มากาญจน์ (นะจ๊ะคนดี) เที่ยวปางอุ๋งเมืองกาญจน์กินอาหารพื้นเมืองแวะเมืองมัลลิกา ร.ศ.124
เอนทรี่นี้เป็นภาพเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2562 เป็นตอนที่ 2 ของทริป 3 วัน 2 คืนค่ะ เป็นภาพที่อ่างเก็บน้ำบ้านสามัคคีธรรม ปางอุ๋งเมืองกาญจน์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ที่นี่อุ้มเพิ่งเคยมาเป็นครั้งแรก (แต่ไปปางอุ๋งที่จ.แม่ฮ่องสอนมา 3 ครั้งแล้วค่ะ) นายไพรัชช์ ทุมเสน ผู้อำนวยการ กองตลาดภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สำหรับการเดินทางทริปวันนี้วันที่ 22 เมษายน 2562 เป็นการนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดภาคกลางที่มีความสวยงาม มีความเป็นมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ทั้งเรื่องของความเป็นประวัติศาสตร์ รวมไปถึงอาหารการกิน ตลอดจนที่พัก ซึ่งทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้ร่วมกับพันธมิตรทางการท่องเที่ยว ก็คือ สมุทรโคจรทราเวล จัดกิจกรรมพิเศษเป็นทริปพิเศษ พานักท่องเที่ยวมาเที่ยวในเส้นทางตามรอยมรดกแห่งสยาม เป็นโครงการกระตุ้นการท่องเที่ยวของ ททท.ในจังหวัดภูมิภาค ภาคกลาง แล้วก็ในวันนี้เราก็มาที่ชุมชนที่อำเภอไทรโยคนะครับ มาท่องเที่ยวชุมชนบ้านสามัคคีธรรม ชมปางอุ๋งแห่งเมืองกาญฯ เป็นชุมชนลุ่มสุ่มนะครับ คือปางอุ๋งเมืองกาญจน์จะเหมือนกับปางอุ๋งที่แม่ฮ่องสอนเลยนะครับ บรรยากาศลักษณะคล้ายๆ เดียวกัน แล้วไปสัมผัสวิถีชุมชน ลิ้มรสอาหารพื้นบ้านจากวัตถุดิบธรรมชาติ นำดอกไม้มาเป็นส่วนประกอบหลัก ที่บ้านหินงามพุพลู และไปชมสถาปัตยกรรมโบราณ นั่งรถเจ๊กที่เมืองมัลลิกา ร.ศ. 124 ก็ขอเชิญชวนทุกท่านมาเที่ยวเมืองกาญจน์นะครับ ไม่ไกลจากรุงเทพฯ เลย สามารถมาโดยทางรถไฟ หรือรถยนตร์ก็ได้นะครับการเดินทางสะดวกสบาย ขอเชิญชวนทุกท่านมาเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรีกันนะครับคลิกตรงนี้ย้อนไปตอนที่ 1 นั่งรถไฟมาไหว้องค์พระปฐมเจดีย์เลาะเส้นทางรถไฟสายมรณะไปชมปราสาทเมืองสิงห์ ปางอุ๋งเมืองกาญจน์นับเป็นแหล่งเช็คอินแห่งใหม่กับธรรมชาติที่สวยงาม ของอ่างเก็บน้ำบ้านสามัคคีธรรม ที่มีอีกชื่อหนึ่งว่าเป็นปางอุ๋งเมืองกาญจน์ หรือปางอุ๋ง@ไทรโยค ด้วยบรรยากาศเงียบสงบร่มรื่น เรียกว่ามากอดภูเขาสูดโอโซนให้เต็มปอด ปางอุ๋งเมืองกาญจน์ ตั้งอยู่ที่หมู่ 5 บ้านสามัคคีธรรม ต.ลุ่มสุ่ม อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี พิกัด GPS อ่างเก็บน้ำบ้านสามัคคีธรรม ปางอุ๋งเมืองกาญจน์ : 14.095313735547318,99.0634570387092 ต่อจากนั้นก็มาสัมผัสกับวิถีชีวิตที่ชุมชนลุ่มสุ่มที่อำเภอไทรโยค จ.