ตอนที่ ๕ เมืองพระนารายณ์
คลิกย้อนไปอ่านตอนที่ ๑ คลิกย้อนไปอ่านตอนที่ ๒ คลิกย้อนไปอ่านตอนที่ ๓ คลิกย้อนไปอ่านตอนที่ ๔ เข้าสู่ตอนที่ ๕ อุ้มก็ยังคงอยู่ที่จังหวัดลพบุรี อุ้มถ่ายภาพมาเมื่อวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ งานแผ่นดินพระนารายณ์วันสุดท้ายค่ะ ณ แห่งนี้ก็คือพระนารายณ์ราชนิเวศน์ ซึ่งตั้งอยู่ในเขตตำบลท่าหิน อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี โดยชาวเมืองลพบุรีเรียกกันติดปากว่า "วังนารายณ์" ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สมเด็จพระนารายณ์ เป็นที่สังเกตได้ง่ายๆ ว่าถ้าที่แห่งใดคุณนายอุ้มสีนางชอบ ภาพที่นางถ่ายมาก็จะเยอะมาก ดูไปดูมาเหลืออีก ๔ ตอนไม่พอมั๊งคะ น่าจะ ๕-๖ ตอน ต้องโปรดติดตามต่อไปเนาะ พระนารายณ์ราชนิเวศน์ เป็นพระราชวังที่สมเด็จพระนารายณ์มหาราชโปรดให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๒๐๙ บนพื้นที่ ๔๓ ไร่ ณ เมืองลพบุรี เพื่อใช้เป็นที่ประทับ ล่าสัตว์ ออกว่าราชการ และต้อนรับแขกเมือง พระองค์ทรงประทับ ณ พระราชวังแห่งนี้ประมาณ ๘-๙ เดือนในช่วงปลายรัชกาล และเสด็จสวรรคต ณ พระที่นั่งสุทธาสวรรค์ เมื่อวันที่ ๑๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๒๓๒ พื้นที่ทั้งหมดภายในพระราชวังแบ่งออกเป็น ๓ เขต ด้วยกันคือ หลังสิ้นรัชกาลพระราชวังแห่งนี้ก็ถูกทิ้งร้างไป จนกระทั่งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้บูรณะซ่อมแซมพระราชวังแห่งนี้และโปรดให้สร้างพระที่นั่งขึ้นใหม่ ปัจจุบัน พระนารายณ์ราชนิเวศน์ได้ใช้เป็นพิพิธภัณฑ์ ที่อุ้มแนะนำว่าถ้าว่ามาเที่ยวจังหวัดลพบุรี ต้องห้ามพลาดมาเลยค่ะ ค่าเข้าชมคนไทย ๑๐ บาท ชาวต่างชาติ ๓๐ บาท (แต่วันที่อุ้มมาเที่ยวนี้เปิดให้ชมฟรีค่ะ) วังพระนารายณ์แบ่งเป็นเขตพระราชฐานชั้นนอก เขตพระราชฐานชั้นกลาง และเขตพระราชฐานชั้นใน กำแพงพระราชวังก่ออิฐถือปูน มีใบเสมาเรียงรายบนสันกำแพงมีซุ้มประตูทั้งหมด ๑๑ ประตู ประตูทางเข้าเป็นทรงจตุรมุขมีช่องทางเข้าโค้งแหลม ตรงจั่วซุ้มประตูตกแต่งลายกระจังปูนปั้นที่วิวัฒนาการมาจากดอกบัว ที่ซุ้มประตูและกำแพงพระราชฐานชั้นกลางและชั้นในมีช่องเล็กๆ เจาะเป็นรูปโค้งแหลมคล้ายบัวเรียงเป็นแถวสำหรับวางตะเกียง ประมาณ ๒,๐๐๐ ช่อง ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๔) โปรดเกล้าฯ ให้ซ่อมแซมขึ้นใหม่เมื่อ พ.ศ. ๒๓๙๙ เพื่อให้เป็นราชธานีชั้นใน ชอบการจัดนิทรรศการนี้มากค่ะ สวยและให้ความรู้ ยอดเยี่ยม ขอชมคนจัด สมเด็จพระนารายณ์มหาราชเป็นพระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่อีกพระองค์หนึ่งในประวัติศาสตร์ชาติไทย ทรงมีพระราชกรณียกิจที่สำคัญตลอดรัชกาลของพระองค์ ทั้งด้านการทหาร วรรณคดี และการทูต โดยเฉพาะการส่งคณะราชทูตไปเชื่อมสัมพันธไมตรีกับฝรั่งเศส ในรัชสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ ๑๔ สมเด็จพระนารายณ์มหาราช (พ.