวไหนไม่รู้นะแต่สวยมาก อยากไปเห็นด้วยตา ภูเรือพระอาทิตย์ขึ้นกับทะเลหมอกมันสวยสุดๆเคยมีพี่ถ่ายมาให้ดู เชียงคานที่นี่มีเรื่องราวมากมาย จากคนแปลกหน้ากลายเป็นคนคุ้นเคย ถ้าใครเคยอ่านรีวิวเชียงคานของแจ๊คจะรู้ค่ะ ไปเพราะคิดถึง การเดินทางมันเกิดขึ้นหลังจากเสร็จภาระกิจรำอวยพรปีใหม่ที่โรงเรียน1วัน แอบเอาภาพมาให้ดูด้วย5555 ไม่เคยคิดเลยว่าสาวชาวร็อคอย่างแจ๊คจะมีภาพแบบนี้ ฮามั้ยล่ะ รำก็แข็งๆลืมท่าบ้างแต่ขอชุดจัดเต็มไว้ก่อน  มันเป็นภาพหายากนะ กลับมาตอนเย็นแจ๊คก็จัดแจงเก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า นอนกี่ชั่วโมงก็ไม่รู้ ตื่นมาอาบน้ำแต่งตัว 25/12/2557 ตี 4 ฤกษ์งามยามดี ได้เวลาล้อหมุน  แวะปั้มบางจากวิภาวดีเพื่อเติมเชื้อเเพลิงให้เจ้าถั่วเหลือง (รถชื่อถั่วเหลืองค่ะ) แล้วเราก็ไปต่อ เรื่องชื่อถนนเรื่องเส้นทางนี่ ไม่ค่อยแม่นเท่าไรนะ แต่ข้อมูลพวกนี้มีทั่วไปค่ะ ขับไปตามถนนพหลโยธิน(ทางหลวงหมายเลข1) ไปทางสระบุรีใช้ทางเลี่ยงเมืองค่ะ พอถึงสามแยกพุแคให้เบี่ยงขวาเข้าทางหลวงหมายเลข21ขับตามเส้นทางนี้ไปเรื่อยๆ เช้าที่ลพบุรี สว่างคาตาเลยจ้า หลายๆครั้งที่ต้องจอดไหล่ทางเก็บวิวข้างทาง ก็มันสวยหนิ  แวะปั้มพักคนพักรถ ให้ตายสิ่!!!! เพิ่งรู้ตัวว่าลืมเสื้อกันหนาว2ตัวที่แขวนไว้ คือมันพร้อมหยิบเลยล่ะเราลืมเฉยเลย โถววว สรุปว่ามีแค่เสื้อแขนยาวลายทหาร เท่ห์ๆ ที่ใส่ติดตัวออกมาซึ่งไม่ค่อยช่วยให้ร่างกายอบอุ่นซักเท่าไร ระหว่างนี้ก็ขอข้อมูลเส้นทางก่อนดีกว่าไกล้ถึงแล้วเดี๋ยวจะหลงทางซะก่อน ได้ความว่า มาทางเส้นนี้ขึ้นได้2ทาง เวลาไม่คอยท่าไปกันต่อนะ พอเลยตัวเมืองเพชรบูรณ์แจ๊คขับไปทางหล่มสัก ขับๆไปก็เริ่มงงแฮะ ทางขึ้นแรกเส้นนางั่ว-เขาค้ออยู่ตรงไหน ไม่เป็นไรขึ้นอีกทางก็ได้ ขับต่อไปเรื่อยๆตามทางเดิม มุ่งหน้าหล่มสัก เมื่อถึงแยกพ่อขุนผาเมือง ก็เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข12 เส้นทางนี้ไปพิษณุโลก ขับไปเรื่อยๆจะเจอทางแยกไปภูทับเบิกค่ะ แต่เราไปเขาค้อก็ตรงไปตามทางนะคะ ขึ้นไปแล้วแทบร้องอ่ะ เส้นทางนี้กำลังอยู่ในขณะก่อสร้างใหม่ค่ะ บางช่วงนะ ผิวถนนแย่มาก   (2ภาพนี้ถ่ายตอนลงค่ะ) ทางสายนี้ถ้าทำเสร็จแล้ว สวยแน่ๆค่ะเพราะวิวข้างทางสวยมาก มีเทือกเขาสลับซับซ้อน เป็นทางคดเคี้ยว ลัดเลาะ ตามไหล่เขา *****จากประสบการณ์จากหลายๆโค้งที่ขับมา สิ่งสำคัญ คือใจกล้าและต้องขับขี่ด้วยความระมัดระวัง อย่าขับไวเกินไป โค้งที่นี่ก็ชิลค่ะไม่น่ากลัว อาจเพราะขับเจอโค้งๆมาหลายที่ ปิล็อก แม่แจ่ม ภูทับเบิก อินทรนนท์ ขึ้นดอยอ่างขางมาแล้วโค้งไหนๆก็ธรรมดาไปแล้ว เดินทางกันต่อ ขับไปเรื่อยๆตามทางนะคะ เจอทางเข้าวัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว อ้าววว อยู่ตรงนี้หรอ ต้องแวะแล้ววววเลี้ยวขวาเข้าไปไม่กี่กิโลก็ถึงแล้ว โอ้วววแม่เจ้าวววว งดงามเข้าไปแล้วชอบมากๆค่ะ    มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่สีขาวโดดเด่นเป็นสง่า  ลมแรง ฟ้าเป็นฟ้า แน่นอนว่าแดดก็แรงเช่นกัน แสบหน้ากันเลยทีเดียว จากจุดนี้มองเห็นวิวภูเขา สวยเชียว และเห็นเส้นทางที่เราขับผ่านมาด้วยล่ะ         เข้าไปในตัวพระธาตุกันค่ะ เอ๊ะ แจ๊คเรียกถูกป่ะคะ ไม่แน่ใจ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ  กราบไหว้แล้วขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลค่ะ  ตัวพระธาตุถูกประดับด้วยเศษเครื่องแก้ว กระเบื้อง เครื่องปั้นเบญจงค์ ลูกแก้วขนาดต่างๆ รูปทรงและสีสันสวยงาม แจ๊คเดินขึ้นไปชมวิวด้านบนลมแรงมากๆ เย็นสบาย     ที่แรกก็ไม่ผิดหวัง อิ่มอกอิ่มใจค่ะที่ได้มาที่นี่ เดินดูความสวยงามของที่นี่อยู่นานลมเย็นๆยืนคิดอะไรเพลินๆ ตายๆๆ บ่ายโมงกว่าแล้ว ยังไม่ไปถึงไหน ออกเดินทางกันต่อค่ะ ตามลายแทงบอกว่า ขับไปเรื่อยๆจะเจอสามแยกแค้มป์สน ให้เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 2196 ก็จะเป็นเส้นทางท่องเที่ยวของเขาค้อ และแล้วก็.....ถึงแล้ว จุดชมวิว ตรงนี้แหระที่เราจะมาชมหมอกยามเช้า ดูจากพระอาทิตย์ จุดนี้น่าจะได้เห็นพระอาทิตย์ตกดินด้วย จะรอดูดีมั้ย จะได้เห็นหรือป่าวก็ไม่รู้หรือจะขับรถลงหาที่พักข้างล่าง     หลักๆคืออยากเก็บภาพที่ภูเรือ เข้าค้อตั้งใจแค่เป็นทางผ่าน อยากเก็บภาพทะเลหมอกอย่างเดียว สถานที่อื่นก็ไม่ได้อยู่ในความสนใจซักเท่าไร คิดว่าต้องหาที่พักก่อน แล้วแจ๊คก็พบว่าที่พักถูกๆก็เต็มหมดแล้ว จริงๆก็มีแผน2อยู่ในใจคือ นอนข้างล่าง ที่พักถุก แต่จุดนี้ถ้าจะกลับทางเดิมหาที่พักก็ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนักเพราะทางมันแย่ สงสารรถเลย แจ๊คก็เลยขับรถสำรวจทาง แวะเก็บภาพข้างทาง มีทางก็ขับไปนะ เจอบ้านริมดอยจาก google เพื่อนยาก อยู่ทางขึ้นเขาค้อราคา 700 บาท และ500บาท(ลองโทรถามมีห้องว่าง)โอเคเดี๋ยวจะลงไป หาจนเหนื่อย ขอพักกายตรงจุดชมวิวที่เดิมรอชมพระอาทิตย์ตกดิน อีกหนึ่งอย่างที่ประทับใจ สวยอ่าาาาา    ตะวันลับขอบฟ้า ถึงเวลาผจญภัยต่อ ตื่นเต้นจัง เพราะมันเริ่มมืด แต่สนุกดีค่ะ แจ๊คขับไปเรื่อยๆ อ๋อๆๆมันจะไปเจอ เส้นนางั่ว-เขาค้อ หรือทางหลวงหมายเลข2258 (ทางที่แจ๊คขับเลยมานี่เอง) เห็นป้ายชัดเจนบ้านริมดอยรีสอร์ท รอดตายแล้วคืนนี้ ลุงเจ้าของบอกว่าใช่คนที่โทรมารึป่าว ใช่ค่ะ ลุงบอกขอบใจนะที่มา แสดงว่าลุงก็รอเราเช่นกัน มีบ้านอยู่หลังนึงที่ทีวีเสีย ลุงคิด500 คือบ้านริมดอยรีสอร์ทหลังใหญ่มาก เตียง6ฟุต2เตียง บรรยากาศดี ท่ามกลางต้นไม้ มีความเป็นส่วนตัว อยู่ทางขึ้นเขาค้อ ราคา 700บาท แต่แจ๊คพักในราคา500 เพราะทีวีเสียแจ๊คตอบตกลงทันทีเพราะไม่ดูทีวีอยู่แล้ว  เบอร์โทรบ้านริมดอยค่ะ 056-560-183 คุ้มค่ะที่ขับลงมา กลางคืนอากาศหนาวเย็นค่ะ แต่ในห้องอบอุ่น สบายๆ เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งนะคะ พักที่นี่ ได้บรรยากาฺศเหมือนกัน ตอนเช้าก้ขึ้นเขาค้อ ไปรอดูหมอก แล้วก็เที่ยวตามจิตศรัทธา มาเรื่องของแจ๊คบ้างดีกว่า ในใจครุ่นคิด แล้วสายหมอกของฉันล่ะยังไงดี ออกจากรีสอร์ทเลี้ยวขวาขับขึ้นไปเจอขึ้นเขาโค้งไปมา เพียงเพื่อไปดูหมอก แล้วค่อยไปภูเรือต่อ หรือจะเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนหมายเลข21 ตรงไปภูเรือ    สุดท้ายก็ต้องขึ้นไปตามหัวใจเรียกร้องค่ะ 5555 ให้ตายสิ่ ใครจะว่าบ้าก็ได้นะ ตี 5 อากาศหนาวเย็นและมืดมิด เราขับรถขึ้นเขาเพียงเพื่ออยากจะไปชมทะเลหมอกและเก็บภาพในจินตนาการ แต่มันไม่ใช่เรื่องแปลกเลยสำหรับแจ๊ค เวลาไม่นานก็ขึ้นไปถึงจุดชมวิวเขาค้อ ยังมืดอยู่เลยจ้า  ขณะนั้นมีเพียงรถ2-3 คัน จอดอยู่ เป็นคนที่มาขายนมร้อน และขายหมวกถักที่มีขายกันเกลื่อนบนนั้น ลมก็แรงอากาศก็เย็น เรารอคอยด้วยความหวัง ต้องได้เห็นแน่ๆทะเลหมอกในฝัน ว้าววววว เวลาผ่านไปไม่นานแสงส่วางเริ่มมา ไหนล่ะภาพทะเลหมอกในจินตนาการ  สิ่งที่แจ๊คพบมีแค่หมอกจางๆ ฮึ้ยยยย อะไรกัน โชคไม่ดีเลย เดินๆอยู่แถวๆนี้ ถ่ายมุมนู้นมุมนี้  ตรงป้ายนี้เรียกได้ว่าเป็นแลนด์มาร์คของที่นี่เลย  อกหักจากหมอกที่เขาค้อเลยจ้าาา สายมากแล้ว ไปต่อดีกว่าจุดหมายใหญ่ของเราคือภูเรือคงได้ภาพสวยๆบ้าง แวะเติมพลัง ด้วยต้มเลือดหมูร้านตรงข้ามจุดชมวิว และได้ข้อมูลให้น่าเจ็บใจอีก ป้าร้านข้าวบอกว่าวันนี้หมอกน้อย เนี่ยวันอื่นนะหมอกเยอะมากเลยนะ (ขอบคุณนะป้าที่บอกหนู ฮือๆๆๆ)  ยังไม่จบนะคะนี่แค่การเริ่มต้น ถึงจะพลาดจากหมอกสวยๆ ความหวังยังมี สถานีต่อไป "ภูเรือ"
thx u crab
โดย: Kavanich96
 วันที่: 5 เมษายน 2558 เวลา:2:52:14 น.เก่งจังค่ะ เดินทางคนเดียวได้ขนาดนี้ อยากทำได้บ้าง ติดภาระกิจลูกๆ
 แต่กำลังจะไปภูเรือสงกรานต์นี้เลยค่ะ โดย: ชลบุรีมามี่คลับ
วันที่: 5 เมษายน 2558 เวลา:23:06:21 น.มันเริ่มมาจาก มโนว่าตัวเองเป็นนางเอกหนัง เดินทางคนเดียว เหงาๆ ได้มีเรื่องราวมากมายเข้ามา ได้พบคนใหม่ๆ 5555 อยากรู้ว่าถ้าเราไปบ้างจะเป็นไง
 โดย: jack (jackbodyslam
) วันที่: 10 พฤษภาคม 2558 เวลา:23:21:32 น. |
นักเดินทางตัวน้อย
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] สวัสดีค่ะ ชื่อแจ๊ค เป็นช่างภาพอิสระ อยู่ในวงการ เพลง underground รักอิสระ ชอบเดินทาง รักธรรมชาติ ฝีมือยังไม่ดีเท่าไร แต่ก็พอได้ค่ะ
Link |
|||||||||||||||
"ประสบการณ์ ไม่ออกไปหา ก็ไม่เจอ"