กาญจนบุรี ตำบลลุ่มสุ่มเป็นพื้นที่ที่อยู่ติดแม่น้ำแควน้อยชาวบ้านจึงปลูกบ้านเรือนอยู่ริมแม่น้ำ สมัยก่อนจะใช้สัญจรทางน้ำ เนื่องจากยังไม่มีถนนประกอบกับพื้นที่เป็นที่ลุ่มในช่วงฤดูฝนน้ำท่วมประจำทุกปี ชาวบ้านส่วนใหญ่จึงมีอาชีพการสานสุ่มเพื่อเป็นเครื่องมือในการจับปลา ครั้นยามน้ำลดก็จะเห็นสุ่มเป็นจำนวนมากอยู่ในที่ลุ่ม จึงเรียกชื่อตำบลว่าตำบลลุ่มสุ่ม นายสมชัย ท่าผา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 11 ต.ลุ่มสุ่ม อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และคุณจ็อบ-นิธิ สมุทรโคจร ที่นำนักท่องเที่ยวเข้ามาชุมชนบ้านหินงามพุพลูนะครับ เราก็มีการแสดงจากเด็กๆ ภายในชุมชนของเรา 2 ชุดมารอต้อนรับด้วยกันคือ จินตลีลาชุดดวงจันทร์ในดวงใจ และชุดลิปซิงค์เพลง ผู้ใหญ่บ้านสมชัย ท่าผา ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า กิจกรรมในวันนี้ที่เราเตรียมต้อนรับก็คือ น้ำสมุนไพรเถาวัลย์เปรียง โดยนำเถาวัลย์เปรียงมาต้มแทนน้ำดื่มจะช่วยให้ร่างกายสดชื่น ยิ่งถ้ามีอาการปวดเมื่อยตามตัว จะช่วยบรรเทาผ่อนคลายความเมื่อยลงได้ ที่ผมกินอยู่ประจำเลยล่ะครับ ถ้าเอามาตากแห้งแล้วนำมาต้มน้ำจะสีจะออกแดงๆ แต่ดื่มไปจะเป็นรสธรรมชาติ แต่ถ้านำมาสดๆ แล้วเผาแล้วนำไปต้มน้ำชงกลิ่นจะหอมมากครับ ส่วนของหวานจะเป็นบัวลอยนำมะพร้าวอ่อนมาใช้แทนถ้วย กินบัวลอยไปตักมะพร้าวจากลูกกินไปพร้อมกันเลยครับ เป็นภูมิปัญญาที่นำวัสดุจากธรรมชาติมาใช้เป็นภาชนะลดโลกร้อนไปในตัว ผู้ใหญ่บ้านสมชัย ท่าผา ยังบอกอีกว่า สำหรับการทำยำพฤกษา จะนำดอกไม้มาทอดให้กรอบก่อนค่อยนำมายำ ส่วนของหวานก็จะเป็นบัวลอย แล้วที่น่ากินมากก็คือเราไม่ใช้ภาชนะพาสติก แต่นำผลมะพร้าวมาเป็นถ้วยใส่บัวลอยเลยครับ เรียกว่ากินบัวลอยตักมะพร้าวกินไปด้วย เป็นภูมิปัญญาที่นำผลิตผลที่มีในป่าชุมชนของเรา ผลไม้พื้นบ้านมาใช้ได้อย่างลงตัว ที่นี่ก็จะมีโฮมสเตย์ด้วยนะครับแต่เป็นของอีกชุมชนหนึ่ง นั่นก็คือ ชุมชนของหมู่ที่ 5 แถวปางอุ๋งเมืองกาญจน์นะครับ แต่เราจะประสานงานเชื่อมโยงต่อกันได้ครับ นางบุณยานุช ฟักโต ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 11 บ้านหินงามพุพลู ต.ลุ่มสุ่ม อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี เปิดเผยเพิ่มเติมอีกว่า ต้นเถาวัลย์เปรียงเป็นพืชสมุนไพร เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ สรรพคุณ ช่วยลดน้ำตาลแก้โรคเบาหวานแล้วก็บำรุงเลือดค่ะ ดื่มแล้วช่วยบรรเทาในเรื่องไม่หิวน้ำ โดยเด็ดจากต้นเถาวัลย์เปรียงแล้วนำมาตากแดดจนแห้งจากนั้นแพ็คใส่ถุงไว้ แล้วค่อยทะยอยนำมาต้มดื่ม ต้มสักประมาณ 3 น้ำ คือต้มไปจนหมด แล้วนำน้ำเติมได้ 3 ครั้ง แล้วเททิ้งนำเถาวัลย์อันใหม่มาต้ม โดยคาดคะเนว่าถ้าเป็นน้ำ 1 ลิตรใช้ใบเถาวัลย์เปรียง 10 ใบ ดื่มเรื่อยๆ พอเริ่มจะหมดก็เติมน้ำเรื่อยๆ สังเกตจากการชิมถ้าจืดก็เปลี่ยน ต้นเถาวัลย์เปรียงหาได้ทั่วไปไม่ได้เฉพาะมาเกิดที่จังหวัดกาญจนบุรีแห่งเดียว หาได้ตามป่าทั่วไป โดยเฉพาะป่าพื้นที่ราบ ถ้าในอำเภอไทรโยคแห่งนี้ก็จะเกิดขึ้นทั่วทุกพื้นที่ที่เป็นเชิงเขา พอต้นเถาวัลย์เปรียงขึ้นแล้วก็เลื้อยไปทั่ว ถ้าเราปลูกไว้ที่รั่วบ้านของเราก็จะเลี้อยไปทั่ว แล้วถ้าปล่อยทิ้งไว้เถาวัลย์เปรียงก็จะเริ่มเป็นแท่งใหญ่ โดยยอดของเถาวัลย์เปรียงเด็ดมาจิ้มกินกับน้ำพริกนำมาต้มได้เลยนะคะ เป็นพืชสารพัดประโยชน์จริงๆ ค่ะ ผู้ใหญ่บ้านสมชัย ท่าผา ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ส่วนเมนูอาหารสมุนไพรของชุมชนเราจะมีตามฤดูกาลนะครับ ยำพฤกษานี่ก็จะมีดอกเข็ม ดอกกะดาษ ดอกดาวเรือง ดอกอัญชัน ดอกเฟื่องฟ้า ฯลฯ เรียกว่าดอกไม้ที่กินได้ทุกดอกเลยครับ ถ้าสนใจท่องเที่ยวในชุมชนติดต่อที่ 09-2789-5298 แต่ถ้าเป็นเมนูอาหารสมุนไพรติดต่อที่ 08-1932-7405 แล้วมาเที่ยวบ้านเราอีกนะครับ ผู้ใหญ่บ้านสมชัย ท่าผา กล่าวส่งท้ายว่าสำหรับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาที่นี่ จะได้ลิ้มรสเรื่องของอาหารสมุนไพรที่ท่านไม่เคยได้กินมาก่อน เพราะสมุนไพรพื้นบ้านของที่นี่เราจะนำมาใช้สดๆ จากในป่าชุมชนของเรา แล้วก็ปลูกกันเองภายในครัวเรือนเป็นการกระจายรายได้สู่ชุมชนถ้วนหน้า ยินดีต้อนรับทุกท่านครับ ออกจากชุมชนบ้านหินงามพุพลูเราก็มาต่อที่เมืองมัลลิกา ร.ศ.124 เมืองมัลลิกา ร.ศ.124 ตั้งอยู่ตรงทางเข้าปราสาทเมืองสิงห์ ติดกับปั๊มบางจากต.สิงห์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ห่างจากตัวเมือง 32 กิโลเมตร เมืองมัลลิกา ร.ศ. 124 นับเป็นเมืองแห่งวัฒนธรรมและวิถีชนที่น่าสนใจของจังหวัดกาญจนบุรี ด้วยเพราะเมืองมัลลิกา เป็นเมืองย้อนยุคของวิถีชีวิตชาวสยามบริเวณลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ซึ่งวิถีชีวิตของชาวสยามในยุค ร.ศ.124 มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมายหลายด้าน โดยที่เห็นเด่นชัดเป็นอย่างมากนั่นก็คือการประกาศเลิกทาส ซึ่งเมื่อทาสได้รับความเป็นไทพวกเขาต้องใช้ชีวิตอยู่อาศัยและทำมาหากินด้วยตนเอง ไม่ต้องอยู่ภายใต้อาณัติหรือการดูแลของบรรดาเจ้าขุนมูลนายอีกต่อไป ณ ห้องเล่าเรื่องนี้นอกจากจะมีวิทยากรบรรยายเรื่องภายในเมืองมัลลิกา ร.