ศ. ๒๑๗๕ - พ.ศ. ๒๒๓๑ ครองราชย์ พ.ศ. ๒๑๙๙ - พ.ศ. ๒๒๓๑) นับเป็นพระมหากษัตริย์สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย พระราชประวัติ : สมเด็จพระนารายณ์มหาราชเป็นพระโอรสของพระเจ้าปราสาททอง พระราชมารดาเป็นพระราชธิดาในสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม ภาพสมเด็จพระนารายณ์มหาราช วาดโดยชาวฝรั่งเศสตามคำบอกเล่าของบาทหลวงในสมัยนั้น สมเด็จพระนารายณ์มหาราช เสด็จขึ้นครองราชสมบัติ เมื่อเวลาสองนาฬิกา วันพฤหัสบดี แรม ๒ ค่ำ เดือน ๑๒ จุลศักราช ๑๐๑๘ ปีวอก ตรงกับวันที่ ๑๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๑๙๙ มีพระนามจารึกในพระสุพรรณบัฏว่า "สมเด็จพระรามาธิบดี ที่ ๓" นับเป็นพระมหากษัตริย์ลำดับที่ ๒๗ แห่งกรุงศรีอยุธยา ขณะทรงมีพระชนมายุ ๒๕ พรรษา ในพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยากล่าวไว้ว่า เมื่อแรกประสูตินั้นพระญาติเห็นพระโอรสมีสี่กร พระราชบิดาจึงโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามว่า "พระนารายณ์" ส่วนในคำให้การชาวกรุงเก่าและคำให้การขุนหลวงหาวัดเล่าว่า เมื่อเพลิงไหม้พระที่นั่งมังคลาภิเษก พระโอรสเสด็จไปช่วยดับเพลิง ผู้คนเห็นเป็นสี่กร จึงพากันขนานพระนามว่า พระนารายณ์ สมเด็จพระนารายณ์ทรงรับการศึกษาจากพระโหราธิบดี ซึ่งเป็นข้าราชระดับสูงในพระราชวัง และพระอาจารย์พรหม พระพิมลธรรม รวมทั้งสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ พระสงฆ์ที่มีสมณศักดิ์ระดับสูงในพระนคร หลังจากประทับในกรุงศรีอยุธยาได้ ๑๐ ปี พระองค์จึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเมืองลพบุรีขึ้นเป็นราชธานีแห่งที่ ๒ เมื่อปี พ.ศ. ๒๒๐๙ และเสด็จไปประทับที่ลพบุรีทุกๆ ปี ครั้งละเป็นเวลานานหลายเดือน กระทั่งเสด็จสวรรคตเมื่อ พ.ศ. ๒๒๓๑ รวมครองราชสมบัติเป็นเวลาน ๓๒ ปี มีพระชนมายุ ๕๖ พรรษา ทรงมีพระราชธิดาเพียงพระองค์เดียวคือ กรมหลวงโยธาเทพ ในสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ได้ทรงปราบปรามเมืองน้อยใหญ่ให้มาสวามิภักดิ์ ทั้งหัวเมืองทางเหนือ เช่น เชียงใหม่ ลำพูน ส่วนศึกกับพม่าแม้จะมีอยู่ในเวลานี้ แต่ก็ทรงจัดทัพตีพ่ายกลับไปอยู่เนืองๆ แสนยานุภาพรุ่งเรืองและยิ่งใหญ่มาก สมเด็จพระนารายณ์เองก็ทรงชำนาญในการศึก คล้องช้าง และทรงซื้ออาวุธจากต่างชาติ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในสมัยสมเด็จพระนารายณ์รุ่งเรืองมากยิ่งขึ้น โดยมีการติดต่อทั้งด้านการค้าและการทูตกับนานาประเทศต่างๆ เช่น