• 2025 simply floral moment
• 2024 coffee & things in between
• 2023 sip coffee in my own mug
• 2022 just live my life
• 2021 got to let grow
• 2020 blossom in its own time
• 2019 delicate jottings
• 2018 at a time i was sure
• 2017 to live life completely
• 2016 wrapped around petals
• 2015 a little bit bitter
• 2014 keep flowers bloom!
• 2013 cup of coffee on table
• 2012 beginning of next level

hidden magical connection จากทริปปีนังครั้งล่าสุด ตอนเดินรอบย่านเก่าช่วงเช้ามืด ร้านรวงยังปิด ถนนยังว่าง แดดยังไม่จ้า ฉันกับเพื่อนเจอผู้หญิงหุ่นหมีตัวกลมคนหนึ่ง น่าจะวัยไม่ถึง 30 แต่แต่งตัวน่ารัก นั่นคือชุดกระโปรงคลุมเข่า ผ้าชีฟองลายดอกดวง สวมรองเท้าผ้าใบสีขาว สะพายกระเป๋าใบเล็ก ๆ ในมือมีตุ๊กตาเก่า 1 ตัว ฉันเห็นเธอยืนมองวิวถนน  เลยถามว่า จะให้ช่วยถ่ายรูปให้มั้ย เธอบอกว่า ไม่เป็นไร ฉันไม่ถ่ายรูป แล้วเธอก็ชูตุ๊กตาขึ้นว่า ...ฉันมีเพื่อน, ถ่ายนี่ โห แบบอึ้งเลย เธอบอกด้วยว่า เธออยู่กับตุ๊กตานี้มา 20 กว่าปีแล้ว และพาไปเที่ยว ไปไหน ๆ ด้วยทุกครั้ง ในตลอด 20 ปี สุดยอดเลยอะ, ที่มีเพื่อนไปไหนไปด้วย แบบนี้ แล้วฉันก็บอกเพื่อนว่า จริง ๆ ฉันเข้าใจนะ เพราะฉันก็พกสมุดบันทึกไปด้วยทุกที่ เอาไว้ถ่ายรูปกับกาแฟนอกบ้าน เพื่อนตอบว่า มันไม่เหมือนกัน ฉันก็ อืมมมม ฉันมีน้องสาวไปไหนไปด้วยไง น้องสาวฉัน อยู่กับฉัน น้องกบเสียชีวิตตอน 2-3 ขวบ  ตอนนั้นฉันอายุ 4-5 ขวบเอง และตั้งแต่เด็กจนโต ฉันรู้สึกเหมือนน้องอยู่ด้วยตลอดเวลา และเหมือนมี "อีกคน" อยู่ข้างในใจ เป็นความสงสัยลึก ๆ จนถึงปี 2019 มีอาจารย์ท่านหนึ่ง ทักขึ้นว่า ... 2 วิญญาณ แล้วอาจารย์ก็พูดถึงความรู้สึกที่เป็นมาของฉัน ตอนนั้นแหละ ที่ได้รู้ว่า แท้จริงแล้วฉันคุยกับน้อง ในใจ, ตลอดมา เอาว่า นาทีนั้นก็บอกเพื่อน เพื่อนบอก งั้นหา "ตัวแทน" ที่จับต้องได้ แทนตัวน้อง และพาไปไหนไปด้วย ฉันขำเลย, แต่ อืมมมมม จัดไป ... ตอนเดินปีนังก็มองหานะ แต่ไม่ถูกใจ มองตุ๊กตานั่นนี่นู่น ก็ยังไม่ใช่ เพราะไปมองหาตุ๊กตาลิง หมี หมู ไก่ แมว หมาว่าไป ไม่ฉุกใจคิดเลยว่า น้องสาวชื่อ กบ จนกลับมาเมืองไทย ไม่ว่างไปเดินไหนเลย กระทั่งวันที่ 6 เดือน 6 ไปเดินห้างด้วยเหตุนัดหมอคลีนฟัน แวะร้านนำเข้าของจุกจิกจากญี่ปุ่น เห็น "หวังอี้ป๋อ" และเห็น "กบเขียว" น้องฉันชื่อ กบ นี่คือ ตุ๊กตาพวงกุญแจ กบ ทว่า กบสีเขียว ...ซึ่งฉันไม่ได้ชื่นชอบสีเขียว แต่ฉันชอบ "ความ" เป็นหวังอี้ป๋อ และเมื่อหวังอี้ป๋อหลงใหลสีเขียว งั้น "กบสีเขียว" ก็ได้ และแล้วก็ถ่ายรูปให้เพื่อนดู เพื่อนถาม น้องชื่ออะไร ฉันบอก ...กบ เป่ากบ กบเขียว ???? หรืออะไรดี เพื่อนตอบ " YiKob "  อืมมมมม ... สวัสดี อี้กบ.     Create Date : 08 มิถุนายน 2568     Last Update : 8 มิถุนายน 2568 13:16:31 น. Counter : 224 Pageviews.   0 comment (โหวต blog นี้)  Share Tweet