ศ.124 ที่นี่ยังให้บริการเช่าชุดไทยด้วยค่ะ สนนราคาก็เริ่มที่ 400 บาทขึ้นไป แต่จะเช่าชุดไทยหรือไม่เช่าเอาที่สบายใจเลยค่ะ ดังนั้นพวกเขาต้องดำรงชีวิตให้อยู่รอด พึ่งตนเอง และอยู่ร่วมกับคนสยามทุกหมู่เหล่า การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตเหล่านี้นับเป็นรากเหง้าสำคัญของคนไทยในยุคปัจจุบัน (ดูออกไหมคะว่าคนไหนหุ่นคนไหนเป็นคนตัวเป็นเป็น คริคริ) ระหว่างนั่งรอคิวรถลากค่ะ ก็ชมบรรยากาศสวยให้ถ่ายรูปในร้านกาแฟ จากนั้นเราก็นั่งรถลากไปสัมผัสวิถีชีวิต ร.ศ.124 กันนะคะ เนื่องจากเป็นบรรยากาศกลางแจ้งที่นี่มีร่มให้ยืมฟรีค่ะ ถ้าหยิบร่มไปนำมาคืนที่เดิมด้วยค่ะ น้ำฝนจัดเตรียมน้ำฝนใส่ขันเงินเล็กๆ รอที่โรงสีข้าว ได้มาเรียนรู้กรรมวิธีตั้งแต่สีข้าว ตำข้าว ฝัดข้าว จนมาถึงหุงข้าวแบบเช็ดน้ำ และอุ้มได้กินน้ำข้าวด้วยล่ะ น้ำข้าวที่ได้จากการหุงข้าวแบบเช็ดน้ำที่ใช้หม้อใส่ข้าวสารตั้งบนเตาถ่าน จากการที่ได้ข้าวมาจากโรงสีแล้วมาเก็บแกลบเก็บสิ่งแปลกปลอมต่างๆ ออก แล้วมาล้างข้าวเติมน้ำลงไป (ถ้าเป็นสูตรที่บ้านอุ้มนำมือวางลงไปบนข้าวรินน้ำให้แค่ท่วมหลังมือก็พอ จากนั้นรอข้าวเดือดต้องหมั่นคนอย่าให้เมล็ดข้าวติดก้นหม้อ พอเมล็ดข้าวเริ่มแตกจนสุกนิ่มไปทั้งเมล็ด กะเอาหรือเปิดฝาข้าวดุก็ได้จากนั้นรินน้ำออก เราเรียกขั้นตอนนี้ว่า เช็ดน้ำข้าว หม้อที่ใช้หุงข้าวแบบเช็ดน้ำนี้ต้องมีหูสองข้างและฝาหม้อต้องมีหูอยู่ตรง กึ่งกลาง เวลาเช็ดน้ำใช้ไม้ขัดฝาหม้อแทงขัดร้อยหูหม้อและฝาหม้อเอาไว้ จากนั้นเอียงหม้อเทน้ำข้าวออกจนหมด แล้วนําหม้อข้าวไปตั้งไฟอ่อนๆ เพื่อให้น้ำข้าวในหม้อแห้งสนิท เรียกว่า ดงข้าว จนข้าวสุก เชื่อกันว่าน้ำข้าวเป็นอาหารอย่างดีสําหรับคนป่วยที่รู้สึกเบื่ออาหาร เกิดการเสียสมดุลของระบบย่อยอาหาร เพราะน้ำข้าวมีคุณค่าและสารอาหารมากมายเช่นเดียวกับข้าว อีกทั้งย่อยง่าย ไม่ทําให้ท้องอืด ท้องเสีย และร่างกายสามารถดูดซึมสารอาหารและซ่อมแซมร่างกายส่วนที่สึกหรอได้ทันที คนป่วยจึงสามารถฟื้นตัวได้เร็วขึ้น น้ำข้าวมีวิตามินอีสูง และมีคุณสมบัติเป็นยารสเย็นช่วยบำรุงร่างกาย รวมถึงแก้ร้อนในและใช้ถอนพิษผิดสำแดง และยังใช้แก้อาการปวดท้อง ท้องร่วง และช่วยขับปัสสาวะได้อีกด้วย เริ่ดค่ะ ว่าแล้วก็แวะเรือนคหบดีชมความงามของเรือนผู้มีอันจะกินในสมัย ร.