จีน ญี่ปุ่น อิหร่าน อังกฤษ และฮอลันดา มีชาวต่างชาติเข้ามาในพระราชอาณาจักรเป็นจำนวนมาก ในจำนวนนี้รวมถึงเจ้าพระยาวิชาเยนทร์ ฝรั่งที่รับราชการตำแหน่งสูงถึงที่ สมุหนายก ขณะเดียวกันพระองค์โปรดฯ ให้แต่งคณะทูตไปเจริญสัมพันธไมตรีกับราชสำนักฝรั่งเศส ในรัชสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ ๑๔ ถึง ๔ ครั้งด้วยกัน ผู้ที่เขียนเกี่ยวกับกรุงศรีอยุธยา และสยามมากที่สุดในสมัยนี้ก็คือ มองซิเออร์ เดอ ลาลูแบร์ นอกจากนี้พระองค์ยังทรงรับเอาวิทยาการสมัยใหม่มาใช้ เช่น กล้องดูดาว และยุทโธปกรณ์บางประการ รวมทั้งยังมีการรับเทคโนโลยีการสร้างน้ำพุ จากชาวยุโรป และวางระบบท่อประปาภายในพระราชวัง ส่วนทางวรรณกรรม ชาวสยามวาดโดยทูตชาวฝรั่งเศส ลาลูแบร์วรรณกรรมที่ปรากฏหลักฐานว่าแต่งขึ้นในรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์ เช่น สมุทรโฆษคำฉันท์ ส่วนตอนต้นเชื่อกันว่าพระมหาราชครูเป็นผู้แต่งแต่ถึงแก่อนิจกรรมเสียก่อน สมเด็จพระนารายณ์จึงพระราชนิพนธ์ต่อ โดยเริ่มที่ตอน พิศพระกุฎีอาศรมสถานตระกาลกล ไปจนถึง ตนกูตายก็จะตายผู้เดียวใครจะแลดู โอ้แก้วกับตนกู ฤเห็น คำฉันท์กล่อมช้าง (ของเก่า) เป็นผลงานของขุนเทพกวี สันนิษฐานว่าแต่งในคราวสมโภชขึ้นระวางเจ้าพระยาบรมคเชนทรฉัททันต์ เมื่อ พ.ศ. ๒๒๐๓ ทั้งยังทรงส่งเสริมงานงานกวี ทำให้มีหนังสื่อเรื่องสำคัญๆ ในรัชสมัยนี้เป็นจำนวนไม่น้อย สมเด็จพระนารายณ์ทรงสนพระทัยวรรณกรรมพระองค์ทรงพระราชนิพนธ์หนังสือไว้หลายเล่ม อาทิเช่น เพลงยาวพยากรณ์กรุงเก่า โครงสุภาษิตเรื่องพาลีสอนน้อง และได้โปรดเกล้า ฯ ให้พระโหราธิบดีแต่งหนังสือจินดามณี ซึ่งนับเป็นแบบเรียนเล่มแรกของไทย อาจกล่าวได้ว่าสมเด็จพระนารายณ์เป็นพระมหากษัตริย์อยุธยามีบทบาทเด่นชัด ทรงมีคุณูปการสร้างความเจริญทางเศรษฐกิจและสังคมแก่บ้านเมืองเอนกอนันต์VIDEO พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสมเด็จพระนารายณ์ฯ ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ประจำปี 2545 รางวัลดีเด่นประเภทแหล่งท่องเที่ยวทางศิลปวัฒนธรรม บริเวณพิพิธภัณฑ์ฯ เปิดให้เข้าชมในวันพุธ-วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 08.30-16.00 น. ส่วนโบราณสถานพระนารายณ์ราชนิเวศน์ เปิดให้เข้าชม วันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 07.00-17.30 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0-3641-1458 ขอขอบคุณ เพลง : เที่ยวลพบุรี BG : คุณลักกี้ / กล่องเขียนคอมเม้นท์ : คุณ lozocat โค้ดแต่ง BLOG : ป้ามด & น้องดอกหญ้าเมืองเลย ของแต่ง BLOG : คุณชมพร & น้องญามี่ & คุณเนยสีฟ้า
Create Date : 09 มีนาคม 2560
Last Update : 9 สิงหาคม 2564 21:10:03 น.