a trip to anyway . . ตลอดเวลา 2 เดือนที่ผ่านมา เดินทางแบบชีพจรลงเท้า ถี่ ๆ เริ่มจากไปทริปพังงากับน้องชายคนกลาง เพราะน้องชายบอกว่า pullman เขาหลัก ราคาดี จากเฉียดหมื่น ลดเหลือ 1 พันนิด ๆ เลยจอง 2 ห้อง และพบว่า ได้รับการอัปเกรดห้อง เป็นห้องดีงาม ขั้นสุด สุดยอดจริง ๆ เลยขับรถไปนั่ง ๆ นอน ๆ กิน ๆ ใน pullman 3 วัน 2 คืน แบบฉันตื่นเช้ามืด ออกไปเดินริมหาดที่เกิดเหตุ เดินแบบโดดเดี่ยวมาก เพราะไม่มีใครตื่นไปเดิน เลยได้สงบใจที่สุด โดยเฉพาะเมื่อพบว่า ตัวเองเดินบนเส้นทางหนีตาย ทุกวันที่เดินเล่นใน pullman เลยเดินไป สวดมนต์ไป เงียบ ๆ ในใจ . . พอกลับมาก็ไปทริปพัทลุง กับเพื่อนสมัยมัธยม กลับมาก็เตรียมตัวไปปีนังอีกรอบ คราวนี้ ไปกับเพื่อนจากแอลเอ แค่ 2 คน นั่งรถไฟไปลงปาดังเบซาร์ แล้วต่อรถไฟมาเลย์ ไปขึ้นเฟอรี่ เรียกแกร๊บปีนังไปลงที่พักในซอยนี้ ตลอด 3 วันในปีนัง ก็ตื่นมาเดิน สายก็เดิน บ่ายกลับมาสิงที่พักหลบแดด เย็นออกไปเดินอีก ค่ำ ๆ ออกไปหาขนมกิน เพราะที่พัก อยู่กลางทุกแหล่งน่าเดิน พบว่าเป็นปีนังทริปที่มีความสุขแบบสงบมาก อาจจะเพราะไปกับเพื่อนที่สนิทกันมาตลอดชีวิต เลยไม่ต้องพูดกันมาก เดินดูตึกเก่า ย่านเมืองเก่า และมิวเซียมเก่า ๆ รวมถึง ร้านอาหารที่เดาสุ่ม ไม่ตามรีวิวเด็ดขาด ก่อนจะปิดท้ายทริปด้วยกาแฟใน starbucks ที่ขึ้นชื่อเรื่องราคาถูกสุดในโลกแล้ว (มั้ง) กลับกลายเป็นหลงคารมหนุ่มแคชเชียร์ ป้าสั่งแบบ reserved ซะงั้น สรุป แพงโฮกกกกกกกกก ทว่า จิบอย่างสุข ๆ เลยแหละ ทริปนี้ เพื่อนเข้าใจแล้วว่า ทำไมฉันต้องไปปีนังทุกปีที่กลับไทย และทำไมฉันถึงบอกเพื่อนเสมอว่า จะต้องไปปีนัง 5 คืน 6 วัน ...คนเดียว, ให้ได้ เพื่อนบอก ตอนได้ยินยังนึกว่า มันจะบ้าอะไรขนาดนั้น สรุป เพื่อนตกบ่วงปีนังอีกคนแล้ว และบอกว่า เข้าใจแล้วว่าทำไมถึงอยากมาปีนังบ่อย ๆ ... ก็เนอะ, ปีนังสำหรับฉัน ไปง่ายกว่าไปปากซอยอีกอะ     Create Date : 06 มิถุนายน 2568     Last Update : 6 มิถุนายน 2568 16:28:56 น. Counter : 161 Pageviews.   0 comment (โหวต blog นี้)  Share Tweet