ศ.124 เจอนักท่องเที่ยวตัวน้อยเลยขออนุญาตถ่ายภาพสักบาน ขอบใจนะจ๊ะ ถ้าหิวแวะมาที่เรือนแพที่นี่เลยค่ะเป็นแหล่งรวมร้านอาหารตามสั่ง ส้มตำ แกงเขียวหวาน ข้าวราดแกง ฯลฯ ระหว่างที่เดินชมวิถีชีวิต อุ้มชอบศาลาเล็กๆ เดินเข้าไปดู คือตุ่มใส่น้ำดื่ม น่ารัก ใส่ใจให้กับนักท่องเที่ยวมาก ถ้าเป็นที่อื่นคงตั้งบูทขายน้ำดื่มแล้วล่ะค่ะ ขอชื่นชม ตลาดคนจีนย่านเยาววราช สำเพ็ง ย่านสามแพร่ง สะพานหัน ชื่อนี้เรียกชื่อตามลักษณะของตัวสะพานในอดีต เป็นสะพานไม้โกงกาง สะพานหันจะอยู่ปากทางออกพอดีค่ะ ตลาดที่นี่จะใช้เบี้ยแทนเงินสดนะคะ สองฟากฝั่งของสะพานหันมีห้องแถวเล็กไว้ขายของส่วนตรงกลางเป็นทางเดิน ซึ่งสะพานนี้พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โปรดฯ เสด็จพระราชดำเนินมาที่นี่พระองค์ทรงชอบมาซื้อผลไม้แห้งที่นำเข้าจากต่างประเทศ อย่างเช่น ลูกพลับแห้ง และผลไม้แห้งนานาชนิด ออกจากเมืองมัลลิกา ร.ศ.124 ด้วยความภาคภูมิใจในความเป็นไทย (พวกเราจงยืนตรงเคารพธงชาติ...คริคริ สำนวนพาไป) รู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณรัชกาลที่ 5 ยิ่งนัก จากนั้นเดินตากแดดมาหลายเพ-ลาเราก็ไปผึ่งพุงพักพิงอิงแอร์กันสักหน่อยเนาะ แบบได้ฟิลล์บรรยากาศโรงนามาตั้งแต่หน้าร้านเรียกว่าเป็นร้านที่ต้องมากินข้าวกินกาแฟกัน The Village Farm To Cafe เป็นร้านที่ตกแต่งสไตล์โรงนาในฟาร์ม 5 หลังติดกัน ด้านหลังเป็นวิวที่ล้อมรอบด้วยภูเขาแบบพาโนรามาเลยทีเดียว สามารถเดินเล่นนั่งเล่นถ่ายรูปได้อาหารที่นี่ก็สดใหม่ส่งตรงจากฟาร์ม เป็นเมนูสไตล์ฟิวชันที่มีทั้งอาหารคาวและของหวาน ราคาก็โอเคไม่แพงอย่างที่คิดค่ะ The Village Farm To Cafe ตั้งอยู่ที่ถนนแสงชูโต อ.เมือง จ.กาญจนบุรี (ถนนเส้นกาญจนบุรีไปไทรโยคเนื่องจากจะเป็นร้านทางผ่านไปยังโรงแรมที่พักน่ะค่ะ) เบอร์ติดต่อ 0-3454-0599 เปิดบริการทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เปิด 10:30 - 21:00 น. ส่วนวันเสาร์อาทิตย์ เปิด 09:30 - 21:00 ประเภท คาเฟ่-อาหารนานาชาติ-เบเกอรี The Village Farm To Cafe เป็นร้านที่ติดอันดับ TOP ที่ต้องแวะเลยค่ะเมื่อมาจังหวัดกาญจนบุรี เมื่อกินกาแฟกันเสร็จก็ไปเข้าที่พักกันค่ะ ภาพโรงแรมยกไปเป็นเอนทรี่หน้าตอนที่ 3 เป็นภาพวันที่ 3 เลยค่ะ ส่งท้ายด้วยภาพนี้ ขอบคุณ ททท.ภาคกลางที่ชวนอุ้มมาค่ะVIDEO ขอขอบคุณ : ททท.ภูมิภาค ภาคกลาง และ ททท.สำนักงานกาญจนบุรี เพลง : พลังรัก วงชาตรี BG : ลักกี้ / กล่องเขียนคอมเม้นท์ : lozocat / Banner : oranuch_sri ของแต่ง BLOG : ป้ามด + ดอกหญ้าเมืองเลย + ชมพร + ญามี่ + เนยสีฟ้า
Create Date : 15 พฤษภาคม 2562
Last Update : 22 พฤษภาคม 2562 10:28:59 น.