34 comments
Counter : 4236 Pageviews.
ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณฟ้าใสวันใหม่ , คุณกะว่าก๋า , คุณSai Eeuu , คุณTui Laksi , คุณhaiku , คุณtoor36 , คุณสองแผ่นดิน , คุณข้ามขอบฟ้า , คุณClose To Heaven , คุณเจ้าการะเกด , คุณsecreate , คุณสายหมอกและก้อนเมฆ , คุณจารุพิชญ์ , คุณชีริว , คุณคนผ่านทางมาเจอ , คุณบาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน , คุณกาปอมซ่า , คุณcomicclubs , คุณซองขาวเบอร์ 9 , คุณAppleWi , คุณALDI , คุณรัชต์สารินท์
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 มีนาคม 2560 เวลา:14:39:59 น.
โดย: Sai Eeuu วันที่: 9 มีนาคม 2560 เวลา:15:28:57 น.
โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) วันที่: 9 มีนาคม 2560 เวลา:17:41:49 น.
โดย: NENE77 วันที่: 9 มีนาคม 2560 เวลา:18:16:25 น.
โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 9 มีนาคม 2560 เวลา:19:20:23 น.
โดย: พายุสุริยะ วันที่: 9 มีนาคม 2560 เวลา:20:37:50 น.
โดย: ไอฟายน้อย (Ces ) วันที่: 9 มีนาคม 2560 เวลา:20:56:53 น.
โดย: Tui Laksi วันที่: 9 มีนาคม 2560 เวลา:22:18:03 น.
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 9 มีนาคม 2560 เวลา:23:46:26 น.
โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 10 มีนาคม 2560 เวลา:0:13:26 น.
โดย: Kavanich96 วันที่: 10 มีนาคม 2560 เวลา:3:37:41 น.
โดย: หนี่งหน่อง วันที่: 10 มีนาคม 2560 เวลา:5:59:06 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 มีนาคม 2560 เวลา:6:16:41 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 มีนาคม 2560 เวลา:13:49:20 น.
โดย: secreate วันที่: 10 มีนาคม 2560 เวลา:14:18:11 น.
โดย: จารุพิชญ์ วันที่: 10 มีนาคม 2560 เวลา:17:59:14 น.
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 10 มีนาคม 2560 เวลา:18:32:54 น.
โดย: ชีริว วันที่: 11 มีนาคม 2560 เวลา:0:30:50 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 มีนาคม 2560 เวลา:6:37:30 น.
โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) วันที่: 11 มีนาคม 2560 เวลา:6:38:37 น.
โดย: กาปอมซ่า วันที่: 11 มีนาคม 2560 เวลา:21:05:05 น.
โดย: comicclubs วันที่: 12 มีนาคม 2560 เวลา:0:13:59 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 มีนาคม 2560 เวลา:6:18:24 น.
โดย: Tui Laksi วันที่: 12 มีนาคม 2560 เวลา:9:09:08 น.
โดย: ชมพร วันที่: 12 มีนาคม 2560 เวลา:14:47:37 น.
โดย: ALDI วันที่: 13 มีนาคม 2560 เวลา:1:23:25 น.
โดย: ออมอำพัน วันที่: 13 มีนาคม 2560 เวลา:3:26:07 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 13 มีนาคม 2560 เวลา:6:22:51 น.
สีทองอร่ามระยิบระยับสวยงามมาก
ผิดกับภาพบน ๆ เห็นแต่ซากปรักหักพัง
แต่ก็ดูขลังไปอีกแบบนะคะ