outward appearances can be deceiving ในอดีต... สมัยเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น ซิสเตอร์อาเมเด คุณครูประจำชั้นของฉัน สอนให้รู้จักประโยคที่ว่า you must know how to read between the lines. นับแต่นั้น ทำให้หลายคนในชั้นเรียน รวมทั้งฉัน ได้ ‘รู้’ ว่า ในการดำเนินชีวิต จงอย่าด่วนตัดสินใคร ถ้าเราไม่ได้รู้เรื่องของเขา ดีพอ ในสังคมปัจจุบัน... คนแต่ละคนล้วนมีอารมณ์หลากหลาย และหลายคนเลือกจะยึดถืออารมณ์ตัวเองเป็นหลัก โดยบางครั้งก็ไม่เคยคิดเลยว่า คนที่เดินอยู่ข้าง ๆ เรา คนที่เดินข้างหน้าเรา หรือข้างหลังเรา เขากำลังก้าวเดินไป ด้วยอารมณ์ไหน อย่าหงุดหงิด เฝ้าแต่ก่นด่าผู้คนแบบไม่รู้จบ หัดลบหนามในใจออกบ้าง จะได้มองโลกในแง่ดี และเข้าใจคนอื่น เพราะสิ่งที่เห็นตรงหน้า บางทีอาจไม่ได้เป็นอย่างที่คิด ดอกบานชื่น ช่อสุดท้ายที่บานพอตัด หลังจากนี้ น่าจะอีกสักพักกว่าสีสันจะผลิบานให้ยลโฉม . . . เช้านี้ 30 เมษายน เดิน 4 กิโล กลางแดด 9 โมงเช้า จากบ้านไปธนาคารออมสิน สาขาใกล้บ้าน ไป 2 กลับ 2 เหตุเพราะสลากออมสิน 2 ใบ ครบรอบ 1 ปี ตั้งแต่ 11 เมษายนและเจ้าหน้าที่โทรตามหลายรอบแล้ว พอไปถึงก็เหงื่อซ่กเลย เพราะร้อนมาก เจ้าหน้าที่จัดการให้หมด นั่นคือ จัดการซื้อสลากออมสิน 1 ปี ใบใหม่ และก็มอบ thumbler เล็ก ๆ ให้ 1 ใบ ก่อนจะกลับ ถามว่า ดอกเบี้ย 21,673.70 ถอนออกมาเลยได้มั้ยคะ  เจ้าหน้าที่บอกว่า ได้ ก็เลยถอน ทว่า เจ้าหน้าที่บอกว่าเหลือติดบัญชีไว้ 73.70 นะคะ ตอบว่า ได้ ตอนรับสมุดบัญชีมาดู พบว่า ...ตลอด 1 ปี ไม่ถูกรางวัลใดเลย นอกเลขท้าย ที่ได้เดือนละ 600+600 จากจำนวน 2 สลาก กับดอกเบี้ยกะล่อยกะหลิบ ส่วนปีนี้ จะได้เดือนละ 2,000 บาท ...หวังว่าจะถูกรางวัลใหญ่บ้างนะคะ เฮ้ออออออออออออออ ... เพื่อนถาม ทำไมซื้อสลากออมสิน ตอบเพื่อนว่า กลัวเงินหาย เลยซื้อสลาก ไม่เสี่ยงดี และดีกว่าเก็บไว้เฉย ๆ ในบัญชี อีกอย่างคือ ดอกเบี้ยจากสลากออมสิน ไม่เสียภาษี เลยสบายใจ เจ้าหน้าที่ยังแนะนำอีกว่า  เงินในบัญชีธนาคารอื่น ๆ ก็ถอนมาซื้อสลากออมสินได้นะคะ ได้แต่หัวเราะ  เอาเหอะ ...อาจจะได้อีก 4-5 พันต่อเดือน ดีกว่าปล่อยไว้นิ่ง ๆ อะเนอะ แต่ต้องไปจัดการโอนเงินก่อน       Create Date : 29 เมษายน 2568     Last Update : 29 เมษายน 2568 13:15:14 น. Counter : 316 Pageviews.   0 comment (โหวต blog นี้)  Share Tweet