35 comments
Counter : 4891 Pageviews.
ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณตะลีกีปัส , คุณโอน่าจอมซ่าส์ , คุณเริงฤดีนะ , คุณสันตะวาใบข้าว , คุณทนายอ้วน , คุณKavanich96 , คุณสองแผ่นดิน , คุณกะว่าก๋า , คุณนกสีเทา , คุณSertPhoto , คุณNoppamas Bee , คุณเจ้าหญิงไอดิน , คุณเจ้าการะเกด , คุณStand by bowky , คุณภาวิดา คนบ้านป่า , คุณเนินน้ำ , คุณบาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน , คุณสายหมอกและก้อนเมฆ , คุณSweet_pills , คุณnewyorknurse , คุณkae+aoe , คุณmcayenne94 , คุณmultiple , คุณหอมกร , คุณThe Kop Civil , คุณอาจารย์สุวิมล , คุณJinnyTent , คุณฟ้าใสวันใหม่ , คุณวลีลักษณา , คุณhaiku , คุณtoor36 , คุณผีเสื้อยิปซี , คุณkatoy , คุณแมวเซาผู้น่าสงสาร , คุณดาวริมทะเล , คุณruennara , คุณก้นกะลา
โดย: ตะลีกีปัส วันที่: 15 พฤษภาคม 2562 เวลา:17:35:45 น.
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 15 พฤษภาคม 2562 เวลา:22:47:22 น.
โดย: Kavanich96 วันที่: 16 พฤษภาคม 2562 เวลา:3:00:15 น.
โดย: IFINDNOI (Ces ) วันที่: 16 พฤษภาคม 2562 เวลา:6:13:46 น.
โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 16 พฤษภาคม 2562 เวลา:8:14:08 น.
โดย: พายุสุริยะ วันที่: 16 พฤษภาคม 2562 เวลา:9:08:46 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 พฤษภาคม 2562 เวลา:9:16:14 น.
โดย: เนินน้ำ วันที่: 16 พฤษภาคม 2562 เวลา:12:20:25 น.
โดย: Sweet_pills วันที่: 17 พฤษภาคม 2562 เวลา:0:18:25 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 พฤษภาคม 2562 เวลา:6:36:35 น.
โดย: kae+aoe วันที่: 17 พฤษภาคม 2562 เวลา:10:32:47 น.
โดย: mcayenne94 วันที่: 17 พฤษภาคม 2562 เวลา:12:40:52 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 พฤษภาคม 2562 เวลา:13:30:30 น.
โดย: multiple วันที่: 17 พฤษภาคม 2562 เวลา:14:54:03 น.
โดย: หอมกร วันที่: 17 พฤษภาคม 2562 เวลา:15:09:29 น.
โดย: JinnyTent วันที่: 17 พฤษภาคม 2562 เวลา:18:43:26 น.
โดย: วลีลักษณา วันที่: 17 พฤษภาคม 2562 เวลา:21:20:26 น.
โดย: toor36 วันที่: 17 พฤษภาคม 2562 เวลา:23:04:12 น.
โดย: ruennara วันที่: 18 พฤษภาคม 2562 เวลา:5:50:52 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 18 พฤษภาคม 2562 เวลา:6:56:44 น.
โดย: ย่า (ลักกี้ ) วันที่: 18 พฤษภาคม 2562 เวลา:19:06:33 น.
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 18 พฤษภาคม 2562 เวลา:19:12:32 น.
โดย: ดาวริมทะเล วันที่: 19 พฤษภาคม 2562 เวลา:0:56:07 น.
โดย: ก้นกะลา วันที่: 19 พฤษภาคม 2562 เวลา:20:51:30 น.
ช่วงนี้ฝนลงแล้ว
เที่ยวอ่างจะอันรายมั๊ยคะ
และ่วิวสวยน่าไปค่ะ