as essential replacements ที่บ้าน นอกจากดอกไม้หอมแล้ว ยังมีบานชื่น ที่พ่อปลูกไว้เยอะ เพราะพ่อชอบดอกบานชื่น ตอนนี้ พ่อจากไปจะครบ 3 ปีเต็มแล้ว ดอกบานชื่นของพ่อ ยังคงงอกงาม รวมถึงต้นเล็บครุฑของพ่อ ที่มีทุกสายพันธุ์ จนกลายเป็นต้นไม้ใบที่ฉันตัดไปปักแจกัน แทนดอกไม้ มานานหลายปีแล้ว วันนี้ ตัดบานชื่นมาเข้าช่อกับเล็บครุฑ นานาชนิด ม้วนกรวยกระดาษรียูส สีน้ำตาล เพื่อนำไปถวายพระ ในวันทำบุญที่ "บัว" พ่อ แบบไม่ต้องเปลืองเงิน แค่ลงแรง, ให้สมกับเป็น no buy year พาแม่ไปพบหมอที่คณะแพทย์ ตามนัด นั่นคือ ทุกสามเดือนครั้ง ระหว่างนั้น มีคนโทรมาบอกว่า จะรับแม่ พาต่อไป ยังสถานีอนามัย เพื่อฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ให้ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไปเป็นกลุ่มแรก, ก่อน แม่ที่ 84 จึงอยู่แถวแรก ๆ ถึงขนาดเจ้าหน้าที่มารับตัว ฉันเลยไปแวะร้านกาแฟ ตั้งใจนั่งปรู๊ฟรอบที่ 5 เพราะนัดส่งงานวันที่ 30 นี้แล้ว ก่อนไปนั่ง ก็สั่งเป็นเอสเปรสโซ ร้อน พบว่า ปริมาตรตามที่ควรเป็นนั่นแหละ แต่ไม่สมส่วนกับแก้ว … ไม่ใช่อะไรเลย ตอนที่เห็น ก็เหมือนบาริสต้าตาบวมเป่ง มองหยิบแก้วแบบใจลอย ๆ ก็อ้าปากจะทัก แต่ อืมมมม ดูไปก่อน ที่สุดก็พบว่า บาริสต้าอกหักกะทันหัน เลยหยิบแก้วผิด ๆ ถูก ๆ ด้วยใจไม่อยู่กับตัว … คงแหลกสลายอยู่แหละ . . พอท้วงไป บาริสต้าจะเปลี่ยนไปชงใหม่ ฉันเลยตอบว่า ไม่เป็นไรค่ะ แก้วใบนั้นแหละ ป้ามากินกาแฟ, ไม่ใช่แก้ว … ตรวจงานผ่าน pdf file ที่ขยายฟอนต์ 24 พบว่า ดีแฮะ มันอ่านชัดดี และคล้ายตาสว่างขึ้นเยอะ คงเหมือนความรักแหละเนอะ ในวันที่เราตาสว่าง บางครั้งก็ต้องแลกกับความเจ็บปวด ทว่า เชื่อเหอะ เ ว ล า ช่ ว ย ไ ด้ !   Create Date : 25 เมษายน 2568     Last Update : 25 เมษายน 2568 13:21:51 น. Counter : 314 Pageviews.   0 comment (โหวต blog นี้)  Share Tweet

what's gone is gone   ตั้งแต่ไม่ได้ไปร้านดอกไม้ นอก ชื่อดังของมือง เพราะย้ายไปไกล, แว่วว่าได้หลาน เจ้าของร้านเลยย้ายไปเปิดร้านที่บ้าน เพื่อจะได้เลี้ยงหลานไปด้วย ฉันเลยต้องหันมาพึ่งร้านดอกไม้ 2-3 เจ้า ที่อยู่ห่างบ้านแบบเดินไม่ถึง 100 เมตร แทน และวันนี้ ได้ดอกกล้วยไม้มาปักแจกัน โชคดีที่แถวบ้านเป็นแหล่งขายดอกไม้ แค่ถนนสายเดียว มีร้านดอกไม้ใหญ่ ๆ ถึง 5 ร้านแล้ว แต่ร้านประจำ ๆ ที่ไปซื้อทุกวันพระ คือร้านหัวมุม กับร้านพี่ดา, ด้วยคุ้นกันมาตั้งแต่ฉันยังเด็ก วันนี้ที่ได้ดอกกล้วยไม้ เพราะบ่นเบา ๆ ว่า เบื่อดอกไม้กำขายวันพระแล้ว พี่อ้าเลยเสนอให้เลือกกล้วยไม้มา ที่จริงก็ดอกไม้วันพระอีกนั่นแหละ แต่พอรวบก้านลงปักหมับ ก็สวยอยู่นะ กล้วยไม้ก็สดชื่นได้เหมือนกัน . . . . . . บันทึกได้ครึ่งบน ลุกไปชงมัตจะ, มาหนึ่งแก้ว กะวางไว้จิบ ตอนชงยังนึกถึงคนที่ซื้อมาฝาก ว่า เดือนนี้ไม่รู้ว่ากลับจากญี่ปุ่นรอบที่ 107 แล้วหรือยัง เพราะเพิ่งเห็นว่า มัตจะในกระป๋องสวยแต่จิ๋ว วันนี้ มื้อสุดท้ายแล้ว นึกในใจว่า เดี๋ยวต้องส่งไลน์ไปบอกคนใจดี ว่าพี่หิ้วมาให้หนูอีกสัก 2 กระปุกนะพี่นะ . . พลัน โทรศัพท์ดัง 'พี่ตุ้ยเสียแล้วนะน้อง' 'เสียที่ญี่ปุ่น และเผาที่นั่นเลย' 'เถ้าอังคารจะมาถึงไทย พรุ่งนี้' อืมมมมมมมมมมมมมมมม ...     Create Date : 23 เมษายน 2568     Last Update : 23 เมษายน 2568 11:58:18 น. Counter : 316 Pageviews.   0 comment (โหวต blog นี้)  Share Tweet

• Webmaster - BlogGang

• BlogGang.com